บทที่1332 อุ้มเธอกลับไปเถอะ
เธอเปิดดูสมุดโทรศัพท์ของเจียงเสี่ยวไป๋ขึ้นมา เจอข้อมูลการติดต่อเซียวซู่ จากนั้นโทรไปหาเขา
ในตอนที่ฟางถังถังกลับมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ฟุบลงไปกับเคาน์เตอร์ ตะโกนออกไปทางบาร์เทนเดอร์ “เอามาอีกแก้ว อร่อยจัง…”
บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์มองฟางถังถังไปด้วยใบหน้าเศร้า “เพื่อนของคุณยังอยากดื่มนี่ครับ ต้องเอาให้เธอมั้ย?”
ฟางถังถังนึกถึงสายเมื่อครู่ แล้วมองดูสภาพของเจียงเสี่ยวไป๋อีกที จากนั้นก็พยักหน้าออกมา “ให้เธอไปเถอะ”
บาร์เทนเดอร์หน้าเคาน์เตอร์จำต้องเอาเหล้าให้เจียงเสี่ยวไป๋ไปอีกแก้ว
เจียงเสี่ยวไป๋ถือเหล้าก้มหน้าลงดื่มไปอย่างว่าง่าย ไม่ส่งเสียงดังเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เซียวซู่จะมา ฟางถังถังก็คิดว่าตนไปไหนไม่ได้เลย ก็เลยต้องยืนอยู่ข้างๆเจียงเสี่ยวไป๋เฝ้าเธอไป
เห็นเจียงเสี่ยวไป๋ก้มหน้าก้มตาตั้งใจดื่มอย่างเอาจริงเอาจัง เธอก็ยังส่ายหน้าออกมาอย่างจนใจ
คนคนนี้ดื่มเหล้าทำไมถึงได้มีท่าทางเหมือนอย่างกับดื่มนมไม่มีผิด…
“เสี่ยวไป๋” น้ำเสียงของฟางถังถังอ่อนโยนขึ้นมา “ฉันบอกเธอเอาไว้เลยนะ เหล้าแก้วนี้เป็นแก้วสุดท้ายแล้วนะ ดื่มแก้วนี้เสร็จ อีกเดี๋ยวเธอก็กลับบ้านดีๆไปซะนะ เข้าใจมั้ย?”
ในระหว่างที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังดื่มเงียบๆอยู่นั้น ไม่ได้ตอบและไม่ได้โต้กลับมาเหมือนกัน และก็ไม่รู้ว่าได้ยินสิ่งที่เธอพูดหรือเปล่า
ฟางถังถังจำต้องส่ายหน้าออกมา จากนั้นก็ตบลงไปบนบ่าของเจียงเสี่ยวไป๋เบาๆ เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนออกมาต่อ “ดื่มแก้วนี้เสร็จแล้ว จะดื่มอีกไม่ได้แล้วนะ”
เสียงพูดเพิ่งจะหลุดออกมา เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นทันที ดื่มเหล้าไปจนหมดเกลี้ยง จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นมา มองมายังฟางถังถังด้วยใบหน้าแดงก่ำ เอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”
“…”
อยากตบคนจริง!
มุมปากของฟางถังถังแสยะออกมา “ฉันว่าเธอดื่มต่อไม่ได้แล้วนะ ดื่มอีกฉันจะขายเธอทิ้งซะ! ได้ยินหรือยัง!”
สุดท้ายคำพูดนั้น ฟางถังถังพลันดุขึ้นมาทันใด ดูมีท่าทีขึงขังออกมา
เจียงเสี่ยวไป๋ถูกเธอทำเอากลัวขึ้นมา มองเธอไปเงียบๆอยู่นาน จากนั้นก็ฟุบหลับลงไปกับเคาน์เตอร์อย่างน่าเอ็นดู เอ่ยพูดพร้อมกับยู่ปากออกมา “งั้นก็เอาเถอะ ไม่ดื่มแล้ว”
นึกไม่ถึงว่าเธอจะเชื่อฟังขนาดนี้ ฟางถังถังเองก็แปลกใจสุดๆเหมือนกัน แต่เพียงไม่นานก็ได้สติกลับมา เอื้อมมือออกไปลูบท้ายทอยของเจียงเสี่ยวไป๋ลูบไปพลางพูดออกมาพลาง “เสี่ยวไป๋เด็กดี เสี่ยวไป๋เชื่อฟังที่สุด ตอนนี้เธอก็รอคนมารับเธออยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวกลับบ้านไปแล้วก็นอนหลับไปซะนะ”
“อือ ได้เลย…” เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังคงฟุบรออยู่บนเคาน์เตอร์อย่างเชื่อฟัง
บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์มองตะลึงอยู่ข้างๆ อันที่จริงท่าทางที่แสดงออกมาของเจียงเสี่ยวไป๋เมื่อก่อนหน้านี้ล้วนแล้วแต่จะดูเป็นผู้ชายหยาบกระด้างเอามากๆ สวมเสื้อยืดหลวมๆตัวนึง แล้วสวมกางเกงตัวใหญ่ ไม่มีความเป็นผู้หญิงเลย
จากนั้นเธอก็ยังแบกเซียวซู่กลับไป บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าเคาน์เตอร์ก็เข้าใจมาตลอดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งเอามากๆ
อ้อ ก็คงเป็นใบหน้าที่ดูสวยนั้น แต่กลับเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจที่แข็งกล้า
นึกไม่ถึงว่าจะมีด้านที่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างนี้ด้วย บาร์เทนเดอร์กะพริบตาปริบๆออกมา จ้องมองเจียงเสี่ยวไป๋ไปอย่างละเอียด แล้วจับไปที่หัวใจของตัวเอง
โอ๊ะโอ ความรู้สึกใจเต้นขึ้นมานี่มันอะไรกัน?
ผู้หญิงน่ารักๆอย่างนี้ถูกปากเขาเป็นที่สุด
“นายทำอะไร?” ในตอนที่บาร์เทนเดอร์กำลังเพ้ออยู่นั้นเอง ฟางถังถังก็ยกมือขึ้นกอดอก จ้องมองเขาด้วยใบหน้าดุดัน ท่าทางเหมือนอย่างกับแม่ที่กำลังปกป้องลูก
“แฮะๆ…” บาร์เทนเดอร์ได้สติกลับมาก็ได้รู้ตัวทันทีว่าเมื่อกี้นี้ตนทำอะไรลงไป จึงลูบคออย่างทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็เอ่ยพูดออกมา “ไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ”
ฟางถังถังเอ่ยพูดฮึดฮัดออกมา “หลอกฉันให้มันน้อยๆหน่อย นายมองเสี่ยวไป๋ของเราใช่มั้ย? ฉันบอกนายเอาไว้เลยนะว่าเสี่ยวไป๋ของเรามีเจ้าของแล้ว อย่าคิดหวังจะแอ้มเธอไปเลย ไม่อย่างนั้นแล้วมารดาจะหักแขนแกซะ ได้ยินแล้วยัง?”
บาร์เทนเดอร์ “…”
เขาอยากร้องไห้จริงๆ เขาทำผิดอะไร? ทำไมผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนคนนี้จู่ๆถึงได้มีด้านที่ดูโหดร้ายอย่างนี้ออกมาได้?
แล้วทำไมคนที่รับเคราะห์ถึงได้เป็นเขาอยู่ตลอด!
ตอนที่เซียวซู่มา เจียงเสี่ยวไป๋ก็นอนฟุบอยู่กับเคาน์เตอร์ ฟางถังถังเห็นเขาก็โบกมือไปทางเขาอย่างสุดแรง
เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เซียวซู่ก็สาวก้าวยาวๆเข้าไป
“ดีจริงๆ ในที่สุดคุณก็มาแล้ว” ฟางถังถังเห็นเซียวซู่ก็ผ่อนลมหายใจแรงๆออกมา จากนั้นก็พูดไปถึงเจียงเสี่ยวไป๋ “เธอดื่มจนเมาไปแล้ว ฉันผู้หญิงคนเดียวไม่มีปัญญาพาเธอกลับไป แล้วฉันก็ได้ข่าวว่าตอนนี้เธอก็พักอยู่กับคุณ ก็เลย…ขอรบกวนคุณแล้วกันนะคะ?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้วเซียวซู่ก็ขมวดคิ้วออกมา ผู้หญิงคนนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็เล่าให้คนอื่นฟังไปทั่วเลยหรือไง?
แต่หน้าของผู้หญิงคนตรงหน้าก็คุ้นเอามากๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นที่อยู่กับเจียงเสี่ยวไป๋ตลอด ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนคงดีมากๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วล่ะก็ การที่บอกกับเธอไปทุกเรื่องมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เซียวซู่ก็เม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้าออกมา “อืม แล้วเธอล่ะ?”
“ฉัน?” ฟางถังถังนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย หลุดหัวเราะออกมาทันที “ฉันยังมีธุระอื่นอยู่น่ะ ส่วนเสี่ยวไป๋ก็ขอฝากคุณด้วยแล้วกันนะคะ~ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบ ฟางถังถังก็หายวับไปจากตรงหน้าของพวกเขาไปในทันที
เซียวซู่อยากจะพูดอะไรก็ไม่ทัน ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่าทั้งๆที่ทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ ทำไมฟางถังถังถึงต้องโทรให้เขามาด้วย
เธอเมาจนอยู่ในสภาพอย่างนี้ ไม่ควรเรียกคนในครอบครัวเธอมาหรอ?
ส่วนเซียวซู่ที่ทั้งไม่ใช่แฟนของเธอ แล้วยังไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ ดังนั้นแล้วตอนที่เธอโทรมา เซียวซู่ก็รู้สึกแปลกใจสุดๆ
แต่เขาก็ยังมา
คิดว่าผู้หญิงเมาอยู่ที่บาร์เหล้าตามลำพังไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยอะไร
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เซียวซู่เดินเข้าไปดันไหล่ของเจียงเสี่ยวไป๋ “ลุกขึ้น กลับบ้าน”
เสียงของเขาเย็นชา ฟังดูแล้วไม่ได้มีความอ่อนโยนเลย บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ข้างๆเห็นภาพฉากนั้น แล้วยังกะพริบตาออกมา พอได้ลองนึกไปถึงท่าทางน่ารักไร้เดียงสาเมื่อกี้นี้ของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาถึงขนาดที่คิดขึ้นมาว่าถ้าเขาเป็นแฟนของเธอล่ะก็ จะไม่เย็นชากับเธอในเวลานี้แน่
เป็นผู้ชาย ก็ต้องอุ้มเธอขึ้นมา แล้วกลับบ้านไปเลยสิ!
ผลักไหล่อะไรกัน?
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เซียวซู่ก็เอื้อมมือผลักออกไปอีกครั้ง “ลุกขึ้น”
เจียงเสี่ยวไป๋ถูกผลักไปสองที เงยหน้าขึ้นมาด้วยความไม่สบอารมณ์เล็กน้อย จ้องมองไปยังคนที่มา
เซียวซู่ในตอนนี้เองก็ได้มองเห็นท่าทางของเจียงเสี่ยวไป๋ได้อย่างชัดเจน
ในตอนที่เธอลืมตาออกมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงไปหมด ไม่เพียงแค่นั้นแม้แต่แก้ม ลำคอ ใบหูก็แดงไปหมด
“…”
นี่ดื่มไปเท่าไหร่เนี่ย? เซียวซู่หมดคำพูด คิ้วเองก็ขมวดเข้าหากันแน่น สายตาที่มองเจียงเสี่ยวไป๋ดูไม่สบอารมณ์ออกมาเล็กน้อย
เดิมทีก็คิดว่าเธอจะลุกขึ้นมาเสียอีก แต่ใครจะรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋เพียงแค่สบตากับเขาไปเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็ฟุบหลับไปดังเดิม
ในที่สุดบาร์เทนเดอร์คนนั้นก็ทนดูไม่ไหวอีกต่อไป จึงได้ก้าวเข้ามาพูดว่า “น้องชายท่านนี้…ผมขอเตือนน้องชายหน่อยนะ คืนนี้แฟนของน้องชายดื่มไปเยอะมาก น้องชายให้เธอลุก ผมขอเดาว่าถึงเธอจะลุกขึ้นมาแต่ก็ไปไหนไม่ได้หรอกครับ น้องชายอุ้มเธอกลับไปไม่ดีกว่าหรอ?”
เขาสบถออกมา ตัวเขานั้นเนื่องจากทนดูไม่ไหวจริงๆก็เลยได้แนะนำออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าทันทีที่หลุดเสียงออกไปสายตาดุดันของเซียวซู่จะจ้องมองมายังเขา
บาร์เทนเดอร์คนนั้นช็อกตกใจขึ้นมา รีบโบกมือพูดออกมาทันที “น้องชายทำเป็นว่าผมไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกันนะ”
พูดจบก็หันไปต้อนรับลูกค้าคนอื่น
เซียวซู่ก็ได้ถือโอกาสนั้นเอื้อมมือออกไปคว้าแขนของเจียงเสี่ยวไป๋เอาไว้ แล้วยกเธอขึ้นมา