บทที่ 127 ผมมีอารมณ์แล้ว
เสิ่นเฉียวยืนงงอยู่ที่เดิม เสียงร้อนรนที่ดังขึ้นมาจากในมือทำให้เธอสติหลุดไปสักพักใหญ่
เส่โยวรู้เรื่องที่เธอเจอกับพี่ชายของตัวเอง ก็ดูเหมือนร้อนใจมาก
ทำไมละ?
เธอไม่เข้าใจ หานเส่โยวตื่นเต้นจนกดวางสายโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็รีบตามมาที่นี่
เสิ่นเฉียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความการโอนเงินที่ดังขึ้น น่าจะพอสำหรับค่าอาหารมื้อนี้
ตอนที่เธอเตรียมหมุนตัวเดินออกไป เท้ากลับเหยียบเข้ากับอะไรสักอย่าง หลังจากนั้น ตัวของเธอก็เอนไปข้างหน้า
ปัง!
ประตูห้องน้ำถูกปิดจากด้านใน หลังจากนั้นก็ถูกล็อคอย่างรวดเร็ว เย่โม่เซินถือโอกาสใช้มือรัดเสิ่นเฉียวที่ล้มมาอยู่ในอ้อมอกของเขา หลังจากที่อีกมือกดล็อคประตูเสร็จแล้วก็ทำการเก็บเข้าที่เดิม
เสิ่นเฉียวเงยหน้ามองก็เห็นว่าเป็นเย่โม่เซิน สีหน้าของเธองุนงงทันที
“ ทำไมนายมาอยู่ที่นี่? ที่นี่คือ……ห้องน้ำหญิง นายเข้ามาได้ไง? ”
เย่โม่เซินคนโรคจิต คิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้ามาในห้องน้ำหญิง อีกทั้งยังล็อคประตูอีกต่างหาก
เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้นอย่างหงุดหงิด: “ ผู้หญิงของผมอยู่ที่นี่ ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้? ”
คำพูดตรงไปตรงมาทำให้เสิ่นเฉียวหน้าแดง เธอพบว่าตั้งแต่คนคนนี้มีอะไรกับเธอ เขาก็เปลี่ยนไปจนน่าแปลกใจ และมักจะชอบตัวติดกับเธออยู่เรื่อย
คิดได้ดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ขยับมือผลักหน้าอกของเขา เพื่อจะลุกขึ้นยืน แต่เอวกลับถูกมือของเย่โม่เซินกดไว้ หลังจากนั้นเธอก็ล้มลงไปอีกครั้ง
“ นายคิดจะทำอะไรกันแน่? รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ”
เธอพูดขอร้องอย่างตื่นเต้น “ ประธานหานกำลังรอเราอยู่นะ ”
ได้ฟังดังนั้น เย่โม่เซินก็หรี่ตาลงอย่างน่ากลัว และจ้องเธออย่างหงุดหงิด: “ อยากเจอเขาถึงกับต้องรีบขนาดนี้เลยหรอ? ”
เสิ่นเฉียวไม่เข้าใจ: “ นายพูดไร้สาระอะไร? ”
“ เพื่อมาเจอเขา คุณถึงกับตั้งใจแต่งตัวสวย! ” นี่คือประโยคบอกเล่า
เสิ่นเฉียว: “ ……ฉันไปตั้งใจแต่งตัวให้สวยตอนไหน? ” พูดเสร็จ เสิ่นเฉียวก็ยื่นมือมาลูบหน้าตัวเอง และพูดขึ้นเสียงเบา: “ วันนี้ฉันก็ไม่ได้แต่งหน้าด้วย? ”
“ งั้นหรอ? ผมขอดูหน่อย ” เย่โม่เซินจับคางของเธออย่างเอาแต่ใจ เขายกหน้าของเธอขึ้น หลังจากนั้นก็ก้มลงไปเพ่งมองเธออย่างพินิจ
ลมหายใจอุ่นกระทบกับใบหน้าของเสิ่นเฉียว นุ่มเหมือนขนของลูกนกที่เพิ่งเกิด สะกิดจนใจของเสิ่นเฉียวคันไปหมด
ลมหายใจของเธอหยุดไปชั่วขณะ จ้องเย่โม่เซินที่อยู่ในระยะประชิด และพบว่าตาของเขาลึกมาก อีกอย่าง ต่อให้เข้าไปมองเขาใกล้ๆ ผิวของเขาก็ยังดีมากเหมือนเดิม ดวงตาลึกคู่นั้นเหมือนทะเลกว้างใหญ่ที่หาที่สุดไม่ได้
น่าแปลก อยู่ๆเสิ่นเฉียวก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หลังจากนั้น ก็เลียริมฝีปากตัวเองอย่างลืมตัว
ดวงตาสีหมึกของเย่โม่เซินปรากฏความคิดขึ้น เขาเพิ่มแรงมือที่บีบคางเธอไว้อยู่ น้ำเสียงทุ้มแหบ: “ ไม่ได้แต่งหน้าจริงๆด้วย แล้วทำไมคุณต้องตั้งใจใส่กระโปรงด้วยละ? ไม่มีความคิดอื่นแล้วหรือไง? ”
เสิ่นเฉียว: “ ……ฉันจะมีความคิดอะไรได้? ข้อมูลเป็นนายเองที่ให้ฉัน สัญญาก็เป็นนายที่สั่งให้ฉันทำ แม้แต่กระโปรงที่ฉันใส่……ก็เป็นนายที่ซื้อให้ฉัน ”
น้ำเสียงของเย่โม่เซินแหบยิ่งกว่าเดิม: “ สาวน้อย คุณทำได้แค่เถียงใช่ไหม? ”
เสิ่นเฉียว: “ ฉันแค่พูดความจริงก็เท่านั้น ”
เธอรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบๆค่อนข้างร้อน จึงคิดอยากจะสลัดพันธนาการของเย่โม่เซินออกไป: “ นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ เราควรออกไปได้แล้วนะ……อื้อ ”
วินาทีต่อมา เย่โม่เซินก็จูบลงไปทันที
มือใหญ่ที่จับคางเธออยู่ก็ได้เปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าของเธอแทน มือของเย่โม่เซินสากและอุ่นมาก แนบไปกับหน้าของเธอ และค่อยๆเคลื่อนไปด้านหลัง หลังจากนั้น ก็กดท้ายทอยของเธอเอาไว้แน่น
ลิ้นงัดฟันของเธอออกอย่างมีไหวพริบ
เสิ่นเฉียวสติหลุดอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เขารู้สึกชนะ
ท่วงท่าที่นอนอยู่บนตัวเขาของเธอ และยังถูกเย่โม่เซินกดเอวไว้อีก แทบจะถูกบังคับให้รับจูบของเย่โม่เซินเลยก็ว่าได้
บรรยากาศในห้องน้ำเข้มข้นขึ้น เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าอุณหภูมิของตัวเองกำลังเพิ่มมากขึ้น มือของเย่โม่เซินอ้อมไปทางด้านหลังเธอ และรูดซิปลง มือใหญ่ค่อยๆล้วงเข้าไป
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงรองเท้าของพวกผู้หญิงดังมาจากข้างนอก
ปัง!
มีคนพยายามผลักประตูห้องน้ำเข้ามา แต่กลับผลักไม่ออก
“ เป็นอะไร? ”
“ ประตูห้องน้ำเปิดไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น? ”
“ ฉันขอดูหน่อย ”
และก็เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง มีคนพยายามจะเปิดประตูห้องน้ำ เสิ่นเฉียวยังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของเย่โม่เซิน และกำลังถูกจูบ แต่เหมือนเย่โม่เซินจะไม่รู้สึกสะทกสะท้าน ยังคงตั้งใจจูบเธอเหมือนเดิม
เสิ่นเฉียวตื่นเต้นจนทนไม่ไหว ยื่นมือและออกแรงผลักเขาออก ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ
“ เอ๊ะ เหมือนจะเปิดไม่ได้จริงๆด้วย เกิดความขัดข้องหรือเปล่า? ” ประตูห้องน้ำถูกกระแทกจากข้างนอกอยู่หลายครั้ง ก็ยังเปิดไม่ได้อยู่ดี
หญิงสาวทั้งสองคนกำลังปรึกษากันอยู่: “ ไม่อย่างนั้นเราไปเรียกผู้จัดการร้านมาดูสักหน่อยเถอะ ประตูอาจจะเสียน่ะ ”
ไม่นาน เสียงรองเท้าส้นสูงก็ค่อยๆหายไป
ในที่สุด เสิ่นเฉียวก็สามารถออกแรงผลักเย่โม่เซินให้ออกไปจนได้ เธอหายใจหอบ และจ้องเย่โม่เซินที่เพิ่งทำเรื่องไม่ดีด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ: “ นายประสาทหรอ ถ้าถูกเจอจะทำยังไง? ถึงตอนนั้นก็คงอับอายขายขี้หน้าไปทั่ว! ”
เย่โม่เซินเลียกลีบปากสีแดงก่ำ สายตาเหมือนหมาป่าของเขาจ้องไปที่ไหล่ขาวของเธอ อยู่ๆมือใหญ่ก็ออกแรงกดเอวของเธอไว้ “ ผมมีอารมณ์แล้วผู้หญิงแต่งงานครั้งที่สอง เรากลับบริษัทกันเถอะ ”
เสิ่นเฉียว: “ ……นายนายนายนายนายพูดอะไร? ”
เธอถูกคำพูดของเย่โม่เซินทำให้ตกใจจนทนไม่ไหว ในขณะเดียวกัน ก็รับรู้ถึงความร้อนที่มาจากบนตัวของเย่โม่เซิน สีหน้าของเสิ่นเฉียวระเบิดความแดงออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าไอ้คนลามกจะมีอารมณ์ที่นี่ได้
เมื่อก่อน เสิ่นเฉียวคิดว่าน้องชายของเขาไม่ตั้ง แต่ตอนนี้ อารมณ์แบบนั้น……
เย่โม่เซินไม่ได้เป็นคนที่มากความสามารถอย่างเดียว อีกทั้งยัง……
เสิ่นเฉียวมองเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ: “ นายเป็นบ้าอะไร รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ วันนี้เรามาเจรจาเรื่องงานนะ! ”
“ โอ้ ” เย่โม่เซินขยับเข้าใกล้ ริมฝีปากบางแนบลงไปบนไหล่ขาวของเธอ น้ำเสียงแหบทุ้ม: “ งั้นคุณก็หมายความว่า ถ้าตอนไม่เจรจาเรื่องงาน ก็ทำได้งั้นสิ? ”
“ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น…… ”
“ ผู้จัดการคะ ห้องนี้แหละค่ะ…… ” หญิงสาวสองคนนั้นกลับมาอีกครั้ง อีกทั้งยังพาผู้จัดการร้านมาอีกต่างหาก หลังจากที่ผู้จัดการมาแล้ว ก็ได้ลองเปิดประตู เปิดอยู่สักพัก ผลที่ได้ก็คือยังเปิดไม่ออกเหมือนเดิม
“ เกิดอะไรขึ้นคะ? ”
“ ขอโทษจริงๆครับ ตัวล็อคด้านในอาจเสีย ผมจะโทรให้คนมาซ่อมเดี๋ยวนี้ เชิญคุณผู้หญิงทั้งสองท่านไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างก่อนนะครับ ”
เย่โม่เซินยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม เหมือนไม่กลัวคนมาเจอเลยสักนิดเดียว แต่เสิ่นเฉียวกลับไม่นิ่งเฉย เย่โม่เซินไม่อายแต่เธออาย เห็นเขายังจูบอยู่บนไหล่ของตัวเธอ เธอจึงรีบประคองหน้าของเขา และผลักเขาออก หลังจากนั้น ก็ลุกขึ้นรูดซิปและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่
สมควรตาย ไม่รู้ว่าซิปติดอยู่ตรงไหน ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ขึ้น
ยิ่งดึงก็ยิ่งร้อนใจ หันไปมองเย่โม่เซินที่กำลังจ้องเธออยู่ข้างๆ เสิ่นเฉียวจึงรู้สึกโมโห “ โทษนาย ”
“ อะไร ต้องการให้ผมช่วยหรือไง? ” เย่โม่เซินยกยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มสวย
เสิ่นเฉียวส่งเสียงฮึออกมา ไม่สนใจเขา และดึงซิปของตัวเองต่อไป
เย่โม่เซินเข็นรถเข็นไปข้างหน้า และทำการรูดซิปแทนเธอ
และไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือเปล่า ไม่คิดว่าซิปจะหลุดติดมือ และพังบนมือของเขา