บทที่1172 กอดแน่นๆหน่อย
เพียงแต่แค่แวบตาเดียว หานชิงก็ได้ถอนสายตากลับมา
เขาเม้มปากเล็กน้อย น้ำเสียงที่พูดจงใจกดเสียงเย็นชาออกมา “เสื้อผ้าสกปรกแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยกินมื้อเช้า”
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าพูดอะไร คิดว่าตัวเองซุ่มซ่าม พยักหน้าออกมาด้วยความเศร้าสร้อย
หานชิงพาเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็ยื่นเสื้อเชิ้ตสีเข้มให้เธอไปตัวนึง
ในตอนที่รับมาเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกขายหน้าแทบแย่ รีบเข้าไปหลบในห้องน้ำถอดเสื้อที่เปียกออก แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตที่หานชิงให้มา
เป็นตัวที่เธอใส่ครั้งที่แล้ว เห็นเสื้อเชิ้ตตัวนี้แล้วเสี่ยวเหยียนก็นึกถึงครั้งที่แล้วที่เปลี่ยนแล้วแขวนเอาไว้ในห้องน้ำ สวมแล้วทั้งคืนก็ไม่ได้ช่วยเขาซักให้สะอาดอีก
พอนึกถึงก็กระดากอายขึ้นมา
วันนี้เธอสวมเป็นกระโปรงสีเข้ม เอาเสื้อเชิ้ตยัดใส่ในกระโปรง นึกไม่ถึงว่าจะเข้ากันเป็นชุดเดียวกันได้
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้เปลี่ยนเสร็จแล้ว ก็หลบอยู่ในห้องน้ำเอาเสื้อผ้าที่ตัวเองทำสกปรกมาซักให้สะอาด จนเธอเปิดประตูเตรียมออกไป ก็เห็นหานชิงยืนรอเธออยู่ตรงหน้าประตู
เสี่ยวเหยียนตื่นตกใจขึ้นมา “คุณ คุณทำไมถึงอยู่ที่นี่?”
หานชิงมองเธอแวบนึง พบว่าเธอได้เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว และในมือก็ยังถือเสื้อตัวที่เลอะเอาไว้ คาดว่าคงซักมาจากด้านในแล้ว แขนเสื้อเธอตอนนี้ก็เลยโดนน้ำไปเล็กน้อย
นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เสื้อเธอเปียกโชกเมื่อกี้นี้ขึ้นมาแล้ว แววตาหานชิงนิ่งขรึมลงหลายส่วน ลูกกระเดือกขยับเคลื่อนตัวขึ้นลง เอื้อมมือออกไปหาเธอ
“ซักเสื้อแล้ว? เอามาให้ฉันเถอะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็แทบจะยื่นเสื้อออกไปให้ทันที คิดแล้วคิดอีกก็เก็บมือกลับไปอีกครั้ง
“ไม่ ไม่ต้องหรอกมั้ง ฉันเอาไปตากเองสักหน่อยก็ได้”
หานชิงหัวเราะเบาๆออกมา “กลัวอะไร? เธอใส่เสื้อผ้าของฉันไปสองครั้งแล้ว ช่วยเธอตากสักตัว เธอก็กลัวแล้ว?”
“…”
เธอลังเลอยู่สักพัก ก็ต้องยื่นเสื้อของตัวเองออกไปให้ หลังจากที่หานชิงรับไปแล้วก็ได้เดินไปทางดวงอาทิตย์ เสี่ยวเหยียนเดินตามหลังไป
หลังจากนั้นก็เห็นหานชิงตากผ้าให้ตน ไม่รู้ว่าทำไม ในตอนที่เห็นนิ้วเรียวของเขาหยิบผ้า เสี่ยวเหยียนรู้สึกอยู่เสมอว่าภายในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่แปลกไป รอจนเขาตากเสร็จ หูของเธอก็ปรากฏสีชมพูจางๆออกมา
เสี่ยวเหยียนหันร่างออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ เตรียมที่จะลอบหนีออกไปก่อนที่เขาจะหันมา ฝีเท้าของหานชิงก็สาวก้าวใหญ่ๆเดินตามเธอไป แล้วกุมแขนเธอเอาไว้
“ลงไปกินข้าวเช้า”
“อ้ออ้อ”
“ความจริงเธอไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น เมื่อกี้นี้ฉันก็พูดไปแล้ว อยู่ตรงหน้าฉันไม่ต้องระมัดระวังตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันนะ”
จู่ๆหานชิงก็พูดออกมา หยิบยกหัวข้อบทสนทนาหนึ่งขึ้นมา
“ถ้าเธอกลัวฉันอยู่จริงๆ งั้น…” มือของหานชิงที่กำลังกุมมือเธออยู่นั้นค่อยๆขยับเคลื่อนขึ้นมาข้างบน เสี่ยวเหยียนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ยังไม่ทันได้สติกลับมาก็รู้สึกได้ว่าแขนของตัวเองได้ถูกหานชิงกุมเอาไว้ แล้ววางลงไปบนกำแพง
เสี่ยวเหยียนเบิกตากว้างออกมาทันที มองคนที่อยู่ตรงหน้าโน้มตัวลงไปหาเธอ ลมหายใจที่เหมือนกับเปลวเพลิงกำลังแผดเผาแก้มของเธอ
เธอมองคนที่แนบชิดเข้ามาอย่างประหม่า ริมฝีปากอ้าปากพูดออกมาเล็กน้อย “เป็นอะไรไป?”
