บทที่ 1207 ความเข้าใจผิดที่สวยงาม
เดิมทีทริปฮันนีมูนที่เป็นของหานมู่จื่อและเย่โม่เซิน ก็ได้ตกเป็นของเสี่ยวเหยียนและหานชิงอย่างนี้เลย ในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้เย่โม่เซินเคยพิจารณาความคิดนี้มาก่อนแล้ว แต่ความคิดของเขาคือ ไปทริปฮันนีมูน นอนที่จัดงานแต่งงานโดยตรงเลย แต่ในเวลานั้น หานมู่จื่อไม่อยากจะใส่ชุดแต่งงานตอนท้องโต ดังนั้นเรื่องการจัดงานแต่งงานใหม่ ก็ถูกเลื่อนเวลาไว้แบบนี้
ตอนนี้ความคิดนี้ ก็โผล่ออกมาอีกครั้ง แต่ก็ถูกหานมู่จื่อปฏิเสธโดยตรง
เพราะเธอรู้สึกว่า รูปร่างของตัวเองในช่วงนี้ไม่ดี ยังไม่อยากใส่ชุดแต่งงาน
และเพิ่งจะคลอดลูกเสร็จ หน้าท้องของเธอยังมีพุงย้อย ใครอยากจะใส่ชุดแต่งงาน เพราะยังไงแล้ว ทั้งชีวิตมีเพียงแค่ครั้งเดียวนะ
แต่แววตาของเย่โม่เซิน กลับจ้องมองเธออย่างลึกซึ้งคาดเดาไม่ได้ จับข้อมือของเธอทำไว้ จ้องมองจนหานมู่จื่อรู้สึกใจหวิวเล็กน้อย
“มีอะไรเหรอ?”
“นี่ไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่คุณแค่กลัวการใส่ชุดแต่งงานใช่ไหม?”
“……” คำพูดนี้ ทำให้หัวใจของหานมู่จื่อสั่นไหวเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่า ความคิดของตัวเอง จะถูกเย่โม่เซินเดาได้อย่างรวดเร็ว
แต่เธอก็ยังคงหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปกปิดหัวใจของตัวเอง พูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “ฉันก็ต้องกลัวแน่นอน รูปร่างฉันยังไม่ฟื้นคืนมา ถึงเวลานั้นถูกแขกรับเชิญหัวเราะเยาะจะทำยังไง?”
ดวงตาสีดำสนิทของเย่โม่เซิน จับจ้องเธอไว้แน่น
“แล้วงานแต่งงานที่ไม่มีแขกรับเชิญล่ะ? มีเพียง งานแต่งงานสำหรับคุณและฉันสองคนเท่านั้น”
เขาดื้อดึงมาก ต้องการใส่ชุดแต่งงานให้เธอด้วยตัวเอง
สบกับสายตาที่แน่วแน่ของเขาแล้ว หานมู่จื่อก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น อันที่จริงคำพูดเหล่านั้นของเย่โม่เซิน พูดถูกต้องหมดเลย เธอนึกถึงงานแต่งสองครั้งก่อนหน้านี้
ครั้งแรกเขานั่งอยู่บนรถเข็น ไม่ชายตามองเธอเลยสักนิด หลังจากเสร็จพิธี เธอถูกส่งเข้าเรือนหอโดยตรง
ครั้งที่สองที่เขาประสบอุบัติเหตุ แม้แต่ปรากฏตัวในงานแต่งก็ไม่มีด้วยซ้ำ ตัวเธอคนเดียวถูกนักข่าวรุมล้อมจนขยับตัวไปไหนไม่ได้
เหมือนกับว่า……งานแต่งงานของเธอ ไม่เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์
ดังนั้น หานมู่จื่อจึงรู้สึกว่า เพียงแค่สามารถมีชีวิตอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้ไม่มีงานแต่ง เธอก็ไม่ใส่ใจ
เดิมทีสำหรับเธอแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งจำลองเท่านั้น
