บทที่ 1302 นายอยากเล่นกับฉันไหม
ในเวลาที่รวดเร็ว เย่โม่เซินก็ให้คนไปจัดการเรื่องการลงทะเบียนเรียนของเสี่ยวหมี่โต้วเสร็จเรียบร้อย ทันทีที่ทำเรื่องลงทะเบียนเรียนเสร็จ เขาก็ให้คนยัดเสี่ยวหมี่โต้วเข้าไปในโรงเรียนโดยตรงเลย
ในวันแรกที่ไป หานมู่จื่อพาเสี่ยวหมี่โต้วไปด้วยตนเอง จากนั้นก็ไปติดต่อกับคุณครู
เพราะรูปลักษณ์ของเสี่ยวหมี่โต้ว จึงได้รับความนิยมจากคนในโรงเรียนชนชั้นสูงเป็นอย่างมาก
ที่จริงเมื่อก่อนเสี่ยวหมี่โต้วไม่ใช่ว่าไม่เคยเข้าเรียนมาก่อน
แต่โรงเรียนในตอนนี้ แตกต่างจากโรงเรียนก่อนหน้านี้ เปลี่ยนโรงเรียนโดยตรงเลย
คุณครูก็ใหม่ทั้งหมด
ดังนั้นทุกคนจึงต้องทำความรู้จักกันเสียหน่อย
ทันทีที่ทุกคนทำความรู้จักกันแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้อยู่ที่โรงเรียน ก่อนที่จะออกไป คุณครูได้จัดให้เสี่ยวหมี่โต้วนั่งข้างเด็กหญิงน่ารักในโรงเรียน
เด็กหญิงถักผมเปียที่น่ารักไว้สองข้าง นั่งตัวตรงอย่างเรียบร้อย ผิวขาวอ่อนนุ่ม ดวงตาคู่นั้น สดใสประกายแวววาวเป็นพิเศษ
ดั่งสายน้ำที่ใสสะอาด
สวมกระโปรงลายดอกไม้เล็กๆ สวมรองเท้าเรียบง่ายสีชมพูคู่หนึ่ง ขาวอมชมพู น่ารักยิ่งนัก
หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วได้นั่งกับเธอแล้ว คุณครูก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
“เด็กสองคนนี้รูปร่างหน้าตาดีมากเลยจริงๆ นั่งด้วยกันช่างเพลินตาทำให้จิตใจเบิกบานยิ่งนัก
ครูที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่เลย ต่อไปนี้หนูสองคนก็นั่งด้วยกันแล้วนะ หนูน้อยยี่ซู เพื่อนร่วมโต๊ะของหนูชื่อ เฉียวลั่ว เราทุกคนจะเรียกเธอว่าเสี่ยวลั่วลั่ว ต่อไปนี้พวกหนูต้องเข้ากันให้ดีนะ”
เสี่ยวหมี่โต้วเหลือบมองเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาแวบหนึ่ง สีหน้าของเด็กหญิงนั้นดูขี้อายเล็กน้อย หลังจากฟังคำพูดของครูแล้ว ก็ไม่ได้คุยกับเสี่ยวหมี่โต้ว เพียงแค่แอบชำเลืองมองเสี่ยวหมี่โต้ว เมื่อสังเกตเห็นว่าเสี่ยวหมี่โต้วกำลังมองเธอ เธอก็รีบดึงสายตากลับทันที ราวกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นต่อไปพวกหนูก็เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะที่ดีต่อกันแล้วนะ”
หลังจากที่ครูออกไปแล้ว ก็เริ่มเข้าเรียน หลังจากเรียนจบคาบแรก
เสี่ยวหมี่โต้วพบว่า เพื่อนร่วมโต๊ะของเขา เป็นเด็กผู้หญิงที่เงียบมาก เวลาที่ครูสอน เธอจริงจังมาก ร่างเล็กนั่งตัวตรงเรียบร้อยตลอดเวลา สายตาไม่ละไปจากครูตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อเลิกคาบเรียน เสี่ยวหมี่โต้วก็นั่งจนเหนื่อยหมดแรงแล้ว ยืดเอวบิดขี้เกียจนิดหน่อย ตอนที่กำลังจะก้มนอนบนโต๊ะ ผ่อนคลายสมอง มีเด็กหลายคนวิ่งพุ่งมาทางนี้หมดเลย
“ดูสิว่าวันนี้เฉียวลั่วเอาสิ่งของอะไรมาที่โรงเรียนบ้าง”
“เฉียวลั่ว วันนี้เธอเอาของกินมาให้ฉันหรือเปล่า?”
ไม่รอให้ เฉียวลั่วตอบกลับ พวกเด็กทั้งหลายก็พุ่งเข้ามาพร้อมกัน ผลักเธอออกไปโดยตรง ไปดึงกระเป๋านักเรียนของเธอ จากนั้นตอนที่ค้นของในกระเป๋าของเธอ ทำให้กิ๊บและสมุดของเธอ ตกที่พื้นหมด
“อ๊ะ อันนี้สวยจัง……ให้ฉันเถอะนะ ได้หรือเปล่า?”
“ฉันจะเอาอันนี้!”
เฉียวลั่วไม่กล้าปฏิเสธ สายตายังคงไม่กล้าสู้ ตอนที่ทุกคนถามเธอ ริมฝีปากของเธอ ก็ยังมีรอยยิ้มเอาใจอย่างระมัดระวัง “ได้ ได้สิ”
แต่ละคนแย่งสิ่งของในกระเป๋านักเรียนของ เฉียวลั่วจนหมดเกลี้ยง หันจากไปอย่างดีอกดีใจ เฉียวลั่วมองพวกเด็กๆที่จับมือกันด้วยตาละห้อย ริมฝีปากสีชมพูขยับเล็กน้อย เหมือนว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่กล้า ทำได้เพียงลดสายตาลงอย่างเงียบๆ ก้มหน้าเก็บสิ่งของที่กระจัดกระจายเต็มพื้นของตัวเอง
เสี่ยวหมี่โต้วนอนฟุบโต๊ะอยู่แบบนี้ เอียงศีรษะดูเฉียวลั่ว
เก็บกระเป๋านักเรียนขึ้นมา มือที่ขาวกระจ่าง ตบคราบบนกระเป๋านักเรียนให้สะอาด แล้ววางกระเป๋านักเรียนไว้ลิ้นชักใต้โต๊ะของตัวเอง
อาจจะสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวหมี่โต้ว เฉียวลั่วมองมาทางเสี่ยวหมี่โต้ว หลังจากที่สบเข้ากับสายตาของเขา เธอก็ตกใจจนรีบหันกลับไปทันที
เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่ได้พูดอะไร แค่มองพิจารณาเธอด้วยความสงสัยอยู่ตลอด
ยัยเด็กคนนี้น่าแปลกมาก ของโดนคนอื่นแย่งไป เธอก็ยังมีท่าทางเหมือนคนไม่เป็นไร
เฉียวลั่วสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ยังคงมองเธอ ในตอนแรกเธอไม่กล้ามองสบตากับเขา แต่หลังจากรอมานาน เพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ของเธอดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร ดังนั้นหัวของเธอ ก็ค่อยๆหันไปหาเขา
“นาย……นายอยากเล่นกับฉันไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วตะลึงเล็กน้อย “ห๊ะ?”
เฉียวลั่วคิดว่าเขาไม่เต็มใจ ใบหน้าน้อยแดงขึ้นในทันทีพูดด้วยความตื่นตระหนก “ไม่ ไม่เป็นไร ฉันแค่ถามดู”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปเลย เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกสับสนมึนงงไปหมด ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ดูแปลกมาก คนที่นี่น่าเบื่อจังเลย ยังแย่งสิ่งของของคนอื่นอีกด้วย พูดตามตรงแล้วก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่แย่ง อย่างน้อยพวกเขาก็ได้สอบถามความคิดเห็นของเพื่อนร่วมโต๊ะของเขา ทั้งหมดคือเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาได้พยักหน้าแล้ว ถึงได้เอาของไป
ไม่รู้ว่าจะเลิกเรียนกลับบ้านได้เมื่อไหร่ ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วก็อยากจะกลับไปหาหม่ามี๊มากแล้ว
--
และในช่วงสองวันนี้ เสี่ยวเหยียนราวกับนั่งอยู่บนพรมเข็ม จิตใจพะว้าพะวัง แต่ละวันกระสับกระส่าย ไม่มีกะจิตกะใจเปิดร้าน ในขณะที่ทำงานในครัว ทำผิดพลาดไปหลายครั้ง สุดท้ายก็ถูกหลัวหุ้ยเหม่ยลากตัวออกมาโดยตรง
“สองสามวันนี้เธอเป็นอะไร? ทำไมผิดพลาดอยู่เรื่อยเลย??”
เสี่ยวเหยียนทำผิดถูกหลัวหุ้ยเหม่ยตำหนิ ก็รู้สึกอับอายทันที ก้มหน้าแล้วพูดว่า “แม่ ไม่เป็นอะไร ฉันแค่ใจลอยนิดหน่อยเท่านั้น”
“ไม่เป็นอะไร? เมื่อก่อนเธอเคยทำผิดแบบนี้ที่ไหนกัน? ตอนนี้ผิดพลาดตั้งหลายครั้ง เธอบอกกับฉันว่าไม่เป็นอะไร? เธอเดาสิว่าฉันจะเชื่อไหม?”
เมื่อได้ยิน เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง พูดด้วยสีหน้าลังเล “แต่ฉันไม่เป็นไรจริงๆนะ แค่ใจลอยจริงๆ”
“เธอพูดมาตามตรง ระหว่างเธอกับหานชิง ทั้งสองคนเกิดปัญหาแล้วใช่ไหม?”
เสี่ยวเหยียนตกใจใหญ่ “แม่! แม่อย่าแช่งเราได้ไหม? ฉันกับเขายังดีๆกันอยู่!”
“ดีๆกัน งั้นกลางวันแสกๆเธอใจลอยอะไรกัน?”
เสี่ยวเหยียนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ที่จริงแล้วช่วงนี้เธอใกล้จะมีประจำเดือนแล้ว แต่ประจำเดือนไม่มาสักที
ดังนั้นในใจของเสี่ยวเหยียน ทั้งกังวลและตื่นเต้น
ประจำเดือนของเธอไม่ค่อยตรงนัก บางครั้งอาจล่าช้าบางครั้งก็จะมาล่วงหน้า ดังนั้นตอนนี้ประจำเดือนมาล่าช้าไปวันสองวัน เสี่ยวเหยียนไม่กล้าสงสัยอะไร
แต่เพราะมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ดังนั้นตอนนี้เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกกังวลมาก กังวลว่าเธอจะตั้งท้องจริงๆ
ดังนั้นช่วงสองวันนี้ เธอจึงคิดถึงเรื่องนี้มาตลอด
ตอนที่ทำงาน ก็เลยใจลอยจิตใจไม่อยู่กับตัวเป็นธรรมดา
“ฉันแค่ไม่สบายนิดหน่อย ฉัน ฉันอยากกลับไปพักผ่อนแล้วแม่”
หลัวหุ้ยเหม่ยมองท่าทางที่ราวกับว่าวิญญาณออกจากร่างของเธอ ครุ่นคิดสักครู่ แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าลูบหัวของเธอเบาๆ “ไม่สบายหรือเปล่า? ไม่สบายตรงไหน? ให้แม่พาไปที่โรงพยาบาลไหม?”
“ไม่ๆๆ ไม่ต้อง!” เสี่ยวเหยียนปฏิเสธซ้ำๆ “ฉันไปดูเองก็ได้แล้ว แม่!”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แล้วออกไปเลย
“เด็กคนนี้……จะไปก็ไปเลย ไปโรงพยาบาลคนเดียว ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
หลังจากเสี่ยวเหยียนออกจากร้านราเม็ง ก็เดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย ก็ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นเธอก็เห็นร้านขายยา
จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็เดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
คนในร้านขายยาไม่มากนัก ปกติเธอมาซื้อของก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เสี่ยวเหยียนในวันนี้เหมือนกินปูนร้อนท้อง ตอนที่ซื้อของทำตัวลับๆล่อๆ กลัวว่าจะถูกคนอื่นมองเห็น