เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 145 ยุแยงตะแคงรั่ว

บทที่145 ยุแยงตะแคงรั่ว

“มีลูกน้องที่ไหนกล้าต่อรองกับเจ้านาย?” เย่โม่เซินพูดด้วยความรำคาญ

เสิ่นเฉียวจับกระเป๋าในมือแน่น เธอกัดฟันพูดด้วยความโมโหไม่น้อย “ต่อให้ต้องทำโอทีเพราะเอกสารพวกนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเสร็จได้ในพริบตา ฉันเอากลับไปทำที่บ้านได้ไหมคะ?”

เธอยอมอ่อนให้ครึ่งหนึ่ง

“ไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม เย่โม่เซินไม่มีทีท่าจะยอม

เสิ่นเฉียวจะพูดอะไรได้? เธอคิดดูแล้ว นัดเจอหานเส่โยวใหม่ในวันพรุ่งนี้เถอะ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เธอกลับถอนสายตาที่ดื้อรั้นจ้องมองไปที่เย่โม่เซินและเดินไปที่ที่นั่งของเธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ทำโอทีก็โอที คนอย่างเสิ่นเฉียวเธอไม่จำเป็นต้องยอมแพ้ใคร

เสิ่นเฉียวกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ส่วนเซียวซู่ก็เข็นพาเย่โม่เซินออกไปแล้ว

หลังจากที่เขาไปแล้ว เสิ่นเฉียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งข้อความให้หานเส่โยว เพื่อบอกว่าวันนี้เธอไปไม่ได้แล้ว ให้นัดกันใหม่

ข้อความถูกส่งออกไปได้เพียงสองนาที หานเส่โยวก็รีบโทรหาเธอทันที

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เย็นนี้นัดกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ จะให้นัดใหม่ล่ะ?”

น้ำเสียงของหานเส่โยวฟังดูเป็นกังวลและกระสับกระส่ายไม่น้อย

มันไม่ง่ายสำหรับเธอที่จะตัดสินใจบอกคำตอบให้กับเสิ่นเฉียว กลัวว่าหากผ่านวันนี้ไปจะอดไม่ได้พูดความจริงออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เสิ่นเฉียวจะไม่ไป

ดังนั้นหานเส่โยวจึงตื่นตระหนกอยู่ในใจ

เธอกำลังคิดว่าเสิ่นเฉียวเกิดไปรู้อะไรเข้ารึเปล่านะ

เสิ่นเฉียวมองดูเอกสารกองพะเนินเป็นภูเขาตรงหน้าเธอแล้วปวดหัวเล็กน้อย “ขอโทษนะเส่โยว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยวนัดเธอนะ เพียงแต่ว่าวันนี้มีธุระด่วนน่ะ เลยไปตามนัดไม่ได้”

หานเส่โยว: “ถ้างั้นพรุ่งนี้ล่ะ?”

“ถ้าเป็นพรุ่งนี้…ก็ต้องรอพรุ่งนี้ล่ะ”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมเธอยุ่งขนาดนี้?”

เสิ่นเฉียว: “ฉันต้องทำโอทีที่บริษัท”

ปลายสายนิ่งไปชั่วครู่แล้วจึงพูดขึ้น: “เธออยู่คนเดียวเหรอ?”

เสิ่นเฉียวมองไปรอบ ๆ ที่ว่างเปล่าแล้วพยักหน้า: “ใช่”

“ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง เดี๋ยวฉันเอาอาหารเย็นไปให้ เธออยากกินอะไร?”

ได้ยินคำพูดนี้ ทำให้เสิ่นเฉียวอบอุ่นใจ “ฉันอะไรก็ได้ แต่เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ทำให้เธอเสียเวลาหมดสิ?”

“ฉันกับเธอเราเป็นอะไรกัน เธอยังจะพูดกับฉันแบบนี้อีกเหรอ? รอฉันก่อนนะ ฉันจะไปถึงภายในหนึ่งชั่วโมง”

หลังจากวางสายไป เสิ่นเฉียวก็มองดูรูป profile วีแชทของเส่โยว

เพื่อนรักของเธอ หานเส่โยว

เธอดีกับตัวเองขนาดนี้ เธอจะเป็นคนแบบนั้นอย่างที่ เสี่ยวเหยียนพูดได้ยังไง?

ชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางเป็นไปได้

เสิ่นเฉียวเก็บโทรศัพท์ และตั้งใจใช้ความคิดให้อยู่กับงาน

และไม่รู้ว่าทำงานผ่านไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นเสียงลิฟต์ก็ดังขึ้น เมื่อหานเส่โยวปรากฏตัวขึ้นที่ทางเดินพร้อมกล่องอาหารสองกล่องและตะโกน “โอ๊ยหนักจังเลย เสิ่นเฉียวรีบมาช่วยฉันหน่อย” เวลานั้น เสิ่นเฉียวก็พบว่าเวลาผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เธอรีบลุกขึ้นไปรับหานเส่โยวและรับถุงจากมือเธอมา

หานเส่โยวเดินมากับเธอจนถึงโต๊ะและมองดูเอกสารกองพะเนินเท่าภูเขาจนไม่สามารถวางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะได้

“แม่เจ้า นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมเอกสารเยอะขนาดนี้?”

ดวงตาของเสิ่นเฉียวมืดลงและเธอพูดเบา ๆ: “ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวฉันทำความสะอาดก็มีที่วางแล้ว ขอเวลาสิบนาที”

หานเส่โยวอยู่ข้าง ๆ ดูเสิ่นเฉียวทำความสะอาด เธอมองไปทางห้องทำงานโดยไม่รู้ตัวและพูดโดยไม่รู้ตัว: “คุณชายเย่ทำโอทีด้วยไหม?”

“เปล่า” เสิ่นเฉียวส่ายหน้า: “ทั้งบริษัทคงมีฉันเพียงคนเดียวที่ทำโอที”

หานเส่โยวเบิกตาโพลง: “นี่มันตรรกะอะไร ทั้งบริษัทมีเธอทำโอทีคนเดียว? งานทั้งบริษัทจะให้เธอทำคนเดียวหรือยังไง?”

“มันไม่เกี่ยวกันหรอก ฉันทำงานไม่เสร็จเองต่างหาก”

“งานเยอะขนาดนี้ทำสามวันก็ไม่รู้จะเสร็จได้รึเปล่า?” หานเส่โยวบ่นอย่างอารมณ์เสีย: “บริษัทของพวกคุณปฏิบัติต่อเธอแบบไร้คุณธรรมไปนะ”

เสิ่นเฉียวทำความสะอาดของตรงนั้นเสร็จแล้ว จึงลากเก้าอี้มาให้หานเส่โยวนั่งและเปิดกล่องอาหาร

“เธอชอบอาหารเจของร้านนี้ไม่ใช่เหรอ? ฉันตั้งใจซื้อมาสองชุด ขับรถตั้งยี่สิบนาทีไปซื้อมาเลยนะ”

“ขอบคุณนะ เส่โยว”

“เกรงใจอะไรกัน? พวกเราเป็นใครกัน

ทั้งสองคนหยิบตะเกียบและทานอาหาร ทันใดนั้นหานเส่โยวก็ถามขึ้น “เธอยังไม่บอกเลยว่าทำไมบริษัทถึงต้องให้เธออยู่ทำโอทีด้วย? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

กับหานเส่โยว เสิ่นเฉียวไม่มีอะไรที่จะไม่พูด

เธอเล่าทุกอย่างโดยละเอียดให้หานเส่โยวฟัง

หลังจากที่หานเส่โยวได้ฟังแล้ว การแสดงออกบนใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เธอหมายความว่า เป็นเพราะรูปพวกนั้นทำให้เขาโกรธ ดังนั้นเลยจงใจให้เธอทำงานพวกนี้เหรอ?”

