บทที่ 1228 คุณเป็นผู้หญิงนะ
ตระกูลเจียง
“เสี่ยวไป๋ของพวกเรา ดีไปหมดทุกอย่างเลย แต่ไม่อยากจะหาแฟน อายุขนาดนี้แล้ว ไม่มีแฟนสักคนด้วยซ้ำ วันๆ เอาแต่เล่นคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน แสงจากจอคอมส่องออกมาจนหน้าเธอมันไปหมด ถ้าเกิดว่าไม่ได้แซ่เจียง ฉันไม่อยากจะยอมรับว่าเธอเป็นลูกสาวด้วยซ้ำ”
คุณแม่เจียงอยู่ในวัยกลางคน แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่ ถือถ้วยชาพลางคุยกับเพื่อนสนิทกับตัวเอง เพราะดูแลอย่างดี ผิวหน้าเลยดูดีไปด้วย หุ่นเองก็ดูดีไม่แพ้กัน
คุณแม่เจียงดูแลตัวเองดีทั้งรูปร่างและหน้ามาตาโดยตลอด เลยไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักเกินอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอคลอดลูกสาวก็ไม่ได้ดูแลรูปร่างของตัวเองสักเท่าไหร่ ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีอะไรมาเปลี่ยนความคิดเธอได้เลย มันเลยทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
แต่ยังดีที่ทั้งสามีภรรยานั้นสวยหล่อทั้งคู่ ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋เลยสวยงามไปด้วยโดยปริยาย ถือว่ายังสวยแม้จะขี้เกียจแต่งหน้า
“ฉันว่านะ ลูกสาวคุณที่ชื่อเสี่ยวไป๋น่ะก็ดีนะ ซื่อสัตย์ขยันอดทนทำงาน นี่อยากจะมานัดบอดนะ ก็ตามหาคนแบบเธอกันทั้งนั้นแหละ”
เมื่อได้ฟังดังนั้น คุณแม่เจียงก็ยิ้มเยาะในใจ
อยากจะหาผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และขยันทำงานหาเงินงั้นเหรอ?ทำไมถึงไม่ไปหาแม่นมแทนล่ะ?
“บ้านที่คุณแนะนำมาในครั้งนี้ คงจะไม่เหมือนครั้งก่อนใช่ไหม?ที่อยากจะให้ลูกสาวฉันแต่งไปแล้วก็ต้องเป็นภรรยาที่กตัญญู ซักผ้าล้างจานทำกับข้าวอะไรประมาณนั้น หรือจะต้องไปดูแลการใช้ชีวิตของเขาอีกน่ะ?”
“ไม่หรอกๆ !ครั้งก่อนน่ะมันเป็นความผิดคาด ครั้งนี้ฉันแนะนำให้เป็นอย่างดีเลย!”
คุณแม่เจียงบ่นพึมพำเล็กน้อย: “งั้นก็ดี ลูกสาวฉันน่ะ ถึงแม้ว่าจะขาดอะไรไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีดีอะไรเลย การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน ลูกสาวฉันซักผ้าทำกับข้าวได้ แต่อีกฝ่ายก็ต้องทำความสะอาดบ้านด้วย ไม่อย่างนั้นการแต่งงานนี้ผู้หญิงก็มีแต่เสียกับเสีย มันจะไม่มีทางเป็นแบบนั้นนะ”
“ใช่ จริงด้วย คุณนายเจียงพูดถูก มีเหตุผล”
ติ๊งต่อง——
มีเสียงอ็อดของประตูดังขึ้น คุณแม่เจียงมีสีหน้าดีใจ “น่าจะเป็นเสี่ยวไป๋กลับมาแล้ว”
เธอลุกขึ้นไปเปิดประตู เมื่อเปิดดูก็เห็นว่าเป็นเจียงเสี่ยวไป๋ที่ทำหน้าอาลัยอาวรณ์ยืนอยู่ ก่อนจะสบตาเธอ
“แม่!”
คุณแม่เจียงมองดูเธออย่างละเอียด ก็พบว่าเธอใส่เสื้อทีเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นตัวหนึ่ง ก็โกรธจนอยากจะมองบนใส่เธอ เลยเอาแต่ชี้เธอจนพูดไม่ออก
เมื่อเห็นท่าทีของคุณแม่เจียง เจียงเสี่ยวไป๋กลับแอบขำอยู่ในใจ ก่อนจะเอาใบหน้าที่ไม่ได้เติมแต่งอะไรเข้าไปใกล้ๆ : “แม่ ฉันกลับมาแล้ว มีอะไรให้กินไหม?”
คุณแม่เจียง: “……”
ไม่แต่งหน้าแต่งตัวก็ไม่เป็นไร แต่นี่ยังมาถามหาของกินตั้งแต่แรกอีกเหรอ????
คุณแม่เจียงโกรธจนทนแทบไม่ไหว!
กลับมีเสียงพูดคุยและเสียงเดินของเพื่อนสนิทดังมาจากทางด้านหลัง
“เห้อ เซียวหยู่ ลูกสาวกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?ไหนล่ะ?”
ตู้เซียวหยู่ ก็คือแม่แท้ๆ ของเจียงเสี่ยวไป๋ เมื่อเธอได้ยินเสียงของเพื่อนดังขึ้น ก็ปิดประตูดังปังโดยที่ไม่ได้คิดก่อนเลย!
ปัง!
หน้าของเจียงเสี่ยวไป๋เพิ่งจะเขยิบเข้ามาใกล้ เมื่อคุณแม่เจียงปิดประตูแบบนี้ ก็ชนเข้ากับจมูกของตัวเอง เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะลูบจมูกของตัวเอง
“อะไรกันเนี่ย?”
จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่ข้างในคุยกันอย่างชัดเจน
“เซียวหยู่ ลูกสาวคุณล่ะ?”
“อ๋อ คนที่มาไม่ใช่ลูกสาวฉันน่ะ”
“แล้วใครล่ะ?”
“มาส่งของน่ะ แต่มาผิดที่แล้วล่ะ”
“……”
หึๆ !
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ แม่ของเธอคนนี้เปลี่ยนอารมณ์ได้เก่งจริงๆ บอกให้เธอรีบมาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าเธอเป็นคนส่งอาหารเหรอ??
แต่เพื่อนของคุณแม่เจียงก็คิดว่ามันแปลกๆ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?คนส่งอาหารส่งผิดงั้นเหรอ?ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย?”
เมื่อได้ฟังดังนั้น คุณแม่เจียงก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มแห้งๆ : “นั่นสิ คุณนั่งลงก่อน ฉันจะโทรไปหาเสี่ยวไป๋”
“โอเค”
คุณแม่เจียงเดินเข้าไปโทรศัพท์หาเจียงเสี่ยวไป๋ในห้องน้ำ
“แม่ คุณบอกให้ฉันรีบกลับมาแล้วทำไมทำแบบนี้กับฉันล่ะ?ปิดประตูใส่ฉัน แถมยังบอกว่าฉันเป็นคนส่งอาหารอีก ทำไมฉันไม่รู้ว่าเปลี่ยนในไปแล้วล่ะ?”
คุณแม่เจียงพูดด้วยความโกรธ: “ยัยบ้า ยังกล้ามาพูดแบบนี้อีก คุณดูสิว่าแต่งตัวแบบไหน เป็นถึงลูกของตู้เซียวหยู่เลยนะ ทำตัวให้มันดูดีกว่านี้ได้ไหมนะ เป็นผู้หญิงนะเนี่ย!”
เมื่อพูดจบ คุณแม่เจียงก็แทบจะกัดฟันกรอด โกรธจนแทบจะเป็นลมไป
“เป็นผู้หญิงแล้วมันจะทำไม?ฉันแต่งตัวแบบนี้แล้วมันสบายดี?ฉันไม่ได้ใส่ชุดของขอทานซะหน่อย มันไม่ไปกระทบสายตาคนอื่นมากหรอกหน่า” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยความไม่สนใจ “แม่ ตัวคุณเองหรือเปล่าเอง คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากเหรอ?ตอนนี้ต้องมาแอบคุยกับฉันในห้องน้ำเหรอ?ตอนพูดก็ลองส่องกระจกดู โกรธจนกัดฟันกรอดเลยใช่ไหมล่ะ ไม่ห่วงภาพลักษณ์แล้วเหรอ?”
เมื่อลูกสาวพูดแบบนี้ คุณแม่เจียงก็มองกระจกโดยปริยาย และก็พบว่าตัวเองนั้นกำลังกัดฟันกรอดจริงๆ ด้วย
เมื่อเห็นแบบนี้ คุณแม่เจียงก็ตกใจตัวเอง ก่อนจะรีบสงบสติอารมณ์
“เป็นอย่างไรบ้าง?ตกใจกับตัวเองใช่ไหมล่ะ?” เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะคนที่อยู่ปลายสาย
คุณแม่เจียงหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะปรับความโกรธของตัวเอง ให้ตัวเองสงบลงก่อนจะพูดว่า: “ตอนนี้ไปอยู่ในตึกไม่ต้องออกมานะ ฉันไปส่งแขกก่อนค่อยเข้ามา”
เจียงเสี่ยวไป๋: “……แม่ ตอบแทนกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?ไปหลบอยู่ตรงช่วงตึกเหรอ?คนเดี๋ยวนี้เขาขึ้นลิฟต์กันหมด บันไดมีแต่ฝุ่น?ฉันไม่อยากไป”
“ไม่อยากไปก็ต้องไป ใครให้คุณใส่เสื้อผ้าแบบนี้มากัน ถ้ากล้าออกมาจะตีให้ตายเลย”
พูดจบ คุณแม่เจียงก็วางสายใส่เจียงเสี่ยวไป๋ไป
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนอยู่ตรงประตูอยู่นาน ก่อนจะคิดอยู่ว่าจะเดินเข้าไปในตึกดีไหม ถือว่าเธอโชคร้ายก็แล้วกัน ถ้าเกิดว่าไม่เข้าไป แล้วเพื่อนแม่มาเห็นเข้า ชีวิตที่เหลือของเธอน่าจะแย่กว่าเดิม
ดังนั้นคิดไปคิดมา เจียงเสี่ยวไป๋เลยต้องทำตาม
ทาอีกฝั่งนั้นคุณแม่เจียงก็ตัดสินใจหลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋หลบอยู่ทางบันได ก็พูดคุยกับเพื่อนสนิทของตัวเองนิดหน่อย ก่อนจะไปส่งเพื่อน
เพิ่งจะเดินเข้าลิฟต์ได้ไม่นาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็เดินออกมาจากทางช่วงตึก
“แม่ ถ้าอยู่ในนี้นานกว่านี้อีกหน่อย ฉันอาจจะเป็นโรคได้นะ”
เจียงเสี่ยวไป๋อ้วกพลางมองไปทางห้อง คุณแม่เจียงเลยมองมาที่เธอด้วยความโกรธเคือง “จะเป็นอะไรไปอีก?ตอนที่คุณเอาแต่อยู่ในห้องนั้นไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย?ยังดีที่ทางเดินนั้นยังมีอากาศสดชื่นๆ อยู่”
“แม่ ดูที่คุณพูดสิ เหมือนกับว่าในห้องมันไม่มีอากาศอย่างนั้นล่ะ จะให้ฉันเข้าไปอีกไหม?”
“แน่นอน!” คุณแม่เจียงดันเจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปในห้อง “เข้ามา”
จากนั้นก็มีเสียงปิดประตูดังขึ้น เพราะกลัวคนจะเห็นเจียงเสี่ยวไป๋
“คุณยังเป็นลูกสาวฉันอยู่ไหม วันๆ เอาแต่แต่งตัวแบบนี้ ไม่รู้จักแต่งหน้าหน่อยเหรอ?ตอนบ่ายที่ต้องไปนัดบอดน่ะ จะแต่งตัวแบบนี้ไปเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังไหล่อย่างไร้ทางเลือก: “ใช่สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”