บทที่1427 สูญเสียไป
พอทั้งสองคนนั้นได้ยินเสียง ก็หันหน้าไปพร้อมกัน
ไม่รู้ว่าหานชิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสวมชุดสูทในจะมาใส่ในงานแต่ง แต่ว่าตอนที่วิ่งมานั้นรีบไปหน่อย แขนเสื้อกับคอเสื้อก็ยุ่งเหยิง หน้าผากมีเหงื่อซึมออกมา แม้ว่าลมหายใจของเขาจะไม่คงที่ แต่ว่าเขาก็พยายามกดมันเอาไว้
“หานชิง เหยียนเหยียนอาจจะยังอยู่ข้างในก็ได้ ด้านในไฟไหม้” พอหลัวหุ้ยเหม่ยเห็นหานชิง น้ำตาก็ร่วงลงมาทันที
หานชิงหอบพร้อมกับพูดว่า “ผมเข้าใจแล้ว คุณลุงคุณป้า พวกคุณไปถอยไปข้างๆ ก่อนครับ ผมจะลองดูว่าจะกระแทกประตูให้เปิดได้ไหม”
“ได้ ได้เลยๆๆ ”
หลัวหุ้ยเหม่ยรีบถอยไปด้านข้าง พ่อจางเองก็ถอยไปด้านข้างเหมือนกัน
เพราะว่ากลอนประตูถูกทำให้พังแล้ว ดังนั้นก็เลยเปิดไม่ออก และก็ไม่สามารถหาอุปกรณ์ที่จะมาทุบกลอนประตูได้ในขณะนี้ ในสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลนี้ทำได้แค่กระแทกประตูเท่านั้น
หานชิงอายุกำลังเหมาะสม บวกกับการที่เขาออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้นแรงก็เลยค่อนข้างเยอะ ประตูเปิดออกนิดหน่อยหลังจากโดนเขากระแทกอยู่สองสามครับ ทำให้เกิดเสียงดังมาก
ทุกครั้งที่กระแทกเข้าไป หลัวหุ้ยเหม่ยรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อและกระดูกของหานชิงนั้นเจ็บมาก แต่ว่าสีหน้าของหานชิงก็ยังคงมืดครึ้มตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ริมฝีปากบางของเขาเม้มจนเกือบเป็นเส้นตรง เอาแต่กระแทกประตูอยู่แบบนั้น
ปัง!
หลังจากประตูเปิดออก ก็มีกลิ่นที่ทำให้สำลักจากด้านในทะลักออกมา พร้อมกับเปลวไฟที่พุ่งพรวดออกมา หลัวหุ้ยเหม่ยอยากจะวิ่งเข้าไปทันที แต่ว่าก็โดนพ่อจางดึงไว้
“ไฟมันใหญ่เกินไป เข้าไปแบบนี้ไม่ได้”
หลัวหุ้ยเหม่ยตะคอกออกมาด้วยความโกรธ “ตาเฒ่าแกอยากตายรึไง เวลาแบบนี้ยังมัวคิดเรื่องนี้อีก ด้านในอาจจะมีลูกสาวของเราอยู่ก็ได้นะ”
หลัวหุ้ยเหม่ยได้สูญเสียสติทั้งหมดไปแล้ว พ่อจางยังคงหลงเหลือสติไว้อยู่ และในตอนนี้เองหานมู่จื่อก็ตามมาถึง พอเธอเห็นกองไฟที่รุนแรงขนาดนี้ เธอก็ตกใจมาก แล้วก็รีบพูดว่า
“คุณป้า ไฟมันแรงเกินไป ต่อให้คุณเข้าไป ก็ไม่สามารถช่วยเสี่ยวเหยียนได้หรอกค่ะ”
“ถ้ายังงั้นจะทำยังไงดี……”
พอคนตรงนี้พูดจบ ทั้งสามคนก็มองไปข้างหน้า ก็พบว่าตรงหน้าประตูไม่มีร่างของหานชิงแล้ว
“พี่! ”หานมู่จื่อตกใจ แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว
พ่อจางดึงเธอไว้ “หนูเข้าไปไม่ได้ ไฟมันแรงเกินไป”
หานมู่จื่อรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากลำคอแล้ว เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น “หน่วยกู้ภัยจะมาถึงเมื่อไหร่? ”
“ก่อนหน้านี้แจ้งตำรวจไปแล้ว แต่ว่าการที่จะตามมานั้นต้องใช้เวลา ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” หลัวหุ้ยเหม่ยเช็ดน้ำตาไปด้วยพร้อมกับพูดอย่างคลุมเครือ
