บทที่1358 คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ
เสี่ยวเหยียน:“……”
หลังจากหานชิงจ่ายเงินเสร็จ เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะด่าเขา “คุณสติไม่ดีหรือยังไง? ที่จริงแล้วที่นอนทั้งสองที่นี้ไม่ได้จำเป็นต้องแพงขนาดนี้เลย แต่คุณกลับจ่ายไปสองหมื่น! ”
เขาเป็นคนโง่ที่เสียเงินไปเปล่าๆ หรือยังไงกัน?
ถึงแม้จะรู้ว่าหานชิงมีเงิน เขาไม่มีทางเห็นเงินสองหมื่นนี้อยู่ในสายตาเลยก็เถอะ แต่ว่าการเสียเงินโดยที่ไม่คุ้มแบบนี้ก็ยังทำให้เธอพูดไม่ออก
และชายสองคนที่ได้รับเงินจริง ๆ ก็ดูโทรศัพท์มือถือของพวกเขาอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็หันมามองเสี่ยวเหยียนกับหานชิง ปากหวานอย่างมาก
“น้องสาวแฟนของเธอเนี่ยใจกว้างมากจริงๆ เลยนะ หาแฟนได้แบบนี้ถือว่าเธอโชคดีมากเลยจริงๆ นะ รักษาเขาไว้ดีๆ ล่ะ”
เสี่ยวเหยียน:“……เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าเขาเป็นแฟนฉัน”
เธออยากจะต่อสู้ แต่ว่าหานชิงก็เอาแต่กอดเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอหนีไปแม้แต่นิดเดียว
“คิๆ ดูเหมือนว่าจะแกล้งกันไปแกล้งกันมาอยู่นะเนี่ย มิน่าล่ะเขาถึงได้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ตามเธอมีที่รถไฟ เอาใจใส่มากจริงๆ พี่ชาย ได้อยู่นิ ขอให้พวกเธอคบกันยาวนาน”
เดิมทีหานชิงรู้สึกว่าพวกเขาพูดมาก จู้จี้ อยากจะให้พวกเขารีบเก็บของแล้วออกไปซะ
แต่ว่าพออีกฝ่ายอวยพรขอให้เขากับเสี่ยวเหยียนอยู่ด้วยกันยาวนานนั้น เขาก็ขยับริมฝีปากเป็นครั้งแรก “ขอบคุณมาก”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เก็บของแล้วรีบไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่กำลังเก็บข้าวเก็บของนั้น เสี่ยวเหยียนก็พยายามดิ้นรนต่อ แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบหานชิงก็ไม่ยอมให้เธอหนีไปได้
สุดท้ายหานชิงก็วางของของ เธอไว้ด้านข้างที่นอน แล้วก็ให้เธอนั่งลงบนเตียง
ตรงนี้เงียบมาก เพราะว่าทุกคนหลับหมดแล้ว หลังจากที่สองคนนั้นไป ตรงบริเวณนี้ก็เงียบสงบลง
ในบรรยากาศที่เงียบแบบนี้ เสี่ยวเหยียนเกรงใจที่จะพูดเสียงดัง และก็ยิ่งไม่กล้าระเบิดอารมณ์
เธอทำได้แค่ลดเสียงลงแล้วมองไปที่หานชิง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คิดไปคิดมาแล้วก็หันหน้าไปทางอื่นแทน
ผ่านไปสักพัก เธอก็หันหน้ากลับมา แล้วก็พูดกับหานชิงว่า “เสียเงินไปสองหมื่นเพื่อซื้อที่แบบนี้ คุณบ้าไปแล้วเหรอ? ”
หานชิง:“……”
ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เธอยังจะนึกถึงเรื่องนี้อยู่
เมื่อสบตากับดวงตาที่โมโหของเธอ หานชิงก็ถอนหายใจ แล้วก็พูดอย่างจำใจว่า “สำหรับฉันแล้ว อะไรพวกนี้ไม่ได้สำคัญเลย”
สิ่งที่สำคัญก็คือสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ที่เมื่อกี้ถูกรังแกตอนอยู่ที่เบาะนั่ง
ถ้าเกิดไม่พาเธอมาที่นี่ เธอก็ยังจะถูกทำให้คับข้องใจต่ออยู่ตรงนั้น
หานชิงเริ่มทำเก็บกวาดที่นอน เสี่ยวเหยียนก็นั่งมองเขาเงียบๆ แล้วก็พบว่าท่าทางของเขาดูเงอะงะ เห็นได้ชัดว่าเป็นครั้งแรกที่ทำเรื่องอะไรแบบนี้
พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็ถามออกมาในทันที “นี่เป็นครั้งแรกที่นั่งรถไฟเหรอ? ”
มือของหานชิงหยุดลง หลังจากนั้นก็พูดว่า “ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น”
เขาบ้าไปแล้วเหรอ?
“ฉันจองตั๋วรถไฟไปมั่วๆ คุณหาฉันเจอได้ยังไง? ”
จนถึงตอนนี้เสี่ยวเหยียนยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าเธอจะเจอหานชิงบนรถไฟ เธอรู้สึกว่าความเจ็บปวดทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน
ไม่ บางทีฉากแห่งความสุขก่อนหน้านี้ต่างหากที่เป็นแค่ความฝัน
ตอนนี้ ตื่นจากฝันแล้ว
เธอควรจะถอยกลับมาอยู่ที่เดิมของเธอ
ในโลกแห่งความเป็น จริง เขากับเธอนั้นแตกต่างกันอย่างฟ้ากับเหว ตำแหน่งข้างกายของเขาเป็นของคนอื่น
หานชิงจัดหมอนให้เธอ แล้วก็ยกเท้าของเธอขึ้นมา เสี่ยวเหยียนจับมือของเขาไว้ “คุณจะทำอะไร? ”
“ง่วงไม่ใช่เหรอ? ขึ้นไปพักผ่อนหน่อย”
หานชิงพูดพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ถอดรองเท้าให้เธอ เสี่ยวเหยียนอยากจะต่อต้านแต่ว่าก็ไม่ทัน ก็ถูกหานชิงกึ่งลากกึ่งอุ้มขึ้นไปที่เตียง แล้วก็ห่มผ้าให้
นี่มันอะไรกัน? พอมาแล้วก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่ทำเรื่องพวกนี้
พอนึกถึงสวี่เย็นหวั่น ความเศร้าในใจของเสี่ยวเหยียนก็มากขึ้น
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย คุณหาฉันเจอได้ยังไง? ”
หานชิงห่มผ้าให้เธออย่างอ่อนโยน เม้มปากแน่น น่าจะเพราะว่าสายตาของเธอนั้นรุนแรงเกินไป เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมาอธิบาย “ถ้าเกิดว่าอยากหาล่ะก็ ยังไงก็ต้องหาเจออยู่แล้ว”
“นอนสักหน่อยเถอะ สีหน้าของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เดี๋ยวเธอตื่นพวกเราก็ถึงแล้ว”
น้ำเสียงของเขาจางๆ เหมือนน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว
ในใจของเสี่ยวเหยียนกลับรู้สึกเหมือนโดนมีดแทง เธอหลับตาลง รู้สึกร้อนในดวงตา
“นี่จะถือว่าเป็นการชดใช้ยังงั้นเหรอ? คุณคิดว่าคุณทำเรื่องพวกนี้แล้ว ฉันจะให้อภัยในเรื่องที่คุณปิดบังฉันยังงั้นเหรอ? ”
พอพูดถึงเรื่องที่ปิดบังเธอขึ้นมา ดวงตาของหานชิงก็มืดมนลงเล็กน้อย
ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อตอนเด็ก เขาแค่รู้สึกว่าความทรงจำอันมืดมนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดไปยังคนที่ตัวเองรัก
เรื่องพวกนั้นเป็นแค่ความเจ็บปวดของเขาเพียงแค่คนเดียว ทำไมต้องพูดออกมาแล้วให้สาวน้อยของเขาต้องแบกรับเป็นเพื่อนเขาด้วยล่ะ?
สิ่งที่เขาอยากจะมอบให้เธอ ก็คือสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น มีความสุข และสดใส
แต่ไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยไฟ เสียงร้องที่น่าเศร้าเป็นอย่างมาก
“ฉันไม่ได้ตั้งใจปิดบังเธอ”
“แล้วทำไมที่ผ่านมาคุณไม่พูด? ” จนถึงตอนนี้เสี่ยวเหยียนยังไม่มีทางที่จะรับได้ กับเรื่องที่จู่ๆ ตัวเองก็กลายมาเป็นมือที่สาม
พอคิด เธอก็รู้สึกเหมือนว่าหัวจะระเบิด เพราะฉะนั้นก็เลยไม่รอให้หานชิงพูด เธอก็พลิกตัวไปทางอื่นทันที “ช่างเถอะ คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นยังไง หลังจากที่รถไฟถึงสถานีแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ ไม่ต้องตามฉันมาอีก”
เธอออกมาเพื่อผ่อนคลายจิตใจ อีกนัยหนึ่งก็คือมาเพื่อลืมหานชิง
ถ้าเกิดว่าเขาเอาแต่ตามเธอตลอด เอาแต่นัวเนียอยู่กับเธอล่ะก็ ถ้ายังงั้นการที่เธอออกมาแบบนี้จะมีประโยชน์อะไรกัน?
ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ยิ่งคิดยิ่งโมโห เสี่ยวเหยียนดึงผ้าห่มมาคลุมหัวของตัวเอง ไม่สนใจหานชิงอีก
ที่จริงแล้วหานชิงก็ไม่ได้อยากจะพูดตอนที่เธอกำลังโกรธ ตอนนี้เธอไม่ค่อยมีจะมีเหตุผล ถึงแม้เขาจะรู้สึกมาโดยตลอดว่าเรื่องนี้ไม่ได้รุนแรงที่ต้องมาถึงขั้นนี้เลย
แต่ว่าสาวน้อยคนนี้ ตั้งอกตั้งใจเตรียมอย่างพิถีพิถันอยู่นาน แต่จู่ๆ ก็กลายมาเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่น แน่นอนว่าต้องคิดเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นหานชิงก็เลยตัดสินใจจะว่าหลายวันนี้จะอยู่กับเธอ เธออยากจะทำอะไรก็ให้เธอทำแบบนั้น รอให้ความโมโหของเธอลดลง สงบลง
เขาถึงจะเล่าเรื่องอดีตพวกนั้นให้เธอฟัง
มีเสียงถอนหายใจอย่างหนักดังขึ้นที่หัวของเธอ ผ่านไปนานเสี่ยวเหยียนก็ได้ยินหานชิงพูดว่า “นอนเถอะ นอนพักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวฉันจะเฝ้าเธออยู่ตรงนี้เอง”
พอได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะตาแดง น้ำตาก็ไหลพรากออกมา
ถ้าเกิดว่าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ถ้าเธอได้ยินแบบนี้ คงจะรู้สึกว่าหานชิงดีกับเธอมาก และรู้สึกปลอดภัย
แต่ว่าตอนนี้….เธอกลับรู้สึก เยาะหยันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เขาคือคนที่มีคู่หมั้นแล้ว
แต่ว่ากลับมาตามเธอ แล้วคู่หมั้นของเขานั้น ก็อยู่ที่บริษัท
สิ่งที่น่าขำก็คือ เธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น แถมยังพาคู่หมั้นของเขามาส่งถึงหน้าเขาด้วยมือของตัวเอง แถมยังไปส่งเธอที่โรงพยาบาลด้วยกัน เอาอาหารไปให้เธอ
เดาว่าสวี่เย็นหวั่นคงหัวเราะเยาะเธอจะตายอยู่แล้ว
นึกถึงข้อความที่สวี่เย็นหวั่นส่งมาให้เธอก่อนหน้านี้
พูดอะไรที่ว่าคนที่คบกับเขาตอนนี้เธอคือเธอ เขาจะรับผิดชอบเธอ
เธอไม่ได้ต้องการการรับผิดชอบอะไร เธอไม่ต้องการ….
น้ำตาของเสี่ยวเหยียนไหลลงมาอย่างรุนแรง แต่เพราะว่าหานชิงอยู่ด้านบน ดังนั้นเธอก็เลยทำได้แค่พยายามกดเสียงร้องไห้ของตัวเองเอาไว้ กัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่น กลืนเสียงสะอื้นทั้งหมดกลับเขาไปในท้องของตัวเอง
แต่ไม่ว่าเธอจะควบคุมได้ดีแค่ไหน ก็ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากเธอเล็กน้อย
หานชิงที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนี้ หัวใจของเขาก็รู้สึกเศร้าโศก