บทที่ 1206 ถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก
“กินหลายชิ้น?” หานชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดไว้ว่า จะไม่ให้สาวน้อยกินสักชิ้นเลย แต่คิดไม่ถึงว่า เธอยังอยากจะกินหลายชิ้น
เมื่อเห็นเขาหรี่ตาลง เสี่ยวเหยียนก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที
“สองชิ้น!!” เธอพูดพร้อมกับชูขึ้นสองนิ้ว “ได้ไหม? ฉันจะกินแค่สองชิ้น ต่อไปจะไม่กินแล้ว”
หานชิงมองเธออย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
เสี่ยวเหยียนกระแอมไอเล็กน้อย ค่อยๆลดสองนิ้วเป็นหนึ่งนิ้ว “แล้ว……หนึ่งชิ้นล่ะ?”
หานชิงยังคงเงียบ
เสี่ยวเหยียนรู้สึกหดหู่ใจในทันใด แม้ว่าอยากจะกินเค้กมากจริงๆ แต่ถ้าหานชิงไม่เห็นด้วย ถ้าอย่างนั้นเธอก็อดทนตัดของโปรดออกไปแล้วกัน
“งั้นก็ช่างเถอะ ฉันไม่กินแล้วกัน”
หลังจากพูดจบ อารมณ์ของเสี่ยวเหยียนก็ตกต่ำลงในทันที ในขณะที่เธอกำลังคอตก หานชิงก็เอื้อมมือไปลูบหลังศีรษะของเธออย่างจนปัญญา จากนั้นก็เอาเค้กชิ้นเล็กในมือ ไปไว้ตรงหน้าเธอ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “กินสัก”
เมื่อเสี่ยวเหยียนเห็นเช่นนี้ ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เงยหน้าขึ้นมองหานชิง ราวกับกำลังขออนุญาตจากเขา
“กินได้จริงๆเหรอ คุณไม่โกรธใช่ไหม?”
“ชิ้นสุดท้าย” มือของหานชิงเลื่อนจากด้านหลังศีรษะ มาที่แก้มขาวผุดผ่องของเธอ ปัดเศษผมจากแก้มของเธอ ไปที่ด้านหลังศีรษะ ท่าทางอ่อนโยนอย่างยิ่ง
“อืมๆ!”
หานมู่จื่อที่อยู่ไม่ไกลออกไป ได้เฝ้าดูฉากนี้ ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย ไม่สามารถบอกได้ว่า ในใจคือความรู้สึกปลาบปลื้มหรือทอดถอนใจ ในตอนแรกพี่ชายของเธอ ได้พูดต่อหน้าตัวเอง ว่าจะไม่แต่งงานและยังบอกอีกว่า ให้เธอมีลูกหลายคนหน่อย แล้วยกให้เขาเลี้ยงดู ใครจะไปรู้ว่าภายในชั่วพริบตาก็……ช่างหอมหวานจริงๆ
ตอนนี้ไม่เพียงแต่กำลังมีความรัก แต่ยังรักแฟนสาวอย่างออกหน้าออกตาขนาดนี้
เพื่อนรักของตัวเอง พี่ชายของตัวเอง ทั้งสองสามารถมีความสุขได้ ไม่ต้องสงสัยว่า หานมู่จื่อเป็นคนที่ดีใจมากที่สุด แต่เสี่ยวเหยียนยังคงไม่มีความมั่นใจมากนัก บางทีเธอควรคิดหาวิธี ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น?
ดังนั้นหานมู่จื่อจึงเอามือเท้าคางไว้ มองไปที่ทั้งสองคน แล้วกำลังครุ่นคิด
มีแล้ว!
