บทที่1235 ความสวยบังตา
“ความสวยบังตา?” เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะทันที ก็ได้พูดขึ้น: “ดูเหมือนว่าน้าสวีจะสั่งสอนลูกชายของตัวเองจนละเอียดเพียงพอแล้ว แต่งเมียเข้าบ้านแล้วทำไมถึงไม่ดูแลคนอื่นเขาดีๆ และก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ คนบางคนไม่มีทั้งรูปทรัพย์ ไม่มีทั้งความสามารถ แม้แต่เงินดาวน์บ้านยังไม่มีเลย ยังสามารถหาเมียที่ดีแบบนี้ได้? หรือว่าจะเป็น……เหมือนกับแมงดาในตำนาน?”
เซียวซู่ที่ไม่ได้พูดมาโดยตลอดเวลานี้ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เดิมทีตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋พิงเธอนั้น เขายังอยากที่จะต่อต้านเล็กน้อย แต่ว่าการสนทนาของเขาสองคนยิ่งอยู่ยิ่งจะไปกันใหญ่แล้ว
เหมือนกับว่า…….เป็นเพราะน้าคนนี้ที่มาสำรวจถามเรื่องแผลเป็นที่หน้าของเขา เจียงเสี่ยวไป๋จึงได้ไม่เกรงใจเธอ
คิดถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็หวั่นไหวเล็กน้อย มองเจียงเสี่ยวไป๋โดยที่ไม่รู้ตัว
นี่เธอ…….กำลังปกป้องตัวเขาอยู่เหรอ?
เพราะแผลเป็นนั้น?
สายตาที่เซียวซู่มองเจียงเสี่ยวไป๋นั้นซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นใกล้ชิดกัน ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่แฟนกันจริงๆ ต่อให้เขาจะถูกคนอื่นมองสำรวจ ต่อให้เธอไม่สนใจ เขาก็จะไม่รู้สึกอะไร
ตอนนี้ เธอกลับมาปกป้องตัวเอง
ทำให้หัวใจที่แข็งดั่งหินของเซียวซู่ หวั่นไหวเล็กน้อย
คิดไม่ถึง นอกจากเธอจะชอบพาลแล้ว ก็เป็นคนที่จิตใจดีมากคนหนึ่ง
คิดถึงตรงนี้ ความคิดของเซียวซู่ก็แล่นเข้ามา ยื่นมือไปขวางไหล่ของเจียงเสี่ยวไป๋เอาไว้ จ้องมองเธอด้วยสายตา
“แมงดา?” เขายิ้มอย่างเรียบเฉย “สมัยนี้ยังมีผู้ชายที่ให้ผู้หญิงเลี้ยงดูอีกเหรอ?”
เริ่มแรกตอนที่เซียวซู่ดึงไหล่ของเจียงเสี่ยวไป๋นั้น เธอยังอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากที่ได้ยินเซียวซู่พูดแล้วเธอก็เข้าใจทันที ก็ได้ยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้า: “แน่นอนสิ ปกติคุณมัวแต่ทำงาน คุณเลยไม่มีเวลามาสนใจสังคมสมัยนี้ ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินนั้นมีเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นทำเหมือนเป็นเรื่องที่สมควร ผู้ชายเหล่านี้ไม่เพียงแต่เกาะผู้หญิงกิน ยังเกาะพ่อแม่อีกด้วย นิสัยก็ไม่ดี ไม่มีความสามารถ และมักจะซ้อมเมียด้วย”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ยังทำท่าทางที่น่าสงสารซบลงไปที่หน้าอกของเซียวซู่ พูดอย่างตาละห้อย: “ที่รัก คุณจะไม่เหมือนผู้ชายพวกนั้น
ใช่ป่ะ?”
