บทที่1381จะยอมหรือเปล่า
“ฮื้อ”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่งเสียงฮื้ออย่างเย็นชา เอามือกอดอกและมีสีหน้าเป็นพระราชินี:“แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย งั้นฉันก็ยกโทษให้คุณก็แล้วกัน!”
เซียวซู่ยกมุมปากขึ้นอย่างไร้เสียง งั้นผมต้องขอบคุณๆมากเลย
“ที่จริงเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ คราวก่อนคุณไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของย่าฉันพอดีไม่ใช่เหรอคะ? จากนั้นลุงของฉันก็รู้ความสัมพันธ์ของเราสองคน เขาอยากร่วมมือกับคุณค่ะ” พูดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋รีบยกมือขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ:“คุณอย่าเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องร่วมมือกับเขา เขาแค่อยากมีโอกาสเจอหน้าคุณแค่นั้นเอง เลยฝากคนกลางอย่างฉัน ส่วนจะร่วมมือหรือไม่นั้น ดูที่ความสมัครใจของคุณล้วนๆค่ะ ฉันขอบอกก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้บังคับคุณ!”
“เพราะฉะนั้น ความหมายของคุณคือให้ผมรับปากคุณไปเจอหน้าลุงของคุณ?”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า:“ใช่ค่ะ แบบนี้ภารกิจของฉันก็สำเร็จแล้ว”
ห้องรับแขกเงียบไปสักพัก เซียวซู่เปิดปากพูดอีกครั้ง:“ได้ เจอกันเมื่อไหร่?”
“คุณรับปากแล้วเหรอ?”เจียงเสี่ยวไป๋ค่อนข้างประหลาดใจ เดิมทียังนึกว่าเขาจะบอกปัดไป เพราะยังไงซะบริษัทตระกูลเย่เป็นธุรกิจใหญ่ ถึงแม้บริษัทของลุงของเธอก็เฟื่องฟูอยู่ แต่เทียบกับบริษัทตระกูลเย่ไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าบริษัทตระกูลเย่ยอมร่วมงานกับบริษัทของลุงเธอ นั่นมันลดตัวชัดๆ
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
“อืม”เซียวซู่ตอบคำนึง สายตามองไปที่อื่น น้ำเสียงราบเรียบ:“ตอนนี้พอใจหรือยัง?”
“พอใจค่ะ พอใจ! !”
เป้าหมายของเจียงเสี่ยวไป๋ได้บรรลุแล้ว ขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้ม เซียวซู่มองเธออย่างหมดคำพูด
ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงไร้หัวจิตหัวใจขนาดนี้? ทั้งๆที่วินาทีก่อนยังตาแดงก่ำด่าเขาอยู่เลย ตอนนี้ก็มาทำสีหน้ายิ้มแย้มแบบนี้อีก?
ดังนั้น เธอคือโกรธจริงๆ หรือว่ากำลังแสดงละครอยู่? เซียวซู่ค่อนข้างใจแล้ว
“คุณวางใจเถอะ ครั้งหน้าพ่อแม่คุณมาหาคุณอีก ฉันจะต้อนรับพวกท่านอย่างดีแน่นอนค่ะ”
ที่จริงเซียวซู่อยากบอกว่าไม่ต้อง คบหากันลึกซึ้งเกินไปเดี๋ยวจะหลุดพ้นความสัมพันธ์ไม่ได้ แค่ดูหน้าแม่เขาก็รู้ว่าชอบเสี่ยวไป๋มาก ถ้าเสี่ยวไป๋ต้อนรับพวกท่านอย่างดีอีก ต่อไปแม่เขาไม่ต้องบีบให้เขาสองคนแต่งงานกันเลยเหรอ?
แต่ดูหน้าตาดีใจของเจียงเสี่ยวไป๋ ไม่นึกเลยว่าเขาจะเหมือนถูกผีอำไม่หือไม่อืออะไรเลย
ช่างเถอะ ดูไปทีละก้าวก่อนเถอะ
ต่อมาถูกเจียงเสี่ยวไป๋พูดถูกจริงๆด้วย เมื่อก่อนเหลียงหย่าเหอไม่ชอบมา ถึงคิดถึงลูกชายมากสุดก็แค่นานๆทีจะมาเที่ยวหาเขา
แต่หลังจากพบว่าเซียวซู่มีแฟนแล้ว จำนวนครั้งที่ท่านมาหาเซียวซู่นับวันยิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกมาหาเจียงเสี่ยวไป๋ทุกวัน ตอนแรกเซียวหมิงจื้อยังมาเป็นเพื่อนเธออยู่
แต่ต่อมาคงจะเพราะผู้หญิงสองคนมีเรื่องพูดคุยกัน เขาที่เป็นชายวัยกลางคนก็โดดเดี่ยวมาก ก็ไม่ยอมมาเป็นเพื่อนท่านแล้ว
ตอนที่สองพ่อลูกพูดถึงเรื่องนี้ เซียวหมิงจื้อเองก็สีหน้าจนปัญญา
“แต่ไหนแต่ไรแม่แกก็เป็นคนบ้าอำนาจ เธอจะมาหาเสี่ยวไป๋พ่อจะทำอะไรได้? พ่อไม่ให้เธอมาได้เหรอ?” เซียวซู่ฟังแล้วก็หมดคำพูด
แต่เซียวหมิงจื้อกลับมองไส้ในออกนิดหน่อย เขาเสียงต่ำถามลูกชาย:“ที่จริงแกกับเสี่ยวไป๋ไม่ได้เป็นแฟนกันใช่มั้ย?”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เซียวซู่ตื่นตะลึง“พ่อ นี่พ่อรู้ได้ยังไงครับ?”
“นิสัยของแกเหมือนพ่อไม่มีผิด ถ้าเธอเป็นแฟนของแกจริงๆมีหรือที่พ่อจะดูไม่ออก?”เซียวหมิงจื้อถอนหายใจอย่างจนปัญญา:“ถึงแม้ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของพวกแกเป็นยังไง แต่ถ้าแกไม่ชอบคนอื่น ก็อย่าเสียเวลากันไปมาเลย แกก็ไม่เด็กแล้ว ความสาวของผู้หญิงก็ไม่ยาวนาน อีกอย่างให้เธอพักด้วยกันกับแก เวลานานเข้าก็ไม่ดีกับชื่อเสียงของเธอ พวกนี้แกเข้าใจมั้ย?”
หลังจากเซียวซู่ฟังแล้วค่อนข้างเงียบกริบ นี่เป็นจุดที่ก่อนหน้านี้เขาขาดการคิดพิจารณาจริงๆ คิดได้เพียงเขากับเจียงเสี่ยวไป๋ต่างกันคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ได้คิดว่าทั้งสองพักอยู่ด้วยกันจะมีผลกระทบกับชื่อเสียงเธอ
อีกอย่างตอนแรกเธอก็แค่มาแต่ตัวเฉยๆ ต่อมาไม่รู้เป็นอะไร เวลานานเข้า เธอก็เริ่มขนข้าวของตัวเองมา จู่ๆจากนั้นก็มานอนพักที่เขาเฉยเลย
ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่เขาควบคุมไม่ได้เลย ส่วนเขาจากตอนแรกที่รู้สึกหมดคำพูด ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายก็ยอมรับแล้วเหมือนกัน
ตอนนี้พอนึกย้อนแล้วก็เป็นกระบวนการที่มหัศจรรย์มาก
“พ่อ ผมรู้แล้วครับ”
“ทางฝั่งแม่แกตอนนี้ชอบเธอมาก เอาแต่คิดว่าเสี่ยวไป๋ก็คือว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ถึงขั้นของสืบทอดของตระกูลก็ได้เตรียมมอบให้เสี่ยวไป๋แล้ว”
เซียวซู่ยิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่:“นี่แม่ชอบเจียงเสี่ยวไป๋ขนาดนี้เลยครับเนี่ย?”
“ใช่”เซียวหมิงจื้อพยักหน้า:“แกดูซิแกโสดมานานเท่าไหร่แล้ว? พ่อกับแม่ต่างก็เป็นห่วงมาก เพราะหลายปีมานี้แกก็ไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักคน ตอนนี้อุตส่าห์มีแฟน หน้าตาสวยและมีจุดที่ยอดเยี่ยมหลายจุด ทุกด้านของเสี่ยวไป๋แม่แกล้วนพึงพอใจมาก”
ฟังถึงตรงนี้แล้ว เซียวซู่ถือว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้เซียวหมิงจื้อถึงเป็นฝ่ายพูดคำถามที่ว่าตัวเองไม่ได้เป็นแฟนกับเจียงเสี่ยวไป๋จริงๆ
ท่านอยากให้ตัวเองทำอะไรสักอย่าง
เพราะยังไงซะทั้งสองไม่ใช่แฟนกันจริงๆ ถ้าสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
“พ่อครับ ผมรู้ว่าต้องทำยังไงแล้วครับ ผมจะหาเวลาคุยกับแม่ให้รู้เรื่องครับ”
“อืม แกอย่าทำให้คนอื่นเสียใจก็พอ ที่จริงพ่อก็รู้สึกเสี่ยวไป๋เด็กคนนี้ไม่เลว ถ้าแกยอมเอาใจใส่ ให้เธอกลายเป็นคนของตระกูลเซียวก็ไม่เลวนะ”
ให้เจียงเสี่ยวไป๋กลายเป็นคนของตระกูลเซียว?
เซียวซู่ไม่เคยคิดมาก่อน แต่ตอนนี้พอคิดแบบปุ๊บ ไม่นึกเลยว่าในใจเขาจะไม่มีการต่อต้านสักเท่าไหร่ หรือว่าเพราะการอยู่ด้วยกันของช่วงนี้พบว่าที่จริงเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่เลว?
แต่นี่ไม่สามารถกลายเป็นเหตุผลที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน
เซียวซู่ไม่ได้พูดต่อ เซียวหมิงจื้อก็ไม่ได้เอาความประสงค์ของตัวเองเพิ่มไปที่ตัวเขา
ส่วนเหลียงหย่าเหอกับเจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่อีกฝั่ง ทั้งสองถึงขั้นเพิ่มวีแชท ทุกวันพูดคุยกันสารพัดอย่าง เหลียงหย่าเหอเห็นเจียงเสี่ยวไป๋เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของตัวเองอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นช่วงนี้เลยปฏิบัติกับเธอเป็นลูกสาวอย่างเต็มตัว
พูดข้อเสียของเซียวซู่สารพัด แต่ก็แอบส่งสัญญาณว่าเซียวซู่เป็นคนซื่อสัตย์เชื่อใจได้ แต่งงานกับเขาเป็นทางเลือกที่ดีอะไรประมาณนั้น
ที่จริงเจียงเสี่ยวไป๋ฟังรู้เรื่องหมด เพียงแต่เธออายที่จะอธิบาย เพราะยังไงซะเธอต้องเป็นเกราะกันกระสุนให้คนอื่น ได้แต่ยิ้มยิ้มอยู่ตลอดเวลา
ต่อจากนั้น ก็คือเจียงเสี่ยวไป๋จัดเตรียมเรื่องให้ลุงของเธอเจอหน้ากับเซียวซู่แล้ว
วันที่เจอหน้ากันเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ไปด้วย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเขาสองคนคุยกันเป็นยังไงบ้าง สรุปก็คือแม่ของเธอไม่ได้โทรมากวนเรื่องนี้กับเธออีก และเจียงเสี่ยวไป๋ก็ถือว่าได้สงบสักที
กลับเป็นเหลียงหย่าเหอเนี่ยสิที่ดึงเธอไว้ตลอด
“สัปดาห์นี้ลูกพี่ลูกน้องของเซียวซู่แต่งงาน ถึงเวลาหนูไปพร้อมเซียวซู่เถอะนะ?”
“ห๊ะ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ที่ได้รับข่าวนี้อย่างกะทันหันค่อนข้างรับมือไม่ทัน ไปร่วมงานแต่งของลูกพี่ลูกน้องของเซียวซู่พร้อมเขา? ลูกพี่ลูกน้อง งั้นก็เป็นพี่น้องของทางฝั่งอาเซียวน่ะสิ
ญาติที่สนิทกันขนาดนี้ ถ้าไปร่วมงานกับเขา งั้นไม่เท่ากับป่าวประกาศให้ทุกคนทราบว่าพวกเขาเป็นแฟนกันเหรอ?
แต่ว่า พวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆนี่นา
เจียงเสี่ยวไป๋เลยไม่ได้ตอบตกลงในทันที ตกดึกตอนที่เซียวซู่กลับมาได้ถามสถานการณ์กับเขา
เธออยากรู้ว่าเซียวซู่จะคิดยังไง จะยอมให้เธอไปด้วยหรือเปล่า?