หานชิงเม้มริมฝีปากบาง ยิ่งโน้มใกล้เข้าไปอีก น้ำเสียงแหบห้าว
“ถ้าเธอยังระวังอยู่อย่างนี้ งั้นฉันก็ทำได้แค่เพียงต้องใช้วิธีพิเศษอีกสักหน่อยเพื่อให้เธอจะได้ไม่ต้องกลัวฉันถึงขนาดนี้”
“วิธี…พิเศษ?” เสี่ยวเหยียนกะพริบตาปริบๆออกมา ขนตาดำเหมือนกับพัดเล็กๆสั่นไหวออกมา เหมือนกับพัดอยู่ในใจของหานชิงก็ไม่ปาน
เขาเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา น้ำเสียงก็ยิ่งแหบห้าวลง
“ใช่ เป็นวิธีพิเศษ ไม่ใช่ว่ากลัวฉันหรอกใช่มั้ย? ทำได้เพียงแค่ให้เธอคุ้นชินกับการอยู่ใกล้ชิดกับฉันเอาไว้ เธอก็จะได้ชิน”
ในตอนที่พูด ริมฝีปากบางของเขาก็แนบเข้ามาใกล้กับเธออย่างมาก ร่างของเสี่ยวเหยียนสั่นออกมา ภายในใจก็ตั้งตารอคอย แต่ปากก็ยังแข็งอยู่เหมือนเคย
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนี้สักหน่อย ฉันก็แค่…”
“ได้โอกาสฝึกต่อจากครั้งที่แล้วพอดี…”
เสียงของเขายิ่งต่ำลง เข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากนั้น…ริมฝีปากของเสี่ยวเหยียนก็ถูกประกบเข้ามา เอวก็ถูกมือใหญ่ทั้งสองข้างโอบเอาไว้ เธอยืนอยู่ตรงที่เดิมอย่างไม่มั่นคงนัก หลังจากนั้นสักพัก หานชิงก็ได้ดึงมือที่ไม่รู้ว่าจะวางเอาไว้ตรงไหนคู่นั้นของเสี่ยวเหยียนวางลงไปบนด้านหลังเอวของตน เสี่ยวเหยียนนิ่งตะลึงไปเล็กน้อย นี่หมายความว่าอยากให้เธอกอดเขางั้นหรอ?
เพิ่งจะได้สติกลับคืนมา ก็ได้รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายได้ถอนริมฝีปากออกไป พร้อมเอ่ยพูดออกมาด้วยเสียงแหบห้าว “กอดฉัน”
เสี่ยวเหยียน “!!”
ใบหน้าของเธอร้อนแทบไม่ไหวขึ้นมาทันที ตื่นตกใจจนอยากจะเก็บมือกลับมา อ๊ากกก! คนแก่พอมีความรักขึ้นมาก็รังแกกันเสียจนเธอทนดูต่อไปไม่ไหวอีกแล้วจริงๆ เดิมทีพวกเธอทั้งสองคนคบกันเธอจะต้องเป็นฝ่ายรุกสิ แต่ใครจะรู้เมื่อวานเพิ่งคบกันมาถึงวันนี้เขาได้จูบเธอไปกี่ครั้งแล้ว แล้วการจู่โจมก็กระตือรือร้นเสียจนเธอกลัว
แต่อย่างไรมือของเสี่ยวเหยียนก็เก็บกลับไปไม่สำเร็จ เพราะว่าในตอนกลางคันก็ได้ถูกหานชิงจับเอาไว้ จากนั้นก็สลัดออกไปอยู่สักพักนึงแต่ก็ไม่อาจสลัดออกไปได้ หลังจากนั้นก็ยังถูกเขาดึงกลับไปวางลงไปตรงช่วงเอวอีก “กอดฉัน หืม?” หานชิงเอ่ยเล้าโลมเธอเสียงเรียบออกมา ในตอนที่พูดนั้นริมฝีปากบางก็ได้แตะเข้ากับใบหูของเธอ รดลงมา โดยเฉพาะกลิ่นที่ทำให้จิตใจปั่นป่วนพวกนั้น
ในการเล้าโลมเข้ามาเรื่อยๆของเขา เสี่ยวเหยียนค่อยๆผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเองทีละนิดๆ อ้าแขนค่อยๆโอบเอวของเขา ความจริงแล้วหานชิงชอบที่หญิงสาวกอดเขาเอามากๆ
ก็เหมือนกับบนรถเมื่อคืนก่อน เธอเป็นฝ่ายจู่โจมเข้าไปกอด กอดเขาแน่นมาก ความรู้สึกนั้น…จริงมากๆแล้วยังอบอุ่นมากเหมือนกัน ให้เขาได้รู้สึกถึงอาการใจสั่นที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตนี้ของเขา
แต่หญิงสาวในวันนี้ขี้อายเอามากๆ มือที่โอบอยู่ตรงช่วงเอวของเธอก็เลยไม่ได้แน่น หานชิงจ้องมองขนตาที่เขินอายของเธอ เอ่ยพูดเล้าโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนออกมาต่อ “กอดแน่นขึ้นอีก พวกเราจะต่อกันแล้ว”
เสี่ยวเหยียนหน้าแดงออกมา ถูกการกระทำที่อุกอาจของเขาทำเอาช็อกไป อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาไปเลยจริงๆ
“จะจูบก็จูบ เรียกร้องอะไรมากมาย…”
เธอบ่นออกมาเบาๆ ปากก็กล่าวโทษอีกฝ่าย แต่จากคำพูดนั้นก็ได้ทำให้เขาโอบเธอแน่นขึ้นมาอีก ในที่สุดหานชิงก็พอใจสักที มุมปากก็ได้ประดับไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ก้มลงมาอีกครั้ง
การลองในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเชี่ยวชาญกว่าเมื่อวาน เดิมทีเสี่ยวเหยียนก็คิดว่าทั้งสองคนไม่เคยมีความรักมาก่อน เรื่องจูบก็ควรจะเป็นเรื่องยากสุดๆอยู่แล้ว จะให้ลองไปพร้อมกันเธอก็ยินดี
แต่เธอค่อยๆค้นพบเรื่องหนึ่งขึ้นมา
หานชิงเหมือนกับจะเจอลู่ทางขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรเธอเองก็ไม่อะไรอยู่แล้ว ถูกอีกฝ่ายพาไปโดยสมบูรณ์ เขาจะจูบยังไง ตนก็ต้องถูกจูบมาอย่างนั้น ไม่เหลือกำลังที่จะตอบโต้กลับไปเลยได้สักนิด
เสี่ยวเหยียนโมโหขึ้นมาเล็กน้อย จูบกลับไปอย่างแรง ผลสุดท้ายเพียงเพราะไม่ระวังแค่ครั้งเดียวนึกไม่ถึงว่าจะทำริมฝีปากของอีกฝ่ายแตกไปเสียอย่างนั้น
แต่ครั้งนี้หานชิงก็ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพียงแต่ได้กอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิมขึ้นมาทันที
แผ่นหลังของเสี่ยวเหยียนแนบลงไปกับผนังเย็นๆ คิดเพียงแค่ว่าความรู้สึกของหานชิงเหมือนกับว่ามันจะไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นัก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสี่ยวเหยียนรู้สึกเพียงแข้งขาอ่อนแรงขึ้นมา เริ่มยืนไม่ค่อยอยู่ขึ้นมา จบกัน…เมื่อกี้เธอดื่มนมไปครึ่งแก้ว ในตอนนี้ก็เริ่มหิวขึ้นมาอีกแล้ว…
จวบจนในตอนที่หานชิงผละออกจากเธอไป เสี่ยวเหยียนก็ได้พิงเข้าไปกับร่างของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง พูดกับตัวเองออกมาเบาๆ “ฉัน…เหมือนจะหิวขึ้นมานิดๆแล้วล่ะ”
จากนั้นก็ได้ยินอีกฝ่ายหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ไพเราะ
“งั้นก็ไปกินมื้อเช้ากัน อร่อยมากๆ อย่าเลือกกินล่ะ”