บทที่1199 คุณเรียกคนผิดแล้ว
พอได้ยินว่าฟางถังถังจะขอกลับไปก่อน ตอนแรกเจียงเสี่ยวไป๋ก็ขมวดคิ้วแน่น แต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ตอนกลางคืนทางบ้านของฟางถังถังจะคุมเข้มมาก ถ้าเกิดเธอกลับไปตอนนี้ ถึงเวลานั้นอาจจะโดนตำหนิอย่างรุนแรงแน่
“งั้นก็ได้ เธอก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้าบ้านแล้วส่งข้อความหาฉันด้วย” พูดถึงตรงนี้
“วางใจเถอะ เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เธอต่างหาก……” ฟางถังถังมองดูเซียวซู่ที่หลับไม่ได้สติ ก่อนจะมองไปทางเจียงเสี่ยวไป๋แล้วเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดขึ้น “ทุกวินาทีมีค่า เธอต้องพยายามเข้านะ”
ประโยคนี้ทำเอาเจียงเสี่ยวไป๋หน้ามืดไปทันที อะไรของหล่อน
แต่เธอก็ไม่ทันได้ดึงตัวฟางถังถังกลับมาถาม หล่อนก็วิ่งหายจนเหลือแต่ฝุ่นแล้ว
น่าหน่ายใจนัก เธอทำได้แค่ยอมรับชะตากรรมแล้วเข้าไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ แล้วบอกที่อยู่กับคนขับไป
ช่วงเวลากลางดึก เจียงเสี่ยวไป๋ลากเซียวซู่กลับไปที่บ้านตัวเองด้วยตัวคนเดียว จากนั้นก็โยนเขาลงที่โซฟา เหนื่อยจนต้องหอบอยู่ข้างๆ
“เป็นผู้ชายที่สมควรตายจริงๆ กินอะไรเข้าไปถึงได้ตัวโตขนาดนี้นะ หนักจะตายอยู่แล้ว”
พูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วรินน้ำเย็นให้ตัวเองดื่มหลายอึก แต่หัวใจก็ยังคงเต้นรัวอยู่ พอออกมาก็พบว่าเซียวซู่ที่เดิมทีอยู่บนโซฟาตอนนี้ตกลงมาอยู่ด้านล่างแล้ว เลยได้แต่เบิกตาโตอย่างไร้คำพูด
เธอเหนื่อยจนไม่มีแรงจะย้ายเขาขึ้นไปอีกรอบแล้ว ในเมื่อเขาเลือกที่จะล้มลงมาด้วยตัวเอง ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็ให้เขานอนบนพื้นก็แล้วกัน
เป็นเพราะว่าพยุงตัวเซียวซู่มา ดังนั้นตอนนี้ตัวของเจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า ส่วนเซียวซู่ที่นอนอยู่ในห้องรับแขกไม่นาน ห้องทั้งห้องก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้า
ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยต้องเปิดกระจกเพื่อไล่กลิ่น จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ
เดิมทีแล้ว ตอนนี้มีผู้ชายอยู่ในบ้านแต่เธอดันไปอาบน้ำก็ออกจะดูประมาทไปหน่อย แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นเมาเละเทะขนาดนั้น ตลอดทางที่กลับมาก็สงบนิ่งเหมือนคนตาย ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยวางใจเป็นพิเศษ เป็นไปตามคาด หลังจากเธออาบน้ำเสร็จออกมา ตาเซียวผีขี้เมาก็ยังนอนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน
หึ
ผู้ชายคนนี้ถึงแม้จะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น คิดว่าเขาก็คงไม่ตื่น แล้วก็คงหนีเอาชีวิตรอดไม่ได้
เจียงเสี่ยวไป๋เช็ดผมตัวเองให้แห้ง จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าเซียวซู่แล้วเตะหน้าแข้งเขา “นี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจพานายกลับมาที่บ้านนะ ฉันแค่ไปเจอนายเข้า แล้วรู้สึกว่าทิ้งนายไม่ลงเท่านั้น กลับว่านายจะถูกคนทิ้งไว้ข้างทางกลางดึกแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็เลยมีน้ำใจพานายกลับมาด้วย คืนนี้คุณนอนที่นี่ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาก็รีบไปซะ แล้วก็อย่าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ไปพูดเด็ดขาด”
เซียวซู่ไม่ตอบเขา เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น
“อีกอย่าง คืนนี้คุณก็นอนพื้นแล้วกัน”
“ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็จะถือว่าคุณรับปากแล้ว”
แต่เซียวซู่ผู้น่าสงสารนั้นไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ถูกทิ้งให้นอนบนพื้นแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋กลับไปที่ห้องของตัวเอง หยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาเป่าผม จากนั้นก่อนขึ้นเตียงก็ตรวจสอบก่อน แล้วกดล็อกประตูห้องนอน
อย่างไรก็ตามในบ้านก็มีผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยเพิ่มมาคนหนึ่ง อีกอย่างยังดื่มเหล้าจนเมา ถ้าจู่ๆเขาเกิดคลั่งขึ้นมากลางดึกแล้วพุ่งเข้ามาในห้องของเธอจะทำอย่างไร
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดื่มเหล้าแก้วนั้นเข้าไปหรือไม่ ตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋นอนลงก็รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายหัวเลย และอาจจะเป็นไปได้ว่าเพราะในบ้านมีคนๆหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเลยรู้สึกไม่คุ้นเคย พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ
จนตอนกลางดึก เจียงเสี่ยวไป๋ก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เลยลุกขึ้นมาเปิดตู้หยิบผ้าห่มออกมาผืนหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปนอกห้องนอน
ตอนที่เปิดไฟในห้องรับแขก เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกหมดคำพูดไปในทันที เพราะว่าเซียวซู่ก็ยังนอนอยู่กับพื้นในท่าเดิม ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน
เธอเดินเข้าไปห่มผ้าห่มให้เขา แล้วก็บ่นพึมพำไปด้วย
“มีแต่ฉันนี่แหละที่ใจอ่อนเกินไปถึงได้พานายกลับมาบ้านแถมยังห่มผ้าห่มให้นายแบบนี้”
พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็พบว่าคิ้วของเซียวซู่ขมวดกันแน่นกว่าเดิม ดูท่าทางไม่ค่อยสบายนัก บนหน้าผากยังมีเหงื่อผุดขึ้นมาด้วย
พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา เจียงเสี่ยวไป๋ก็ใจอ่อนอีกครั้ง ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปต้มซุปแก้เมาให้เขาในครัว จากนั้นก็กลับมาป้อนให้กับเซียวซู่
น่าเสียดายที่เซียวซู่เมาจนไม่ได้สติ จะไปยอมดื่มอย่างว่าง่ายได้อย่างไร แต่ว่าก็ไม่สามารถต่อต้านความเด็ดขาดของเจียงเสี่ยวไป๋ได้ ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอสามารถย้ายผู้ชายตัวโตอย่างเขากลับมาบ้านได้จะเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ไหนเล่า
ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยนั่งลงบนตัวเขา จากนั้นก็ใช้ต้นขาหนีบหัวเขาเอาไว้ แล้วบีบปากทั้งสองข้างของเขา จากนั้นก็กรอกน้ำซุปลงไปในปากของเซียวซู่
ตอนแรกเซียวซู่ก็ยังปล่อยให้เจียงเสี่ยวไป๋ควบคุมเหมือนหุ่นยนต์ แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซุปแก้เมาได้ผลจริงหรือเปล่า เขาก็เลยเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง ตอนที่ใช้ช้อนเปิดปากเขา เขาก็ทำท่าเหมือนจะอ้วกซุปออกมา
ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ก็เหมือนจะรู้ทันความคิดของเขา ก็เลยรีบบีบปากเขา แล้วขู่อย่างโหดร้ายว่า “ถ้ากล้าอ้วกออกมา เชื่อไหมว่าฉันจะโยนนายออกไปนอกบ้านทันทีเลย”
อาจจะเป็นเพราะคำขู่นั้นได้ผล เซียวซู่ก็เลยค่อยๆกลืนน้ำซุปแก้เมากลับลงไป จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็ใช้วิธีนี้ป้อนเขาต่อจนหมดถ้วย แล้วไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้เซียวซู่ เช็ดไปพลางก็บ่นไปพลาง “ถ้ารู้แต่แรกว่าฉันต้องลำบากขนาดนี้ ก็น่าจะปล่อยคุณให้อยู่ข้างนอกตามเวรตามกรรมไปซะก็ดี”
ช่างเถอะช่างเถอะ อย่างมากพรุ่งนี้ก็รอให้เขาตื่นขึ้นมาแล้วค่อยคิดเงินกับเขาก็พอ
เป็นเพราะคิดถึงเรื่องเก็บเงิน ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยออกแรงย้ายเซียวซู่ขึ้นไปบนโซฟาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้พอเขาตื่นมาพรุ่งนี้เช้าแล้วมาบอกว่าตัวเธอปล่อยให้เขานอนทรมานอยู่บนพื้น
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็เตรียมจะจากไป
แต่จู่ๆข้อมือก็ถูกจับไว้
เธอหันกลับไปมอง ก็พบว่าเซียวซู่ที่กำลังหลับตาอยู่คว้าข้อมือเรียวเล็กของเธอเอาไว้ เธอเบิกตาโต แล้วดึงมือกลับมา
ถ้าไม่ขยับคงดีกว่า พอรู้สึกตัวว่าเธอจะดึงมือกลับ ตาเซียวผีขี้เมาก็จับมือแน่นกว่าเดิม
“บ้าจริง นี่คิดจะแต๊ะอั๋งฉันเหรอ” เจียงเสี่ยวไป๋คำรามใส่เขาคำหนึ่ง
น่าเสียดายที่เซียวซู่ไม่ได้ยินเสียงของเธอ แต่ในปากกลับแต่พึมพำอะไรบางอย่าง เจียงเสี่ยวไป๋โน้มเอวลงไปใกล้เพื่อฟัง
“อย่าไป……อย่าไป……อย่าทิ้งฉันไปนะ……”
“……”
พอเจียงเสี่ยวไป๋ได้ฟังแล้ว บนใบหน้าก็เผยสีหน้ารังเกียจออกมา นี่ยังจะมีอะไรไม่เข้าใจอีก ผู้ชายคนนี้เมาหัวทิ่มเพราะอกหัก ตอนนี้ก็คงเรียกหาคนที่อยู่ในใจน่ะสิ
เธอสะบัดมือ “รีบปล่อยเลยนะ นายเรียกผิดคนแล้ว”
“อย่าไป……”
เจียงเสี่ยวไป๋อยากจะดึงมือกลับ แต่เธอก็ประเมินแรงของผู้ชายต่ำไป โดยเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่งเมา และไม่รู้จักกะพละกำลังตัวเอง
ถึงแม้กำลังของเธอจะถือได้ว่าแข็งแกร่งในหมู่ผู้หญิงด้วยกัน แต่ต่อหน้าผู้ชาย กำลังแค่นี้จะทำอะไรได้
ดังนั้นผ่านไปครู่ใหญ่เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือข้อมือตัวเองออกมาได้
เจียงเสี่ยวไป๋เลยนั่งลงข้างๆ แล้วนั่งเหม่ออย่างหมดหนทาง
ในที่สุดอีกฝ่ายก็ไม่ดิ้นอีก เซียวซู่ก็เลยสงบลง แต่ก็ยังจับมือของเจียงเสี่ยวไป๋ไว้แน่น
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเซียวซู่ทีหนึ่ง ก็พบว่าคิ้วของเจ้าหมอนี่ก็สวยไม่น้อยเลย เพียงแต่บนใบหน้ามีรอยแผล ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นรังเกียจรอบแผลเป็นอันนี้ของเขาหรือเปล่า ดังนั้นเลยไม่ยอมคบกับเขา
แต่ว่าสำหรับเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว เธอไม่ได้รังเกียจรอยแผลเป็นนี้เลยแม้แต่น้อย