บทที่ 1201 อยู่ในห้วงแห่งความสุข แต่กลับไม่รู้ค่า
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ คำพูดนี้ของเขา เพื่อเป็นการเตือนเฉยๆ เพราะเธอช่วยเหลือตัวเอง ดังนั้นเขาจึงพูดเตือนเธอให้ระวังความปลอดภัยด้วยความหวังดี อย่าเอาคนอะไรก็ได้เข้าบ้าน
แต่เขาไม่ได้อธิบายถึงต้นสายปลายเหตุ ดังนั้นเมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินคำเหล่านี้ ในใจก็รู้สึกไม่พึงพอใจมาก เดิมทีเธอยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ในตอนนี้รอยยิ้มค่อยๆกลายเป็นเย็นชา จ้องมองเซียวซู่แล้วพูดว่า
“คุณเซียว ความหมายของคุณกำลังบอกว่า ฉันชอบยุ่งมากเรื่องเหรอ?”
เซียวซู่ สะดุ้งเล็กน้อย ได้ยินเธอพูดอีกครั้ง
“เพราะฉันยุ่งมากเรื่องแล้วพาคุณกลับบ้าน” เลยทำให้ตอนนี้คุณต้องติดหนี้บุญคุณฉัน คุณจึงรู้สึกไม่พอใจ?”
เจียงเสี่ยวไป๋จ้องมองเซียวซู่อย่างโกรธเคือง
ผู้ชายเป็นพวกหลอกลวงหมดเลยจริงๆ
โดยเฉพาะผู้ชายที่อกหักรักคุด!
รู้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่ควรพาเขากลับมา
เซียวซู่ “……ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋โกรธ “คุณไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ แล้วคุณหมายถึงอะไร หรือเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดว่า ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีก ฉันอย่าไปยุ่งจะดีที่สุด?”
“ใช่” เซียวซู่พยักหน้า สีหน้าและน้ำเสียงก็มีความจนปัญญาเล็กน้อย “ประโยคนี้คือสิ่งที่ฉันพูดเอง แต่……
ความหมายของฉันคือ นอกจากเรื่องในวันนี้เป็นข้อยกเว้น ต่อไปถ้าคุณเจอเรื่องแบบนี้อีก อย่าเข้าไปยุ่งจะดีที่สุด”
“ทำไม!!” เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงโกรธเคือง หัวสมองของเธอ ในเวลานี้ยังคิดไม่ออก
เซียวซู่ “……”
ผู้หญิงคนนี้ ก็มีเวลาที่หัวทึบด้วยหรือ? เพราะกำลังเป็นหนี้บุญคุณเธอ ตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านของเธอ ดังนั้นแม้ว่าเซียวซู่จะรู้สึกปวดหัว แต่ก็ยังอธิบายอย่างอดทน “ถ้าครั้งหน้าเจอคนเลวล่ะ? คุณเป็นผู้หญิงที่พักอยู่คนเดียว พาผู้ชายกลับบ้าน เป็นเรื่องที่อันตรายมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจความหมายของเซียวซู่
“คุณหมายความว่า ยกเว้นคุณ ผู้ชายคนอื่นอันตรายทั้งหมด?”
เซียวซู่ “ความหมายของฉันคือ……ผู้ชายแปลกหน้าอันตรายมาก รวมทั้งฉันด้วย ก็อันตรายมากเหมือนกัน ดังนั้นต่อไปนี้ คุณควรระวังเรื่องแบบนี้หน่อย”
เมื่อได้ยินเขาไม่ได้วางตัวเองไปในข้างที่ดี และความตั้งใจเดิม คือเป็นห่วงว่าเธอจะได้รับอันตราย ความโกรธของเจียงเสี่ยวไป๋ ก็หายไปในทันที ส่งเสียงอย่างหน้าเชิด
“ที่แท้เพราะว่าเป็นห่วงฉัน ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ก็ไม่เสียแรงที่ฉันพยายามสุดขีด ที่จะเอาตัวคุณกลับมาจากบาร์ ฉันเหนื่อยแทบตายจริงๆ”
หลังจากพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็นึกถึงอะไรบางอย่างแล้วรีบพูดขึ้น “คุณไม่ต้องกังวล ฉันเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ใช่คนโง่ ตัวเองต้องคิดทบทวนก่อนแน่นอน ฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่คนเลว ดังนั้นจึงเลือกที่จะช่วยคุณ”
เซียวซู่ยังอยากจะพูดอะไรหน่อย เอ่ยปากแล้วไอไปสองสามครั้ง เจียงเสี่ยวไป๋เห็นเข้าก็รีบลุกขึ้น “ฉันเทน้ำให้คุณแก้วหนึ่งนะ”
แค่หลังจากลุกขึ้น ก็ร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็นั่งลงไปทั้งตัว
เซียวซู่เห็นเข้า ขมวดคิ้วมุ่น “เป็นอะไรเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ก้มมองขาของตัวเอง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวซู่ ทำปากมุ่ยแล้วพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ “ขา……ชาแล้ว”
งอเข่าไว้แบบนี้ตลอดทั้งคืน คงท่าเดิมไว้โดยไม่ขยับเลย มันจะไม่ชาได้ยังไง? เจียงเสี่ยวไป๋จนใจ ทำได้เพียงยื่นมือไปนวดขาของตัวเองเบา เพื่อบรรเทาให้ผ่อนคลาย แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าขาชาและเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทันทีที่เธอขยับ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวท่าทางอื่น
เซียวซู่ที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นท่าทางนี้ของเธอ เธอขาชาเพราะตัวเอง เขาควรจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ว่าขาของเธอ……
คิดไปคิดมา เซียวซู่ก็ลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าเธอโดยตรง “ฉันช่วยคุณ”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยิน เกือบจะคิดว่าเขาต้องการนวดน่องขาให้กับตัวเอง ปฏิเสธเขาทันที “ไม่ ไม่ต้อง! คุณ……”
แต่ก่อนที่จะพูดจบ เธอก็ถูกเซียวซู่อุ้มขึ้นมาทั้งตัว
เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย มือดึงเสื้อผ้าของเขาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว พลางจ้องตาเบิกกว้าง
“คุณกำลังทำอะไร?”
เซียวซู่เหลือบมองเธอเรียบเฉย โดยไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่เดินไปวางเจียงเสี่ยวไป๋ไว้บนโซฟา และพูดขึ้นเสียงเบา “คุณคงอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานเกินไป เลือดไหลเวียนไม่คล่อง ถึงได้รู้สึกขาชาและปวดแสบปวดร้อน คุณวางขาลงช้าๆ”
เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋ยังอยากจะตำหนิเขา แต่เสียงของ เซียวซู่นั้นแหบแห้งเล็กน้อยหลังจากที่ดื่มเหล้าและเพิ่งตื่นขึ้นมา ยังมีความสุขุมทุ้มลึกเล็กน้อย เลยมีพลังที่ทำให้คนรู้สึกวางใจ ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงทำตามที่เขาพูด
หลังจากผ่อนคลายอยู่เนิ่นนาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกว่าขาไม่ได้ชาและเจ็บปวดมากขนาดนั้นแล้ว เธอเหลือบมองเซียวซู่ที่อยู่ข้างๆ
“เมื่อกี้คุณอุ้มฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”
“……”
เซียวซู่ “ขอโทษ……ไม่ได้ตั้งใจ”
“คุณเอาเปรียบฉัน ต้องสัญญากับฉันอีกหนึ่งอย่าง!”
เซียวซู่ “……ได้”
แม้เจียงเสี่ยวไป๋จะไม่รู้ว่าเซียวซู่สามารถทำอะไรได้ แต่นิสัยที่ไม่ยอมเสียเปรียบของเจียงเสี่ยวไป๋แบบนี้ ให้เขาติดไว้ก่อนแล้วกัน บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้? ฮิฮิ
แต่น่าเสียดายที่เซียวซู่ไม่รู้ว่า ตัวเองได้ถูกเธอจดจำไว้แล้ว และเขาก็คงไม่รู้ว่า เพราะน้ำใจสองครั้งนี้ ในอนาคตเขาจะต้องมีความพัวพันกับสาวน้อยเจ้าเล่ห์ตรงหน้านี้อย่างมากมาย จนทำให้ในตอนสุด……
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องในภายหลังแล้ว
*
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปีหนึ่งแบ่งออกเป็น 365 วันหนึ่งวันคือ 24 ชั่วโมง และหนึ่งชั่วโมงก็คือ 60 นาที
ภายนอกผิวเผิน ดูเหมือนจะเยอะมาก แต่วันเวลาหมุนผ่านไป โดยไม่รอคนเลย
เสี่ยวโต้วหยาครบเดือนอย่างรวดเร็ว เย่โม่เซินได้พัฒนาจากคุณพ่อมือใหม่เป็นคุณพ่อสุดยอดอย่างสมบูรณ์ เพราะกังวลว่าภรรยาของตัวเอง หานมู่จื่อจะเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเขาจึงเลี้ยงดูลูกเกือบทั้งหมด
เปลี่ยนผ้าอ้อมชงนมผงกล่อมลูก เย่โม่เซินเป็นคนทำหมด
หานมู่จื่อไม่จำเป็นต้องขยับมือ และขยับปากเลย
เธอก็อยากจะทำ แต่เย่โม่เซินไม่อนุญาต ช่วงที่อยู่เดือน ได้ดูแลเธอและเสี่ยวโต้วหยาเป็นอย่างดี งานสกปรกงานเหน็ดเหนื่อยอะไรต่างๆ สรุปก็คือ ใดๆก็แบกไว้รับผิดชอบเองทั้งหมด ดังนั้นหานมู่จื่อก็เลย นอนๆๆ กินๆๆ ทุกวัน
นอกจากนี้ ในช่วงอยู่เดือน ยังมีอาหารเสริมต่างๆสารพัด ดังนั้นหนึ่งเดือนผ่านไป หานมู่จื่อแค่ลดอาการบวมน้ำลง แต่น้ำหนักไม่ได้ลดลงไปเลย เมื่อมองดูตัวเองในกระจก ยังอ้วนขึ้นกว่าเดิมอีก หานมู่จื่อเลยจ้องเขม็งอย่างคมกริบบาดเย่โม่เซิน
“โทษคุณทั้งหมด ถ้าให้ฉันดูแลลูกเยอะหน่อย ได้เหนื่อยบ้าง ฉันก็ไม่ถึงกับไม่ผอมลงเลย”
เย่โม่เซินได้ยินเช่นนี้ ยื่นมือลูบหัวของเธอ “คลอดลูกก็ได้เหน็ดเหนื่อยมากพอแล้ว ทำไมยังต้องการดูแลลูกอีก? คุณไม่ใช่ว่าไม่มีสามีสักหน่อย สิ่งเหล่านี้ปล่อยให้ฉันถามมีอะไรที่ไม่ดีล่ะ?”
ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดีจริงๆ แต่เพียงหานมู่จื่อรู้สึกว่า ตัวเองก็ควรดูแลให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ถึงเวลานั้น เสี่ยวโต้วหยา แค่สนิทใกล้ชิดกับแดดดี้ของเธอคนเดียว และห่างเหินกับแม่ของเธอ
ในความเป็นจริง แม้ว่าน้ำหนักของหานมู่จื่อในตอนนี้ จะหนักกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย แต่เมื่อก่อนเพราะเธอกังวลกับเรื่องราวต่างๆมากมาย ดังนั้นจึงผอมมากเป็นพิเศษ แม้ว่าตอนนี้จะมีน้ำมีนวลขึ้น แต่ดูแล้วก็กำลังพอดี
อย่างไรก็ตาม หานมู่จื่อก็ตัดสินใจแล้วว่า อีกไม่กี่วัน จะไปสมัครเข้าเรียนที่ฟิตเนส แล้วออกกำลังกายแก้ไขรูปร่างเสียหน่อย
หานมู่จื่ออยากจะเลี้ยงดูลูกให้มากขึ้น เสี่ยวเหยียนรู้เรื่องเหล่านี้ กลับรู้สึกทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไส้เธอ
“อยู่ในห้วงแห่งความสุข แต่กลับไม่รู้ค่าจริงๆเลยนะ หานมู่จื่อ คุณรู้ไหมว่ามีผู้ชายมากเท่าไหร่ ที่ไม่ช่วยดูแลลูก! และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด!”