ริมฝีปากแดงของหานมู่จื่อค่อยๆโค้งขึ้น เอาเป็นว่าทำอย่างนี้เลยแล้วกัน
เสี่ยวเหยียนกับหานชิงที่กำลังกินเค้กอยู่ไม่ไกลนัก ไม่รู้เลยว่า ได้ถูกหานมู่จื่อแอบวางแผนการไว้แล้ว
หลังจากนั้นหานมู่จื่อก็ไปหาเย่โม่เซิน ได้บอกความคิดและแผนการของตัวเองให้กับเขา
เมื่อได้ยิน เย่โม่เซินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่เธอด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
หานมู่จื่อชะงักไปเล็กน้อย จ้องมองเขาอย่างสงสัย “คุณเป็นอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร” เขาอยากจะบอกว่า ให้เธออย่าเอาแรงกายแรงใจไปไว้ที่คนอื่น แต่คิดไปคิดมาแล้ว คนคนนั้นคือพี่ชายของหานมู่จื่อ ซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียว ในครอบครัวของเธอ ถ้าพูดออกไป กลัวว่าเธอจะไม่พอใจ
จึงไม่พูดเสียเลย ปฏิเสธโดยตรง
แต่หานมู่จื่อจะมองไม่ออกอารมณ์ที่ไม่พึงพอใจของเขาในตอนนี้ได้อย่างไร และยังดูออกว่า เย่โม่เซินได้ระงับไว้ด้วยตัวเอง เธอยื่นมือออกไป ควงมือของเย่โม่เซินไว้ “หรือว่าคุณหึงแล้ว?”
สีหน้าของเย่โม่เซินบูดบึ้งเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่พูดอะไร แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจน
“นี่ คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? นั่นคือพี่ชายของฉันและเสี่ยวเหยียนก็เป็นเพื่อนสนิทของฉัน ในที่สุดพวกเขาสองคนก็ได้อยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือนิดหน่อยก็ไม่มีอะไรนะ”
สีหน้าของเย่โม่เซิน ยังคงไม่สบอารมณ์ เห็นได้ชัดว่ายังไม่สบายใจ
“เอาล่ะ” หานมู่จื่อได้ขยับตัวเข้ามาใกล้อีกหน่อย ลมหายใจของทั้งสองชิดใกล้กัน “เมื่อก่อนตอนที่พี่ชายของฉันเป็นโสด เอาแรงกายแรงใจทั้งหมดมาไว้ที่ตัวฉันตอนนี้เขามีแฟนแล้ว ทำไมเราไม่ช่วยขับเคลื่อนหน่อย รอพี่ชายของฉันแต่งงานแล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่มีเวลามาดูแลฉัน น้องสาวคนนี้แล้ว ตัวฉันทั้งคนก็กลายเป็นของคุณหมดเลยไม่ใช่หรือ?”
ประโยคหลัง ทำให้เย่โม่เซินสะดุดใจเล็กน้อย เขาหรี่ตาลงมองดูหานมู่จื่อที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ทันใดนั้นก็ยื่นมือมาบีบคางขาวผุดผ่องของเธอไว้ พูดด้วยเสียงแหบ “คุณเป็นของฉันทั้งหมดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เมื่อสิ้นคำพูด เขาก็ก้มหน้าประทับริมฝีปากของเธอไว้โดยตรง
ในดวงตาของหานมู่จื่อมีรอยยิ้ม หลับตาลงแล้วยอมรับจูบของเขา
เสี่ยวโต้วหยาที่อยู่ด้านข้าง นอนอยู่ในเปลของตัวเอง อมมือน้อยๆของตัวเองไว้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย
*
สามวันต่อมา
เสี่ยวเหยียนได้รับข้อความจากหานมู่จื่อ ทั้งคนมึนงงไปหมด
เพราะหานมู่จื่อได้บอกว่า แพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับคู่รักสองคน ที่เธอกับเย่โม่เซินจองไว้ ไม่สามารถไปได้แล้ว เพื่อไม่ให้เสียเงินเปล่า ดังนั้นจึงมอบสิทธิ์สองที่นี่ ให้กับหานชิงและเสี่ยวเหยียน
“คุณไปเถอะนะ ฉันจ่ายเงินไปเยอะเลย”
เสี่ยวเหยียน “ยกเลิกไม่ได้เหรอ? เวลาก็ยังไม่ถึง น่าจะยกเลิกได้นะ?”
“ไม่ได้ ฉันจองไว้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แต่จู่ๆก็คลอดลูกเลย ตอนนี้ต้องดูแลเสี่ยวโต้วหยา ยังจะไปที่ไหนได้อีก?”
จองไว้ตั้งแต่เมื่อก่อน? แต่จู่ๆก็คลอดลูกเลย? ทำไมเสี่ยวเหยียนถึงรู้สึกว่า สองประโยคนี้ฟังดูแล้วมันแปลกๆ และในตอนที่เธอกำลังเตรียมจะถามให้รู้เรื่อง หานมู่จื่อก็ได้ส่งเสียงพูดอีกครั้ง “ท่องเที่ยวฟรีๆ แล้วยังสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับเทพบุตรของคุณ คุณแน่ใจหรือว่าจะไม่เอา?”
ถูกหานมู่จื่อพูดอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยแล้ว
“แต่ว่า ……”
“ไม่แน่นะ คุณทั้งสองยังมีโอกาสพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง “ขย้ำ……ตัวเขา”
ประโยคหลัง ทำให้เสี่ยวเหยียนเขินอายจนหน้าแดงโดยตรง ขัดจังหวะหานมู่จื่ออย่างลนลาน “คุณอย่าพูดจาเหลวไหลนะ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย!”
“จริงเหรอ?” หานมู่จื่อยิ้ม “เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน คือใครที่พูดอย่างมั่นอกมั่นใจกับฉัน ว่าเธอจะต้องจับพี่ชายของฉันให้ได้ ในตอนนั้นยังบอกว่า จะต้องนอนกับเขา……”
เมื่อพูดถึงเมื่อก่อน เสี่ยวเหยียนตกตะลึงจริงๆ ในเวลานั้น เธอเหมือนลูกวัวแรกเกิดจริงๆ ไม่กลัวสิ่งใดก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ จนกระทั่งต่อมาหลังจากที่เธอบาดเจ็บสาหัสทั่วร่างกาย ทั้งคนก็ได้กลายเป็นระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น
เธอก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า นิสัยใจคอของเธอ จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เพราะได้รับบาดเจ็บ ก็เลยนิ่งสงบลงหรือ?
เหมือนว่าจะเติบโตขึ้นในชั่วข้ามคืน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็ดึงสติกลับมา ส่งเสียงไอเล็กน้อย “เรื่องพวกนั้น เป็นการคุยโอ้อวดในช่วงไร้เดียงสาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ฉันจะกล้าดียังไง?”
“อุ้ย” หานมู่จื่อหัวเราะเธอ “เมื่อก่อนตอนที่ยังจีบไม่ติด มั่นอกมั่นใจยิ่งนัก ตอนนี้คนอยู่ในกำมือแล้ว คุณกลับอ่อนแอขึ้นมา?”
เสี่ยวเหยียนไม่ได้สนใจ ถามขึ้นเบาๆ “ฉันว่าไม่ไปดีกว่ามั้ง บริษัทของหานชิงงานยุ่งมากเลย อีกอย่า ……”
“คุณไม่ต้องห่วง ทางพี่ชายของฉัน ได้คุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว”
“คุย คุยเรียบร้อยแล้ว?” เสี่ยวเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หานชิงจะยอมไปด้วยกันกับเธอหรือ?
“คุยกันเรียบร้อยหมดแล้ว~”
“เขาตกลงหรือยัง……” เสี่ยวเหยียนมีความไม่แน่ใจเล็กน้อย ลมหายใจก็กลั้นไว้ตามไปด้วย
“ก็ต้องตกลงอย่างแน่นอน” หานมู่จื่อยิ้มเล็กน้อยปลอบโยนเธอเบาๆ “ได้เป็นแฟนกันแล้ว มีความมั่นใจในตัวเองหน่อย ได้ไหม?”
เมื่อพูดถึงอย่างนี้ หานมู่จื่อก็ถอนหายใจอย่างหนักในใจ เสี่ยวเหยียนในเมื่อก่อน มีชีวิตชีวาจิตใจเร่าร้อนมากขนาดไหน ตอนนี้กลับกลายเป็นระมัดระวังตัวมากเช่นนี้ และไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักนิดเลย และทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่หานชิงอ่อนโยนกับเธอมากขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถให้เธอเดินออกจากการกระทบกระเทือนจิตใจในเมื่อก่อนได้
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ให้พวกเขาไปท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
เรื่องบางอย่าง ต้องให้คนอื่นช่วยผลักดันหน่อย
“ยังไงก็ตกลงไว้อย่างนี้แล้วกัน สองสามวันนี้คุณจัดการกับเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย จากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางในอีกสามวัน”
หลังจากพูดจบแล้ว หานมู่จื่อก็วางสายทันที