บทที่1135 ดูตัว
หลัวหุ้ยเหม่ยตามหลังลูกสาวของตัวเอง
ป้าจางนั่งอยู่ที่โต๊ะ มือเท้าไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหนดี ในตอนที่เสี่ยวเหยียนเอาราเม็งวางลงตรงหน้าเธอ หลังจากที่เธอได้กลิ่นหอมๆแววตาก็เป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ตักน้ำซุปขึ้นมาดื่ม
“ฝีมือของเหยียนเหยียนไม่เลวเลยนะเนี่ย นี่มันลูกสะใภ้ที่ดีที่ทั้งหาเงินเก่งและยังทำอาหารเก่ง ผู้ชายคนไหนได้เธอไปก็เป็นวาสนาแล้ว”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว มุมปากของจางเสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะแสยะออกมา เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิดเลยมั้ยล่ะ?
กินเข้าไปเพียงคำเดียวก็ทนรอที่จะแนะนำคู่ครองให้เธอแทบไม่ไหวแล้วหรอ? ดีร้ายยังไงก็ควรกินเสร็จแล้วค่อยพูดสิ เพราะถึงยังไงราเม็งที่เธอทำก็อร่อยเสียขนาดนั้น เสน่ห์ก็ควรจะล้นเหลือสิถึงจะถูก
แต่เพียงไม่นาน ป้าจางก็รับรู้ขึ้นมาได้ว่าราเม็งอร่อย ไม่มีกะจิตกะใจให้เสี่ยวเหยียนได้พูดอีก ได้ก้มหน้าก้มตาดื่มน้ำซุปไปหลายคำ จากนั้นก็เริ่มกินเส้น
“ป้าจาง งั้นป้าค่อยๆกินนะคะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“เหยียนเหยียน เธออย่ารีบไปก่อนเลย วันนี้ป้าจางมาเพราะมีเรื่องอยากจะพูดกับเธอ”
ใบหน้าของหลัวหุ้ยเหม่ยที่อยู่ข้างๆ:เห็นมั้ยล่ะ ฉันรู้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้
“ป้าจาง มีเรื่องอะไรค่อยพูดวันอื่นก็ได้ ที่ร้านวันนี้ยุ่งมากจริงๆค่ะ”
“ไม่ๆๆ ตอนนี้ป้าจางอยากพูดให้เธอฟัง ไม่นาน ห้านาทีก็ได้”
“…”
“ญาติห่างๆของเราไม่ใช่ว่ามีหลานชายคนนึงใช่มั้ยล่ะ? ช่วงก่อนหน้านี้เขาก็มาหาป้าของเขา ป้าเห็นมากับตาว่าเด็กคนนั้นทั้งสูงทั้งหล่อ ดูเหมือนว่าจะเป็นคนจริงใจคนนึงเลยทีเดียว ได้ยินมาว่าเขาซื้อบ้านแล้ว แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย ป้าว่านะเหยียนเหยียนเธอกลับมานานแล้ว ไม่มีผู้ชายข้างกายเลยสักคนไม่ใช่หรอ? ป้าก็เลยอยากลองจับคู่ให้พวกเธอ พวกเธอลองเรียนรู้กันหน่อยมั้ย?”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีคนมาพูดหาคู่ให้เสี่ยวเหยียน หลัวหุ้ยเหม่ยจะต้องยกมือเห็นด้วยออกมา แต่เมื่อหลายวันก่อนเธอผู้เป็นแม่คนนี้เพิ่งจะเห็นสภาพผู้หญิงอกหักของลูกสาวมากับตา ถ้ามาจับคู่ให้เธอตอนนี้ ไม่เพียงจะไม่สำเร็จแล้ว แต่อาจจะทำให้เกิดการต่อต้านออกมาได้
ดังนั้นแล้วเมื่อกี้นี้ในตอนที่เสี่ยวเหยียนยังไม่ออกมา หลัวหุ้ยเหม่ยก็ได้ปฏิเสธป้าจางไปแล้วรอบนึง
แต่ใครจะรู้ว่าป้าจางจะไม่ยอมแพ้ พูดชมอีกฝ่ายจนน้ำไหลไฟดับ จะต้องให้ทั้งสองคนเจอกันแล้วลองเรียนรู้กันสักหน่อย
“เอ่อ ป้าจาง ลูกสาวของฉันล่ะ? ตอนนี้เปิดร้านมาก็ยุ่งสุดๆ ตอนที่ป้าเพิ่งเข้าร้านมาก็เห็น ตอนนี้มันจะไปไหนได้?” หลัวหุ้ยเหม่ยพูดแทรกเข้ามา พูดปฏิเสธออกไปอ้อมๆด้วยรอยยิ้ม
ป้าจางรีบโบกมือเอ่ยออกมาทันที
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ถึงตอนนั้นป้าค่อยโทรให้เขามาก็ได้”
หลัวหุ้ยเหม่ย จางเสี่ยวเหยียน “…”
ทั้งสองคนหันหน้ามองกัน มาร้านเธอเพื่อดูตัว?
“ป้าจาง นี่มันไม่ค่อยสะดวกหรอกมั้งคะ?” หลัวหุ้ยเหม่ยเอ่ยถามออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก “ร้านนี้ก็ยุ่งมากเหมือนกัน ให้เขามาแล้วต้อนรับเขาไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ไม่เป็นไร เขาขยันมาก ถึงตอนนั้นแล้วก็ให้เขาช่วยเธอก็ได้ เหยียนเหยียน พูดจริงๆเลยนะ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึงเลย เปิดร้านคนเดียวมันลำบากเกินไป พ่อแม่ของเธอก็อายุมากแล้ว เอาแต่ให้พวกเขาช่วยเธอไปตลอดก็ใช่เรื่อง ไม่สู้หาผู้ชายเมืองเดียวกันที่มีบ้าน แล้วยังเรียบง่ายอยู่ด้วยกันสักคนไม่ดีกว่าหรอ แต่งงานไปก็มีลูกอวบๆสักหลายๆคน ถึงตอนนั้นก็จะมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเรือนรักใคร่กลมเกลียวกัน”
ป้าจางพูดเก่งเสียจริง พูดเป็นน้ำไหลไฟดับสุดๆ
น่าเสียดายที่ภายในใจเสี่ยวเหยียนไม่โอนอ่อนเลยแม้แต่น้อย
แต่คำพูดนั้นของป้าจางกลับเข้าไปในใจของหลัวหุ้ยเหม่ย วันนั้นผู้ชายคนนั้นเธอก็เคยเห็นแล้ว หน้าตาก็หล่อเหลาองอาจสง่าผ่าเผย ลูกของเธอธรรมดาขนาดนั้น ถึงแม้ว่าจะคบกัน ก็กุมเอาไว้ไม่อยู่หรอก
แทนที่จะเป็นอย่างนี้ ไม่สู้ยอมรับคำพูดของป้าจาง หาคนที่ดูเป็นไปได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายด้วยกัน ดีกว่าเยอะ? แต่เธอก็ไม่กล้าตอบรับออกไป
“เหยียนเหยียน เขาก็ดีนะ ฉันโทรเรียกเขามาที่นี่ตอนนี้เลยดีกว่า”
พูดจบ ป้าจางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร รวดเร็วเสียจนไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป
“ป้าจาง นี่ป้าคิดเองเออเองไม่ปรึกษาใครเลยนะคะ นี่…”
“แม่ ช่างเถอะ” แต่จู่ๆเสี่ยวเหยียนก็เรียกเธอเอาไว้ ยิ้มออกมาเล็กน้อย “แม่อยากให้หนูดูตัวไม่ใช่หรอ? งั้นก็ลองเจอกันก่อนก็ได้”
สีหน้าของหลัวหุ้ยเหม่ยเปลี่ยนไป “เหยียนเหยียน แกอย่าคิดอย่างนี้เด็ดขาด แม่อยากให้แกดูตัวเพราะหวังดีกับแก แกต้องเข้าใจว่าแม่หวังดีกับแก ถ้าการดูตัวทำให้แกไม่พอใจ งั้นก็…”
“ไม่” เสี่ยวเหยียนพูดขัดเธอออกมาด้วยรอยยิ้ม “หนูคิดว่าการดูตัวก็ดีนะคะ ป้าจางพูดถูก หนูควรจะหาใครสักคนแล้วจริงๆ ใช้ชีวิตสามัญธรรมดา”
หลัวหุ้ยเหม่ย “…”
นี่เป็นคำพูดของคนอกหักคนนึงที่พูดออกมาหรอ? หลัวหุ้ยเหม่ยยังอยากพูดอะไรอีกสักหน่อย แต่กลับถูกป้าจางขัดขึ้นมาเสียก่อน “ไอ้หยา ลูกสาวเธอตกลงแล้ว เธอยังคิดมากอะไรอีกล่ะ? เธอยอมดูตัวแล้วก็ปล่อยให้ดูไปสิ แค่เจอกันเท่านั้นเอง ไม่ได้เสียหายอะไร เจอกันแล้วถ้าชอบก็ติดต่อกันอีก ไม่ได้บังคับซื้อบังคับขายกันเสียหน่อย”
“ใช่แล้วค่ะแม่ ถ้าไม่ชอบ ถึงตอนนั้นแล้วฉันจะให้เขากลับไปก็ได้”
ฟังมาจนถึงตรงนี้แล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยผ่อนลมหายใจออกมา “เอาเถอะ ในเมื่อแกคิดอย่างนี้ งั้นแม่ก็จะไม่ขัดแกแล้ว”
ถึงยังไงก็แค่เจอหน้ากันครั้งเดียว ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่แน่ว่าอาจจะเข้าตาลูกสาวก็ได้? ถึงตอนนั้นแล้วก็จะได้เดินออกจากเงามืดของการผิดหวังในความรักได้ง่ายขึ้น นี่มันไม่ดีมากเลยหรอ?
