บทที่1359 ตัดสินใจเลือกเธอ
ตั๋วที่เสี่ยวเหยียนซื้อนั้นไกลมาก เธอจงใจซื้อที่มันไกลๆ ทั้งสองคนต้องอยู่รถบนรถไฟเกือบสองวัน
เดิมทีเสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียวได้สบายมาก
แต่ว่าตอนนี้หานชิงคอยเฝ้าเธออยู่ข้างๆ เธอก็เริ่มรู้สึกเสียใจแล้วว่าตัวเองซื้อตั๋วที่มันไกลเกินไป
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะตามมา เธอก็น่าจะซื้อตั๋วที่มันใกล้กว่านี้หน่อย หลังจากนั้นพอถึงสถานีแล้วทั้งสองคนจะได้แยกกันไป
ตอนแรกเสี่ยวเหยียนเอาแต่ร้องไห้ รอบๆ ก็มีความเงียบแปลกๆ
ต่อมาเธอร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว เสี่ยวเหยียนก็กอดผ้าห่มแล้วก็ผล็อยหลับไป
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมานั้น ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน รถไฟยังคงแล่นอยู่เหมือนเดิม แต่ว่ามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นลายหินอ่อนสีขาวของท้องฟ้ายามรุ่งอรุณ เสี่ยวเหยียนก็เลยเดาว่าตัวเองน่าจะหลับไปหลายชั่วโมงอยู่
ดวงตาของเธอไม่ได้ปวดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่าก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่
เสี่ยวเหยียนกะพริบตา แล้วตาก็ปิดลงไปอีกครั้งโดยไม่สมัครใจ
ผ่านไปสักพัก จู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ใกล้กับด้านหลังของเธอ มันอบอุ่นและร้อน
หลังจากคิดอยู่สักพัก เสี่ยวเหยียนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว
นี่ก็คือ….แผ่นหลังของหานชิง
หลังจากรับรู้ได้ว่านี่คือแผ่นหลังของหานชิงนั้น เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นแข็งทื่อไป
เขานอนอยู่ข้างๆ เธอยังงั้นเหรอ? แล้วนอนอยู่นานแค่ไหนกัน? แล้วก่อนหน้านี้เธอก็ไม่รู้เลยยังงั้นเหรอ?
แผ่นหลังของหานชิงอุ่นมาก และก็กว้างมากเช่นกัน ทำให้คนรู้สึกปลอดภัย
แต่ว่า…….
“ตื่นแล้วเหรอ? ”
เสี่ยวเหยียนกำลังคิดอะไรอยู่ และทันใดนั้นเสียงของหานชิงก็ดังขึ้นมา มันทุ้มต่ำมาก และแผ่นหลังของทั้งสองคนก็ชนกันอยู่ ดังนั้นตอนที่เขาพูดนั้นเสี่ยวเหยียนก็ยังรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังของเขาที่สั่น
นี่เขากำลังถามเธออยู่
แต่ว่าเสี่ยวเหยียนไม่ได้ขยับ เธอนอนอยู่แบบนั้นเงียบๆ ไม่ได้ตอบคำถามของเขา
“ยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอ? ”
โกรธ?
เสี่ยวเหยียนเม้มปาก ถ้าเกิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความโกรธ ก็คงจะดีสิ
อย่างน้อย ความโกรธมันก็สามารถหายไปได้ แต่ว่า นี่เธอไม่ได้แค่โกรธ แต่ว่าเธอเจ็บหัวใจ เป็นทุกข์ แล้วพวกนี้มันจะดีได้ยังไงกัน?
พอเห็นว่าเธอๆ มาตอบ หานชิงก็ถอนหายใจเงียบๆ ในใจ
สาวน้อยคนนี้โกรธนานมากจริงๆ จนถึงตอนนี้ยังไม่ใจเย็นลงบ้างเลย แม้แต่ประโยคเดียวก็ไม่ยอมคุยกับเขา
ดังนั้นทั้งสองคนก็นอนเอาแผ่นหลังชนกันเงียบๆ อยู่แบบนี้ ตัวของเสี่ยวเหยียนเย็น นอนอยู่ตรงนั้นเหมือนน้ำแข็ง ส่วนตัวของหานชิงนั้นร้อน เดิมทีเขาไม่ได้อยากจะนอนลง
แต่พอสังเกตว่าสาวน้อยของเขานอนไม่อุ่นนั้น เขาก็เลยนอนลงเอาแผ่นหลังชนกับเธอ เอาตัวเองเป็นฮีตเตอร์ ความร้อนจากร่างกายของเขาส่งผ่านการสัมผัสจากแผ่นหลังให้เธออย่างต่อเนื่อง
และร่างกายของเสี่ยวเหยียนก็ค่อยๆ อุ่นขึ้น
แต่ว่าทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไร นอนอยู่เงียบๆ แบบนี้ไป
รถไฟแล่นไปข้างหน้า ไม่รู้ว่าไปที่ไหนกัน ตอนนี้ในใจของเสี่ยวเหยียนสูญเสียทิศทางไปแล้ว
สุดท้าย เธอก็หลับตาลง แล้วก็หลับไปอย่างสะลึมสะลือ
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้าก็สว่างแล้ว
บนรถไฟมีคนมาขายอาหารเช้า
ตอนที่เดินผ่านพวกเขานั้น คนรอบข้างหลายๆ คนก็ต่างพากันซื้อ และหานชิงเองก็ลุกขึ้นนั่ง เสี่ยวเหยียนได้ยินเสียงเรียกขายของ ก็ยังคงนอนอยู่ตรงนั้นอยู่เหมือนเดิม
“หิวไหม? กินอะไรหน่อยไหม? ”
เสียงของหานลิงดังขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวเหยียนไม่สนใจเขา มีเขาอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้น
ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ตามตัวเองมาล่ะก็ บางทีเสี่ยวเหยียนอาจจะรู้สึกสนใจอยากจะซื้อบ้าง แต่ว่าซื้อมาแล้วจะกินหรือไม่กิน อันนี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน
เหมือนรู้ว่าเธอจะไม่ตอบ หลังจากหานชิงถามแล้วก็ไม่ได้คาดหวังให้เธอตอง แล้วก็ซื้ออาหารนั้นทันที
แต่ว่าอาหารเช้าบนรถไฟนั้นมันง่ายๆ และสะดวก สำหรับหานชิงแล้วนั้น อะไรพวกนี้เขายังไม่เคยกินมาก่อนเลย
“ฉันซื้ออาหารเช้ามาแล้ว รีบลุกขึ้นมากินหน่อย กินเสร็จแล้วง่วงก็ค่อยนอนต่อ”
เสี่ยวเหยียนยังคงไม่สนใจเขาเหมือนเดิม แต่ว่าคิดไปคิดมา เธอก็เปิดผ้าห่มแล้วลุกขึ้นนั่ง หลังจากนั้นก็มองอาหารเช้าในมือของหานชิง แล้วก็ยิ้มเยาะพร้อมกับพูดว่า “สบายไหม? มานั่งรถไฟแบบนี้กับฉัน แถมยังต้องกินอาหารเช้าราคาถูกแบบนี้กับฉัน ชีวิตแบบนี้ ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่หานชิงควรต้องเจอใช่ไหมล่ะ? ”
หานชิง:“……”
“ของพวกนี้ คุณน่าจะไม่เคยกินมาก่อนใช่ไหม? ก็ถูกแล้ว คุณเป็นคนมีเงิน แต่ว่าฉันใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โลกของพวกเรา คือสองโลกที่ต่างกัน”
หานชิงขมวดคิ้วเพราะคำพูดของเธอ “เธออยากจะพูดอะไรกันแน่? ”
“ความหมายของฉันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ฉันอยากเลิกกับคุณ”
“ฉันไม่ตกลง”
หานชิงปฏิเสธเธอทันที
เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง “คุณมีสิทธิอะไรมาไม่ตกลง? การจะเลิกกันฉันพูดแค่คนเดียวก็พอแล้ว ฉันไม่ต้องการคุณแล้ว คุณจะตกลงหรือไม่ตกลง มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย? ”
“แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวกับเธอ หานชิงยื่นมือข้างหนึ่งไปโอบกอดเธอไว้ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าและเอาหน้าผากแนบกับเธอ พร้อมกับหายใจแผ่วเบา “ตอนแรกที่คบกับเธอนั้นฉันก็ตัดสินใจว่าจะรักเธอไปตลอดชีวิต เข้ามายั่วฉัน แล้วตอนนี้บอกว่าจะเลิกก็เลิกงั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง? ”
ตัดสินใจว่าจะรักเธอยังงั้นเหรอ?
ต่อให้เสียวเหยียนจะโมโหแค่ไหน แต่พอได้ยินประโยคนี้ก็ยังอึ้งไป แต่ว่าพอคิดว่าตัวเองเป็นมือที่สาม เธอก็รู้สึกเหยียดหยามประโยคนี้มาก
เธอหัวเราะเยาะ แล้วเสี่ยวเหยียนก็ผลักเขาออกทันที
“คุณชอบฉัน แล้วฉันชอบคุณยังงั้นเหรอ? ”
หานชิงอึ้งไป มองไปที่เสี่ยวเหยียนที่อยู่ใกล้ๆ
ดวงตาที่ใสแจ๋วในวันปกติ ตอนนี้มีแต่ความยุ่งเหยิงและเจ็บปวด แล้วก็เอาแต่พูดคำพูดที่ทำให้เขาเจ็บปวด
“ได้ยินชัดรึยัง? ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ชอบคุณ ดังนั้นตอนนี้ฉันก็เลยอยากเลิก คุณอย่ามาห้ามฉันเลย”
ไม่รู้เหมือนกันว่าหานชิงคิดอะไรอยู่ เขามองเธอเงียบๆ ไม่พูดอะไร ผ่านไปนานกว่าจะพูดขึ้นมา “ไม่ว่าเธอจะชอบฉันหรือไม่ก็ตาม แต่ยังไงฉันก็ชอบเธอ ดังนั้นฉันไม่เห็นด้วยที่จะเลิกกัน”
“หานชิง!”
เสี่ยวเหยียนตะคอกชื่อของเขาออกมาด้วยความโกรธ!
คนที่ถูกเรียกชื่อถอยห่างออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วถามเธอว่า “อยากกินอะไร? ฉันซื้อมาเยอะมาก เธออยากกินประเภทไหน? ”
เสี่ยวเหยียน:“……”
“ดื่มน้ำอุ่นก่อนก็แล้วกัน พึ่งจะตื่นถ้ากินเลยอาจจะทำให้ไม่สบายท้องได้”
หานชิงเหมือนกับว่าไม่ได้รับรู้เลยว่าเธอกำลังโกรธอยู่ เอาแต่ดูแลเธอ เสี่ยวเหยียนก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม
มีสิทธิอะไร มีสิทธิอะไรที่พอทำร้ายเธอแล้ว เขาก็มาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามเธอขึ้นรถไฟมา แถมยังมาถามเธอว่าจะกินอะไรไหม
พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็เม้มริมฝีปากของตัวเองแล้วก็หันหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่ดื่มน้ำที่หานชิงส่งมาให้
หานชิงเองก็ไม่ได้โกรธ หยิบถ้วยอย่างอดทนแล้วก็ยื่นไปตรงหน้าของเธออีกครั้ง “เป็นเด็กดี ดื่มสักสองอึก”
เสี่ยวเหยียนยังคงหันหน้าไปทางอื่น หานชิงก็ยังคงถือแก้วเครื่องดื่มไว้ในมือแล้วก็หันตามเธอไปอย่างอดทน
ยังไม่ทันรอให้หานชิงเหนื่อย เสี่ยวเหยียนก็หันจนเหนื่อยแล้ว เธอถลึงตาใส่หานชิงด้วยความโกรธ
“คุณจะทำอะไรกันแน่? ”
หานชิงจ้องเธอนิ่ง แล้วริมฝีปากบางของเขาก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง “เธอก็รู้”
ตอนที่เขาพูดประโยคนี้นั้น เหมือนว่าเสี่ยวเหยียนจะได้กลิ่นของความไม่ได้รับความเป็นธรรมจากน้ำเสียงของเขาอย่างแผ่วเบา
ไม่ได้รับความเป็นธรรมยังงั้นเหรอ?
เสี่ยวเหยียนนึกว่าตัวเองรู้สึกผิดไป ไม่ยังงั้นหานชิงจะรู้สึกแบบนี้ได้ยังไงกัน?
เขากำลังไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องอะไรอยู่?
ในเวลานั้น เสี่ยวเหยียนก็โกรธมากจนหัวเราะออกมา “นี่คุณกำลังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่เหรอ? ”
หานชิงยังคงจ้องหน้าเธอต่อ “เธอว่าไงล่ะ? ”
นายไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้าอะไร ฉันต่างหาก!