ดังนั้นหานมู่จื่อยังคงส่ายหัวเบาๆ “ไม่เอาแล้วมั้ง เพียงแค่สามารถอยู่กับคุณ งานแต่งอะไรฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้น”
เธอไม่อยากมีการพรากจากกันอีกแล้ว ถ้าอย่างนั้น เธอคงจะเป็นบ้าจริงๆ
ตอนนี่ตราบใดที่เธอนึกถึงสมัยก่อน ฉากที่เย่โม่เซินตกลงไปในทะเล หัวใจของเธอ ก็เหมือนถูกมือใหญ่จับไว้แน่น ทำให้เธอหายใจลำบาก
เย่โม่เซินรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในตัวเธอ สีหน้ามีความจนปัญญา แขนยาวยื่นออกมาไป โอบกอดเธอไว้ในอก
“ได้ งั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ”
เขาอยากที่จะจัดงานแต่งงาน เพียงเพื่อต้องการชดเชยงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการให้กับเธอ ใส่ชุดแต่งงานให้เธอด้วยมือตัวเอง สวมแหวนแต่งงานให้เธอ
แต่ถ้าเธอไม่ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องยึดติดแล้ว
*
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเหยียนเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว
เธอเก็บข้าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อสองนาทีที่แล้ว หานชิงได้โทรหาเธอ บอกว่าจะมารับเธอ จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกประหม่าในทันที ดึงกระเป๋าเดินทางไว้ เตรียมจะออกจากบ้าน
แต่แล้วก็ถูกหลัวหุ้ยเหม่ยขวางไว้
“นี่คนเขาเพิ่งจะโทรมาหาเธอ ยังไงก็ต้องใช้เวลายี่สิบนาที ถึงจะมาถึงหน้าบ้าน เธอรีบลงไปอะไรนักหนา?”
แต่เสี่ยวเหยียนรู้สึกประหม่าจนพูดไม่คล่อง อธิบายตั้งนาน ก็พูดอะไรไม่รู้เรื่อง
หลัวหุ้ยเหม่ยเห็นท่าทางที่ไม่เอาไหนของลูกสาวตัวเอง อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากขาวผุดผ่องของเธอ
“ได้เรื่องหน่อยได้ไหม”
เสี่ยวเหยียนแตะหน้าผากที่ถูกจิ้มจนเจ็บของตัวเอง
กัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้อย่างเศร้าใจ พูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่ได้เรื่องตรงไหน”
“เธอได้เรื่อง? แค่ออกไปท่องเที่ยวยังประหม่ามากขนาดนี้ ต่อไปแต่งงานแล้ว เธอจะคุมอำนาจต่อหน้าคนเขาได้อย่างไร?”
คุมอำนาจ? เสี่ยวเหยียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ คุณแม่ให้เธอคุมอำนาจหลังแต่งงาน นี่จะเป็นไปได้ยังไง?
“เป็นอะไร? อย่าบอกกับฉันนะ ว่าเธอไม่เคยคิดมาก่อน?”
เสี่ยวเหยียนส่ายหัวโดยอัตโนมัติ
“เธอนี่มันจริงๆเลย! จะให้ฉันว่าเธอยังไงดีนะ? แม้แต่เรื่องนี้ยังไม่เคยคิดมาก่อน เธอไม่คุมอำนาจ ต่อไปถ้าเขาออกไปเหลวไหลข้างนอกจากทำยังไง?”
หลัวหุ้ยเหม่ยอยู่ต่อหน้าพ่อโจว ก็คือการคุมอำนาจที่แท้จริง ดังนั้นเธอก็อยากให้ลูกสาว ทำตามวิธีของตัวเอง
ใครจะรู้ว่า เสี่ยวเหยียนมองตาขวาง คัดค้านเธอโดยตรง
“หานชิงไม่ใช่คนแบบนั้น!”
เธอพูดอย่างโกรธเคือง “แม่ แม่อย่าพูดไปเรื่อยนะ
นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะจัดการเองตามสมควร”
“ยัยเด็กโง่ เธอจัดการเองตามสมควร เธอจะจัดการยังไง กับความกล้าแค่นี้ของเธอ ต่อไปแต่งงานแล้ว ก็เป็นฝ่ายที่ถูกควบคุมแน่นอน” หลัวหุ้ยเหม่ยหวังเพียงว่า หานชิงหลังแต่งงาน จะมีนิสัยเหมือนกันหานชิง ในตอนนี้ ก็เพราะว่าตอนนี้ในโลกนี้ มีผู้ชายจำนวนมาก ที่ปลอมตัวช่วงก่อนแต่งงานเก่งมาก แต่หลังจากที่อยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน ข้อเสียและสันดานที่แท้จริงก็ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด
แต่ดูท่าทางของหานชิง ก็ไม่น่าจะเหมือนคนประเภทนั้น
“ควบคุมก็ควบคุม……” เสี่ยวเหยียนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองจะจะแต่งงานกับเขาหรือเปล่า ใครจะไปรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
“โอ้! เจ้าเด็กโง่……ช่างเถอะ ทุกคนจะมีพรวาสนาของตัวเอง บางทียัยเด็กโง่อย่างเธอ ก็มีวาสนาของคนโง่ก็ไม่แน่”
เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าลูกสาวของตัวเอง สามารถคบกับบุคคลอย่างหานชิง แม้ว่าเธอจะไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับชาติตระกูล แต่การสมฐานะก็สำคัญเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ได้ไปสืบมาแล้ว ครอบครัวของหานชิงไม่มีพ่อแม่ ดังนั้นต่อให้เสี่ยวเหยียนแต่งงานเข้าไป ก็จะไม่ถูกจำกัดยับยั้งไว้
ในไม่ช้า รถของหานชิงก็มาถึง เสี่ยวเหยียนก็รีบลากกระเป๋าเดินทางลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะกลัวว่าหลัวหุ้ยเหม่ยจะลงมาคุยกับหานชิง ดังนั้นทันทีที่เสี่ยวเหยียนขึ้นรถ ก็รีบเร่งให้ลุงหนานขับรถออกไปทันที
ลุงหนานก็มึนงงเล็กน้อย แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของแฟนคุณหาน ดังนั้นเขาก็ปฏิบัติตามเช่นกัน
เมื่อเห็นท่าทางประหม่าของเธอ หานชิงที่นั่งอยู่ข้างๆจึงยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากออกของเธอ “ทำไมถึงเร่งรีบขนาดนี้?”
เมื่อได้ยิน เสี่ยวเหยียนก็นึกถึงสิ่งที่หลัวหุ้ยเหม่ยพูดกับเธอในเมื่อกี้ ยิ้มอย่างเก้อเขิน “มันไม่มีอะไร”
หลังจากพูดจบ ก็หันหน้าหนีอย่างละอาย
ถ้าหานชิงรู้ว่า ลับหลังพวกเธอพูดคุยเรื่องแต่งงานมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าจะคิดว่าเธอเป็นอย่าง……
หลังจากมาถึงสนามบินแล้ว ก็มีพนักงานจากทริปท่องเที่ยว มาต้อนรับพวกเธอ เมื่อที่พนักงานเห็นบุคลิกที่ไม่ธรรมดาของหานชิง ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที แล้วมองเสี่ยวเหยียนตัวเล็กเปราะบางที่อยู่ข้างๆ รู้สึกเพียงว่าทั้งสองคนนี้เหมาะสมกันยิ่งนัก เลยพูดชมโดยตรง “คุณหานกับคุณนายหานดั่งกิ่งทองใบหยก ประหนึ่งว่ามาจากสรวงสวรรค์”
โดยทั่วไปแล้ว คู่แต่งงานใหม่ๆ มักชอบคำชมเหล่านี้ดังนั้นเธอในฐานะพนักงาน จึงพูดสิ่งที่ไพเราะเสนาะหู
ใครจะรู้ว่า เสี่ยวเหยียนที่อิงแอบในอ้อมกอดของหานชิงได้ยินเข้า ใบหน้าขาวกระจ่าง กลายเป็นแดงระเรื่อในทันที เธอมองไปที่พนักงาน ถามด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย “หาน คุณนายหาน?”
พนักงานรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดว่า “ใช่ค่ะ คุณนายหาน ครั้งนี้ที่พวกคุณจอง คือทริปฮันนีมูนสำหรับคู่บ่าวสาวที่เพิ่งจะแต่งงาน มีปัญหาอะไรไหมคะ?”
เสี่ยวเหยียน “……”
เธอมองไปที่หานชิงอย่างเก้อเขิน ถามด้วยเสียงเบา “ต้องอธิบายไหม?”