เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1171 ไม่ต้องระวังตัวขนาดนี้

บทที่1171 ไม่ต้องระวังตัวขนาดนี้

เหมือนจะนั่งยองนานไปหน่อย บวกกับที่รีบมาทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้า แล้วเมื่อคืนก็ยังนอนหลับไม่สนิทด้วยอีก นั่งยองอยู่ตรงนี้นานจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ตอนที่ตื่นขึ้นมาความดันเลือดก็ต่ำขึ้นมาอีก ก็รู้สึกว่าปากแห้งคอแห้งไปหมด ทรมานเอามากๆ

ยืนพิงเขาไปสักพักนึง เสี่ยวเหยียนฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยออกมาอย่างยากเย็น “ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้นี้ขาชา คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะคะ”

หานชิงก้มหน้ามองเธอนิ่ง

“เป็น เป็นอะไร?” เสี่ยวเหยียนถูกแววตาใสเป็นประกายของเขาจ้องมองมาเสียจนเธอเริ่มกลัวทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เอ่ยถามออกไปอย่างติดๆขัดๆ

วินาทีต่อไป เสี่ยวเหยียนเหมือนกับได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆปล่อยผ่านออกมาจากทางลำคอของเขา จากนั้นก็เอ่ยออกมา “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”

เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ก็ยังส่งโทรศัพท์ส่งให้เขา หลังจากที่หานชิงรับโทรศัพท์ไป ก็ใส่มันเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง จากนั้นก็อุ้มเสี่ยวเหยียนขึ้นมา

“อ๊ะ…” เสี่ยวเหยียนไม่ได้คาดคิดมาก่อน แขนขาวเนียนนุ่มคู่นั้นโอบรอบคอเขาไปตามสัญชาตญาณ ในขณะเดียวกันก็ได้หลุดเสียงร้องตกใจตามออกมา

“เป็น เป็นอะไรไป?”

ในตอนที่ใกล้ชิดกัน เสี่ยวเหยียนก็ยังได้กลิ่นยาสีฟันหอมสดชื่นจางๆจากร่างของเขา โอ๊ะ นี่เขาเพิ่งตื่นนอนได้ไม่นาน? ถ้าอย่างนั้นเขาเห็นข้อความแล้วก็ไปแปรงฟัน หรือว่าแปรงฟันเสร็จแล้วอ่านข้อความกัน?

เหมือนกับว่าจะรู้ความคิดทั้งหมดภายในใจของเสี่ยวเหยียน หานชิงจึงกำชับออกมา “ต่อจากนี้ไปก่อนจะมาก็โทรหาฉันก่อน ฉันมารับเธอเองก็ได้ บุ่มบ่ามมาเอง แล้วยังไม่โทรบอกกันเลย ถ้าฉันมีธุระแล้วมาช้า เธอต้องอยู่รอที่นี่ไปนานแค่ไหน?”

“ฉัน…คงไม่หรอก ฉันรออยู่แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง”

“ข้อความสิบกว่านาทีก่อน เธอทำราวกับว่าไม่กี่นาที? หรือว่าเห็นฉันหลอกง่าย?”

เกินบรรยาย เสี่ยวเหยียนเจอใบหน้ามืดครึ้ม และน้ำเสียงที่นิ่งขรึมของหานชิงเข้าไป เสี่ยวเหยียนก็เริ่มสติหลุดลอยไปเล็กน้อย เมื่อวานเพิ่งคบกัน วันนี้เขาก็ไม่พอใจขึ้นมาเสียแล้ว

“ขอโทษนะคะ ต่อไปฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว คุณอย่าโกรธไปเลย…” พูดจบ เสี่ยวเหยียนรีบโอบลำคอหานชิงแน่น ซุกหน้าลงไปในซอกคอของเขา เสียงอู้อี้เบาบางเหมือนยุง “ฉันก็แค่กลัวว่ามันจะดังรบกวนคุณเท่านั้นเอง เพราะว่าฉันวางแผนจะมาช่วงบ่าย แต่…ตอนนี้ฉันมาก่อนเวลา ฉันเกรงว่าคุณจะยังนอนอยู่ ก็เลย…แต่คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ตรงนี้ไม่ได้โดนแดดเลย ฉันอยู่รอที่นี่หลายสิบนาทีก็ไม่เป็นไรเลยจริงๆค่ะ”

หญิงสาวทั้งถูทั้งเอ่ยเสียงอ่อนอยู่ตรงซอกคอเขา หานชิงก็ใจอ่อนขึ้นมาทันที สายตาอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย

“ครั้งหน้าจะมาก็ให้โทรมา ในเมื่อเป็นแฟนกันแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องระมัดระวังขนาดนี้”

พูดจบ หานชิงก็ได้อุ้มเธอเดินก้าวหน้าออกไป เสี่ยวเหยียนจึงได้พบว่าความจริงแล้วที่นี่ห่างจากวิลล่าของเขาไม่ไกล เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าเป็นหลังไหน ก็เลยไม่กล้าผลีผลามเข้าไปเพียงเท่านั้น

ถูกหานชิงโอบอุ้มอยู่ในอ้อมกอด ก็มีความรู้สึกที่เหมือนราวกับว่าฝันไป เธอเหมือนกับเริ่มลอยขึ้นมาอีกครั้ง

จนกระทั่งหานชิงพาเธอวางลงไปบนโซฟา เสี่ยวเหยียนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่สัมผัสเข้ากับโซฟาจึงได้รู้สึกถึงความเป็นจริงขึ้นมาบ้าง

แต่เพียงไม่นาน เสี่ยวเหยียนก็พบว่าเธอยังสวมรองเท้าอยู่ ก็เลยรีบถอดรองเท้าออกไปโดยเร็วแล้วลุกขึ้นเอาไปวางตรงชั้นวางที่อยู่ตรงประตูทางเข้า ในตอนที่ก้มลงไปพอเงยขึ้นมาก็ปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ หลังจากนี้จะพยายามนอนดึกให้น้อยลง แล้วทำงานพักผ่อนรีบตื่นเช้ามากินข้าวให้เป็นนิสัยเสีย

นึกไม่ถึงว่าเธอในตอนนี้จะอ่อนแอจนกลายมาเป็นอย่างนี้ไปเสียได้

ในตอนที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงของหานชิงก็ได้ดังเข้ามา

“มานี่”

เสี่ยวเหยียนได้สติกลับมา ยกมือขึ้นมาหยิกตรงระหว่างคิ้วของตัวเอง หันหลังเดินเข้าไป

“กินข้าวเช้าด้วยกัน” หานชิงเอ่ยพูดออกมา

เสี่ยวเหยียน “…ไม่ต้องแล้วหรอก ตอนมาฉันกินไปแล้ว”

เธอพูดออกไปอย่างไม่อายปาก เพื่อมาเจอเขาแม้แต่ข้าวเช้าก็ยังไม่ยอมกิน และเมื่อคืนก็นอนไม่หลับด้วยอีก อย่างนั้นก็คงถูกขำแย่แน่

แต่สภาพร่างกายของเธอก็แสดงอยู่บนใบหน้าทั้งหมด ปิดซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ หานชิงเงียบไปสักพัก จึงเปลี่ยนวิธีการพูด

“ในเมื่อกินแล้ว งั้นก็อยู่กินเป็นเพื่อนฉันอีกสักนิดแล้วกัน”

เสี่ยวเหยียน “…”

เหมือนจะได้เหมือนกัน?? เธอกะพริบตาปริบออกมา จากนั้นก็พยักหน้า เดินตามหลังหานชิงไปกินข้าวเช้าด้วยกัน

ข้าวเช้าหานชิงเป็นคนทำเอง เสี่ยวเหยียนเดิมทีก็อยากช่วย แต่ก็ถูกเขาห้ามไม่ให้เข้าครัว ก็เลยทำได้เพียงนั่งรออยู่ที่โต๊ะอย่างว่าง่าย จากนั้นมองเงาร่างของชายหนุ่มที่กำลังยุ่งอยู่ด้านในผ่านประตูกระจกที่กั้นเอาไว้

หานชิงสวมผ้ากันเปื้อนให้ตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นสีเทา แต่ก็ได้ช่วยเพิ่มกลิ่นอายที่แตกต่างไปอย่างมากให้กับผู้ชายคนนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าเขาใกล้เธอมากขึ้นขึ้นมาทันที

หานชิงสวมเสื้อสูทอยู่ในห้องทำงานทำให้เธอรู้สึกว่าน่ายำเกรงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองก็ยังดูห่างไกลมากเลยด้วย

แต่ผู้ชายอยู่บ้านที่ดีอย่างนี้ ก็แตกต่างออกไป

เสี่ยวเหยียนเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว คิดอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปให้หานชิงสักรูป แต่ผลสุดท้ายพอแตะลงไปก็ได้พบว่าโทรศัพท์ของตนยังถูกหานชิงเก็บเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของเขาอยู่เลย

เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ถ้ารู้ก่อนเมื่อกี้นี้ไม่เอาโทรศัพท์ให้เขาไปหรอก ถือเองก็จบ แล้วตอนนี้ก็ยังแอบถ่ายรูปได้ตั้งหลายรูปอีก

และก็ไม่รู้ว่ารออยู่นานแค่ไหน ในที่สุดมื้อเช้าก็ทำเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าเขาจะทำอาหารให้เธอกิน เขินอายขึ้นมาสุดๆ ในตอนที่ดื่มนมหน้าก็แดงก่ำออกมา

แต่หานชิงกลับเอ่ยออกมาอย่างหน้าตาเฉย “เรื่องของพวกเรา บอกมู่จื่อแล้วหรือยัง?”

“หา?”

เสี่ยวเหยียนนิ่งค้างไปแวบนึง นึกไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะเอ่ยยกคำถามแบบนี้ขึ้นมาได้ จึงไม่มีการตอบสนองออกไปชั่วขณะ

“ก็ใช่ เมื่อวานความสัมพันธ์เพิ่งจะแน่ชัด ถึงแม้ว่าอยากพูดแต่ก็คงไม่เร็วขนาดนั้นหรอก”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็กลับกอดแขนแน่นไปอย่างไม่รู้ตัว กัดริมฝีปากไปด้วยความลังเล

ความจริงแล้วเธอไม่เคยคิดว่าจะต้องบอกเรื่องที่เธอกับหานชิงคบกันให้กับมู่จื่อเร็วขนาดนี้ อันที่จริงจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้เลยว่าที่หานชิงคบกับเธอเพราะชอบหรือเปล่า ก็คงจะชอบน้อยมากเลยล่ะมั้ง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทั้งสองคนจะคบกันนานแค่ไหน

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็เอ่ยเสียงเบาออกไป “เอ่อ…ฉันกำลังคิดว่าอย่าเพิ่งบอกมู่จื่อเลยดีกว่า”

“หืม?”

การกระทำบนมือของหานชิงหยุดชะงัก หยุดมองไปทางเสี่ยวเหยียน

เสี่ยวเหยียนอธิบายออกมาอย่างเงอะๆงะๆ “ถึงยังไงมู่จื่อก็เป็นน้องสาวของคุณ แล้วฉันก็ยังเป็นเพื่อนสนิทด้วยอีก เธอหวังว่าพวกเราจะได้คบกันมาโดยตลอด บอกเธอตอนนี้ เธอคงดีใจสุดๆแน่ แต่ถ้าหลังจากนี้…”

คำพูดตรงท่อนหลังเสี่ยวเหยียนไม่ได้พูดออกมาให้ละเอียด เธอหยุดลงสักพักถึงจะพูดต่อออกมา

“ถ้าหลังจากนี้ถ้าเกิดว่ามีอะไรขึ้นมา…ฉันกลัวว่าเธอจะเสียใจแทนพวกเรา”

“…”

หานชิงเข้าใจความหมายของเธอ เขาหรี่ตาลงจ้องมองเสี่ยวเหยียน เงียบไม่พูดไม่จา

สายตาที่ดุดันอย่างนี้มองมายังเสี่ยวเหยียนเสียจนแผ่นหลังหดเกร็ง เธอกัดริมฝีปากเบาๆ ดื่มนมไปอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่ด้วยเพราะตื่นกังวลเกินไปก็เลยดื่มไปอย่างรีบร้อน นมก็หกรดลงไปบนเสื้อผ้าเต็มๆ

“อ๊ะ…” เสี่ยวเหยียนร้องตกใจออกมา ลุกขึ้นมาทันที สุดท้ายก็ไม่ระวังจนปัดไปโดนน้ำผลไม้ที่อยู่ข้างๆ นมกับน้ำผลไม้ก็เลยรดลงมาบนตัวอย่างนี้

“ขอโทษค่ะขอโทษนะคะ…”

เสี่ยวเหยียนที่ถูกน้ำผลไม้กับนมรดใส่ลงมาเสียจนเลอะเทอะไปหมด

ทำไมเธอ…ถึงได้ทำเรื่องโง่งมขนาดนี้ออกไปได้?

หานชิงรีบสาวเท้าเข้ามาหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดให้เธอ แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว นมได้เปียกชุ่มอยู่บนเสื้อยืดสีขาวของเธอ เสื้อผ้าที่เปียกไปเล็กน้อย เผยให้เห็นทรวดทรงที่งดงามออกมา

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset