เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1331 เมาเสียจนเกินเยียวยา

บทที่1331 เมาเสียจนเกินเยียวยา

ในเมื่อเป็นเพื่อนสนิทกัน

นั่นจึงไม่มีทางที่จะมีได้ ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนสนิท แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะอยากนอนในขณะที่ฉันเกิดเรื่องอะไรจำพวกนี้

“ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว ถึงยังไงตอนนี้เธอพูดออกมาอย่างนี้ ต่อจากนี้ก็รอจนกว่าเธอจะชอบเขาจริงๆ นั่นก็จะมีเรื่องสนุกๆให้ดู ฉันจะรอเธอตบหน้าตัวเองอยู่เงียบๆแล้วกัน”

“ฟางถังถัง ไปตายซะ!”

“ฮิฮิ ไม่เอาหรอก! คืนนี้พวกเราไปบาร์เหล้ากันเถอะ!”

“…ไสหัวไป!”

เจียงเสี่ยวไป๋ตวาดออกมาพร้อมวางสายของฟางถังถังไป จากนั้นก็ยืนโกรธฮึดฮัดอยู่กับที่ ยกมือเท้าสะเอวจ้องมองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น

บอกว่าเธอชอบเซียวซู่? เธอชอบเซียวซู่สิแปลก!

ต่อจากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็วางโทรศัพท์ลง เข้าไปในห้องครัวคิดเรื่องอาหารมื้อกลางวันไป

ตอนเซียวซู่เลิกงานเมื่อตอนกลางวัน กลับเจอเจียงเสี่ยวไป๋โกรธฮึดฮัดกับเขาออกมา ตอนที่เอาถ้วยชามกับตะเกียบวางลงไปบนโต๊ะก็วางไปอย่างแรง จนส่งเสียงดังออกมา

เซียวซู่ขมวดคิ้วออกมา “ใครทำให้เธอโมโหกัน?”

แต่สิ่งที่ตอบเขากลับมานั้นกลับเป็นเจียงเสี่ยวไป๋ที่กลอกตากลับมาทีนึง “ไม่มี ใครจะทำให้ฉันโมโหกัน?”

เซียวซู่ “…”

เขาเลิกคิ้วออกมา “ต้นฉบับมีปัญหา?”

หลังจากที่เธอเข้ามาอยู่ก็อารมณ์ดีมาตลอด ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเถียงกัน แต่เธอก็ไม่เคยระเบิดอารมณ์ออกมาเหมือนกับวันนี้มาก่อน ดังนั้นแล้วเซียวซู่ก็เลยคิดเดาไปทางเรื่องงานของเธอ

แต่ใครจะรู้ว่าพอเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแล้ว ก็เบิกตากว้างเอ่ยออกมาทันที “ทำไมคุณถึงถามออกมาอย่างนี้? คุณห่วงปัญหาเรื่องงานของฉันขนาดนั้นเลยงั้นหรอ?”

เซียวซู่อยากจะพูดออกไปว่าฉันก็แค่ถามออกไปอย่างนั้นเอง

เจียงเสี่ยวไป๋เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ฉันไม่ได้เป็นเพราะเรื่องนี้สักหน่อย!”

“แล้วมันอะไรกัน?”

“คุณอย่าถามได้มั้ย?”

จู่ๆเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้มองเซียวซู่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยอาการฉุนเฉียวออกมาเล็กน้อย นึกถึงคำพูดนั้นของฟางถังถังแล้ว ตัวเธอก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

เพราะว่าหลังจากที่เกิดเรื่องที่เซียวซู่อุ้มเธอเข้าห้องมาเมื่อเช้านี้ เธอก็เอาแต่คิดเรื่องนี้อยู่ตลอด

แล้วพอคิดมาจนถึงตอนนี้แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงไม่ลืมเรื่องนี้ไป ภายในใจก็เอาแต่คิดวุ่นไปหมด

เธอคิดว่าตนจะต้องได้รับผลกระทบจากเซียวซู่แน่ๆ

ดังนั้นแล้วเธอในตอนนี้ก็เลยไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ทำไมตนถึงได้เป็นอย่างนี้ไปได้?

เซียวซู่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นอะไรไป ทั้งๆที่เมื่อตอนเช้าทั้งสองคนใช่ว่าจะไม่คุยกันนี่? ตอนที่เขาอุ้มเธอเข้าห้องไปนอน เธอยังนอนอยู่เสียอย่างกับหมูตัวนึงไม่มีผิด

ตนเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปรบกวนการนอนของเธอ ดังนั้นแล้วสาเหตุที่เธอโมโหนั้น เป็นอะไรกัน?

เธอไม่ยอมพูด เซียวซู่เองก็ไม่ได้ไปกวนเธออีก

หลังจากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็รอหลังจากที่เซียวซู่เดินออกไปแล้ว ก็ได้ถือโอกาสนั้นเปิดแอพละครเลื่อนดูวาไรตี้ตลกที่เป็นที่นิยม เปิดดูไปตลอดทั้งบ่าย แล้วค่อยๆลืมเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับเซียวซู่ไป ในที่สุดอารมณ์ของเธอก็ได้ถูกปรับให้ดีขึ้น

แต่เธอก็คิดว่าตนอย่าไปเจอเซียวซู่เลยสักพักจะดีกว่า ก็เลยส่งข้อความไปหาเซียวซู่ว่าคืนนี้เธอมีธุระ ไม่ได้ทำอาหารให้เขา ให้เขาจัดการมาจากข้างนอกเองได้เลย หลังจากนั้นก็ได้โทรหาฟางถังถัง

ตอนที่ฟางถังถังรับสายเธอก็ได้เอ่ยเสียงระรื่นออกมา “ในที่สุดก็นึกถึงฉันขึ้นมาแล้ว? คืนนี้จะออกไปเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่า?”

“ไป!” เจียงเสี่ยวไป๋โต้กลับไปอย่างแก้ต่างให้ตัวเอง “คืนนี้จะไปสนุกเป็นเพื่อนเพื่อนสาวด้วยแล้วกัน ช่วงนี้อยู่ติดบ้านเกินไป บางทีก็อยากผ่อนคลายบ้างเหมือนกันมั้ยล่ะ”

ดังนั้นแล้วทั้งสองคนก็เลยไปบาร์เหล้าร้านนั้นที่ไปกันมาเมื่อก่อนด้วยกัน

พวกเธอไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนที่กัน ความจริงแล้วเป็นเพราะพ่อเทพบุตรของฟางถังถังที่เป็นนักร้องประจำของบาร์นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าพ่อเทพบุตรของเธอจะร้องประจำอยู่ที่นั่นอีกนานแค่ไหน แต่อย่างน้อยๆแล้วช่วงหลายเดือนมานี้เขาก็อยู่ที่นี่มาตลอด

ดังนั้นแล้วฟางถังถังก็มักจะไปใช้บริการอยู่เป็นประจำ

ตามเคย ฟางถังถังก็เบียดเข้าไปดูพ่อเทพบุตรของเธอ ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปดื่มเหล้า ตรงเคาน์เตอร์บาร์

บาร์เทนเดอร์ตรงเคาน์เตอร์บาร์คือคนเดียวกันกับครั้งที่แล้ว เขาเหลือบมองด้านหลังของเจียงเสี่ยวไป๋ไปแวบนึง พร้อมเอ่ยถามออกมาเบาๆ “น้องสาว แฟนของน้องสาวไม่ตามมาด้วยกันหรอ?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ออกมา “ใครบอกนายกันว่าเขาเป็นแฟนฉัน?”

บาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์บาร์ก็ได้กะพริบตาปริบๆออกมา “หรือว่าไม่ใช่?”

เห็นได้ชัดว่าบาร์เทนเดอร์เข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเซียวซู่ อันที่จริงครั้งที่แล้วเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดต่อหน้าเขาแล้วว่าไม่รู้จักเซียวซู่ แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่ารู้จักกัน แล้วยังพาเซียวซู่ออกไป

ในภายหลังทั้งสองคนได้เจอกันอีก ทั้งยังนั่งกันไปด้วยกันอีก

ดังนั้นแล้วบาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์ก็คิดว่าคู่รักคู่นี้มีบรรยากาศที่ดูน่าสนใจแล้วยังโรแมนติกสุดๆอยู่ตลอด

เจียงเสี่ยวไป๋เห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าถ้าตนอธิบายออกไปมากกว่านี้อีกเขาคงไม่มีทางเชื่อแน่ ก็เลยไม่ได้อธิบายออกไปอีก จึงได้พูดออกไปโต้งๆว่า “เสิร์ฟเหล้ามาเถอะ เอาอันที่เหมือนกับครั้งที่แล้วนะ”

“โอเคครับ”

จากนั้นเธอก็ได้ดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่พูดไม่จา

บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์พบว่าคืนนี้เธออารมณ์ไม่ดีนัก แล้วจึงเข้าไปถามเธอ “คุณทะเลาะกับแฟนมาใช่มั้ยครับ?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกว่ามันน่าตลก แม้แต่แฟนเธอก็ไม่มีเลยสักคน จะทะเลาะกันได้ยังไง? แต่เธอก็ขี้เกียจจะอธิบาย ทำได้เพียงพยักหน้าออกมา

“ทะเลาะกันจริงๆ? งั้นคุณก็มาดื่มเหล้าคลายทุกข์งั้นสินะ?”

“อืมๆ นายพูดถูกทั้งหมดเลย” เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ดื่มเหล้าไปรวดเดียวด้วยอาการกลัดกลุ้มใจ หลังจากนั้นก็พูดออกไปอย่างโผงผาง “เอามาอีกแก้วสิ”

บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์ “…คุณดื่มอย่างนี้ จะเมาเอาง่ายๆเลยนะครับ”

เจียงเสี่ยวไป๋เท้าคางมองเขา “จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง? ครั้งที่แล้วฉันก็ไม่ได้เมานี่ ยิ่งไปกว่านั้นนายเองก็รู้ว่าฉันมาดื่มเพื่อคลายทุกข์ มารดามีความสุขจะดื่มเท่าไหร่ก็จะดื่มเท่านั้น”

“เอาเถอะครับ” ลูกค้าขอมา เขาทำได้เพียงแค่ต้องทำให้ได้เท่านั้น

แต่ในภายหลังเจียงเสี่ยวไป๋ดื่มไปสามแก้วรวด ดื่มถึงแก้วสุดท้ายแววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่ฟางถังถังกลับมาคุยกับเจียงเสี่ยวไป๋ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มพูดไม่รู้เรื่องขึ้นมาเสียแล้ว เธอพูดอย่าง เจียงเสี่ยวไป๋ตอบอย่าง ฟางถังถังบอกซ้าย เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังให้พูดเหลวไหลไปอีกทาง ทำเอาฟางถังถังโมโหสุดๆ แล้วจึงถามบาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์ไปทันที “เหล้าทั้งหมดเป็นนายเอาให้เธอสินะ?”

บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์ถูกต่อว่าอย่างไร้เหตุผลออกมา ยักไหล่ออกมาด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร “ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมนี่ ลูกค้าขอมา ผมก็ต้องทำตาม เหตุผลที่มีเงินแล้วไม่กอบโกยมีที่ไหนกัน ใช่มั้ยล่ะ?”

คำพูดนี้พูดออกมาเสียจนดูเหมือนว่ามันก็ใช่อยู่หรอก ฟางถังถังจึงไม่ได้ดึงดันเรื่องนี้อีก แต่ได้มองไปทางเจียงเสี่ยวไป๋พร้อมถามออกไป “เสี่ยวไป๋ เธอยังโอเคอยู่มั้ย ดื่มจนมีสภาพอย่างนี้ฉันจะไปดูพ่อเทพบุตรของฉันได้ยังไงกันหะ? ให้ฉันวางใจลงได้ยังไง?”

เจียงเสี่ยวไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย “ถังถัง…ทำไมถึงอยู่ที่นี่? เธอมาตรงนี้ทำไมกัน?”

ฟางถังถัง “…”

ให้มันได้อย่างนี้สิ ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าทำไมเธอถึงได้มาอยู่ตรงนี้ ฟางถังถังได้ยินแล้วก็อยากตบคนขึ้นมาเสียให้ได้

“ฉันมาแอ๊วพ่อเทพบุตรของฉันไง เธอว่าฉันมาที่นี่ทำไมกันล่ะ? เมาจนเกินเยียวยาแล้วนะ”

บาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์เข้าใกล้มาหา เอ่ยพูดออกมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว “เพื่อนของคุณคนนี้อกหักแล้ว? ไม่งั้นคุณก็โทรหาแฟนเธอให้แฟนของเธอมานี่สิ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ฟางถังถังที่เตรียมจะแย้งกลับไปว่าเจียงเสี่ยวไป๋มีแฟนที่ไหน แต่พอได้ลองดูๆไปแล้วเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้เมาจนอยู่ในสภาพอย่างนี้ คิดว่าดูเหมือนว่ามันก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่

ดังนั้นแล้วเธอก็เลยหรี่ตาลงแล้วมองไปทางบาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์บาร์คนนั้น “นายรู้ได้ยังไงว่าเธออกหักน่ะ? เธอบอกนาย?”

บาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์พยักหน้าออกมาอย่างซื่อๆ

ฟางถังถังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้พูดอะไรกับเจียงเสี่ยวไป๋ออกไปอีก ทำเพียงพูดกล่อมให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็เข้าไปหยิบโทรศัพท์เธอมา

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset