เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1361 คุณเห็นฉันเป็นอะไร

บทที่1361 คุณเห็นฉันเป็นอะไร

“ฉันเปล่า….ฉันไม่ใช่….ไม่ใช่! ”

ในฝันนั้น เสี่ยวเหยียนเริ่มขมวดคิ้วแน่น พูดออกมาเบาๆ

และแน่นอนว่าหานชิงที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ก็ต้องได้ยิน เขานึกว่าเธอกำลังคุยกับเขาอยู่ ยังรู้สึกแปลกใจอยู่เลย ผลก็คือพอมองไปก็เห็นว่าสาวน้อยกำลังหลับตาอยู่ แต่ว่าปากยังคงพึมพำไม่หยุด

ที่แท้ก็กำลังพูดอยู่ในฝันนั้นเอง

แต่ว่าตอนที่เธอพูดอะไรพวกนี้อยู่นั้น หน้าผากของเธอมีเหงื่อซึมออกมา คิ้วขมวดเข้าหากันจนจะเป็นหนอนอยู่แล้ว สีหน้าก็ดูเศร้าหมองและเจ็บปวด

“ฉันเปล่า ฉันเปล่าจริงๆ ….”

หานชิงขมวดคิ้วเข้าหากัน ขยับเข้าไปใกล้เธอ แล้วก็ยื่นมือไปตบหน้าเธอเบาๆ “เหยียนเหยียน เหยียนเหยียน? ”

เหยียนเหยียนยังคงอยู่ในความฝัน

หานชิงทำได้แค่ยอมตามเธอ “โอเคๆ เธอเปล่า เธอไม่ใช่ มันก็แค่ความฝันเท่านั้น ไม่ต้องกลัว”

เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้เธอ

และในที่สุดเสี่ยวเหยียนก็เงียบลง ไม่ได้ละเมอแล้ว อารมณ์ของเธอโล่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากนั้นเธอก็หลับไปอีกครั้ง

เฮ้อ สาวน้อยคนนี้ทำให้คนอื่นปวดหัวจริงๆ

หานชิงก้มหน้าลงแล้วเอาริมฝีปากบางของเขาแตะจมูกของเธอ หลังจากนั้นก็กุมมือของเธอไว้ส่งต่อความอบอุ่นให้แก่เธอ

**

ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนหลับไปนานมาก ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งนั้นฟ้าก็มืดแล้ว รถไฟจะถึงสถานีตอนตีสาม

และก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นผลกระทบจากความฝันหรือไม่ ตอนที่เสี่ยวเหยียนตื่นขึ้นมานั้นความกดอากาศของเธอต่ำมาก นั่งซึมอยู่ตรงนั้น แววตาไร้แสง ตอนกินข้าวก็ไม่อยากอาหาร

หานชิงพยายามกล่อมเธอกี่ครั้งก็ไม่ได้ผล และตอนนี้ท่าทางที่ไร้เรี่ยวแรงและเหนื่อยล้าของเธอนั้นก็ทำให้หานชิงไม่กล้าที่จะใช้วิธีนั้นบังคับเธอกินข้าวอีกแล้ว ได้แต่ใช่น้ำเสียงที่อ่อนโยนเกลี้ยกล่อมเธออยู่หลายครั้ง เสี่ยวเหยียนถึงจะฝืนกินลงไปบ้าง

หลังจากนั้น เสี่ยวเหยียนก็มองหน้าเขาด้วยสีหน้าอ่อนล้า

“หานชิง”

“หืม?”

“คุณรักฉันไหม?”

หานชิง:“……”

เขาน่าจะคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ เสี่ยวเหยียนจะถามอะไรแบบนี้ออกมา หานชิงนิ่ง แล้วก็สบตากับเธอเงียบๆ ริมฝีปากบางเม้มแน่น ไม่ได้ตอบคำถามของเธอ

เสี่ยวเหยียนมองไปที่เขา ผ่านไปนานแล้วไม่ได้คำตอบ ก็คลี่ยิ้มออกมา “ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ตัดสินใจจะเลิกกับคุณแล้ว ไม่ว่าคุณจะรักหรือไม่รักฉัน ก็ไม่สำคัญหรอก”

หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็นั่งซึมตลอดทั้งทางจนรถไฟมาถึงสถานี

เดิมทีอยากจะอาศัยโอกาสที่คนเยอะวิ่งหนี ผลก็คือวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนหานชิงจับกลับมา

“คนเยอะขนาดนี้ เธอจะวิ่งไปไหน? รอให้คนออกไปเยอะเกินพวกเราค่อยไป พวกเราจะได้ไม่หลง”

ในใจของเสี่ยวเหยียนคิดว่า นี่ฉันก็อยากจะหลงกับนายไง ใครอยากจะอยู่กับนายกัน?

ดังนั้นเธอก็บิดตัวพร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่อยากรอ ฉันจะลงจากรถตอนนี้”

หานชิงขมวดคิ้วเข้าหากัน “รออีกหน่อย? ”

“ไม่ อากาศที่นี่ฉันได้กลิ่นแล้วรู้สึกไม่สบาย”

ไม่มีทางเลือก หานชิงทำได้แค่ดูแลและพาเธอลงจากรถ

เสี่ยวเหยียนที่ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาตลอดทั้งทาง “……”

เป็นบ้ารึไง? คุ้มกันแน่นขนาดนี้ แล้วเธอจะหนีได้ยังไง?

น่าโมโห

แต่ว่าหลังจากที่ลงจากรถมาแล้ว อากาศข้างนอกนั้นดีกว่าในรถไฟมาก ถึงแม้ว่าคนข้างๆ ยังคงจับข้อมือของเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอห่างแม้แต่นิ้วเดียว

เสี่ยวเหยียนแอบถอนหายใจอยู่ในใจ ทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่เคยรู้ว่าหานชิงจะติดแน่นเป็น ปลาสเตอร์หนังหมาแบบนี้?

“รถไฟถึงสถานีแล้ว”

เธอพุ่งตรงไปที่ประเด็น “คุณไม่ต้องตามฉันมาอีกแล้ว พวกเราแยกกันตรงนี้เถอะ ต่างคนต่างไป”

หานชิงเหมือนกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา “จองโรงแรมไว้รึยัง? ”

เสี่ยวเหยียน:“……”

“ดูท่าทางจะยังไม่ได้จอง เด็กน้อยเอ๊ย….มาที่นี่กลางดึกโรงแรมก็ไม่จอง ถ้าเกิดว่าเจออันตรายขึ้นมาจะทำยังไง? ”

พอพูดจบ หานชิงก็เก็บโทรศัพท์ แล้วก็ถือกระเป๋าสัมภาระของเสี่ยวเหยียนขึ้นมา “ไปกันเถอะ”

“คุณจะทำอะไร? ” เสี่ยวเหยียนขวางทางของเขาไว้ “จะไปไหน? ”

“โรงแรม ฉันจองไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มีคนรอรับอยู่ที่ทางออก”

อะไรนะ? เขาจองแล้วงั้นเหรอ? จองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“จองตั้งแต่ตอนที่เธอนอนนั่นแหละ” หานชิงพูดออกมาพอดี “คืนนี้กลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะพาเธอไปเดินเล่นใกล้ๆ ”

น้ำเสียงของเขาดูเป็นธรรมชาติมาก ธรรมชาติจนเหมือนกับว่าทั้งสองคนมาเที่ยวกัน และก็เป็นคู่รักที่ความสัมพันธ์ดีมาก ไม่ได้ทะเลาะกันแม้แต่นิดเดียว

ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ เสี่ยวเหยียนยิ่งโมโห

เธอมองหานชิงนิ่ง “คุณไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เหรอ? ฉันว่าฉันพูดชัดเจนแล้วนะ ว่าพวกเราแยกกันตรงนี้ ต่อไปก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก”

พอพูดออกมาแล้ว ลมปราณจากร่างกายของหานชิงก็เปลี่ยนไป เขาหรี่ตาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มดิ่ง “ฉันเองก็พูดแล้วไง ว่าฉันไม่ตกลงที่จะเลิกกัน”

ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน

ด้านหลังมีใครบางคนวิ่งเข้ามา

“เอ้ะๆ หลบทางหน่อย”

คนๆ นั้นเกือบจะวิ่งชนเสี่ยวเหยียนแล้ว มือของหานชิงโอบเอวของเธอไว้ แล้วก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน

พลั่ก!

“ขอโทษด้วยนะพี่ชาย~”

หานชิงเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าคนที่โบกมือให้เขาอยู่นั้นก็คือเจ้าของเตียงนอนก่อนหน้านี้ ตอนที่สบตากับเขานั้น ผู้ชายคนนั้นยังส่งท่าทางสู้ๆ ให้เขาอีกด้วย

หานชิงหยุดชั่วคราว หลังจากนั้นก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากคนในอ้อมแขน และริมฝีปากของเขาก็โค้งขึ้น

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ามาก

เสี่ยวเหยียนถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ตอนที่กำลังจะต่อสู้นั้น หานชิงก็กลับกอดเธอไว้แน่น

“พอแล้ว ไปโรงแรมก่อนแล้วค่อยว่ากัน ที่นี่คนเยอะ ถ้าเกิดว่าของโดนขโมยไปก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่”

“คุณปล่อยฉัน ฉันจะเดินเอง”

“คนเยอะ เดี๋ยวฉันโอบเธอแล้วเดินไป”

หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ถูกหานชิงโอบแล้วเดินออกไปที่นี่

พอมาถึงที่โรงแรมแล้ว เสี่ยวเหยียนก็มองไปที่เตียงสีขาว แล้วตอนนี้เองถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง

นี่เธอเรื่อยเปื่อยเกินไปรึเปล่า? ทั้งๆ ที่ตัวเองตัดสินใจจะเลิกกับเขาแล้ว ไม่เป็นมือที่สามแล้ว แล้วทำไมยังได้ตามเขามาแบบโง่ๆ อีกล่ะ?

เธอ….เรื่อยเปื่อยขนาดนี้เลยเหรอ?

หานชิงกำลังเก็บสัมภาระ เอาเสื้อผ้าเข้าไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า เสี่ยวเหยียนเห็นว่าเขากำลังเอาเสื้อผ้าของตัวเองแขวนเข้าไป ก็รู้สึกสะดุ้ง

“คุณก็จะอยู่ที่นี่เหรอ? ”

หานชิงแขวนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ตอบเธอว่าอืม

“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวฉันไปเปิดห้องของตัวเอง”

ผลก็คือเสี่ยวเหยียนพึ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็ถูกหานชิงดึงกลับไป พร้อมกับดันเธอเข้าไปที่กำแพง “ฉันไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเราตอนนี้ ต้องเปิดห้องสองห้องนะ”

เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าตัวเองไม่อยากจะเน้นย้ำเรื่องที่เธอกับเขาเลิกกันอีกแล้ว ก็เลยได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ฉันไม่อยากอยู่กับคุณ ปล่อยฉันนะ”

หานชิงไม่ได้ปล่อยเธอ ยังคงจับมือเธอไว้แบบนั้น

“จะอาบน้ำก่อน หรือว่าจะไปนอนเลย” หานชิงเริ่มถามเหมือนคนไม่มีประเด็นอะไรอีกแล้ว

“แบบไหนฉันก็ไม่ต้องการทั้งนั้นแหละ ฉันอยากจะลงไปเปิดห้องใหม่ข้างล่าง”

“ไม่มีบัตรประชาชน เธอก็เปิดไม่ได้หรอก”

“อะไรนะ? ” เสี่ยวเหยียนไปหาบัตรประชาชนของตัวเอง แล้วก็พบว่ากระเป๋าตังค์กับบัตรประชาชนของตัวเองนั้นหายไป

“ไม่ต้องหาแล้ว มันอยู่กับฉันทั้งหมดนั่นแหละ เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เธอต้องอยู่ข้างๆ ฉันอย่างเชื่อฟัง ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”

อะไรนะ? เขาเอาบัตรประชาชนกับกระเป๋าตังค์เธอไปยังงั้นเหรอ? แถมยังไม่ให้เธอไปไหน อยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้วงั้นเหรอ?

พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

“นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? คุมขังนักโทษอยู่ยังงั้นเหรอ? เห็นฉันเป็นอะไรกัน? ”

คุมขังนักโทษ?

หานชิง:”ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้? ”

“ถ้ายังงั้นคุณจะให้ฉันคิดยังไง? ” เสี่ยวเหยียนผลักเขาออก โกรธจนแทบทนไม่ไหว

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset