บทที่ 1236 นี่มันเป็นจูบแรกของฉัน
เสี่ยวไป๋ที่เขาเรียก มันทำให้หัวใจที่ไม่ร้อนรนของเธอสงบลงได้จริงๆ เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้ามองเซียวซู่แวบหนึ่ง เห็นเขาที่ส่งสายตาบอกให้ตัวเองสบายใจ เธอจึงได้พยักหน้า
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังคงพึมพำไปทางแม่ของเธอ: “ถ้าอย่างนั้นหนูจะไปหั่นผลไม้ แม่ห้ามรังแกเขานะ!”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋มองเซียวซู่เหมือนไม่อยากจากเขาไป ทำราวกับว่าไม่อยากเดินไปในห้องครัวเลย
ในระหว่างนี้ มุมปากของเซียวซู่มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ส่งสายตาให้เจียงเสี่ยวไป๋สบายใจอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวเล็กน้อยระหว่างสองคนนี้ล้วนอยู่ในสายตาคุณแม่เจียง จ้องมองเสี่ยวไป๋อย่างขุ่นเคือง จากนั้นก็ด่าในใจไปประโยคหนึ่งไอ้ลูกเวร
เจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปในห้องครัวแล้ว แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังคงหั่นผลไม้
เธอหั่นได้รวดเร็วมาก กลัวว่าเซียวซู่จะต้านไม่ไหวจนทำให้ความแตก ดังนั้นหลังจากที่เธอหั่นผลไม้เสร็จก็ได้ยกมันออกมา
หน้าหลังก็ใช้เวลาไม่เกินห้านาที
ก่อนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะออกมายังได้แอบฟังอยู่ที่ประตู ปรากฏว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เธอสงสัยเล็กน้อย หรือว่าการสนทนาของสองคนนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วเหรอ?
เธอเดินมาถึงห้องรับแขกนั้น ทั้งสองคนยังคงไม่ได้สนทนากัน บรรยากาศเหมือนจะแปลกเล็กน้อย
เจียงเสี่ยวไป๋ได้วางจานผลไม้บนโต๊ะชงชา จากนั้นก็ไปนั่งลงที่ข้างกายของเซียวซู่ สายตาได้มองไปสำรวจใบหน้าของแม่เธอและเซียวซู่สองคน
“พอแล้ว ไม่ต้องดูแล้ว!” คุณแม่เจียงพูดกับเธออย่างขุ่นเคือง: “ว่ากันว่าผู้หญิงมักเข้าข้างสามี คำพูดนี้พูดไม่ผิดเลยจริงๆ บอกให้แกไปหั่นผลไม้ก็ยังไม่ตั้งใจหั่น แป๊บเดียวก็ออกมาแล้ว หากเขาเป็นแฟนของเธอจริง ฉันที่เป็นแม่เธอจะรังแกเขาเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะสวนกลับ: “ใครจะไปรู้ล่ะ? ว่าแม่สงสัยพวกเราหรือเปล่า? ถึงเวลาแม่ทำให้แฟนหนูตกใจจนหนีไป หนูจะไปหาแฟนที่ดีแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก?”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือไปคล้องแขนของเซียวซู่ไว้แน่นๆ คนทั้งคนเหมือนนกน้อยที่ซบข้างกายเขา “คุณว่ามั้ย?”
เซียวซู่: “……..”
เขาเอียงหน้าไปมองเจียงเสี่ยวไป๋แวบหนึ่ง เธอพยายามกะพริบตาไปทางเขา เซียวซู่เอื้อมมือไปปัดปอยผมออกจากแก้มของเธอ ตอบอืมอย่างเอ็นดู
ทั้งๆที่เป็นเพียงการกระทำเล็กน้อย เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกว่าหัวใจตัวเองนั้นถูกเขาหยอกเข้าให้แล้ว หัวใจที่ไม่รักดีกลับเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้มัน……..อะไรกันเนี่ย? ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาทั้งสองก็เคยใกล้ชิดกันมากกว่านี้ แต่ว่าตอนนั้นเขาเหมือนจะไม่มีความรู้สึกแบบวันนี้นี่นา?
