เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1385ทำได้ลงคอ

บทที่1385ทำได้ลงคอ

ตอนแรกเพื่อนเก่าเจอกันยังพอมีมิตรภาพอยู่บ้าง

หลังจากเรื่องว่าที่ภรรยา มิตรภาพเล็กน้อยที่ทั้งสองโตมาด้วยกันนั้น เหมือนก็ได้จางหายไปตามๆกัน

ตอนนี้เขาถือสาการเข้าใกล้ของเธอมาก

คิดถึงตรงนี้ สวี่เย็นหวั่นหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด แต่น้ำเสียงกลับฟังไม่ออกว่าดีใจหรือเสียใจ:“คุณพูดถูกค่ะ ฉันคิดพิจราณาไม่ถี่ถ้วนเอง รบกวนคุณแล้ว ฉันวางสายก่อนนะคะ”

หานชิงวางสายทิ้ง และเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋า

ตอนที่เดินไป เสี่ยวเหยียนมองเขาด้วยจิตใต้สำนึกทีนึง

“ใครโทรหาคุณเหรอคะ?”

“สวี่เย็นหวั่นครับ”

เสี่ยวเหยียนติดคอ สวี่เย็นหวั่น? เธอโทรหาเขาทำไม?

หรือเธอยังไม่ยอมแพ้? ยังอยากทำอะไรอีกเหรอ?

ดูสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าจ้องมองตัวเอง ดวงตาที่มีชีวิตชีวาคู่นั้นเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม หานชิงก็อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ มือยื่นไปขยี้ศีรษะเธอเบาๆ

“อยากถามก็ถาม อัดอั้นไว้ไม่ถามทำไม?”

เสี่ยวเหยียนตบมือเขาออกอย่างไม่พอใจ“อะไรเนี่ย? ไม่ใช่คุณเหรอที่ควรจะเป็นฝ่ายรายงานเอง?”

รายงาน?

ครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากปากของเสี่ยวเหยียน หานชิงเบลอเล็กน้อย จู่ๆมีความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกคนคุม แต่ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและสงบจิตสงบใจมาก

มีความรู้สึกเหมือน ตัวเองได้มีครอบครัวแล้ว

คิดถึงตรงนี้ หานชิงเดินไปข้างหน้าหลายก้าว จู่ๆยื่นมือกอดคอของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า

จู่ๆระยะห่างของทั้งคู่ได้ใกล้เข้ามา เสี่ยวเหยียนตกใจหมด เบิกตากว้างมองหานชิง

เธอสามารถรู้สึกได้ว่าฝ่ามือของหานชิงกำลังถูไถอยู่ที่ท้ายทอยของตัวเอง เขาก้มหน้าเอาหน้าผากเข้าใกล้เธอ และพูดด้วยเสียงแหบแห้ง:“เธอโทรมาบอกว่า ฝ่ายประสานงานของบริษัทมีปัญหา ผมให้เธอเคลียร์เองแล้ว”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนกระพริบตาปริบๆ ดึงสติกลับมากะทันหันว่าหานชิงกำลังรายงานกับเธออยู่

เธอค่อนข้างติดอ่าง:“ฉัน ฉันก็แค่พูดเฉยๆ ทำไมคุณ……”

หานชิงหัวเราะเสียงต่ำ:“ให้ผมรายงานไม่ใช่เหรอ? ผมว่าคุณรีบรับปากผมโดยเร็วเถอะ แบบนี้จะได้คุมผมโดยเร็วแล้ว หืม?”

“ใครจะคุมคุณ ฝันหวานไปเถอะ!”เสี่ยวเหยียนผลักเขาออก แล้วเดินไปข้างในอีกครั้ง

ในขณะนี้เอง ในที่สุดพนักงานก็ได้เชิญตัวคนรับผิดชอบออกมา

คนรับผิดชอบเห็นหานชิง ก็รีบเดินมาทักทาย

“คุณหานครับ”

“อืม”

คนรับผิดชอบมองเสี่ยวเหยียนที่ดูชุดแต่งงานไปตามสายตาของหานชิง เผยรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะออกมา:“ท่านนี้คงเป็นคุณนายหานสินะครับ”

คุณนายหาน……

ได้ยินคำเรียกคำนี้ เสี่ยวเหยียนหน้าแดง คนทั้งคนเกือบจะลอยขึ้นมา

นี่ก็คงจะเป็นสิ่งที่ชาตินี้เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า สักวันเธอจะได้กลายเป็นคุณนายหาน

ผู้หญิงของหานชิง

คนถ่อยที่อยู่ในใจของเสี่ยวเหยียนลอยขึ้นฟ้าตั้งนานแล้ว แต่ว่าสีหน้ากลับไม่ปรากฏออกมาเลย

กลับเป็นหานชิงที่พยักหน้าและพูด:“แบบที่สั่งไว้ เอามาดูหน่อยครับ”

“ได้ครับ คุณหาน ด้านในเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ คุณหานกับคุณนายหานเชิญทางนี้ครับ”

เสี่ยวเหยียนเดินตามหานชิงเข้าไป ในหัวมีคำว่าคุณนายหานสะท้อนอยู่ตลอดเวลา

ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่ไปท่องเที่ยว พนักงานก็เคยเรียกครั้งนึงแล้ว แต่ความหมายของครั้งนั้นกับครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

เพราะฉะนั้นสรรพนามทั้งสองครั้ง สำหรับเสี่ยวเหยียนแล้ว ความรู้สึกในใจเธอไม่เหมือนกัน

เธอเดินไปด้วยและถามไปด้วย:“เราไม่ซื้อแบบของข้างนอกนี้เหรอคะ? ฉันรู้สึกชุดพวกนี้ก็สวยมากแล้วค่ะ”

หานชิงจูงมือเธอไว้ แววตาประคบประหงม:“เด็กโง่ ด้านในมีที่ดีกว่า”

“อ๋อ ค่ะ”

หลังจากเธอเห็นแบบที่สั่งตัดแล้ว เสี่ยวเหยียนถึงรู้ว่าที่แท้หานชิงไม่ได้หลอกเธอ ถึงแม้แบบของด้านนอกก็สวยมากแล้ว แต่แบบที่สั่งตัดข้างในนี้ดูสวยกว่า

ทั้งห้องเต็มไปด้วยชุดแต่งงาน ทำให้คนราวกับว่าอยู่ในความฝันที่สวยงาม เผชิญกับภาพเหตุการณ์แบบนี้ จู่ๆเสี่ยวเหยียนรู้สึกไม่สมจริงขึ้นมาแล้ว

เหมือนกับฝัน แต่ก็ไม่ใช่ความฝัน เธอยื่นมือหยิกตัวเองทีนึง เจ็บจนแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด

ที่แท้เป็นความจริง

“นี่เป็นแบบที่สั่งตัดทั้งหมดครับ แต่พวกนี้ล้วนเป็นแม่แบบ คุณสามารถเลือกดูก่อนได้ครับ แบบที่เลือกมาถึงเวลาจะมีดีไซน์เนอร์มืออาชีพมาช่วยคุณวัดตัวและตัดชุดครับ ถ้าคุณมีความคิดใหม่ๆก็สามารถแลกเปลี่ยนกับดีไซน์เนอร์ได้ครับ”

ไม่นานก็มีแม่แบบแล้ว?

จากคำพูดเขา เสี่ยวเหยียนแค่ฟังออกคำเดียวว่าแพง แต่แต่งงานทั้งที ทั้งชีวิตนี้มีแค่ครั้งเดียว ใส่แพงหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว

เสี่ยวเหยียนก็เลยค่อยๆไปดูชุดแต่งงานแล้ว หานชิงดูเป็นเพื่อนอยู่ข้างกายด้วย

แต่ไม่นาน มือถือของหานชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ หลังจากเขารับสายแล้วขมวดคิ้วแน่นมาก

เสี่ยวเหยียนได้เลือกแบบๆนึง ถูกใจมาก กำลังเตรียมถามความคิดเห็นของหานชิง กลับพบว่าเขากำลังจับมือถือไว้และขมวดคิ้วแน่น

พริบตาเดียวเธอก็รู้สึกผิดสังเกต จึงเดินไปถามเขา

“เป็นอะไรไปคะ?”

หานชิงเม้มปาก สายตาจ้องมองเธอไปสักพักใหญ่ๆ จากนั้นพูด:“ผมคงต้องไปโรงพยาบาลเที่ยวนึงครับ”

“อื๊ม?”เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ จู่ๆเขาพูดแบบนี้ออกมาคำนึงหมายความว่ายังไง คิดๆแล้วสีหน้าดูร้อนรนใจขึ้นมา:“คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ? ถึงต้องไปโรงพยาบาล?”

“ไม่ใช่ครับ”หานชิงปฏิเสธ“ทางโน้นโทรมาบอกว่า บริษัทของสวี่เย็นหวั่นเกิดเรื่อง ชกต่อยกันจนมีเลือดออกครับ”

เสี่ยวเหยียนได้ยินแล้วตกใจหมด พอมองสีหน้าท่าทางของหานชิงก็เข้าใจทุกอย่างเลย ถึงแม้ในใจขมขื่น แต่เธอก็ยังพูดด้วยรอยยิ้ม:“แล้วคุณยังรออะไรล่ะ? รีบไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว…….”

ยังพูดไม่จบ เอวของเธอก็ถูกหานชิงโอบเอาไว้

“คุณไปกับผมเถอะ”

เสี่ยวเหยียนอึ้งค้างไว้ จ้องมองเขาอย่างเอ๋อ ไปกับเขา?

“มันจะเหมาะเหรอคะ?”เธอถามด้วยความสงสัย

“ใกล้จะเป็นคุณนายหานอยู่แล้ว ไปกับผมมีอะไรไม่เหมาะ?”

“แต่ว่า……”เสี่ยวเหยียนลังเลเล็กน้อย

“ถ้าไม่ไปเป็นเพื่อนผม คุณสบายใจได้? ผู้หญิงคนนั้นหมายปองผู้ชายของคุณเชียวนะ วางใจให้ผมไปแบบนี้?”

เสี่ยวเหยียนหมดคำพูดในพริบตา คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมา แต่ว่าคำพูดเขาก็ได้เตือนเธอ ทำไมอยู่ดีๆก็เกิดเรื่องซะล่ะ? เธอที่เป็นคุณหนูของตระกูลสวี่จัดการเรื่องพวกนี้ไม่อยู่เหรอ?

ถ้าทุกครั้งจัดการไม่ได้และเกิดเรื่องทุกครั้ง แล้วจะต้องให้หานชิงไปจัดการทุกครั้งเหรอ?

คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนตระหนักได้ว่าบางทีสวี่เย็นหวั่นอาจจะยังไม่ละทิ้งหานชิงจริงๆ

ก็ใช่ จะมีใครกันที่ยอมละทิ้งง่ายๆแบบนี้?

ตั้งแต่ครั้งก่อน ตอนที่หล่อนนั่งอยู่ที่เบาะนั่งข้างคนขับคุยโวโอ้อวดให้ตัวเอง เธอก็รู้สึกได้แล้ว

คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างแรง:“คุณพูดถูก ฉันจะให้คนอื่นหมายปองคุณไม่ได้ งั้นฉันไปกับคุณดีกว่า จ้องคุณไว้”

“อืม”

“แล้วทางนี้……”

“รอให้เคลียร์ธุระเสร็จ เราค่อยมาใหม่ เพราะยังไงซะก็ยังมีเวลาอยู่”

“โอเคค่ะ”

เดิมทีเสี่ยวเหยียนยังนึกว่าเขาจะจากไป จากนั้นก็ทิ้งตัวเองไว้ที่นี่คนเดียว คิดไม่ถึงว่าเขาจะเสนอความคิดเห็นออกมาว่าไปด้วยกัน ในเมื่อเช่นนี้ เธอก็ไม่ปฏิเสธแล้ว

งั้นก็ให้เธอตามไปดูสวี่เย็นหวั่นที่อยู่ในโรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง เธอใจร้ายทำกับตัวเองได้ลงคอจริงหรือเปล่า?

ผลลัพธ์ได้พิสูจน์ว่า สวี่เย็นหวั่นทำกับตัวเองได้ลงคอจริงๆ

เพราะเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset