เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1336 ออดอ้อนเขา

บทที่1336 ออดอ้อนเขา

แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ ทำได้เพียงเดินตรงจากข้างๆออกไป

“คุณบอกมาตรงๆเลยนะ ฉันเมาแล้วน่าเกลียดมากใช่มั้ย? หรือว่า…ฉันพูดอะไรที่ไร้สาระไป หรือไม่ก็ทำเรื่องแปลกๆออกมากัน?”

คำพูดตรงท่อนสุดท้ายนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ถามออกไปอย่างชัดเจน เธอคิดว่าเซียวซู่ก็ควรจะพูดออกมาให้ชัดเจนสิถึงจะถูก

แต่เซียวซู่นั้นแท้จริงแล้วตอนแรกก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะถามตนออกมา คิดว่าเธอจะอาย แล้วอยากจะมาขอโทษเขา แต่ตอนนี้ล่ะ?

เซียวซู่หยุดกินไป แล้วมองเธอเข้าไปอย่างลึกซึ้ง

“ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนเธอจะลืมมันไปหมดแล้ว?”

เจียงเสี่ยวไป๋นิ่งตะลึงไปเล็กน้อย ตอบโต้กลับไปด้วยรอยยิ้มทันที “เปล่าค่ะๆ ฉันจะลืมมันได้ที่ไหนกัน ฉันก็แค่อยากลองถามความคิดเห็นของคุณดูเท่านั้นเองมั้ยล่ะ ก็เลยลองถามดูสักหน่อยเอง”

เฮอะ…เซียวซู่หัวเราะอยู่ในลำคอ ก้มหน้ากินบะหมี่ต่อ ไม่ได้ตอบคำถามของเธอออกไปเลย

“เธอว่ายังไงล่ะ”

“เฮ้…คุณพูดมาสิ!” เจียงเสี่ยวไป๋เอื้อมมือออกไปผลักแขนของเขา “คุณอย่ามัวแต่กินมื้อเช้าอยู่เลยได้มั้ยคะ? ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ ตอบอะไรมาสักหน่อยสิ!”

เซียวซู่เงยหน้าขึ้นมา มองเธออย่างเอาจริงเอาจังแล้วเอ่ยพูดออกมา “เจียงเสี่ยวไป๋ ฉันว่า…ต่อจากนี้ไปเธออย่าเมาอีกเลยดีกว่า”

พูดจบ เขาก็เอียงหัวเหมือนกับว่าจะกำลังขบคิดอย่างเคร่งเครียดอยู่ คิดเสร็จก็พูดเสริมออกมาอีกครั้ง “คนทั่วไปเขารับไม่ไหวกันแล้ว”

อะไรนะ?

เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึง

คนทั่วไปเขารับไม่ไหวกันแล้ว?

คำพูดนี้ มันหมายความว่าอะไรกัน? หรือจะบอกว่าเมื่อคืนเธอแสดงกิริยาน่าเกลียดออกมางั้นหรอ? ตกลงเมื่อคืนเธอแสดงกิริยาน่าเกลียดจนกลายเป็นแบบไหนออกมากันแน่?

อ้วก? หรือว่าจะอาละวาด? ร้องเพลง? หรือว่าจะกอดเซียวซู่แล้วทึ้งเสื้อผ้าของเขา?

จากที่กล่าวมาข้างต้นไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เจียงเสี่ยวไป๋ล้วนแล้วแต่ไม่อาจรับได้ทั้งนั้น

เธอจับแขนเสื้อเซียวซู่แน่น ไม่ยอมปล่อย

“หมายความว่าอะไรหา…คนทั่วไปรับไม่ได้? เมื่อคืนฉันทำอะไร?”

เซียวซู่มองท่าทางของเธอ แววตาและสีหน้าที่แสดงออกมาต่างก็ดูไม่สบายใจอย่างมาก เหมือนกับว่าจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะลืมเรื่องเมื่อคืนไปหมดแล้วจริงๆ

ตรงจุดนี้เซียวซู่นั้นรู้สึกแปลกใจสุดๆ ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่เธอก่อเองแท้ๆ ทำไมเธอถึงได้ลืมมันไปจนหมด นึกไม่ออกเลยสักนิดเดียว?

“คุณบอกมาสิ?” เจียงเสี่ยวไป๋เห็นเขาเอาแต่มองเธออยู่อย่างนั้น แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา ในใจก็ยิ่งรู้สึกร้อนรนขึ้นมา เขย่าแขนเซียวซู่ไปไม่หยุด

“เธอนึกไม่ออกสักนิดเลยจริงๆน่ะหรอ?” เซียวซู่ถาม

เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้าออกมา “นึกไม่ออกจริงๆ ถ้าฉันนึกออก ฉันจะยังถามคุณอีกหรอ?”

“นึกอะไรไม่ออก?” ริมฝีปากของเซียวซู่แสยะยิ้มออกมา “ถ้านึกไม่ออกก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอหรอก”

พูดจบ เซียวซู่ก็ลุกยืนขึ้น ตบไหล่เพื่อเป็นการปลอบใจเจียงเสี่ยวไป๋ “ไม่เป็นไร สภาพเธอเมื่อคืนไม่มีใครเห็น และฉันก็ไม่ได้ถ่ายมันเอาไว้ ดังนั้นก็วางใจเสียเถอะ” จากนั้นก็เดินออกไปในระหว่างที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังตื่นตะลึง

เจียงเสี่ยวไป๋นิ่งตะลึงอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา จนในตอนที่เธออยากจะไปถามเซียวซู่ให้ชัดอีกที ก็ได้พบว่าเซียวซู่ได้ออกไปทำงานเสียแล้ว!

“อ้าก! ไอ้ผู้ชายสันดานเสีย!” เจียงเสี่ยวไป๋โกรธเสียจนต่อว่าเซียวซู่ออกไปเสียงดัง “ถามคุณอยู่ตั้งนานแต่คุณกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำ พูดสักหน่อยมันจะตายหรือไง? น่าโมโหจริงๆ!”

เธอพุ่งตัวกลับห้องไปหาโทรศัพท์ของตัวเองด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หลังจากที่หยิบโทรศัพท์มาแล้วนั้นก็ได้พบว่าโทรศัพท์ของตัวเองหมดแบต เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยต้องเสียบสายชาร์ต จากนั้นก็โทรหาฟางถังถังไปทันที

ในตอนที่ปลายสายรับนั้น เสียงหัวเราะเยาะของฟางถังถังก็ดังออกมาจากปลายสาย

“ทาดา~ สหายเจียงเสี่ยวไป๋ เมื่อคืนรู้สึกเป็นยังไงบ้างยะ? ได้ทำอะไรจริงๆกับแฟนหลอกๆของเธอหรือเปล่า? วันนี้ได้เปลี่ยนเขาเป็นแฟนจริงๆแล้วหรือยังหา?”

ได้ยินคำพูดเย้าแหย่นี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็พอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหลังจากที่เธอเมาขึ้นมาได้ทันที

“ฟางถังถัง เธอบอกมาสิ เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ยาวๆแล้วใช่มั้ย?” เจียงเสี่ยวไป๋กัดฟันเอ่ยออกมา “เมื่อคืนเธอเป็นคนเรียกเซียวซู่มาใช่มั้ย?”

“เพื่อนสาว เธอฟังฉันอธิบายก่อนมั้ย? ฉันเห็นเธอดูหดหู่ใจเพราะความรัก แล้วยังดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมความทุกข์จนกลายเป็นอย่างนั้นด้วยอีก ฉันก็เลยเรียกเขามาให้เธอ มีอะไรไม่ดีกันล่ะ?”

“เหอะๆ งั้นเธอก็ทำเรื่องที่ดีจริงๆเลยนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว ถึงยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนรักกันนี่ ฉันจะต้องคิดเพื่อเธออยู่แล้ว”

ฟางถังถังตื้นเต้นดีใจออกมาเสร็จ ก็พูดบ่นออกมาอีกครั้ง “ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเธอก็ดื่มเสียจนเมามาก ลำพังแค่กำลังของฉันคนเดียวไม่มีทางจัดการเธอได้ อีกอย่าง…เธอเมาจนกลายเป็นอย่างนั้น ฉันจะไปหาพ่อเทพบุตรของฉันอย่างสบายใจได้ยังไง? ฉันก็เลยต้องเรียกเซียวซู่มา เพื่อจะได้ช่วยให้พวกเธอได้สมหวังกันด้วยเลยไง”

“…เมื่อคืน ตกลงฉันเมาจนเป็นยังไงกันแน่? เธอรู้หรือเปล่า?” เจียงเสี่ยวไป๋ไม่อยากพูดไร้สาระกับเธออีก เธออยากรู้ว่าหลังจากที่เธอเมาเธอทำอะไรไปบ้าง

ฟางถังถังถูกคำถามนี้ทำเอางงงวยไปเล็กน้อย แล้วก็ได้ตอบคำถามไปตามความจริง

“รู้สิ ก็แดงไปทั้งตัว แล้วก็เอาแต่แสดงท่าทางใสซื่อไร้เดียงสา ยืนก็ยืนไม่ตรง แล้วยังเชื่อฟังเป็นพิเศษ ฉันบอกให้เธอนั่งนิ่งๆอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ เธอก็นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน”

ได้ยินคำบรรยายของเพื่อนรักแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกว่าฟังไปแล้วเหมือนกับว่ามันก็ปกติดีอยู่นี่?

แต่จากปฏิกิริยาของเซียวซู่แล้ว ก็คิดว่ามันคงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

“ไม่สิ เธอโกหกฉันใช่มั้ย?” เจียงเสี่ยวไป๋เสียงดุออกมา “เธอบอกฉันมาตรงๆเลยเถอะว่าตอนฉันเมาฉันมีสภาพยังไงกันแน่?”

“ก็อย่างที่ฉันเพิ่งพูดไป นอกจากนี้ก็ไม่มีแล้วนะ เป็นอะไรไปล่ะเสี่ยวไป๋? หรือว่าเธอยังทำเรื่องอะไรที่น่าอับอายอะไรเอาไว้อีก?”

“ถ้าฉันรู้ก็คงไม่ต้องถามเธอแล้ว!” เจียงเสี่ยวไป๋โมโหขึ้นมา “ที่เธอว่ามาเมื่อกี้ทั้งหมดมันจริงหรอ? หลังจากที่ฉันเมาก็ว่าง่ายขนาดนั้นเลย? ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าฉันจะเหมือนกับผู้หญิงบ้าคนนึงเลยล่ะ?”

“คิดมากไปแล้วเสี่ยวไป๋ นั่นมันเป็นสิ่งที่อยู่ในละครทั้งนั้น ชีวิตจริงจะเป็นไปได้ยังไง? เธอวางใจเถอะ ฉันเห็นเธอปกติเอามากๆ จะต้องไม่มีทาง…” พูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆฟางถังถังก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้คำพูดก็เลยหยุดชะงักไป “อ้า ที่เธอว่ามาอย่างนี้ ฉันก็เหมือนจะนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้”

“อะไร?” เจียงเสี่ยวไป๋กุมโทรศัพท์แน่น คิ้วสวยขมวดเข้าหากันพร้อมเอ่ยถามออกไปอย่างแวดระวัง

“หลังจากที่เซียวซู่มา ฉันก็ไป แต่ตอนหลังฉันก็ยังรู้สึกไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ใช่มั้ยล่ะ ก็เลยกลับไปดูพวกเธอสักหน่อย แล้วตอนที่ฉันไป ก็เห็นว่าเธอกอดเก้าอี้พูดอะไรไม่รู้กับเซียวซู่อยู่พอดี หลังจากนั้นเซียวซู่ก็นั่งลง แล้วเธอก็กระโจนไปบนหลังของเขาอย่างกับเสือร้ายตัวนึงไม่มีผิด ไม่ใช่อะไรแต่ฉันว่านะ…เสี่ยวไป๋เธอนี่หยาบคายเกินไปจริงๆ ตอนนั้นฉันเห็นเซียวซู่เกือบจะถูกเธอชนล้มไปกับพื้นแล้ว พละกำลังนี้ของเธอ ก็คือจะทำตัวเองเป็นวัวเลยหรือไง?”

เจียงเสี่ยวไป๋ “…”

เธอกระโจนเข้าไปที่หลังของเซียวซู่? แล้วยังเกือบจะชนจนเซียวซู่ล้มอีก?

“จริงสิ ตอนนั้นในตอนที่เธอคุยกับเซียวซู่ สีหน้าอันที่เรียกว่าเขินอายอันนั้น เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ฉันว่าเธอกำลังออดอ้อนเซียวซู่อยู่?”

“ฉัน? ฉันอ้อนเซียวซู่?”

เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นความจริงไปได้ จึงหัวเราะเหอะๆอย่างเย็นชาออกมา “จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันเจียงเสี่ยวไป๋จะไปอ้อนเขาได้ยังไงกัน?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset