บทที่ 1238 เธอก็เผด็จการนะ
รอยยิ้มที่สดใสเกินไปนี้ ช่างดึงดูดสายตานัก แสงไฟที่แตกกระจายรอบ ๆ ดูเหมือนจะเคลื่อนเข้ามาใกล้รอยยิ้มนี้ ทำให้รอยยิ้มของเจียงเสี่ยวไป๋ยิ่งสะดุดตามากขึ้น
เซียวซู่ตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
ในไม่ช้าเขาก็ควบคุมจิตใจของตัวเองได้ แล้วค่อยๆถอนสายตาออกมา
“บุญคุณก็ไม่ต้องจดจำแล้ว ผมแค่ตอบแทนบุญคุณเท่านั้น คุณเพียงแค่จำเอาว่าไม่มีครั้งต่อไปก็พอแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ขบฟันกรามของเขา ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม: “ได้สิ ในเมื่อคุณเซียวก็พูดแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็จะถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณละกัน แต่ว่าวันนี้มันได้เกิดสถานการณ์พิเศษขึ้น ดังนั้น……….”
เธอก้าวเข้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว มองเซียวซู่กะพริบตาอย่างจริงจัง: “ฉันยังติดค้างจูบคุณหนึ่งที”
เซียวซู่: “………..”
คำพูดของหญิงสาวทำให้คนตกใจ รูม่านตาของเซียวซู่หดตัวลง ก้าวถอยหลังไปอย่างกะทันหัน
“พูดบ้าอะไร?”
เจียงเสี่ยวไป๋ยกมือขึ้นพูดอย่างไม่แยแส: “ฉันจริงจังนะ เพราะว่าฉันไม่ได้รับความเห็นชอบจากคุณก็จูบคุณโดยพลการ จุดนี้ฉันต้องขอโทษคุณเป็นอย่างมาก ดังนั้นฉันจึงติดค้างจูบคุณหนึ่งที ไม่งั้นตอนนี้คุณก็จูบคืนเลย ไม่งั้นก็ติดไว้ก่อน”
เซียวซู่ตกใจกับคำพูดของเธอเป็นเวลานาน สุดท้ายพูดออกมาโดยไม่รู้จะทำอะไรกับเธอดี
“ยัยบ้า”
เจียงเสี่ยวไป๋ยักไหล่โดยไม่ปฏิเสธ
ไม่นานนัก เซียวซู่ก็ได้ก้าวเท้ายาวๆจากไป เมื่อเขาหันหลังไปแล้วจู่ๆเขาก็คิดถึงภาพที่เจียงเสี่ยวไป๋พยายามปกป้องรอยแผลเป็นของเขาในลิฟต์ ทำให้หว่างคิ้วชนกัน แต่ไม่นานก็ปล่อยออก
เธอเพียงแค่อยากให้เขาช่วยเท่านั้น เมื่อเห็นเขาที่ถูกคนอื่นมองสำรวจด้วยสายตาที่แปลกๆ ก็ต้องช่วยเขาออกหน้าเป็นธรรมดา จุดนี้คงไม่มีอะไร เขาไม่ควรที่จะจำมันขึ้นใจขนาดนี้
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เซียวซู่ก็จากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่คนไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋กลับลูบริมฝีปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว พูดอย่างหดหู่ใจ: “ช่างกลุ้มใจเสียใจ ทั้งๆที่ฉันเป็นคนที่เสียเปรียบนะ ไม่ผิดเลย ผู้ชายในนิยายไม่มีอยู่ในชีวิตจริง ช่างเป็นผู้ชายซื่อตรงและไม่เข้าใจอะไรเลย!”
*
ที่ต่างประเทศ
หลังจากที่มาบนเกาะนี้ได้สองวันแล้ว ในที่สุดเสี่ยวเหยียนก็เข้าใจเกาะนี้อย่างจริงจังเสียที เพราะมีแต่วัยรุ่นที่มาเที่ยวที่นี่ ดังนั้นตอนเช้าจึงเงียบสงบมาก แต่กลางคืนถึงจะเป็นเวลารื่นเริงของพวกเขา
เสี่ยวเหยียนนอกจากจะถ่ายภาพวิวแล้ว ก็คือมีความสุขกับการกินของอร่อย และเล่นกิจกรรมที่สนุกสนานอื่นๆ
อีกอย่างก่อนหน้านี้ที่นั่งเรือมาก็ได้พูดคุยกับคนอื่นๆบนเรือด้วย สองสามวันที่เดินออกมาเที่ยวก็จะเจอกับพวกเขาเป็นครั้งคราว ทุกคนก็ถือว่าได้เป็นเพื่อนกันแล้ว
แต่สิ่งที่เสี่ยวเหยียนอึดอัดก็คือ บนเกาะนี้คนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ต่างเป็นคู่สามีภรรยากัน ดังนั้นพวกเขาล้วนใกล้ชิดกันมาก
อย่างเช่น เมื่อเสี่ยวเหยียนอยากจะว่ายน้ำนั้น ปรากฏว่าในสระน้ำก็มีสามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังกอดกันอย่างแนบแน่นอยู่ในน้ำ
ขาที่ลงไปในสระของเธอมันอึดอัดมาก ขึ้นค่อนวันจึงได้ดึงมันกลับมา กลับขึ้นมาข้างบนด้วยความหดหู่ใจ
แต่หานชิงดูเหมือนจะไม่พบอะไรเลย ลูบหัวของเธอ จากนั้นก็เอาหมวกสานสวมไปที่หัวของเธอ แล้วก็พูดขึ้น ต้องปกกันแสงแดดให้ดีหน่อย อย่าให้ผิวไหม้ละ บนเกาะนี้แสงแดดแรงมาก
ฮืม……….
เสี่ยวเหยียนแอบร้องไห้ในใจ
แม้ว่าความคิดของเธอจะโบราณ แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแฟนตัวเอง บางครั้งเธอก็อยาก………
เสียดายที่นิสัยของหานชิงเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง เหมือนกับการจูบบนเรือในวันนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดที่เขาทำได้ สำหรับเรื่องอื่น เสี่ยวเหยียนคิดก็ยังไม่กล้าคิดเลย
จู่ๆ ก็มีคู่รักคู่หนึ่งวิ่งเข้ามา
“น้องเสี่ยวเหยียนคะ ช่วยเราถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ?”
ผู้หญิงคนหนึ่งได้เอาโทรศัพท์ยัดลงไปในมือเธอ พูดอย่างเขินอาย: “เราอยากถ่ายวิวมุมโน้น แต่ว่าถ่ายไม่ได้ รบกวนเธอหน่อยได้มั้ย?”
คนอื่นขอร้อง เสี่ยวเหยียนทำได้เพียงพยักหน้า: “ได้เลยค่ะ พวกคุณอยากถ่ายแบบไหนคะ บอกฉันมาเลยค่ะ ฉันช่วยพวกคุณถ่ายเอง”
“ขอบคุณค่ะ น้องเสี่ยวเหยียนช่างดีจริงๆ”
ดังนั้นภายใต้การกำกับของพวกเขา เสี่ยวเหยียนได้ช่วยสองสามีภรรยาถ่ายรูปไปหลายใบ ภาพสุดท้ายเป็นภาพของคนสองคนที่กอดกันและจูบกันอย่างแนบแน่น ดูเหมือนรักกันมาก
ตอนแรกๆที่เสี่ยวเหยียนถ่ายนั้นยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพียงแต่ถ่ายไปถ่ายมาก็ค่อยๆอิจฉาขึ้นมา
นี่ถือเป็นการท่องเที่ยวที่มีความสุขของสามีภรรยาจริงๆ หากรวบรวมภาพถ่ายเหล่านี้และใส่กรอบตั้งไว้ที่บ้าน ต่อไปเมื่อทะเลาะกันแล้วมองดูรูปเหล่านี้ คาดว่าความโกรธคงจะหายไปทันที
หากเป็นไปได้ เธอก็อยากที่จะถ่ายกับหานชิงเหมือนกัน เพียงแต่……..พวกเขาไม่ใช่สามีภรรยาที่แท้จริง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
ดังนั้นเสี่ยวเหยียนจึงไม่ได้เรียกร้อง หลังจากถ่ายเสร็จก็ได้ส่งโทรศัพท์คืนไป
แต่คิดไม่ถึงว่าฝ่ายหญิงจะเอ่ยขึ้น: “ขอบคุณนะ เธอช่วยพวกเราแล้ว พวกเราก็ช่วยพวกเธอถ่ายหน่อยดีกว่า”
ได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเหยียนอึ้งไปชั่วขณะ มองไปที่หางชิงโดยสัญชาตญาณ
เมื่อกี้ตอนที่เธอถ่ายรูปให้สองสามีภรรยานั้น หานชิงก็นั่งมองอยู่ที่ด้านหลังโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเสี่ยวเหยียนมองไปนั้นพอดีก็ได้ประสานกับสายตาที่เรียบเฉยของเขา
เสี่ยวเหยียนมองท่าทางของเขา ในใจคิดว่าเขาคงไม่ยอมถ่าย ก็เลยส่ายหัวเพื่อที่จะปฏิเสธ หานชิงกลับลุกขึ้นมา “ถ่ายหน่อยละกัน”
ชายแก่อย่างเขา สำหรับเรื่องถ่ายรูปพวกนี้เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ใครใช้ให้สาวน้อยของเขามองเขาอย่างตาละห้อยละ
เสี่ยวเหยียนเอียงคอถาม “ได้เหรอ?”
หานชิงลูบหัวของเธออย่างรักใคร่เอ็นดู: “ได้อยู่แล้ว”
สองสามีภรรยาที่อยู่ข้างๆฝ่ายหญิงเป็นคนรับโทรศัพท์มา แล้วพูดด้วยความปากไวและตรง: “วิธีการคบกันของคุณสองคุณมันแปลกๆอยู่นะ น้องเสี่ยวเหยียน ทำไมดูแล้วเหมือนน้องจะกลัวสามีมากเลยล่ะ?
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนไม่รู้จะตอบยังไงดี กลับเป็นหางชิงที่กอดเธอเข้ามาในอ้อมอก ก็พูดอย่างเรียบเฉย: “สาวน้อยของบ้านผมกลัวคนแปลกหน้า ด้านนอกคนเยอะ เธอค่อนข้างที่จะอาย”
พูดจบ เขาก้มหน้ายื่นมือไปหยิกที่แก้มขาวนุ่มของเสี่ยวเหยียน น้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย: “เวลาอยู่ในบ้าน เธอค่อนข้างที่จะเผด็จการเลยละ”
แต่เดิมผู้หญิงในสามีภรรยาคู่นี้ยังคงคิดว่าสถานะของเสี่ยวเหยียนอาจด้อยกว่า ตอนนี้ถูกคนเขาโชว์หวานใส่หน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อมากยังหยอกเก่งขนาดนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ!
และหัวใจของเสี่ยวเหยียนก็เต้นตึกตักๆ คิดไม่ถึงว่าหานชิงจะหยอกเก่งขนาดนี้ เธอที่หดอยู่ในอ้อมแขนของหานชิงยิ้มให้กับสามีภรรยาคู่นั้นอย่างเขินอาย
“ภาพนี้ไม่เลว”
ผู้หญิงคนนั้นได้ถ่ายมันไว้อย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเหยียนกับหานชิงยังไม่ทันตั้งตัวเลย ก็ถูกถ่ายไปเสียแล้ว ไม่นานนักผู้หญิงคนนี้ก็เร่งให้เขาสองคนเปลี่ยนท่าโพสต์ เสี่ยวเหยียนเป็นเพราะประหม่า ก็ไม่รู้ว่าจะทำท่าอะไรดี สุดท้ายยังคงเป็นผู้หญิงคนนี้กำกับให้เธอ ทั้งสองถ่ายรูปไปหลายรูป
หลังจากที่ถ่ายเสร็จ ผู้หญิงก็ได้เอาโทรศัพท์คืนให้เสี่ยวเหยียน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเธอ
“เธอนี่ เหมือนที่สามีเธอพูดไม่มีผิดเลย ขี้อายมาก ไม่ใช่ฉันอยากจะว่าเธอนะ ข้างนอกนี้ทุกคนก็เหมือนกัน เธอมีอะไรต้องกลัวเหรอ?”
เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ ส่ายหัวอย่างอึดอัด: “ไม่ใช่กลัวค่ะ เพียงแต่รู้สึกอายนิดหน่อย”
“เอาล่ะ ดูเธออายุน้อยๆ อายก็เป็นเรื่องปกติ”