บทที่1345 ฉลองวันเกิดให้เขา
ขอบตาดำ?
ถูกเธอถามออกมาอย่างนั้น เสี่ยวเหยียนก็เขินอายเล็กน้อย เอื้อมมือออกไปลูบใต้เปลือกตาของตัวเองไปอย่างไม่รู้ตัว “ดูอาการหนักขนาดนั้นเลยหรอ?”
สวี่เย็นหวั่นเข้าไปดูใกล้ขึ้นอีกหน่อย “หนักมากเลยจริงๆ ช่วงนี้นอนหลับไม่สนิทหรอ? หรือว่าจะมีเรื่องด่วนอะไร?”
อันที่จริง เสี่ยวเหยียนไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใครเลย แต่พอคิดว่าสวี่เย็นหวั่นก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับตน แล้วยังรู้จักกับหานชิงมาตั้งแต่เด็กด้วยอีก คิดว่าบอกเรื่องนี้กับเธอไปก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ดังนั้นแล้วเสี่ยวเหยียนก็ได้บอกความคิดของตัวเองออกไปกับสวี่เย็นหวั่น
สวี่เย็นหวั่นหลังจากที่ได้ยินแล้วก็นิ่งตะลึงอยู่นาน ผ่านไปสักพักใหญ่ๆกว่าจะได้สติกลับมา “ความหมายของเธอก็คือ…เธออยากฉลองงานวันเกิดให้หานชิง?”
“อืม ใช่แล้ว” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “เดิมทีฉันอยากจะให้ของขวัญ แต่พอคิดๆดูแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่ขาดอะไรเลย อย่างนั้นแล้วไม่สู้ให้ฉันทำของที่มีคุณค่ากับมือมาเองน่าจะดีกว่า”
“แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่า…”
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยฉลองวันเกิดเลย
คำพูดนี้เกือบจะหลุดปากพูดออกไป แต่พอถึงริมฝีปาก สวี่เย็นหวั่นก็ชะงักไปอีกครั้ง
เพราะว่าเธอนึกภาพที่เห็นในห้องทำงานเมื่อกี้นี้ขึ้นมาได้พอดี
ผู้ชายที่ตนชอบย่อตัวนั่งลงตรงหน้าผู้หญิงอีกคน มองผู้หญิงอีกคนด้วยสายตาอ่อนโยนหลงใหล นั่นเป็นสิ่งที่สวี่เย็นหวั่นไม่เคยเห็นมาก่อน ในตอนที่หานชิงมองตนก็ไม่เคยจะมีสายตาอย่างนี้เช่นกัน!
“อะไร?” เสี่ยวเหยียนรู้สึกสนใจกับคำพูดตรงครึ่งหลังของเธอมาก แต่สวี่เย็นหวั่นพูดครึ่งนึงแล้วไม่พูดต่อ เธอก็เลยถามไปด้วยความอยากรู้
สวี่เย็นหวั่นได้สติกลับมา ยิ้มให้เธอไปเล็กน้อย แสร้งถามไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว “อา ความหมายของฉันคือ เธอได้เอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นหรือเปล่า?”
“ไม่เลย…”
“งั้นก็ดี” สวี่เย็นหวั่นยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยออกไปอีกครั้ง “อันที่จริงนี่เป็นเซอร์ไพรซ์ที่เธอจะทำให้เขา ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าถ้าเธอบอกคนเยอะไป ถ้าเกิดมีใครหลุดออกไปจะทำยังไง?”
“ไม่มีทางหรอก ฉันบอกแค่คุณ อ้อ จริงสิ ฉันยังถามพี่หลินแล้วนะ! ฉันได้ข่าวว่าพี่หลินโตมากับพวกคุณด้วยใช่มั้ย?”
“หลิน…สวี่เจิ้ง?” สวี่เย็นหวั่นในตอนที่ได้ยินชื่อนี้ ก็รู้สึกไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะพูดเรื่องนี้กับเขา แต่คิดๆไปแล้วมันก็ปกติ เพราะถึงยังไงความสัมพันธ์ของหลินสวี่เจิ้งกับหานชิง จะเป็นไปได้ที่จะไม่มีการติดต่อกับเสี่ยวเหยียนได้ยังไง?
แต่ เธอกับหลินสวี่เจิ้งพูดเรื่องนี้กันแล้ว หลินสวี่เจิ้งไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหรอ?
ว่ากันตามปกติแล้ว หลินสวี่เจิ้งก็ควรจะรู้เรื่องที่แต่ไหนแต่ไรมาหานชิงไม่เคยฉลองวันเกิดเลยสิ?
“อืม หลินสวี่เจิ้งนั่นแหละ”
“เธอเคยถามเขามาก่อน?”
“อืม มีอะไรหรอ?”
“ไม่มี” สวี่เย็นหวั่นได้สติกลับมา ยิ้มออกไปเล็กน้อย แววตาดูเศร้าออกมาเล็กน้อย
เมื่อกี้นี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่? เธอ นึกว่าเสี่ยวเหยียนจะไม่รู้เรื่องนี้เสียอีก นึกไม่ถึงว่าเธอจะรู้ ส่วนหลินสวี่เจิ้งนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ งั้นเขาก็เห็นด้วยกับการที่เสี่ยวเหยียนฉลองวันเกิดให้หานชิงด้วยเหมือนกัน ไม่แน่ว่าโรคเรื่องที่หานชิงไม่ฉลองวันเกิดได้ให้แฟนคนนี้รักษาให้ไปนานแล้ว
ถึงยังไงก็เป็นผู้หญิงที่ทั้งรักทั้งหลงเสียขนาดนั้น ก็ใช่สินะ…
นี่เธอกำลังคิดเพ้อฝันอะไร?
สวี่เย็นหวั่นคิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปจนน่ากลัว เมื่อกี้นึกไม่ถึงว่าเธอจะคิดใช้ประโยชน์จากความไม่รู้ของเสี่ยวเหยียนไปก่อเรื่องให้หานชิงโกรธ จากนั้นเพียงแค่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนร้าวฉาน สุดท้ายทั้งสองคนก็จะเลิกกัน
ถึงตอนนั้น…เธอก็จะ…
คิดถึงตรงนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นก็รีบหยุดความคิดของตัวเองทันที
“ฉันเข้าใจว่าเธออยากฉลองวันเกิดให้หานชิง แต่เธอก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีด้วย อย่าให้เป็นแบบที่ไม่ได้ฉลองวันเกิดเขา ร่างกายเธอกลับมาพังไปเสียก่อนล่ะ” สวี่เย็นหวั่นพูดไปพลางรินน้ำชาให้เสี่ยวเหยียนไปแก้วนึง แล้วดันไปตรงหน้าเธอ เอ่ยพูดเบาๆออกมา “ตอนนี้ขอบตาเธอดำมาก แค่ดูก็รู้ว่าอดนอนมาไม่น้อยเลย หานชิงไม่ถามเธอเลยหรอ?”
“อือ ไม่เป็นไรหรอก เมื่อตอนบ่ายฉันนอนในห้องทำงานเขาอยู่นานมาก การนอนหลับที่ขาดหายไปช่วงนี้ได้ทดแทนกลับมาแล้ว คุณกับเขาสนิทกันใช่มั้ยล่ะ? เรื่องนี้ก็เก็บเป็นความลับให้ฉันด้วยนะคะ”
สายตาของสวี่เย็นหวั่นเผยแววตาของความจนใจ พร้อมพยักหน้าออกมา
“ไม่งั้นล่ะ? ฉันยังจะบอกเขาได้อีกหรือไง?”
“ขอบคุณนะ!”
ผู้หญิงสองคนหลังจากที่กินข้าวด้วยกันแล้วก็ต่างบอกลากัน แล้วแยกย้ายกันไป
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนขึ้นรถ สวี่เย็นหวั่นก็ยืนอยู่ตรงที่เดิม มองไปยังทิศทางที่เธอออกไปเหมือนอย่างกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ถ้าหานชิงยอมแก้ปัญหาเรื่องที่ไม่ฉลองวันเกิดตัวเองเพื่อเธอจริงๆ งั้น…เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เธอคงไม่มีโอกาสอีกแน่
คิดถึงตรงนี้แล้ว สวี่เย็นหวั่นก็หลับตาลง
ยอมแพ้เถอะ ยอมแพ้เสียเถอะ
ถ้าเธอกับเขาเป็นไปได้ พวกเธอก็คงคบกันไปนานแล้ว จะมารออยู่ถึงตอนนี้ได้ยังไง? เมื่อก่อนเขาไม่ชอบเธอ ตอนนี้ก็ไม่มีทางจะชอบเธอเหมือนกัน
สวี่เย็นหวั่น นี่เธอกำลังฝันอะไรอยู่? รีบตื่นสิ รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว!
ทันใดนั้นเอง สวี่เย็นหวั่นลืมตาออกมาอีกครั้ง ในดวงตายังคงไร้ความสดใสออกมา
บางทีชั่วชีวิตนี้ของเธอคงหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว
**
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสี่ยวเหยียนได้พับนกกระเรียน9999ตัวจนเสร็จ ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของหานชิงแล้ว
ช่วงนี้เธอไม่เพียงแต่จะทำของที่ระลึกเสร็จ แต่ยังเจียดเวลาไปทำหนังสือรายงานการตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลอีก เตรียมที่เอารายงานนี้ให้หานชิงตอนฉลองวันเกิดวันพรุ่งนี้ ให้เขาได้ประหลาดใจ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไง?
เสี่ยวเหยียนเข้าสู่ห้วงความฝันไปด้วยความตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่างไม่มีสิ้นสุด
จากนั้นคืนวันนั้นเธอก็ฝัน
เธอฝันเห็นหานชิงได้รับรายงานแล้วก็ขอเธอแต่งงาน ในฝันเสี่ยวเหยียนมีความสุขเสียจนน้ำตาไหล จากนั้นก็ตอบรับคำขอแต่งงานของหานชิงไปทันที
ในตอนที่ตื่นขึ้นมา ขอบตาก็เปียกชื้นไปหมด
ทันใดนั้นเองเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าทำไม…
เธอลุกขึ้นนั่งปาดเช็ดน้ำตาตรงขอบตา ทั้งๆที่ความฝันเมื่อคืนนั้นจะเป็นเรื่องที่มีความสุขแท้ๆนะเนี่ย หานชิงขอเธอแต่งงาน ทำไมเธอถึงรู้สึกเสียใจกันล่ะ?
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป นั่งอยู่ตรงนั้นอยู่นานกว่าจะปรับอารมณ์ของตัวเองได้
จากนั้นก็ลงจากเตียงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวเอง เห็นของขวัญพวกนั้นกับหนังสือรายงานที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา
ก็คงเป็นเพราะเมื่อคืนเธอคิดมากเกินไปล่ะมั้ง ก็เลยทำให้จู่ๆก็รู้สึกเศร้าอย่างขึ้นมา
เสี่ยวเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่หวีผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เตรียมออกจากบ้าน
วันนี้เธอจองร้านอาหารเอาไว้ แล้วยังเตรียมเค้กกับไวน์แดงเอาไว้ด้วย แสงเทียนอะไรพวกนั้นก็มี
ถึงแม้ว่าเรื่องพวกนี้ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาจะเป็นผู้ชายที่จะเป็นคนทำ แต่เสี่ยวเหยียนไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้ ถึงยังไงทั้งสองคนก็คบกันแล้ว จะใครเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ สำหรับเธอแล้วมันไม่สำคัญเลย
สิ่งสำคัญก็คือ ทำกับใคร ผ่านมันไปกับใคร
ห้องที่เสี่ยวเหยียนจองเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆห้องหนึ่ง ตอนที่เข้าไปพนักงานก็บอกเธอว่าจัดสถานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว และยังบอกกับเธออีกว่า
“คุณจาง แฟนของคุณนี่โชคดีจริงๆเลยนะคะ ฉันทำงานที่นี่มานาน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เจอฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเตรียมเซอร์ไพรซ์ให้ฝ่ายชายเองแบบนี้
พนักงานอีกคนเองก็พูดออกมา “ใช่ค่ะๆ แฟนของคุณจางสามารถหาแฟนที่เอาอกเอาใจอย่างคุณจางได้เป็นวาสนาของเขาจริงๆ!”
“แต่…” พนักงานหนึ่งในนั้นที่เป็นคนเพิ่งมาใหม่ ก็ได้เอ่ยออกมาด้วยความลังเลเล็กน้อย “ถ้าคุณจางทำอย่างนี้ล่ะก็ จะไม่เป็นการลดค่าตัวเองเกินไปหรอคะ?”