บทที่ 1258 คนสวยอย่าพูดโกหกสิครับ
เดิมทีผู้ชายนึกว่าเธอติดกับดักแล้ว คืนนี้ไม่ต้องเหงาแล้ว
ใครจะไปรู้หลังจากใกล้เข้าไป เจียงเสี่ยวไป๋พูดคำนี้ใส่เขา ทำเอาเขาอึ้งอยู่กับที่
สักพัก เขาถึงดึงสติกลับมา“แฟนของคุณ?คงไม่ใช่หลอกคนมั้ง?ถ้าเขาเป็นแฟนของคุณ แล้วทำไมคุณถึงไม่นั่งที่เดียวกับเขา?”
“นี่เป็นรสนิยมระหว่างเราสองคน มาถึงผับแล้วเล่นแสดงละครโดยเฉพาะ ตอนนี้เราห่างกันค่อนข้างไกล แต่ถ้าคุณกล้าลงมือกับฉันล่ะก็ เดี๋ยวเขาก็จะมาแล้ว”พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ยกมุมปากขึ้น ยิ้มให้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยความได้ใจ หน้าตามีความมั่นใจมาก “ถ้าไม่เชื่อ คุณจะลองดูก็ได้นะ”
ผู้ชาย “……..”
จู่ๆเขามองทิศทางที่เจียงเสี่ยวไป๋ชี้ทีนึง แล้วหันมามองเจียงเสี่ยวไป๋ ยกมุมปากขึ้น จากนั้นก็เดินไปหาผู้ชายคนนั้น
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นเขาไปแล้วรู้สึกโล่งอกไปที นึกว่าเขายอมแพ้แล้ว
แต่พอตอนที่เห็นทิศทางที่เขาเดินไปอย่างชัดเจนแล้ว เธอสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
คนๆนี้อยากทำอะไร? หรือว่าจะเปิดโปงเธอ? เย็ดเข้! เดิมทีเธอแค่อยากหลอกให้เขาไปเฉยๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะเรื่องมากขนาดนี้
น่ารำคาญจริงๆ
กว่าเซียวซู่จะจัดการเรื่องงานเสร็จไม่ใช่ง่ายๆ เลยตัดสินใจมาดื่มสักหน่อย เพิ่งนั่งลงมาดื่มได้แก้วเดียว ก็มีคนเดินมาโอบไหล่เขาไว้ น้ำเสียงแฝงด้วยเจตนาไม่ดี “น้องชาย มาคนเดียวหรอ?”
ผู้ชายกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งทั้งตัว ยังมีกลิ่นหอมของเครื่องสำอาง กลิ่นหอมพวกนี้ปะปนยู่ด้วยกันทำให้เซียวซู่ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ปล่อยมือ”เขาหันไปตำหนิคำนึง น้ำเสียงเย็นเฉียบ
เดิมทีผู้ชายอยากพูดคุยกับเขา ใครจะไปรู้หลังจากเซียวซู่หันหน้ามา ไม่นึกเลยว่าจะสีหน้าเย็นเฉียบ แผลเป็นบนใบหน้านั้นอยู่ภายใต้แสงระยิบระยับยิ่งดูร้ายกาจเข้าไปใหญ่ ทำให้เขาอึ้งไปครู่นึง
แต่ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมา พูดด้วยสีหน้าไม่ได้ตั้งใจ “น้องชาย นายนี่ไม่ซื่อสัตย์และจริงใจเลย พาแฟนมาที่ผับแต่ไม่สนใจเธอเลย แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนเป็นแฟนทำกันเลยนะ”
“…….”
เซียวซู่มองเขาทีนึงเหมือนมองปัญญาอ่อน จากนั้นก็ดื่มเหล้าตัวเองต่อ ไม่คิดจะพูดต่อจากเขา
ส่วนผู้ชายก็เห็นได้ชัดว่าอ่านแววตาของเขาออก รู้ว่าแววตานั้นหมายความว่ายังไง ราวกับมองปัญญาอ่อนยังไงอย่างงั้น ในใจเขาค่อนข้างโกรธกริ้ว รู้สึกตัวเองถูกหลอกแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้หัวเราะแห้งๆทีนึง ชี้ผู้หญิงที่อยู่ทางนู้น “หรือว่าผู้หญิงที่อยู่ทางนู้นไม่ใช่แฟนนาย?เมื่อกี๊เธอบอกฉันว่านายเป็นแฟนของเธอเชียวนะ”
เซียวซู่ “……พูดพอหรือยัง?”
ผู้ชาย “……น้องชาย นายค่อยๆดื่มนะ ไม่รบกวนแล้ว”
ผู้ชายย้อนกลับมาใหม่ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เดาได้แล้ว เดิมทีเธอแค่อยากหาเหตุผลๆนึงมาไล่ตะเพิดผู้ชายคนนั้นไปเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะวิ่งไปถามโดยตรง คนๆนี้ก็จริงๆเลย
แต่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ตื่นตระหนก ความคิดของเธอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คิดคำพูดชุดใหม่ได้ตั้งนานแล้ว ดังนั้นตอนที่ผู้ชายคนนั้นกลับมา เธอถามผู้ชายด้วยความโกรธ “ฉันถามคุณนะ เขาบอกว่าเขาไม่ใช่แฟนของฉันใช่มั้ย?”
ผู้ชายนึกว่าเจียงเสี่ยวไป๋ถูกเปิดโปงจะกระวนกระวายใจ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะโกรธกริ้ว ทำให้คนเดาใจไม่ถูก เขาเองก็เบื่อหน่าย จึงเล่นเป็นเพื่อนเธอซะเลย
“สาวสวยท่านนี้ครับ พูดโกหกนี่ไม่ใช่นิสัยที่ดีเลยนะครับ แค่เลี้ยงเหล้าคุณแก้วเดียวเอง คุณไม่ต้องถึงขั้น……..”
“คุณช่วยฉันกลับไปถามเขาคำนึง เขาบอกไม่ใช่แฟนของฉัน คืออยากเลิกกันจริงๆใช่มั้ย!” เจียงเสี่ยวไป๋เอามือทั้งสองข้างเท้าสะเอวไว้ ใบหน้าขาวใสเปลี่ยนมาเขียวซีดเพราะความโกรธ แววตามีความวู่วาม
ผู้ชายถูกหน้าตาแบบนี้ของเธอทำเอากลัว เขาอึ้งไปครู่นึงแล้วถาม “นี่ คำพูดนี้หมายความว่ายังไง?”
“คุณไม่เข้าใจหรือไง? ช่วยฉันถามหน่อย เขาจะเลิกกับฉันจริงๆใช่มั้ย ถ้าจริงล่ะก็ งั้นต่อไปฉันก็จะไม่ไปหาเขาอีก!”
ผู้ชาย “เอ่อ……”
“คุณรีบไปสิ? คุณชอบถามมากไม่ใช่เหรอ รีบไปเร็ว”
ผู้ชายอดกลอกตาขาวไม่ได้ คิดในใจว่าฉันเป็นอะไรของเธอ?ถือสิทธิ์อะไรเธอเรียกฉันไปฉันก็ต้องไปช่วยเธอถาม?
แต่เขาก็รู้สึกเหมือนเธอกำลังแสดงละครอยู่ จึงยิ่งจ้องมองเธอ
“ผมว่านะคนสวย แค่เลี้ยงเหล้าคุณแก้วเดียวเอง ถึงขั้นต้องแสดงละครกับผมด้วยเหรอ? ผู้หญิงที่มาผับ คุณมีอะไรที่ไม่กล้าเล่นด้วย?”
คำพูดนี้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ไม่พอใจขึ้นมา และดูหมิ่นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มาก
อะไรเรียกว่าผู้หญิงที่มาผับมีอะไรไม่กล้าเล่นด้วย เธอหัวเราะเยาะคำนึง “คุณพูดคำนี้หมายความว่ายังไง ผับไม่ใช่หอนางโลมสมัยโบราณสักหน่อย ฉันแค่มาดื่มเหล้าเฉยๆ เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
“พอเหอะ”สีหน้าของผู้ชายดูหมิ่น“ใครบ้างไม่รู้ว่าผับคือสถานที่อะไร?เห็นผู้ชายฉวยโอกาสตรงหน้าประตูมั้ย? สังคมสมัยนี้ คุณบอกผมว่าคุณแค่มาดื่มเหล้าเฉยๆ ได้สิ งั้นผมก็แค่เลี้ยงเหล้าคุณแก้วนึงเฉยๆ จะให้เกียรติผมมั้ย?”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเหอะๆ และขี้เกียจสนใจเขา
ผู้ชายไม่ตายใจ
ที่จริงปกติเขาไม่ทำแบบนี้หรอก คนนี้ไม่ได้เขาก็เปลี่ยนอีกคนก็พอแล้ว แต่เขาชอบผู้หญิงที่มีท่าทางอ่อยแบบนี้ตั้งแต่เกิด ปกติผู้หญิงไร้เดียงสาไม่ค่อยเข้าตาเขาสักเท่าไหร่ เพราะเขารู้สึกผู้หญิงแบบนี้มันเฟคเกินไป
แต่ว่า เจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ตรงหน้าคือผู้หญิงที่ดูแล้วไร้เดียงสามาก แต่กลิ่นไอที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเผยออกมากลับไม่มีรสชาติของความเสแสร้งเลย ไม่ว่าจะพูดจาหรือว่าท่าทาง ก็สมจริงมากๆ
ภายนอกเธอดูไร้เดียงสา แต่ลึกๆแล้วกลับเป็นผู้หญิงที่โผงผางและแกร่ง
ผู้หญิงแบบนี้ ฮอต!ฮอตจริงๆ!แรงได้ใจจริงๆ!
เพราะฉะนั้นผู้ชายจึงตัดใจดึงสายตากลับไม่ได้ และตัดใจเขยิบฝีเท้าไปไม่ได้
เขายกแก้วเหล้าเดินมาที่ละแวกของเจียงเสี่ยวไป๋อย่างไม่ตายใจ
“คนสวย ผมอยากเลี้ยงเหล้าคุณจากใจจริงนะ แค่แก้วเดียวโอเคมั้ยครับ? คุณก็ถือว่าให้เกียรติผม ดื่มแก้วนี้เสร็จ ผมก็จะไปเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋ “…….”
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้นี่ปัญญาอ่อนเหรอ? ? ?
พูดคำพูดแบบนี้พริบตาเดียวก็เผยจุดประสงค์ของเขาออกมาแล้ว
อะไรเรียกว่าให้เกียรติเขา ดื่มแก้วนี้แล้วเขาก็จะไปเลย
กลัวก็แต่เขาไปแล้ว เธอกลับไปไม่ได้แล้ว
ถ้าเป็นแค่เรื่องเหล้าแก้วเดียว แล้วเขาจะมาราวีเธออยู่ที่นี่ตั้งครึ่งค่อนวันทำไม?
ถึงแม้เธอไม่ค่อยมาเที่ยวผับ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีหลักธรรมครองตนในสังคม คนชั่วร้ายในสังคม เธอจะดูความคิดและวัตถุประสงค์ของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ออกได้ยังไง จากนั้นก็โง่ไปเชื่อคำพูดเขาและดื่มเหล้าที่เขาเลี้ยงจริงๆ
เธอไม่ได้สนใจเขา แค่ดื่มเหล้าของตัวเองและพูด “คุณไม่ไปใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวรอแฟนฉันมา คุณเจอดีแน่ ถึงแม้พวกเราจะทะเลาะกัน แต่ครอบครัวเราสองคนเป็นพันธมิตรกัน ถ้าเขาเห็นฉันถูกรังแก เขาไม่นิ่งดูดายแน่นอน”
“แฟน?”ลิ้นของผู้ชายเลียผ่านฟัน จ้องทิศทางที่เซียวซู่อยู่ ยิ้มขึ้นมาอย่างความหมายไม่ชัดเจน “คนสวย คุณนี่พูดโกหกจนเสพติดจริงๆ ในเมื่อแบบนี้ งั้นผมก็ลองทดสอบระดับความจงรักภักดีและการปกป้องที่แฟนของคุณมีต่อคุณเถอะ”
พอพูดจบ ผู้ชายโอบไหล่ของเจียงเสี่ยวไป๋อย่างไม่สนใจใยดี หัวเราะอย่างยโสโอหัง“เป็นไงบ้าง? ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนนึง เห็นแฟนของตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นโอบไว้ในอ้อมอก เขาคงจะทนไม่ไหวแล้วมั้ง?”