บทที่ 1232 คุณตกลงแล้วใช่มั้ย?
“หนี้บุญคุณที่ผมติดคุณ ผมคงจะไม่สามารถทนดูคุณโดนหลอกได้หรอกมั้ง?”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เห็นด้วย: “เรื่องยังไม่ได้เริ่มเลย คุณจะแน่ใจไงยังไงว่าฉันจะโดนหลอก? อีกอย่าง ต่อให้ฉันจะโดนหลอก คุณก็ไม่ช่วยฉันนี่นา คุณเซียว เรื่องนี้สำหรับฉันมันสำคัญมาก หากคุณไม่อยากจะช่วย ฉันก็ไม่ฝืนใจคุณ”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็หันหลังเดินไป
มองไปทางที่เธอเดินอยู่ เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะว่าเธอจะเดินกลับเข้าไปอีกแล้ว หรือว่าเธอยังอยากจะไปหาคนแปลกหน้าคนนั้นอีกเหรอ? คิดได้ดังนี้ เซียวซู่ก็ไปขวางทางเดินของเธอเอาไว้
“ยังจะเข้าไปอีกเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้ตอบ
“คุณยอมที่จะไปหาคนที่ไม่รู้ว่าจะพึ่งพาได้หรือเปล่า มีโอกาสที่จะโดนหลอกด้วย ก็ยังไม่ยอมไปดูตัว?” เซียวซู่หรี่ตาลงเล็กน้อย คิดไม่ออกว่าทำไมเจียงเสี่ยวไป๋ต้องทำแบบนี้ด้วย หรือว่าเธอต่อต้านเรื่องการดูตัวขนาดนี้เลยเหรอ?
“เชื่อฉันเถอะ โอกาสที่ฉันจะโดนหลอกนั้นน้อยกว่าการถูกบังคับแต่งงาน!” พูดจบเธอก็กะพริบตา สองมือกอดอกแล้วมองเซียวซู่ที่อยู่ตรงหน้า: “คุณเซียว คุณมาขวางทางเดินไม่ให้ฉันเข้าไป คุณคิดอยากจะช่วยเป็นแฟนปลอมๆให้ฉันแล้วใช่มั้ย?”
เซียวซู่ : “…………”
จริงๆแล้วเขาไม่อยากที่จะเลือกแม้แต่ข้อเดียว
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เขาก็แค่เคยเจอกับเธอสองสามครั้ง ต่อให้เธอเกิดเรื่อง สำหรับเขาก็คงจะไม่รู้สึกอะไร ขอเพียงไม่ต้องให้เขารู้
แต่ขอเพียงเป็นคน ก็มีความสงสารเห็นใจทั้งนั้น
ก็เหมือนเซียวซู่ตอนนี้ หากเขาไม่รู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะทำเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าเธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวกับเขา
แต่ว่าตอนนี้เธอก็ได้เอ่ยปากขอร้องตัวเอง และตัวเขาก็ทำไม่ได้ แล้วยังถูกหลอกในสถานการณ์ที่ตัวเองรู้เห็นด้วย มันก็จะ……
เซียวซู่เม้มริมฝีปากบาง พูดขึ้นอย่างช้าๆ: “เรื่องนี้บางทีมันอาจจะยังมีทางออกอื่นก็ได้ ในเมื่อคุณยังสามารถคิดถึงวิธีที่เรียกผมออกมา ก็น่าจะสามารถคิดถึงหนทางอื่นด้วยสิ”
ได้ยินแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกตลกเล็กน้อย จึงได้หยุดแล้วจ้องมองเซียวซู่
“เอาสิ มันจะดีกว่ามั้ยถ้าคุณเซียวช่วยฉันคิดหาวิธี? หากคุณคิดไม่ออก คุณก็ต้องมาเป็นแฟนปลอมๆของฉัน “
เซียวซู่: “………..”
ทำไมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นได้พาตัวเองเข้าสู่หลุมพรางเลยล่ะ?
“ยังไง? คุณเซียวจะตอบตกลงมั้ย?” เจียงเสี่ยวไป๋เห็นสีหน้าที่กำลังสับสนของเขา เจียงเสี่ยวไป๋เพียงแค่เขย่งเท้าไปข้างหน้า ดวงตาคู่สวยที่มองสำรวจเซียวซู่ในระยะประชิด และเพราะท่านี้ก็ได้ดึงให้ระยะห่างของทั้งสองเข้ามาใกล้กันมากขึ้น
เละเจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้สึกว่าแบบนี้จะมีปัญหาอะไร แต่ว่าเซียวซู่ที่ขมวดคิ้วอยู่ได้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ให้ผมคิดก่อน”
จากนั้นทั้งสองก็ใช้เวลาร่วมกันที่หน้าร้านกาแฟ เซียวซู่กำลังช่วยเธอคิดหาวิธี เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยืนรออยู่ข้างๆ รอจนกระทั่งเธอรู้สึกเบื่อ จึงได้นั่งลงไปบนเก้าอี้ที่วางอยู่หน้าร้าน จากนั้นก็ได้สั่งชานมมาหนึ่งแก้ว นั่งจิบชานมอย่างสบายใจ
ขณะที่เซียวซู่กำลังคิดหนัก กลับเห็นเธอนั่งไขว่ห้างดื่มชานมอย่างสบายใจ ก็รู้สึกปวดขมับขึ้นมาทันที เขาที่กำลังคิดจนปวดหัว ส่วนเธอกำลังดื่มชานมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
เห็นเขามองมา เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยื่นมือโบกไปทางเขา เหมือนแมวเหมียวที่ขี้เกียจ: “คิดหาวิธีได้หรือยัง คุณเซียว”
เซียวซู่: “……..”
เขามองเธออย่างเบื่อหน่าย เจียงเสี่ยวไป๋ยักไหล่ ก็พูดขึ้นมาเอง: “ดูแล้วเหมือนไม่มี งั้นก็สู้ๆนะ!”
เซียวซู่รู้สึกปวดหว่างคิ้ว ทำไมถึงมีผู้หญิงที่อันธพาลแบบนี้?
ห้านาทีให้หลัง เซียวซู่เดินมาถึงด้านหน้าของเธอ ชานมของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ดื่มหมดไปแล้ว เธอเงยหน้าขึ้น: “คุณเซียว คิดหาทางได้หรือยัง?” เซียวซู่ไม่ได้ตอบ เพียงแต่พูดว่า: “ดูท่าทางที่สบายๆของคุณ เหมือนไม่ได้ร้อนใจอะไรเลย บางทีเรื่องนี้คุณก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะฮิๆแล้วพูดต่อจากเขา: “เพราะฉันมีวิธีแล้ว ฉันเป็นพวกที่ไม่ได้ของที่ดีที่สุดก็ยอมเอาสิ่งที่ดีรองลงมา หากคุณเซียวไม่เต็มใจหรือคิดหาหนทางไม่ออก ฉันก็จะไปจ้างคนแปลกหน้าให้ช่วยไง”
“……”
เซียวซู่ปวดหัว ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นคนพาล ยังดื้อด้านอีกด้วย ทั้งที่รู้ว่าอาจจะถูกหลอก แต่ก็ยังจะเสี่ยงอันตรายนี้
เธอเป็นหมูเหรอ?
“พูดตามตรง คุณไม่ต้องต่อต้านขนาดนี้ เพราะว่าฉันแค่ให้คุณมาแสดงเป็นแฟนปลอมๆเท่านั้น แฟนปลอมไม่มีทางที่จะกลายเป็นแฟนจริงได้ ยังมีอีกข้อคุณรู้สึกว่านี่เป็นการหลอกลวง แต่ฉันรู้สึกว่าไม่ใช่ เพราะว่าในชีวิตจริงคนเป็นแฟนกัน การเลิกรานั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก หากคุณยังรู้สึกว่าขาดทุน ฉันออกเงินว่าจ้างคุณก็ได้ คุณก็ทำเหมือนกับว่าทำงานของตัวเองให้สำเร็จก็พอแล้ว ไม่ต้องไปสนใจว่าหลอกหรือไม่หลอกลวงคน”
คำพูดนี้ที่พูดออกมา ช่างเหมือนพวกคนพาลในตลาด
เซียวซู่มองเธอด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคือง จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าเธอ
“แม่คุณรู้นิสัยแบบนี้ของคุณหรือเปล่า? หลอกลวงแม่ของตัวเอง คุณสบายใจเหรอ?”
“อิๆ ทำไมจะไม่สบายใจละ? สามารถทำให้เขาวางใจได้ชั่วคราว นึกว่าฉันมีแฟน ฉันก็สามารถที่จะอยู่อย่างสงบๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีไง”
เซียวซู่ฟันจบ นิ่งเงียบ
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ไม่ค่อยมีความอดทน ก็เอาแต่เร่งเขา
“คุณคิดได้ยังไงบ้างแล้ว หากไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ช่างมันเหอะ เวลาก็คือเงินทอง คุณมาดึงเวลาแบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี ยังไงฉันก็ต้องกลับบ้าน”
“อย่าเร่ง ให้ผมคิดอีกหน่อย”
เจียงเสี่ยวไป๋กะพริบตา จากนั้นก็ลุกเดินไปถึงข้างกายของเซียวซู่ จับแขนของเขาเอาไว้ คุณเซียว คุณจำครั้งก่อนที่คุณดึงผมของฉันออกได้ไหม? “
พูดจบ เหมือนจะกลัวว่าเซียวซู่นั้นจะจำไม่ได้ ก็ได้นั่งลงตรงหน้าของเขารีบเปิดผมของตัวเองออก
เธอเข้ามาใกล้พอสมควร ดังนั้นผมที่กระจัดกระจายแล้วเหมือนได้ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ เซียวซู่ที่ไม่ได้ตั้งตัว ก็มองดูเธอที่เปิดผมออกแบบนี้ ปรากฏผิวหนังสีขาววงหนึ่ง
มันก็ผ่านมาสักพักแล้ว หนังศีรษะตรงนี้ผมใหม่ก็ได้งอกขึ้นมาแล้ว ผมที่ขึ้นมาใหม่ทั้งสั้นทั้งดก เหมือนขนของสัตว์เลย
“คุณดูนี่ ถึงตอนนี้ผมก็ฉันยังขึ้นไม่หมดเลยนะ เวลาจะออกจากบ้านต้องมัดขึ้นมา ไม่สามารถแต่งตัวสวยๆได้ มันเป็นความผิดทั้งหมดของคุณ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองตาแบ๋ว พูดกล่าวหาเขาอย่างจริงจัง “ดังนั้นคุณต้องรับผิดชอบ”
เซียวซู่หางตากระตุก: “รับผิดชอบ?”
“ใช่ไง รับผิดชอบโดยการเป็นแฟนปลอมๆของฉัน ตอนนี้เป็นเพราะฉันบังคับคุณ ดังนั้นก็ไม่ใช่คุณเองที่ตกลงไปหลอกคนกับฉัน แต่เพราะคุณไม่มีทางเลือก เป็นไง? วิธีที่ฉันคิดได้นี้มันช่างเพอร์เฟคจริงๆใช่มั้ย?”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็กะพริบตาให้กับเซียวซู่อย่างไม่ยอมหยุด ใบหน้าที่ขาวเล็กแฝงไว้ด้วยความพึงพอใจ เหมือนกับได้แย่งผลงานของเขาไป
เซียวซู่รู้เพียงว่าหางตาของเขากระตุกได้รุนแรงมาก แม้กระทั่งมุมปากก็ยังกระตุกพร้อมกัน
“เหตุผลที่ยิ่งใหญ่มาก”
ได้ยินแบบนี้แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ใช่มั้ย? ฉันก็รู้สึกว่าเหตุผลนี้มันยิ่งใหญ่จริงๆ งั้น……..คุณตกลงแล้วใช่มั้ย?”
ขณะที่พูดคำพูดนี้เธอยังได้เอียงหัวเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าและแสงแวววับในดวงตาช่างทำให้คนหวั่นไหวนัก เซียวซู่ขยับริมฝีปาก แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทั้งๆที่การแต่งตัวของเธอ ก็ไม่ได้พิเศษอะไร แต่ว่าในชั่วพริบตาเหมือนแสงอาทิตย์ทั้งหมดต่างสาดส่องมาที่ร่างของเจียงเสี่ยวไป๋