การแสดงได้เริ่มขึ้นแล้ว ก็ต้องแสดงให้จบ เซียวซู่ยิ้มอย่างเรียบเฉย ก้มหน้าสบตาเจียงเสี่ยวไป๋
“แน่นอน เธอต้องเชื่อสายตาของตัวเธอเองนะ”
ช่วงเวลาที่ทั้งสองสบตากันนั้น เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองนั้นเหมือนโดนของอะไรมากระแทกอย่างแรงหนึ่งที เหมือนกวางที่ร้องไปเรื่อย เธอประหม่าเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับสู่ภาวะปกติ พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มหวานๆ: “แน่นอนอยู่แล้ว ตาของฉันเจียงเสี่ยวไป๋นั้นไม่ได้ถูกปิดเอาไว้ ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินและเกาะพ่อแม่นั้นฉันไม่มีทางเอาเด็ดขาด!”
ทั้งคู่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทำเหมือนน้าสวีไม่มีตัวตน น้าสวีที่อารมณ์กำลังขึ้น กัดฟันแล้วจ้องมองเขาสองคน โมโหจนพูดไม่ออก
และคนที่อยู่ในลิฟต์คนอื่นๆที่เห็นภาพนี้แล้ว ต่างก็มองหน้ากัน
จริงๆแล้วเพื่อนบ้านในแถบนี้ล้วนแต่รู้จักกันทั้งนั้น เห็นเจียงเสี่ยวไป๋กับเซียวซู่ที่รักใคร่กันขนาดนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเสริมทับด้วย
“ใช่น้อเสี่ยวไป๋พูดถูก ผู้ชายที่เกาะเมียกินทำร้ายเมียนั้นเอาไม่ได้ ไม่ทำมาหากินแล้วยังจะมาทำร้ายเมียอีก ผู้ชายแบบนี้ใครแต่งงานด้วยก็ซวยไปแปดชาติ”
“เสี่ยวไป๋ แฟนเธอคนนี้ดูแล้วไม่เลวเลยนะ ทั้งสูงทั้งผอม ดูแล้วดีทีเดียวเลย ทำงานอะไรเหรอ?”
“เสี่ยวไป๋เสี่ยวไป๋ เธอมีแฟนแล้วเหรอ คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?” เจ้าเด็กน้อยคนนี้นี่ เมื่อก่อนทุกคนต่างคิดว่าคนอย่างเธอ จะไม่มีวันมีแฟนเสียอีก”
ในขณะที่ทุกคนกำลังถามซอกแซกนั้น ชั้นที่เจียงเสี่ยวไป๋อยู่ก็ได้ถึงแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋รีบดึงตัวเซียวซู่ออกมาจากลิฟต์ พลางพูดขึ้น: “อาฮ่าๆๆๆถึงบ้านหนูแล้ว ครั้งหน้าค่อยคุยกับพวกท่านนะคะ”
คนที่เดินออกมาพร้อมกับพวกเขายังมีน้าสวี เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในลิฟต์เมื่อกี้แล้ว สายตาที่น้าสวีมองเขาสองคนนั้นช่างไม่ดีเอาเสียเลย เปิดประตูเข้าบ้านด้วยความโกรธที่รุนแรง
หลังจากที่เธอไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ที่อยากจากปล่อยแขนของเซียวซู่ออกนั้น แต่เมื่อคิดๆแล้วก็ยังคงกอดไว้อย่างแนบแน่นเหมือนเดิม “จะเปิดประตูแล้วนะ คุณเตรียมพร้อมหรือยัง?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวซู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงมากขนาดนี้ รู้สึกไม่ค่อยชิน ถึงอย่างไรตัวเองก็ได้รับปากเธอไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องอดทนเอาไว้
“อืม”
เขาตอบสั้นๆคำเดียว
เจียงเสี่ยวไป๋จ้องมองเธอโดยละเอียด เห็นแผลที่บนใบหน้าของเขา อยากที่จะพูดอะไรบางอย่างสุดท้ายก็ได้อดเอาไว้
ช่างเถอะ แม่คงไม่ทำตัวน่ารังเกียจอย่างน้าสวีหรอก เจาะจงหาปมของคนอื่นมาพูด ดังนั้นเธอคงไม่ต้องพูดล่วงหน้า
คิดเสร็จ เจียงเสี่ยวไป๋ก็กดกริ่งที่หน้าประตู
เสียงกริ่งดังไม่นานนัก ประตูก็ได้เปิดออก คุณแม่เจียงยืนอยู่ที่ทางเข้าและมองไปที่ทั้งสองอย่างระมัดระวัง
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ยิ้มหวานได้ทักทายขึ้น: “แม่!”
คุณแม่เจียงไม่ได้มองเธอแม้แต่แวบเดียว สายตานั้นไปสำรวจเซียวซู่โดยตรง มองสำรวจเขาอยู่อย่างนั้น
สีหน้าของเซียวซู่ปกติ ทักทายกับคุณแม่เจียงด้วยท่าทางที่พอดี: “สวัสดีครับ คุณป้า”
คุณแม่เจียงยังคงมองสำรวจเขาอยู่ หรี่ตาลงแล้วพูด: “นายก็คือแฟนของเสี่ยวไป๋ลูกสาวของฉันเหรอ?”
เซียวซู่พยักหน้า ก็ได้ส่งมอบของขวัญที่อยู่ในมือ: “เจอกันครั้งแรก น้ำใจเล็กๆน้อยๆครับ”
คุณแม่เจียงยังคงไม่รับของที่อยู่ในมือของเขา เพราะเธอยังคงมองสำรวจเซียวซู่อยู่ ในขณะที่เธอเห็นรอยแผลเป็นตรงหน้าของเขานั้น ริมฝีปากขยับไปหนึ่งที จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร
เจียงเสี่ยวไป๋กลัวว่าแม่จะพูดอะไร ก็รีบรับของขวัญจากมือของเซียวซู่มา พลางพูดขึ้น: “ทำไมเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้จะให้หนูพาแฟนกลับมาบ้าน ตอนนี้พากลับมาแล้ว แม่ก็เป็นกันเองหน่อยสิ อย่าทำหน้าจริงจังได้มั้ย?”
ได้ยินแบบนี้ คุณแม่เจียงจ้องเจียงเสี่ยวไป๋ไปแวบหนึ่ง “ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าแฟนคนนี้ของแกใช่แฟนที่คนที่แกหามาบังหน้าหรือเปล่า? ทั้งสองคนตกลงกันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?”
เจียงเสี่ยวไป๋: “ถ้าแม่พูดแบบนี้อีก ลูกของแม่อาจจะต้องเสียแฟนคนนี้ไปก็ได้นะคะ”
คุณแม่เจียงตอนนี้จึงได้หันข้างมา พูดอย่างจำยอม: “เข้ามาสิ”
“ไป” เจียงเสี่ยวไป๋ที่ควงแขนของเซียวซู่ไว้จึงเดินเข้ามาข้างใน ท่าทางที่ประหม่าไม่น้อย
หลังจากเข้ามานั่งในห้องรับแขกแล้ว คุณแม่เจียงก็ไม่ถามอะไร ได้มองไปทางเสี่ยวไป๋แล้วกล่าว: “ไปหั่นผลไม้ที่ห้องครัว”
หั่นผลไม้?
เจียงเสี่ยวไป๋กะพริบตา: “หั่นผลไม้ตอนนี้? ไม่ดีมั้งคะ?”
“ให้แกไปแกก็ไปสิ มาลำไยอะไร”
จริงๆที่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เต็มใจไปนั้นเพราะรู้ว่าแม่ของตัวเองจงใจกันเธอออก คาดว่าอยากจะทดสอบเซียวซู่ หรืออยากจะคุยอะไรกับเขา เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ยอมไป เธอกลัวหากตัวเองออกไปเซียวซู่จะทำความแตก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงออกอย่างชัดเจน เขาไม่มีทางที่จะหลอกลวงผู้ใหญ่พร้อมกับตัวเอง
หากเธอออกไป เซียวซู่ทนแรงกดดันไม่ไหวจะทำไง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ส่ายหัวอย่างจริงจัง
“หนูไม่อยากกินผลไม้”
คุณแม่เจียงโกรธมาก ตบอยู่ที่ท้ายทอยของเธอตลอด แล้วกล่าวขึ้น: “แม่อยากกินพอใจยัง? ไปไม่ไป?”
เจียงเสี่ยวไป๋: “…………”
เซียวซู่กล่าวอย่างยิ้มๆ: “เสี่ยวไป๋ ไปเถอะ”