บทที่1184 ทำคลอด1
พอโดนเหลนรักทักท้วงแบบนี้ คุณท่านยู่ฉือก็ดึงสติกลับมาได้ เขาจึงรีบเร่งเหลนของเขาทันที “งั้นพวกเราไปกันตอนนี้เลย?”
“ครับ!”
เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความถามทางส้งอาน จากนั้นจึงพาคุณท่านยู่ฉือออกไปพร้อมกัน
กลางดึกแบบนี้ เสี่ยวเหยียนที่นอนสะลึมสะลือ รู้สึกถึงแรงสั่นจากใต้หมอน
โทรศัพท์หรอ? เสี่ยวเหยียนที่เหนื่อยไม่ไหว ทั้งที่รับรู้ถึงแรงสั่น แต่ร่างกายก็ไม่ตอบสนองอะไรเลย
โทรศัพท์สั่นอยู่สักพักก่อนจะหยุดไป แต่ผ่านไปไม่นานก็เริ่มสั่นอีกครั้ง เสี่ยวเหยียนล้วงมือเข้าไปใต้หมอนอย่างฝืน แล้วรับสาย
“ฮัลโหล……”
เสียงของเธอฟังแล้วเหมือนคนไม่มีแรง ง่วงอย่างไม่ไหว
“น้าเสี่ยวเหยียน!” เสียงของเสี่ยวหมี่โต้วดังมาจากปลายสายอย่างชัดเจน เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว : “เสี่ยวหมี่โต้ว? กลางดึกแบบนี้ ทำไมถึงโทรมาหาน้าครับ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คือคือ น้าเสี่ยวเหยียนครับหม่ามี๊จะคลอดแล้ว!”
“อื้ม……ใครจะคลอดแล้วนะครับ? เกี่ยวอะไรกับน้า……”ยังไม่ทันจะพูดจบ เสี่ยวเหยียนนิ่งไปแป๊ปหนึ่ง แล้วความง่วงก็หายไปในพริบตา เธอเบิกตากว้างทั้งสองข้างก่อนจะกระโดดลุกขึ้นนั่งบนเตียง “มู่จื่อจะคลอดแล้ว?”
“ครับครับ ใช่ครับน้าเสี่ยวเหยียน~ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วครับ ผมโทรบอกคุณน้า แล้วครับ ให้เขาไปรับคุณน้ามานะครับ”
แม้ในใจจะมีคำถามเป็นหมื่น แต่ทีนี้เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกรีบร้อนกว่าเดิม ได้แต่ตอบว่า : “โอเคครับ เดี๋ยวน้ารีบไปครับ”
พอวางโทรศัพท์ลง เสี่ยวเหยียนรีบดึงผ้าห่มออกกระโดดลงจากเตียงแล้วเปลี่ยนชุดนอน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์แล้วเปิดประตูห้อง อาจจะเพราะเธอเสียงดังเกินไป ในตอนที่เปิดประตูประตูห้องข้างๆก็เปิดออกเช่นกัน หลัวหุ้ยเหม่ยหรี่ตาที่ง่วงจ้องมองมายังเธอ
“เหยียนเหยียน ดึกป่านนี้ยังไม่นอนทำอะไรอยู่?”
“แม่คะ?” เห็นหลัวหุ้ยเหม่ยยืนอยู่ตรงนั้น เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดขึ้นมาทันที : “หนูเสียงดังจนแม่ตื่นหรอคะ? ขอโทษนะคะ แม่กลับไปนอนต่อเถอะค่ะ หนูออกไปแป๊ปหนึ่ง”
“ทำไมหล่ะ?” หลัวหุ้ยเหม่ยขมวดคิ้วแล้วเดินออกมา
“มู่จื่อจะคลอดแล้ว ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้วค่ะ”
“มู่จื่อจะคลอดแล้ว?” หลัวหุ้ยเหม่ยรู้สึกตกใจ : “ไม่ใช่อีกสองวันหรอ? ทำไมคลอดกะทันหันหล่ะ?”
เสี่ยวเหยียนส่ายหัว : “หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เมื่อกี้เสี่ยวหมี่โต้วเพิ่งโทรมา หนูลงไปก่อนนะคะแม่”
“เดี๋ยวก่อนดึกดื่นแบบนี้ผู้หญิงตัวคนเดียวออกไปไม่ปลอดภัย เดี๋ยวแม่ไปเปลี่ยนเสื้อแล้วไปด้วยกันดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่!” เสี่ยวเหยียนห้ามเธอเอาไว้ พร้อมอธิบาย : “เดี๋ยวจะมีคนมารับหนูค่ะ แม่ไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
พอลูกสาวพูดแบบนี้ หลัวหุ้ยเหม่ยเข้าใจขึ้นมาทันที เธอพยักหน้า “ก็ได้ ลูกกะเวลาแล้วค่อยลงไปนะ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว”
เสี่ยวเหยียนดูเวลา ก่อนจะพบว่าตอนนี้ตีสามกว่าแล้ว ถึงลงไปตอนนี้ก็น่าจะได้รออีกสักพัก
ท้ายสุดในเวลาที่กำลังรอลงตึกหลัวหุ้ยเหม่ยก็มานั่งเป็นเพื่อนเสี่ยวเหยียนอยู่ที่ห้องรับแขก เข็มนาฬิกาในห้องรับแขกดังติ๊กตอกแล้วเดินต่อไป ในคืนที่เงียบสงบแบบนี้ยิ่งดังเป็นพิเศษ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสี่ยวเหยียนที่เร่งให้หลัวหุ้ยเหม่ยให้กลับไปนอนต่อ แต่หลัวหุ้ยเหม่ยกลับไม่ยอม จะอยู่นั่งเป็นเพื่อนเธอให้ได้
ช่วยไม่ได้ เสี่ยวเหยียนจึงไม่ได้ว่าอะไรต่อ
ในที่สุด โทรศัพท์ของเสี่ยวเหยียนก็สว่างขึ้น เป็นสายจากหานชิงที่โทรเข้ามา
เสี่ยวเหยียนรับลุกขึ้นยืนแล้วรับสาย : “ฮัลโหล?”
“ฉันถึงด้านล่างตึกแล้ว เตรียมตัวเสร็จหรือยัง?”
“อื้ม ฉันลงมาเดี๋ยวนี้เลย” หลังจากที่เสี่ยวเหยียนกดวางสายก็หันไปหาหลัวหุ้ยเหม่ย : “แม่กลับไปนอนเถอะค่ะ หานชิงรออยู่ด้านล่างแล้ว”
หลัวหุ้ยเหม่ยเดินมาหยุดที่ริมหน้าต่าง ผลักบานหน้าต่างออกไปแล้วดู เป็นรถคันที่คุ้นเคยคันนั้น เธอถึงจะวางใจแล้วพยักหน้าไปทางเสี่ยวเหยียน : “ ได้ งั้นลูกไปเถอะ แม่จะกลับไปนอนต่อแล้ว เดินทางปลอดภัยนะ”
“ค่ะแม่!” เสี่ยวเหยียนผลักประตูออก แล้วเดินลงตึกไป
ในคืนที่เงียบสงบ ข้างเสาไฟมีรถจอดอยู่แค่คันเดียว เสี่ยวเหยียนรีบวิ่งไปเปิดประตูรถก่อนจะนั่งลงที่นั่งข้างคนขับ
หลัวหุ้ยเหม่ยที่มองเธอขึ้นรถอยู่บนตึก รู้ว่าเธอจะไม่ได้รับอันตรายอะไรแล้ว ถึงจะปิดหน้าต่างแล้วกลับเข้าห้องไปนอน
รถยนต์เลี้ยวแล้วจากไป
“เข็มขัด”
หานชิงพูดเตือน เสี่ยวเหยียนรีบตอบสนองทันที เธอรีบรัดเข็มขัดให้ตัวเอง พร้อมถามว่า : “อีกสองวันมู่จื่อถึงจะคลอดไม่ใช่หรือไง? นี่คือคลอดก่อนกำหนดหรอ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้น?”