“ก็ได้ แกบอกว่าเขาเป็นแฟนแก แล้วแกยืนยันได้มั้ย?” สองมือของคุณแม่เจียงประกบกันไว้ มองสำรวจคู่รักคู่นี้อย่างใจเย็น: “หากยืนยันไม่ได้ แกก็ยังต้องไปดูตัวอยู่ดี”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ เกือบจะโวยวายแล้ว
“แม่ ทำไมแม่ถึงพูดแบบนี้ละ? พูดต่อหน้าแฟนหนูว่าจะให้หนูไปดูตัว แม่ยังอยากให้ลูกของแม่มีความสุขหรือเปล่า?”
คุณแม่เจียงยิ้มเจ้าเล่ห์: “แกนึกว่าแกหาผู้ชายคนไหนก็ได้ มาจับมือถือแขน กอดกัน ให้แม่ดู แม่ก็จะเชื่อว่าพวกแกเป็นแฟนกันจริงๆเหรอ”
เจียงเสี่ยวไป๋: “………..แล้วจะให้ทำยังไง? แม่ถึงจะเชื่อ?”
“จะให้แม่เชื่อก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นะ” คุณแม่เจียงกลอกตาไปมา เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เจียงเสี่ยวไป๋ที่เห็นแม่เป็นแบบนี้ ทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เธอทำไมรู้สึกว่า แม่ของเธอเหมือนจะมีความคิดแผลงๆอะไรสักอย่าง?
เป็นดังเช่นนั้น ประโยคที่คุณแม่เจียงออกมานั้นเกือบจะทำให้เจียงเสี่ยวไป๋พังโต๊ะแล้ว
“แกกล้าจูบเขาต้องหน้าแม่แกหรือเปล่าละ?”
เจียงเสี่ยวไป๋เบิกตากว้าง : “แม่!”
สีหน้าของคุณแม่เจียงเหมือนไม่เชื่อ
“ทำไมเหรอ? พวกเธอไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆเหรอ? แค่จูบกันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย? ลูกรักของแม่ การแสดงที่แย่ของลูกอย่ามาแสดงต่อหน้าแม่อีกเลย ให้เพื่อนแกกลับไปก่อนเลย แล้วไปดูตัวซักดีๆ แม่ได้จัดผู้ชายที่มีคุณภาพหลายคนเข้าแถวเพื่อรอแกแล้วนะ”
หลายคน?
แค่ได้ยินจำนวนที่ว่านี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกหัวจะระเบิดแล้ว
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า ไม่ว่ายังไงตัวเองก็ไม่อยากไปดูตัว
เธอกัดฟันเบาๆ มองหน้าคุณแม่เจียง: “แค่จูบทีเดียวแม่ก็จะเชื่อ?”
คุณแม่เจียงยิ้มๆแต่ไม่พูด
เจียงเสี่ยวไป๋หันหน้ามองไปทางเซียวซู่ เซียวซู่ที่สายตาเปล่งประกายเล็กน้อยมองไปทางเธอ ยัยบ้าคนนี้คงไม่คิดที่จะจูบเขาจริงๆมั้ง? เขาขมวดคิ้ว กำลังจะพูดอะไร เจียงเสี่ยวไป๋กลับจับมือของเขาไว้ จากนั้นในระหว่างที่เขายังไม่ทันจะรู้ตัวนั้น ก็ได้โน้มตัวไปจูบที่มุมริมฝีปากของเขา
อันนี้คือการจูบแบบใช่มุมช่วย
ในฝั่งที่คุณแม่เจียงมองมานั้น เจียงเสี่ยวไป๋ได้จูบไปที่ริมฝีปากของเซียวซู่แล้ว แต่จริงๆแล้วเจียงเสี่ยวไป๋เพียงแค่จูบที่มุมปากของเขา แม้ว่าระหว่างริมฝีปากจะเกิดการสัมผัสกันเล็กน้อย แต่นี่มันเป็นขอบเขตที่เจียงเสี่ยวไป๋สามารถควบคุมไว้ได้
ตอนที่เซียวซู่ที่ถูกเธอจูบนั้น คนทั้งคนก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ ดวงตาสีดำกะพริบผ่านด้วยรู้สึกแปลกๆ เพียงแต่ไม่นานนักเจียงเสี่ยวไปก็ถอยออก หลังจากที่ถอยออกเธอก็ได้ไปซบอยู่ที่อ้อมอกของเซียวซู่ มองคุณแม่เจียงอย่างเคืองๆ
“แม่ ได้แล้วใช่มั้ย? คำขอของแม่มันช่างน่ากลัวมาก ต่อให้เราสองคนเป็นแฟนกัน แต่ว่าการจูบมันเป็นเรื่องที่ทำกันส่วนตัวไม่ใช่เหรอ?”
คุณแม่เจียงแปลกใจมาก เธอไม่คิดว่าจะมีโอกาสเห็นภาพแบบนี้ แบบนี้ลูกสาวของเธอก็ช่างใจกล้านัก
เดิมทียังคิดที่จะถือสาความความ แต่ว่าในเวลานี้กลับสงบลงมาแล้ว เธอจ้องมองเซียวซู่เป็นเวลานาน จู่ๆก็ยกมือขึ้น: “เอาล่ะ พวกเธอผ่านการทดสอบแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ตาเป็นประกายทันที: “ความหมายคือ หนูไม่ต้องไปดูตัวแล้วใช่มั้ย?”
คุณแม่เจียงมองตาขวาง: “ทำไม? มีแฟนแล้วยังอยากไปดูตัวอีกเหรอ?”
“ไม่ไม่ไม่!” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มตาหยีแล้วโบกมือไปมา จากนั้นก็ดึงมือของเซียวซู่: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เดิมทีคุณแม่เจียงอยากที่จะรั้งพวกเขาให้อยู่ แต่ว่าตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรยังไง กลับไม่ได้ห้าม กลับให้พวกเขาจากไปโดยตรง
ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงได้ดึงตัวเขาจากไป
หลังจากเข้าไปในลิฟต์แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ปล่อยมือของเซียวซู่ทันทีด้วยความรู้สึกผิด ลูบที่จมูกของตัวเองอย่างอึดอัดแล้วมองไปพูดกับเซียวซู่ “อันนั้น……มันเป็นเรื่องกะทันหัน” ขอโทษด้วยนะ
เซียวซู่ที่กลับสู่ภาวะปกติแล้ว: “……..”
เมื่อกี้เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจู่ๆเจียงเสี่ยวไป๋จะมาไม้นี้ ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวจู่ๆก็มาแตะที่ปากของเขา อีกอย่างยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และชั่วขณะนั้นกลับทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์
เขาจ้องมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ คิ้วก็ได้ขมวดเข้าหากัน
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นท่าทีของเขาแล้ว ก็ไอแรงๆไปสองที รีบพูดให้ตัวเองรอด: “ไอ้หยา คุณอย่าโกรธเลย ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะจูบคุณสักหน่อย ก็นิสัยของแม่ฉันคุณก็เห็นแล้ว หากฉันไม่จูบคุณ ฉันก็ต้องไปดูตัวกับผู้ชายกลุ่มนั้น คุณก็มาแล้ว ให้ฉันจูบหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง? มันก็แค่การแสดง!”
ใบหน้าของเซียวซู่มืดมน ราวกับมีเมฆมืดปกคลุมด้านบน
“การแสดง ก็สามารถจูบไปเรื่อยเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ดึงนิ้วของตัวเองด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ: ก็มันไม่มีวิธีอื่นแล้ว? ฉันก็ไม่อยากจะจูบ นี่มันก็เป็นจูบแรกของฉันด้วย…….”
จูบแรก……..”