พอหานมู่จื่อคิดว่าข้างในมีเสี่ยวเหยียนอยู่ แล้วก็มีญาติของตัวเองด้วย เธอก็รู้สึกวิงเวียน แทบจะยืนไม่อยู่
ไฟกองใหญ่ขนาดนี้ เข้าไปแล้วจะออกมาได้ยังไงกัน? เธอหน้ามืด ตอนที่หานมู่จื่อรู้สึกว่าตัวเองแทบจะยืนไม่คงที่นั้น ก็มีแขนที่ทรงพลังคู่หนึ่งมากอดเธอไว้
กลิ่นอายที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในจมูกเธอ หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าคนที่โอบกอดเธอไว้นั่นก็คือเย่โม่เซิน ไม่รู้ว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เสี่ยวหมี่โต้วก็ยืนอยู่ข้างๆ เขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและความร้อนใจ
พอเห็นเย่โม่เซิน หานมู่จื่อก็เหมือนได้คว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ นิ้วของเธอจับคอเสื้อของเขาแน่น อยากจะพูดอะไร แต่ว่าก็สะอึกสะอื้น น้ำตาก็ร่วงลงมา
เย่โม่เซินเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็เม้มปากแน่น ดวงตาที่ดำมืดของเขาลึกซึ้ง หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองกองไฟในห้องนั้น ไฟกองใหญ่มากจนไม่เห็นรูปร่างข้างใน ถ้าเกิดว่าเข้าไปตอนนี้ต้องถูกไฟเผาอย่างแน่นอน
แต่ คนที่เธอแคร์อยู่ข้างในหมดเลย
พอคิดได้แบบนี้ เย่โม่เซินก็ปล่อยหานมู่จื่อ แล้วก็พูดกับเสี่ยวหมี่โต้วว่า “ดูแลหม่ามี๊ให้ดี”
พอได้ยินประโยคนี้ หานมู่จื่อก็รับรู้ถึงการตัดสินใจของเย่โม่เซินได้ทันที เธอรีบกอดแขนเขาเอาไว้แน่น “ไม่ ฉันไม่อนุญาตให้นายเข้าไป”
หานชิงเข้าไปแล้ว แล้วไฟก็ใหญ่โตขนาดนี้ เธอไม่กล้าคิดไปทางอื่นเลย แต่เธอไม่สามารถปล่อยให้คนสำคัญในชีวิตของเธอทั้งสามคนเสี่ยงไปพร้อม ๆ กันได้
“เชื่อฟัง”เย่โม่เซินลูบหัวของเธอเบาๆ แล้วก็ก้มหน้าจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ “สามีของเธอรอดมาได้จากการถูกฝังในทะเลนะ ตอนนี้ก็แค่ทะเลเพลิงเท่านั้นเอง ผูกมัดฉันไม่ได้หรอก จะกลัวอะไร? ”
“ไม่ ไม่ได้ ไม่ว่านายจะพูดยังไงก็ไม่ได้”หานมู่จื่อส่ายหน้า แล้วก็กัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น มองไปที่กองไฟด้านในและตัดสินใจว่า “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป กว่านักดับเพลิงจะมา ใครก็ห้ามเข้าไปทั้งนั้น”
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นห่วงสถานการณ์ข้างใน แต่ว่าเธอไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นต้องมาเสี่ยงอย่างเห็นแก่ตัวได้
ไฟกองใหญ่ขนาดนี้ มันไม่ใช่ว่ามีความกล้าหาญวิ่งเข้าไปแล้วจะทำอะไรได้ คนเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งก็แสดงว่ามีอันตรายเพิ่มอีกหนึ่ง
เสี่ยวเหยียนอยู่ด้านใน คือสิ่งที่เธอไม่อยากจะเห็น หานชิงก็เข้าไปแล้ว เธอก็ไม่สามารถห้ามไว้ได้ ถ้ายังงั้นสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ ก็คือรอพวกเขาออกมา รอให้นักดับเพลิงรีบมา
เย่โม่เซินจ้องหน้าเธอ แววตาของเขาเจ็บปวด “ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากใจด้วย? ทั้งๆ ที่เธอเป็นห่วง”
หานมู่จื่อกัดริมฝีปากแน่น “ฉันไม่สามารถให้ทุกคนตกอยู่ในความเสี่ยงได้ ถือว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้”
**
หลังจากที่หานชิงพุ่งเข้าไปในกองไฟนั้น เปลวไฟที่พุ่งเข้ามาที่หน้าของเขาทำให้ความชุ่มชื้นบนผิวหนังของเขาแห้งเหือด เปลวไฟไต่ขึ้นไปตามผ้าม่านอย่างรวดเร็ว ข้างของในโรงแรมค่อยๆ แตกเพราะว่าไฟไหม้ สภาพการณ์พวกนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในกองไฟนั้น เสียงที่ได้ยินในหูนั้นก็คือเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ข้าวของรอบข้างถูกทำลายเพราะเปลวไฟ กลิ่นฉุนนี้ทำให้ผู้คนน้ำตาไหลออกมา
หานชิงยืนอยู่กลางกองไฟ เหมือนกับว่าได้กลับไปสู่เหตุการณ์ในกองเพลิงที่เคยผ่านมาตอนเด็ก
ตอนนั้นเขายังเด็กมาก แต่กลับต้องเห็นญาติที่สนิทที่สุดต้องมาตายต่อหน้าต่อตาตัวเองเพราะว่าจะช่วยตัวเองไว้ ตอนนั้นที่บ้านไฟดับ แม่ก็เลยจุดเทียน หลังจากนั้นก็ให้หานชิงนั่งอย่างเชื่อฟัง อย่าวิ่งหรือเคลื่อนไหวไปมา
เพราะว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของเขา หานชิงตัวน้อยๆ ก็เอะอะอยากจะกินเค้กหวานๆ แต่ว่าตอนที่แม่จะออกไปข้างนอกนั้นก็ไฟดับพอดี เดิมทีแม่ของหานชิงที่ตอนนั้นคือคุณนายหานไม่วางใจที่จะปล่อยให้เขาอยู่ที่บ้าน แต่พอนึกว่าพ่อของหานชิงกำลังพักผ่อนอยู่ที่ห้อง ก็เลยวางใจ
ก็เลยให้หานชิงอยู่คนเดียว ถ้าเบื่อก็ไปปลุกพ่อ หลังจากนั้นคุณนายหานก็ออกไปซื้อเค้ก
หานชิงตัวน้อยนั่งรออยู่ตรงหน้าเทียนอย่างเชื่อฟัง สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะได้กินเค้ก เขาก็เหมือนเด็กคนอื่นๆ ชอบรสชาติที่หอมหวานของเค้ก โดยเฉพาะชั้นของเนื้อครีมที่คลุมไว้ด้านนอก นุ่ม ลื่น หวาน
เขายังตั้งหน้าตั้งตารอ แล้วอีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวันนี้คือวันเกิดของเขา เขาห้าขวบแล้ว ดังนั้นวันนี้บนเค้กก็สามารถปักเทียนได้ห้าเล่ม ในปีนี้ตอนที่เป่าเทียนเขาจะขอพรสามข้อ
พรข้อที่หนึ่งก็คือเขาหวังว่าตัวเองจะโตขึ้นเร็วๆ แล้วในอนาคตก็จะได้ไม่ต้องรอกินเค้กแค่ในวันเกิดเท่านั้น
พรข้อที่สองก็คือหวังว่าคุณตาของเขาจะยอมรับพ่อของเขาเร็วๆ ไม่ยังงั้นพ่อของเขาก็จะดูไม่มีความสุขเลยทั้งวัน เพราะว่าแม่ต้องลำบากอยู่กับพ่อ แต่ว่าเหมือนกับว่าพ่อไม่อยากจะเห็นแม่ลำบาก คุณตามีเงิน แล้วก็ดีกับเขามาก แต่เพราะว่าเกลียดพ่อ ดังนั้นเขาก็เลยหวังว่าคุณตาของเขาจะชอบพ่อของเขา
พรข้อที่สาม ก็คือหวังว่าพ่อกับแม่จะมีสุขภาพแข็งแรง และจะฉลองทุกวันเกิดร่วมกัน
แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่า เขากลับต้องมาสูญเสียพ่อในวันเกิดครั้งนี้