บทที่1343 เหมือนกับกลืนเข็มลงไป
ดังนั้นในตอนที่เธอไปหาหานชิงนั้น ในระหว่างที่หานชิงอยู่ในระหว่างการประชุม เธอก็รอจนนอนหลับไปบนโซฟา
ตอนที่หานชิงเข้ามา เสี่ยวเหยียนก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เธอหลับเป็นตาย
หานชิงไม่ได้รบกวนเธอ เข้าไปในห้องพักหยิบผ้าห่มมาห่มให้เธอ เพื่อไม่ให้เธอโดนอากาศเย็นจนจับไข้ จากนั้นก็ไปทำงานต่อ
หานชิงคิดว่าเสี่ยวเหยียนจะตื่นขึ้นมาเองในระหว่างนั้น
แต่จนถึงตอนเลิกงานแล้ว เธอก็ยังนอนอยู่
ดังนั้นแล้วสุดท้ายหานชิงก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเสี่ยวเหยียนด้วยจิตใจที่เป็นกังวล แต่ก็พบว่าเธอหายใจคงที่ นอนจนหน้าแดงไปหมด
แต่บนใบหน้าขาวนั้นปรากฏขอบตาที่ดำคล้ำออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนมาก
นี่จึงเป็นสาเหตุที่วันนี้เธอนอนนานอย่างนี้งั้นหรอ?
สาวน้อยของเขาช่วงนี้ทำอะไรอยู่?
คิดถึงตรงนี้แล้ว หานชิงก็ได้นั่งยองๆตรงหน้าโซฟา ค่อยๆยื่นมือออกไป
ปลายนิ้วที่อ่อนโยนจรดลงไปตรงบริเวณรอบดวงตาของเสี่ยวเหยียน การกระทำของเขาเป็นไปอย่างเบาๆ เหมือนกับแมลงปอเดินบนน้ำก็ไม่ปาน
ประตูห้องทำงานไม่ได้สนิทดี สวี่เย็นหวั่นที่เตรียมจะเข้ามาหาหานชิงนั้นในตอนที่ยกมือขึ้นมาจะเคาะประตู ก็เห็นเข้ากับภาพนั้นพอดี
เธอตกตะลึงอยู่กับที่
หานชิงที่เย็นชามาตลอด นึกไม่ถึงว่าจะมีสายตาที่อ่อนโยนอย่างนี้กับคนอื่นเขาเหมือนกัน ย่อตัวนั่งลงตรงหน้าหญิงสาวคนนึง นิ้วมือสัมผัสลงไปเบาๆบนหนังตาของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง
สายตาที่นอกจากความรักใคร่ ยังมีความโหยหาและความเอ็นดูที่ท่วมท้น
สวี่เย็นหวั่นรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเจ็บเหมือนกับมีเข็มทิ่มแทงลงมาทันที
ทำไม ต้องให้เธอเห็นภาพนี้ด้วย?
สวี่เย็นหวั่นรู้ว่าตัวเองไม่อาจมองต่อไปได้อีกแล้ว แต่เท้าของเธอมันไม่ขยับเลย ยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม มองผู้ชายที่ตนชอบคนนั้น กำลังมองผู้หญิงที่ไม่ใช่ตัวเองด้วยสายตารักใคร่
หัวใจก็เหมือนกับกลืนเข็มลงไป
ในตอนที่สวี่เย็นหวั่นควบคุมฝีเท้าตัวเองเตรียมที่จะเดินออกไปนั้นเอง หานชิงก็เหมือนจะสังเกตเห็น มองมาทางฝั่งที่เธอกำลังยืนอยู่
สบเข้ากับสายตาของเขาพอดี
สวี่เย็นหวั่นนิ่งตะลึงไปแป๊บนึง หลบสายตาไปอย่างตื่นตกใจ เหมือนกับแมวขโมยที่ถูกจับได้ ถอยออกไปหลายก้าวยืนอยู่ด้านนอกประตูไม่ส่งเสียงไม่ขยับเขยื้อน
หานชิงเม้มริมฝีปากบางเอาผ้าห่มบนตัวของเสี่ยวเหยียนห่มลงไปให้ดี จากนั้นก็เดินออกไป
หลังจากที่ออกไป มือของเขาก็ดึงประตูปิดลง อยากจะกั้นเสียงด้านนอก อย่างนี้จะได้ไม่เสียงดังไปถึงเสี่ยวเหยียนที่อยู่ด้านใน
“มาหาฉันมีธุระ?””
ได้ยินอย่างนั้น สวี่เย็นหวั่นก็ช้อนสายตามองเขา
เมื่อเทียบกับเมื่อกี้นี้แล้ว ในแววตาของหานชิงในตอนนี้ไม่มีแววตาของความรักใคร่ใดๆ ในตอนที่มองเธอนั้นแววตาจะเป็นปกติ เหมือนกับคนอื่น
นึกไม่ถึงว่าเธอรู้จักกับเขามาตั้งหลายปี แม้ตาสายตาของพิเศษที่มองมาก็ยังไม่มีเลย
ดูเหมือนว่าเขาเอาข้อยกเว้นทั้งหมดของตัวเองเทไปทางผู้หญิงคนนั้นหมดแล้วล่ะมั้ง
สวี่เย็นหวั่นยิ้มขมขื่นอยู่ในใจ แต่บนใบหน้ากลับไม่ปรากฏออกมาเลยแม้แต่น้อย เอ่ยพูดออกมาเบาๆ “ก็แค่อยากมาขอบคุณคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีธุระอะไร ในเมื่อคุณยุ่งอยู่ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”
นึกไม่ถึงว่าหานชิงจะเรียกสวี่เย็นหวั่นเอาไว้ แต่ในน้ำไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย “ถ้ามีโอกาส ก็เรียกหลินสวี่เจิ้งมา พวกเราทุกคนมารวมตัวกันสักหน่อยเถอะ”
ได้ยินว่าเขาอยากให้ทั้งสามคนมารวมตัวพร้อมกัน สติของสวี่เย็นหวั่นก็เหมือนจะกู่ไม่กลับไปเล็กน้อย
ตรงหน้าเหมือนกับมีภาพเมื่อก่อนก่อนที่ทั้งสามคนเคยอยู่ด้วยกันปรากฏแก่สายตาออกมา ตอนเด็กๆทั้งสามคนเคยชุมนุมอยู่ด้วยกัน สวี่เย็นหวั่นนั้นเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด และเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียว ก็เลยได้รับการดูแลมากที่สุด
เดิมทีเขาคิดว่าการดูแลอย่างนี้จะสามารถดำเนินต่อเนื่องไปอีกนาน นึกไม่ถึงว่าตอนนี้มันจะกลายมาเป็นอย่างนี้ไปเสียได้
มุมปากของสวี่เย็นหวั่นเผยรอยยิ้มจางๆออกมา น้ำเสียงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆเหมือนกัน
“ฉันว่าไม่ต้องหรอก ถึงยังไงคุณกับพี่หลินทั้งสองคนก็คงยุ่งกันมาก ส่วนฉันก็ต้องทำงาน ถึงแม้ว่าคุณจะย้ายให้ฉันมาอยู่ตำแหน่งสบายๆ แต่ฉันก็ไม่อาจละเลยหน้าที่ได้หรอกนะ ยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลสวี่อีกแล้ว หลายเรื่องก็ไม่สามารถเป็นอิสระได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว”
หานชิงจ้องมองเธอ “เธอควรจะรู้ว่าถ้าเธอยอม มันก็สามารถเป็นได้…”
คำพูดของเขายังไม่ทันได้พูดจบ สวี่เย็นหวั่นถอยหลังกลับไปก้าวใหญ่ๆ ดูเหมือนกับว่าจะเป็นการระแวดระวังอย่างมาก จ้องมองหานชิงไม่วางตา “ไม่ต้องหรอก คุณสามารถช่วยฉันย้ายงานได้ ฉันก็ดีใจมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลสวี่กับตระกูลหานเพียงแค่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ได้มีคอนเน็กชั่นหรือความสัมพันธ์ที่พิเศษอะไรกัน ดังนั้นแล้วถ้าคุณช่วยมากไปมันจะยิ่งเป็นการไม่เคารพกฎเอานะคะ ตอนนี้คุณเป็นคนที่มีแฟนแล้ว ส่วนฉัน ในฐานะที่เป็นผู้หญิงโสดคนนึง ก็ควรอย่ารับความช่วยเหลือจากคุณให้มากไปเสียจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้ว…”
พูดถึงตรงนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นมองประตูห้องทำงานด้านหลังหานชิง รอยยิ้มจางๆออกมา “ถึงตอนนั้นทำให้แฟนของคุณเข้าใจผิดขึ้นมา ฉันแบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะคะ”
หานชิงขมวดคิ้ว พูดต่อออกมาทันที “เหยียนเหยียนไม่มีทางเข้าใจฉันผิดหรอก”
สวี่เย็นหวั่นนิ่งอึ้งไป “ไม่มีทางเข้าใจผิดคุณ? คุณแน่ใจขนาดนั้นเชียว? เธอเชื่อใจคุณขนาดนั้น?”
แน่นอนว่าในใจของหานชิงนั้นบอกว่าวางใจและเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าหานชิงจะไม่ได้ตอบคำถามของสวี่เย็นหวั่นไปให้ชัดเจน แต่สีหน้าที่แสดงออกมาของเขานั้นได้อธิบายทุกอย่างแล้ว สวี่เย็นหวั่นคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องถามต่อ ยิ่งถามมากรังแต่จะทำให้เจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
“เอาเถอะ ก็ถือเสียว่าไม่มีทางเข้าใจผิด เธอเป็นคนดีคนนึงเลย ก่อนหน้าตอนที่ฉันอยู่โรงพยาบาลก็เอาอาหารมาให้ฉัน งั้นคุณก็ถือว่าฉันกลัวคนอื่นเข้าใจผิดแล้วกันนะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ”
หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นเดินออกไปแล้ว หานชิงก็ยืนมองแผ่นหลังที่กำลังเดินออกไปของเธออยู่ตรงที่เดิม แววตาเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ ด้านหลังก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น หานชิงหันไปก็เห็นเสี่ยวเหยียนยืนขยี้ตาอยู่ตรงนั้น “คุณประชุมเสร็จหรือยัง? ทำไมรู้สึกเหมือนฉันจะหลับไปนานมาก คุณเพิ่งกลับมาหรอ?”
ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว หานชิงแน่ใจได้เลยว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่ของพวกเขา เธอคงจะตื่นขึ้นมาเองไม่ได้ถูกเสียงดังรบกวนจนตื่นขึ้นมา เขาก็เลยเดินเข้าไปลูบหัวเสี่ยวเหยียนเบาๆ “อืม เพิ่งจะประชุมเสร็จ นอนหลับสนิทดีหรือเปล่า?”
ถูกถามออกมาอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนก็เขินอายขึ้นมาเล็กน้อย เพราะว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองนอนไปนานมาก มองหานชิงที่อยู่ตรงหน้า เสี่ยวเหยียนคิดอยู่สักพัก แล้วเดินเข้าไป ถูไถไปที่ในอ้อมกอดของเขาด้วยอาการงัวเงีย จากนั้นก็โอบเอวของเขา “ฉันหลับไปนานมากเลยใช่มั้ยคะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ?”
นานจริงๆนั่นแหละ หานชิงคิด นอนตั้งแต่มาจนถึงเลิกงานจะไม่นานได้ยังไง? เพียงแต่หานชิงคิดว่าอย่าบอกเธอเลยจะดีกว่า เอื้อมมือออกไปลูบท้ายทอยของเธอ “หิวมั้ย? พาเธอไปกินข้าวเอามั้ย?”
กินข้าว?
เสี่ยวเหยียนรู้สึกร้อนตัวขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมพอตื่นขึ้นมาก็จะกินข้าวเลย? เธอไม่ใช่หมูเสียหน่อย หลักเหตุผลที่พอตื่นขึ้นมาแล้วจะกินเลยอยู่ที่ไหนกัน?
แต่ถูกหานชิงถามออกมาอย่างนี้แล้ว ความอยากอาหารในท้องของเสี่ยวเหยียนก็เหมือนจะถูกกระตุ้นขึ้นมา จนรู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ
เธอกะพริบตาปริบๆ มองไปทางหานชิง
“ดูเหมือนจะหิวขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว ฉันดูก่อน…”
สายตาที่เพิ่งตื่นนอนของเธอมันเบลอเล็กน้อย ตอนนี้ก็ยังถูไถอยู่บนหน้าอกของหานชิงเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว หานชิงที่จากเดิมไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอะไร แต่ไปๆมาๆแล้ว ก็ได้ถูกท่าทางอย่างนี้ของเธอกระตุ้นให้เกิดความปั่นป่วนใจขึ้นมาเล็กน้อย
ดังนั้นแล้วในตอนที่ได้ยินเสี่ยวเหยียนบอกว่าจะไปดูเวลา นิ้วมือของหานชิงก็จับไปที่คางนุ่มของเธอด้วยความอ่อนโยน โน้มตัวลงจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