บทที่ 1262 ห้ามแตะต้องฉัน
“ทำไมล่ะ คุณมีปัญหาอะไรไหม?”
เซียวซู่เหลือบมองหล่อนด้วยความเย็นชา
เจียงเสี่ยวไป๋รีบปิดปากเงียบ “ไม่มี ฉันไม่มีปัญหาอะไร! งั้นคุณก็คิดตอนนี้เลย ฉันจะรอคำตอบของคุณอยู่ที่นี่!”
รออยู่ที่นี่? เซียวซู่คิดในใจ หญิงสาวคนนี้หัวดื้อเหลือเกิน
แต่เขากลับเม้มปาก ไม่ตอบอะไรหล่อน
ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที
เจียงเสี่ยวไป๋ถามขึ้น: “คุณคิดไปถึงไหนแล้ว?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะหันไปเหลือบมองหล่อน พูดเตือนขึ้น: “นี่เพิ่งผ่านไปหนึ่งนาทีเอง”
“งั้นเหรอ?” เจียงเสี่ยวไป๋เอียงคอ กระพริบตาลง: “ฉันคิดว่าผ่านไปแล้วหนึ่งศตวรรษแล้วซะอีก”
เซียวซู่แค่หยอกเล่นกับหล่อน และไม่ตอบอะไรหล่อนอีก
ใครจะไปคิดเมื่อผ่านไปหนึ่งนาที หล่อนถามขึ้นอีกครั้ง: “คุณคิดเสร็จแล้วยัง?”
เซียวซู่: “…”
“พูดสิ คุณคิดไปถึงไหนแล้ว?”
เซียวซู่ไม่อยากฟังอะไรจากหล่อน อีกทั้งยังปฏิเสธการพูดคุยกับหล่อน เพิ่งผ่านไปยังไม่ถึงสองนาที แต่หล่อนกลับถามขึ้นมาแล้วถึงสองครั้ง
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่โกรธอะไร รอให้เวลาค่อยๆเดินผ่านไป
เซียวซู่นั่งเงียบ แต่ในใจกลับคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ผ่านไปหนึ่งนาทีก็จะถามหนึ่งครั้งรึเปล่า?
เขานั่งนับเวลาอยู่ในใจ
เป็นเหมือนที่คาดคิดไว้ เวลาผ่านไปอีกหนึ่งนาที เจียงเสี่ยวไป๋หันไปหาเซียวซู่อีกครั้ง เซียวซู่รู้สึกว่าสีหน้าตัวเองในตอนนี้ชาไปหมดแล้ว
“คุณเซียวคะ คิดไปถึงไหนแล้วคะ? เป็นยังไงบ้าง? พลาดโอกาสนี้ไป ก็จะไม่มีอีกแล้วนะคะ”
“คุณคงไม่คิดที่จะถามผมทุกๆหนึ่งนาที จนกว่าผมจะให้ตอบกับคุณใช่ไหม?”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าลง
เซียวซู่ทนไม่ไหวจนเลิกหางคิ้วขึ้นมา หญิงสาวคนนี้ช่าง….
“สรุปว่ายังไงล่ะ? ตอบตอนนี้เลยดีกว่าถูกฉันถามทุกนาทีไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวซู่เงยหน้าเหลือบมองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์: “นี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของคุณ?”
“อื้มๆ” เจียงเสี่ยวไป๋ยอมรับอย่างไม่ลังเล และส่งยิ้มให้เขา ใบหน้าของเด็กผู้หญิงแทบจะเข้าไปชนกับเขา หล่อนไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด และไม่รู้สึกว่าระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมากเกินไป ทั้งยังยิ้มให้เขาอีก: “ตกลงไหม?”
เซียวซู่: “…”
เขาหลบสายตาออกราวกับเห็นผี และยังคงไม่ตอบอะไรหล่อน
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของเขา “คุณไม่พูดอะไร งั้นฉันถือว่าคุณตกลงแล้วกันนะ?”
เซียวซู่ยังคงเงียบไม่พูดอะไร เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเริงร่าและพูดต่อ: “โอเค งั้นช่วงเวลาต่อจากนี้ถือว่าคุณเป็นแฟนฉันแล้วนะ”
คำว่าแฟน ทำให้เซียวซู่เลิกคิ้วขึ้นมาทันที หันไปแก้คำพูดให้หล่อน “เป็นแฟนตัวปลอม”
“เอาเถอะน่า รู้แล้วจ้ะแฟนจ๋า”
เจียงเสี่ยวไป๋ตบบ่าของเขา เป็นเพราะเขายอมตกลงตัวเองแล้ว หล่อนจึงดีใจมากเป็นพิเศษ และเดินเข้าไปควงแขนของเซียวซู่ไว้อย่างแนบแน่น
“ทำอะไรน่ะ?” สาวน้อยเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น ทั้งยังเอาตัวมาแนบติดกับเขาด้วย กลิ่นหอมอันเลือนรางคละคลุ้งไปรอบตัว จนทำให้เซียวซู่ต้องระมัดระวังมากขึ้น
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่ให้คุณคุ้นเคยก่อน เพราะยังไงคุณก็เป็นแฟนของฉัน ต่อไปท่าทางสนิทสนมแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง?” เจียงเสี่ยวไป๋กระพริบตาปริบๆ ไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไรเลย
เพราะแม่ของหล่อนเป็นคนที่มีความสามารถในการสืบและจับผิดเป็นอย่างมาก ถ้ากิริยาท่าทางของทั้งสองดูเกร็งทื่อมากเกินไป อาจจะหลุดความจริงออกมาได้ ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงอยากให้เขาฝึกให้คุ้นเคยเสียก่อน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวซู่จะขัดขืนเช่นนี้ หลังจากที่ฟังหล่อนพูดแล้ว เขาจึงล็อคข้อมือของหล่อนไว้ และดึงมือหล่อนออกไป พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม: “คุณกับผมก็เป็นแค่แฟนจอมปลอม นอกจากโอกาสพิเศษแล้ว พวกเราต้องรักษาระยะห่างกันไว้ ต่อไปห้ามเข้าใกล้ผมอีก และยิ่งไม่ต้องมาแตะต้องตัวผมด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะพูดสบถออกมา: “ทำไมล่ะ? นี่คุณจะเก็บตัวรอคอยคนที่คุณชอบคนนั้นไปตลอดเลยหรือไง? แต่หล่อนก็มีคนที่ชอบของตัวเองแล้ว คุณเก็บตัวปิดกั้นตัวเองไป หล่อนก็ไม่มีทางกลับมาอีกแล้วล่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซียวซู่รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที
หญิงสาวคนนั้น…หล่อนไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นแล้ว
จุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนั้นคือการไปฮันนีมูน คุณนายน้อยตั้งใจจองให้พวกเขาเป็นพิเศษ เพื่อหวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะพัฒนาอย่างรวดเร็วมากขึ้น
หรือว่า หลังจากจบจากการท่องเที่ยวทริปนี้แล้ว ทั้งสองคงจะได้แต่งงานกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซียวซู่ยิ้มเจื่อนด้วยความทุกข์ขึ้นมาทันที
“คุณคิดมากไปแล้ว”
คิดมาก? หล่อนจะคิดมากได้ยังไง ท่าทางของเขาดูน่าสงสารมากเลย เจียงเสี่ยวไป๋ตบบ่าเขา: “คุณสบายใจได้ คุณช่วยฉันแล้ว ฉันก็จะช่วยคุณแน่นอน ฉันจะทำให้คุณหลุดพ้นอาการอกหักนี้ไปให้ได้!”
เพราะทั้งสองสมหวังตามสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว ดังนั้นตอนกลับบ้าน เซียวซู่จึงเป็นคนไปส่งหล่อนฟางถังถังที่ตามเรื่องผู้ชายในดวงใจของตัวเองเสร็จแล้วกลับมาเห็นใครบางคนเดินมากับเจียงเสี่ยวไป๋พอดี
หล่อนรีบเข้าไปจับแขนของเจียงเสี่ยวไป๋ ดึงหล่อนออกมาให้ห่างจากเขา จากนั้นเค้นถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “เกิดอะไรขึ้น ฉันแค่ฟังเพลงเรื่อยเปื่อยไปไม่นาน เธอก็จัดการสำเร็จแล้ว? ครั้งก่อนบอกว่าไม่อยากรบกวนเขาไม่ใช่หรือไง?”
“อ๋อ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง: “ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง แผนที่วางไว้ก็เปลี่ยนตามไม่ทันไงล่ะ”
ฟางถังถัง: “…แล้วเขาตกลงเป็นแฟนกำมะลอกับเธอแล้วเหรอ?”
“อื้ม ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยได้นานเท่าไหร่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางถังถังก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย: “อันที่จริง…เธอก็ลองเปลี่ยนจากแฟนกำมะลอเป็นแฟนตัวจริงดูสิ ท่าทางเขาดูดีใช้ได้เลย”
“เธอเพิ่งเคยเจอเขาแค่ไม่กี่ครั้ง จะมารู้ว่าท่าทางเขาดูดีได้ยังไงกัน? ตัดสินคนจากใบหน้าเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์
หล่อนนึกถึงครั้งที่แล้วที่เคยพูดแซวเขาไปว่าเปลี่ยนตัวปลอมให้กลายมาเป็นตัวจริง เซียวซู่ก็ผลักหล่อนออกทันที ทั้งยังพูดว่า: “ฝันไปเถอะ”
“ฝันไปเถอะ? ทำไมล่ะ? หรือว่าเธอไม่มีเสน่ห์? เธอเนี่ยนะ ผู้ชายคนเดียวก็มัดใจไว้ไม่อยู่! เจียงเสี่ยวไป๋ ฉันผิดหวังในตัวเธอมากจริงๆ”
“แสดงละครเสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว วันนี้ดึกมากแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดจบก็หันหลังเดินออกไป และไม่ได้เล่าเรื่องที่โชคร้ายที่เกิดในคืนนี้ให้กับฟางถังถังฟัง เมื่อเซียวซู่เห็นว่าหล่อนใกล้กลับมาแล้ว และเด็กสาวที่อยู่ด้านข้างหล่อนยังมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย โบกมือให้เขาด้วยความเคอะเขิน
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเจียงเสี่ยวไป๋ ชื่อฟางถังถังค่ะ”
เซียวซู่พยักหน้าให้หล่อนอย่างนอบน้อม สีหน้าเย็นชา “สวัสดีครับ ผมเซียวซู่”
น้ำเสียงอ่อนน้อมสุภาพ ดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น
ฟางถังถังให้คะแนนเขาสูงขึ้นมาทันที
แต่เจียงเสี่ยวไป๋กลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หล่อนยังไม่ลืมเหตุการณ์ตอนที่เขาขอให้หล่อนเขียนเรื่องแทนให้ โดยการบังคับขู่เข็ญหล่อนทางวีแชท ต่อมายังตามมาถึงห้องเล็กๆขอหล่อน ฉุดหล่อนออกมาจากผ้าห่มที่แสนอุ่นและหอมละมุน เพื่อมาเขียนเรื่องให้เขา
สุดท้าย ยังทำให้หล่อนต้องไปพัวพันกับเรื่องมากมาย!
ตอนนี้ กลับทำตัวเป็นคนดีสุภาพเรียบร้อย
“นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมไปส่งพวกคุณกลับก่อนดีกว่าครับ”
เจียงเสี่ยวไป๋กลับพูดขึ้น: “คุณขับรถมาเหรอ? แต่คุณดื่มเหล้ามานะ คงขับรถไม่สะดวก เดี๋ยวฉันกับเพื่อนหารถกลับไปกันเองก็ได้”
“ไปส่งพวกคุณก่อน”
ฟางถังถังอยู่ด้านข้างเจียงเสี่ยวไป๋ ทั้งสองเดินตามหลังเซียวซู่ เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินเพื่อนซี้ของตัวเองพูดขึ้น
“นี่เธอ ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนเป็นคนเย็นชานะ…”