บทที่ 1323 แน่ใจ
“ฉลาดมากงั้นเหรอ?” พนักงานต้อนรับเอามือเท้าคาง ทำสีหน้าสงสัย “ความสามารถการทำงานของเธอดีมากเลยเหรอ?”
“แน่นอนสิ เก่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเยอะเลย” เมื่อพูดจบ เจี่ยงเหวินเหวินก็มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย: “เธอถามเรื่องพวกนี้ทำไมกัน? งานของตัวเองไม่ทำ หรือมาเพื่อสอดรู้เรื่องชาวบ้านโดยเฉพาะ?”
“เปล่าค่ะ ฉันแค่มาดูให้แน่ใจว่าเธอทำงานให้คุณที่นี่แค่นั้นเอง”
เจี่ยงเหวินเหวินยิ่งฟังยิ่งรู้สึกสงสัย พนักงานต้อนรับคนนี้ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นมาก ข่าววงในซุบซิบนินทาที่ส่งกันในกลุ่มล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของเธอ ตอนนี้ยังมาถึงที่นี่เพื่อคุยเรื่องสวี่เย็นหวั่น
หรือสวี่เย็นหวั่นมีเรื่องอะไรที่น่ารู้เป็นพิเศษงั้นเหรอ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด พนักงานต้อนรับก็พูดขึ้น ทำลายความสงสัยของเธอไปทันที
“พี่เหวินเหวิน เป็นคนมองการณ์ไกลเหลือเกิน คุณฝึกฝนเลี้ยงดูเธอดีแล้ว ต่อไปเธออาจจะได้เลื่อนตำแหน่งสักสองสามขั้นก็เป็นได้”
เจี่ยงเหวินเหวิน:“?”
เรื่องนี้ เจี่ยงเหวินเหวินไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของเจี่ยงเหวินเหวิน พนักงานต้อนรับจึงพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ: “พี่เหวินเหวิน พี่ไม่รู้ว่าเธอคือใครงั้นเหรอ?”
เจี่ยงเหวินเหวิน: “คนที่เธอพูดถึงคือใคร? นี่พวกเราพูดถึงคนๆเดียวกันอยู่รึเปล่า?”
“พี่เหวินเหวิน นี่คุณช้าเกินไปแล้วนะ! ก่อนหน้านี้ที่พวกเราคุยกันอยู่ในกลุ่มเรื่องคู่หมั้นของประธานหาน ก็คือเธอไงล่ะ!”
เจี่ยงเหวินเหวิน:“????”
“เธอว่าไงนะ? สวี่เย็นหวั่นคือคู่หมั้นของประธานหาน?”
พนักงานต้อนรับสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเจี่ยงเหวินเหวินหวาดกลัวราวกับเจอผี จึงรู้สึกพูดอะไรต่อไม่ถูก: “พี่เหวินเหวิน คุณเยี่ยมไปเลย คนนี้อยู่ในสายตาของคุณแท้ๆ แต่ถึงตอนนี้คุณกลับไม่รู้อะไรเลย”
เจี่ยงเหวินเหวินจะไปรู้ได้ยังไง คู่หมั้นของประธานหานมาทำงานเป็นลูกน้องเธอ? อีกทั้งยังเชื่อฟังคำสั่งและทำตามอีกด้วย?
ถามจริง?
“งั้นตอนนี้ทำอย่างไรดีล่ะ? เธอเป็นถึงคู่หมั้นของประธานหาน แล้วประธานหานรู้ไหมว่าเธออยู่ที่นี่? ถ้าประธานหานรู้ว่าฉันให้เธอทำงานตลอด จะเกิด….”
“พี่เหวินเหวิน กำลังคิดอะไรอยู่? แม้ว่าเธอจะเป็นคู่หมั้นของเขา แต่คุณอย่าลืมล่ะ ประธานหานของพวกเรามีแฟนแล้วนะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าคู่หมั้นจะสามารถกำจัดแฟนคนนั้นไป และกลายเป็นภรรยาของประธานหานได้หรือไม่ ยังพูดอะไรไม่ได้ แต่…คุณบอกว่าเธอฉลาดมาก งั้นเธอคงมีวิธีกำจัดกิ๊กคนนั้นออกไปได้แหละ”
เจี่ยงเหวินเหวิน: “เป็นแบบนี้จริงเหรอ? ฉันว่าเธอเรียบร้อยมากเลยนะ ตั้งใจทำงานตลอด คงตั้งใจมาทำงานจริงๆ”
“พี่เหวินเหวิน จะเป็นไปได้ยังไง? ถ้าเธอแค่มาทำงานจริงๆ เธอไปทำงานที่อื่นก็ได้ ทำไมต้องเลือกมาที่บริษัทตระกูลหานล่ะ? ฉันเดาว่าความสามารถของเธออยู่ตรงนี้แหละ รอโอกาส!”
หลังจากที่ได้ยินพนักงานต้อนรับพูดเช่นนี้ เจี่ยงเหวินเหวินกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มีเหตุผลจริงๆ นั่นสิ ถ้าเพียงแค่อยากทำงานจริงๆ ทำไมต้องมาทำที่บริษัทตระกูลหานล่ะ?
เปลี่ยนที่ทำงานได้นี่นา ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็แสดงว่า…
ทั้งสองสบตามองกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน
“ประจบเธอตอนนี้ยังทันไหม?”
“พวกเราต้องคิดเรื่องนี้กันดีๆ ถ้าในอนาคตเธอสามารถเอาชนะแฟนคนปัจจุบันของประธานหานได้และกลายเป็นตัวจริงของเขา ถ้าพวกเราสนับสนุนเธอกันสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าไม่ล่ะ? ในเมื่อตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ประธานหานถูกใจ ต่อไปจะเลื่อนขั้นเป็นคุณนายหาน ถ้ารู้ว่าพวกเราเคยทำเรื่องแบบนี้ มันจะ…”
“พี่เหวินเหวิน คุณคิดมากจังเลย แฟนแล้วยังไงล่ะ เป็นแค่กิ๊กไม่ใช่เหรอ? กิ๊กก็สมควรตายไงล่ะ!”
“แต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ตัวจริงมักจะแพ้กิ๊กไม่ใช่เหรอ?”
“……”
พูดแบบนี้ก็ดูเหมือนมีเหตุผล ด้วยเหตุนี้พนักงานต้อนรับกับเจี่ยงเหวินเหวินต่างรู้สึกลังเลกันอย่างมาก
“หรือว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อน”
“เธอกลับไปก่อนเถอะ”
หลังจากเจี่ยงเหวินเหวินไล่พนักงานต้อนรับกลับไป และกลับไปนั่งที่ของตัวเอง และหันไปมองดูที่นั่งของสวี่เย็นหวั่น สายตาของเธอก็มองอย่างลึกซึ้งขึ้นมาทันที
เมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าสวี่เย็นหวั่นยังมีอีกสถานะหนึ่ง จึงเห็นเธอเป็นเพียงพนักงานใหม่ที่ฉลาดและไหวพริบดีมาก ดังนั้นจึงรู้สึกโชคดีมาก และยังรู้สึกว่าฝึกฝนเธอสักหน่อย ต่อไปจะได้เป็นผู้ช่วยงานตัวเองได้
แต่ใครจะไปคาดคิด…เธอกลับเป็นคู่หมั้นของประธานหาน
แม้ว่าสถานะที่ว่านี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่เธอก็ไม่เคยใช้สถานะนี้มาป่าวประกาศให้ใครรู้ อีกทั้งยังได้ยินมาว่าวันนั้นเธอยังออกไปพร้อมกับน้องสาวของประธานหาน ตอนนี้กลับมาอยู่ในบริษัทตระกูลหาน
เจี่ยงเหวินเหวินเปิดกลุ่มแชทขึ้นมา เริ่มพูดคุยกับทุกคนในกลุ่ม
“คู่หมั้นของประธานหานที่พวกเธอคุยกัน ได้รับการยืนยันสถานะที่แท้จริงแล้วยัง? มีการตรวจสอบหรือสืบหาความจริงรึเปล่า?”
เดิมทีในกลุ่มกำลังพูดคุยเรื่องอื่นกันอยู่ เมื่อเจี่ยงเหวินเหวินพิมพ์แบบนี้เข้าไป คนในกลุ่มต่างพากันเงียบลงทันที ผ่านไปสักพัก ก็เริ่มพูดคุยถกเถียงกันอีกครั้ง
“ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้รับการยืนยัน แต่ฉันรู้สึกว่าเธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดโกหกรึเปล่า ในเมื่อการเป็นคู่หมั้นของประธานหานก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ใครจะกุเรื่องขึ้นมาได้ง่ายๆ ประธานหานเป็นคนยังไง? หลายปีที่ผ่านมานี้มีคนมาหาเขาที่บริษัทตระกูลหานมากมาย แต่ไม่เคยมีใครกล้าอ้างว่าเป็นอะไรกับประธานหานแบบนี้มาก่อนเลย”
“นั่นสิๆ เธอคงไม่โง่ขนาดนั้น หลังจากที่บอกว่าเป็นคู่หมั้นของประธานหาน ยังมาทำงานที่บริษัทตระกูลหานอีกด้วย”
“พี่เหวินเหวิน ทำไมจู่ๆคุณถึงคิดสงสัยขึ้นมาล่ะ? หรือว่าคุณสงสัยว่าเธอไม่ใช่คู่หมั้นของประธานหาน?”
เมื่อเจี่ยงเหวินเหวินเห็นข้อความดังกล่าว จึงรีบตอบกลับทันที: “หรือเรื่องนี้ไม่ต้องการหลักฐานพิสูจน์ความจริงเลยงั้นเหรอ? ถ้าจะหวังพึ่งแค่คำพูดไม่กี่คำของเธอ ถือว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยงมากพอสมควร”
“แล้วเรื่องนี้ต้องพิสูจน์ยังไงล่ะ?”
“ง่ายมาก”
เจี่ยงเหวินเหวินเริ่มบอกวิธีที่เธอเพิ่งคิดได้ในหัวให้ทุกคนฟัง
สวี่เย็นหวั่นไปห้องน้ำล้างหน้าเสร็จก็กลับมาที่ห้องทำงาน เมื่อเจี่ยงเหวินเหวินเห็นว่าเธอกลับมาแล้ว จึงรีบเข้าไปจับมือสวี่เย็นหวั่นอย่างสนิทสนม
“เย็นหวั่นจ๋า เมื่อครู่ฉันลองนั่งคิดดูดีๆแล้ว รู้สึกว่าสาวน้อยอย่างเธอควรจะเล่าเรื่องที่ไม่สบายใจออกมานะ พี่เหวินเหวินจะช่วยแก้ไขปัญหาให้เอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวี่เย็นหวั่นรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย เสมือนรู้สึกว่าจู่ๆเจี่ยงเหวินเหวินก็เปลี่ยนไป?
“พี่เหวินเหวิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?”
เจี่ยงเหวินเหวินตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้สึกไวขนาดนี้ เธอเพิ่งจะพูดไปแค่ประโยคเดียว เธอก็เริ่มสงสัยว่าเมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เจี่ยงเหวินเหวินจึงยิ้มขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่ไหนกันล่ะ? เธอคิดอะไรเพ้อเจ้อ ฉันเห็นว่าเธอลาช่วงเช้า แต่ผ่านไปแค่ครู่เดียวก็กลับมาแล้ว ตอนกลับมายังตาแดงอีกด้วย ฉันเห็นแล้วรู้สึกเป็นห่วง แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไร แต่ฉันรู้สึกว่าหากได้พูดระบายในสิ่งที่ไม่สบายใจออกมา มันจะดีกับเธอมากเลยนะ ถ้าเธอรู้สึกทุกข์ใจ เวลาทำงานก็จะไม่ตั้งใจทำ สุดท้ายจะทำยังไงล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สวี่เย็นหวั่นจึงวางเกราะป้องกันลงทันที
ที่แท้ก็เพื่อเรื่องงาน มิน่าล่ะ จู่ๆเธอก็กลับคำพูด สวี่เย็นหวั่นยังคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ ตอนระหว่างที่เธอไปห้องน้ำ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้? ช่วงนี้เธอคงถูกเพื่อนร่วมงานพวกนั้นปั่นหัวจนสับสนไปหมดแล้ว
“สบายใจได้ค่ะพี่ ฉันไม่มีทางให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับงานแน่นอน”