อาจจะเป็นเพราะน้องสาวจะคลอดแล้ว หานชิงก็เลยค่อนข้างเป็นห่วง ดูจากสีหน้าของเขาแล้วค่อนข้างจริงจัง
“ไม่ค่อยแน่ใจ ไปโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน”
“อื้ม”
ในตอนที่ทั้งสองมาถึงโรงพยาบาล มู่จื่อได้เข้าห้องคลอดไปแล้ว เหลือแค่ส้งอานกับเสี่ยวหมี่โต้วและคุณท่านยู่ฉือสามคนที่รออยู่ด้านนอก
พอเห็นทั้งสองที่รีบมา ส้งอานและคุณท่านยู่ฉือก็ก้มหัวไปทางทั้งสอง เป็นการทักทาย
“คุณน้าเสี่ยวเหยียน” เสี่ยวหมี่โต้ววิ่งมาทางพวกเขา
“เสี่ยวหมี่โต้ว หม่ามี๊หล่ะ?” เสี่ยวเหยียนถามพร้อมหายใจถี่
“หม่ามี๊เข้าห้องคลอดแล้วครับ”
ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนมองไปรอบๆ แล้วถามอีกว่า : “แดดดี๊ตามเข้าไปด้วยหรอครับ?”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตา พยักหน้า : “ครับ!”
ริมฝีปากเสี่ยวเหยียนกระตุกยิ้ม เข้าไปอยู่เคียงข้างตอนคลอดด้วย
แม้จะรู้สึกทึ่งเล็กน้อย แต่เสี่ยวเหยียนกลับรู้สึกอิจฉาขึ้นมา ไม่รู้ว่าในอนาคตตอนที่ตัวเองคลอดลูกสามีจะอยู่เคียงข้างเธอหรือเปล่า
พอคิดแล้ว เสี่ยวเหยียนก็มองไปยังหานชิงอย่างอัตโนมัติ หานชิงที่ยังคงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ทันได้สังเกตสายตาและความคิดของเสี่ยวเหยียนในตอนนี้
“หมอว่ายังไงบ้างครับ? ทำไมถึงได้คลอดก่อนกำหนด จะเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่าครับ?”
พอได้ยินเขาถามแบบนั้น เสี่ยวเหยียนถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าในเวลาแบบนี้ตัวเองดันมาคิดเรื่องที่ไม่ควรคิด เธอสะบัดความคิดออกจากหัว จากนั้นก็เดินก้าวไปด้านหน้า
ส้งอานเห็นทั้งสองที่ค่อนข้างเป็นห่วง เธอจึงลุกขึ้นยืนพร้อมพูดโวยน้ำเสียงที่ทำให้โล่งใจ : “ไม่ต้องตื่นเต้นนะ ก็แค่คลอดก่อนกำหนดสองวัน ไม่ก่อนกำหนดสองเดือนสักหน่อย เป็นสถานการณ์ปกติอยู่แล้ว”
เมื่อก่อนส้งอานเคยเป็นหมอ คำพูดของเธอจึงดูน่าเชื่อถือ หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้คนที่เหลือจึงรู้สึกโล่งใจ
จากนั้นก็นั่งรออยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินของโรงพยาบาล
ในห้องคลอด
หานมู่จื่อที่นอนอยู่บนเตียงเหงื่อไหลแล้วไหลอีก เย่โม่เซินที่อยู่เคียงข้างข้างๆ แล้วกุมมือเธอไว้ตั้งแต่เข้ามา
แต่ถ้าดูจากสีหน้าแล้ว สีหน้าของเย่โม่เซินนั้นแย่กว่าหานมู่จื่อเสียอีก แล้วเหงื่อยังออกเยอะกว่าหานมู่จื่ออีกด้วย
หานมู่จื่อหันมามองเย่โม่เซินแวบหนึ่ง มองท่าทางของเขา ริมฝีปากยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“คนที่คลอดลูกคือฉันไม่ใช่นายนะ ทำไมนายทำท่าเหมือนเจ็บกว่าฉัน?”
เย่โม่เซิน:“……”
พอฟังแล้ว เขากุมมือเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม ถามเธอเสียต่ำ : “เจ็บมากใช่ไหม?”
หานมู่จื่อส่ายหัว : “นิดนึง ฉันทนไหวหน่า”
ท้องแรกเธอก็เคยคลอดมาแล้ว ท้องที่สองคงจะสบายกว่าท้องแรกเยอะ แม้หานมู่จื่อจะรู้สึกไม่สบายมากๆ แต่พอเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของชายตรงหน้าแล้ว เธออย่าไปทำให้เขาตื่นเต้นกว่าเดิมเลยดีกว่า
คิดไปคิดมา หานมู่จื่อถามขึ้นว่า : “ นายจะออกไปก่อนไหม รอฉันคลอดเสร็จ?”
ฟังจบ เย่โม่เซินส่ายหัวอย่างยึดมั่น : “ฉันจะอยู่กับเธอที่นี่”