พอคิดอย่างนี้แล้ว ภายในใจของหลัวหุ้ยเหม่ยก็สบายใจขึ้นมาไม่น้อย
หลังจากที่ป้าจางโทรศัพท์ออกไป คนก็มาอย่างรวดเร็ว หลัวหุ้ยเหม่ยมองคนผู้นั้นพูดกับป้าจางอยู่ไกลๆ อีกฝ่ายสวมเสื้อเชิ้ทสีขาว เสื้อเชิ้ทขาวมาก ไม่มีรอยเปื้อนอะไรเลย หน้าตาดูเรียบร้อย ถึงแม้ว่าจะดูไม่มีจุดไหนที่ดูพิเศษออกไป แต่ก็ถือว่ายังพอไปวัดไปวาได้ สวมแว่นตา ดูแล้วสุภาพเรียบร้อยสุดๆ
ความประทับใจแรก หลัวหุ้ยเหม่ยพยักหน้าออกมาเล็กน้อย
“มองดูแล้วก็ดูใช้ได้เลยทีเดียว เหยียนเหยียนคิดว่ายังไง?”
คำถามที่ไม่มีคนตอบ หลัวหุ้ยเหม่ยหันออกไป พบว่าเสี่ยวเหยียนกำลังดูโทรศัพท์ ขมวดคิ้วแน่น
“เป็นไรไปล่ะเนี่ย?” หลัวหุ้ยเหม่ยเข้ามาพูด
เสี่ยวเหยียนได้สติกลับมา ปิดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นก็ยัดกลับเข้าไปในกระเป๋า “ไม่มีอะไร”
เมื่อกี้นี้เธอพบว่าเสี่ยวหมี่โต้วได้ส่งรูปแคปหน้าจอมาให้เธอ เป็นข้อความที่หานชิงคืนเงินมาให้ ให้เสี่ยวหมี่โต้วคืนเธอ เสี่ยวหมี่โต้วถามเธอว่าให้ทำยังไง?
ในตอนที่เห็นข้อความนี้แล้ว ก็รู้สึกสับสนขึ้นมา
นึกไม่ถึงว่าหลัวหุ้ยเหม่ยจะก้าวเข้ามา
“ไม่มีอะไรแล้วแกปิดโทรศัพท์ไม่ให้ฉันดูไปทำไมกัน? ฉันว่าความคิดของแกมันอยู่บนนี้หมดเลยล่ะมั้ง? ไม่อย่างนั้นแล้วก็อย่าดูตัวเลยดีกว่า?”
เสี่ยวเหยียนยิ้มออกมาเล็กน้อย “แม่ หนูไม่เป็นไร ดูตัวเถอะ”
ถึงยังไงการดูตัวต่างก็ไม่ได้เอาความรู้สึกไปดูอีกฝ่าย ถูกใจได้หรือเปล่า สามารถเข้ากันได้ดีหรือเปล่า ต้องดูที่โชคชะตากันทั้งนั้น ไม่แน่ว่าเธออาจจะเหมือนกับซูจิ่ว อาจจะเจอสามีที่เธอรักเขามากและอีกฝ่ายก็รักเธอมากก็ได้? ถึงตอนนั้นแล้วครอบครัวก็จะสุขสมบูรณ์ ลูกชายลูกสาวครบสมบูรณ์ ใครไปสนใจผู้ชายเย็นชาคนนั้นมันก็สมน้ำหน้าแล้ว?
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ “คนมาแล้วยัง? งั้นหนูลงไปแล้วนะคะ”
“กำลังคุยกับป้าจางเพื่อนบ้านอยู่น่ะ”
ในตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น ป้าจางก็ได้พาเขาเข้ามา มุ่งตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเสี่ยวเหยียนและทำการแนะนำตัวให้กับอีกฝ่าย