เสิ่นเฉียวหัวเราะแล้วพูดเบา ๆ: “ใครจะไปรู้? หรือไม่อาจจะเป็นเพราะฉันดูขัดหูขัดตา”

พูดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง: “เส่โยว เธอว่าใครเป็นคนแอบเล่นงานฉันกันนะ? ตั้งใจถ่ายรูปพวกนั้น”

หานเส่โยวหน้าซีดเผือด ในเธอเต้นไม่เป็นส่ำ เธอปกปิดความตึงเครียดในดวงตาของเธอก้มศีรษะลงและตอบอย่างลวก ๆ: “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”

เธออยากจะหยิบเนื้อเจชิ้นหนึ่ง สุดท้ายคงเป็นเพราะความตื่นตระหนก ตะเกียบจึงตกลงพื้น

สีหน้าของหานเส่โยวเปลี่ยนไปมาก เธอแค่อยากจะก้มลงไปหยิบตะเกียบแต่ก็ทำเก้าอี้ล้มไปด้วย

เสิ่นเฉียว: “…เส่โยว เธอเป็นอะไร? เงอะ ๆ งะ ๆ”

เมื่อหานเส่โยวก้มศีรษะลงเพื่อหยิบตะเกียบเธอก็อดไม่ได้ที่จะหลับตาเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

อย่ากระโตกกระตาก!

“ไม่มีอะไรหรอก…” หานเส่โยวยิ้มอย่างเก้อเขิน เธอลุกขึ้นและจะใช้ตะเกียบนั้นคีบอาหารต่อ เสิ่นเฉียวขมวดคิ้วแล้วหยิบตะเกียบในมือเธอไป: “มันสกปรกแล้ว กินไม่ได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอาไปล้างให้ก่อน”

พูดแล้วเธอก็หยิบตะเกียบแล้วลุกขึ้นไปล้าง

หลังจากเธอลุกไป หานเส่โยวใช้มือกุมหน้าอก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดน่ากลัว

คิดไม่ถึงว่าเธอจะเสียอาการต่อหน้าเสิ่นเฉียวแบบนี้

หลังจากเสิ่นเฉียวไปสักพัก หานเส่โยวก็ปรับอารมณ์ของเธอให้เข้าที่ได้

“เฉียวเฉียวคือว่าวันนี้ฉันไม่ได้กินข้าวเที่ยง แล้วเมื่อกี้ยังขับรถตั้งนาน ฉันหิวจนหน้ามืดมือสั่น ต้องลำบากเธอเลย”

ได้ยินอย่างนั้น เสิ่นเฉียวตกตะลึงและมองเธออย่างซาบซึ้ง

“เส่โยว เธอดีกับฉันจริง ๆ เลย”

หานเส่โยวเม้มปาก: “ไม่เสียหน่อย ก็เธอเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน! และฉันก็มีเธอเป็นเพื่อนสนิทเพียงแค่คนเดียว ก็ต้องดีกับเธอสิ”

หลังจากที่ทั้งสองคนกลับมานั่งที่แล้ว หานเส่โยวกลับไม่มีอารมณ์จะทารอะไรต่อแล้ว เธอพูดขึ้นเบา ๆ “เฉียวเฉียว ถ้าอย่างนั้นจะบอกว่ารูปภาพพวกนี้ทำให้เธอกับคุณชายเย่ผิดใจกันเหรอ? ความสัมพันธ์ของพวกเธอมันแย่ขนาดนั้นเหรอ? หรือจะบอกว่า…เพราะรูปพวกนั้น?”

เสิ่นเฉียวมองดูอาหารตรงหน้าอย่างเงียบงัน อันที่จริงเธอก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่สงบสุขได้รึเปล่า แต่ดูเหมือนพวกเขาจะสงบสุขดีอยู่ช่วงหนึ่งตั้งแต่เรื่องแพทย์แผนจีน

แต่ความสงบสุขนั้นเป็นความอัปยศอดสูสำหรับเสิ่นเฉียว

ผู้ชายที่เกลียดเขาที่สุดในชีวิตของตัวเองอารมณ์เปลี่ยนไปสุดขั้วหลังจากมีความสัมพันธ์กับเธอและเธอก็คิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี

“น่าจะใช่” เธอพยักหน้า

ตาของหานเส่โยวลุกเป็นประกายเมื่อได้ยินอย่างนั้น

ดูแล้วการใช้รูปถ่ายจะเป็นวิธีสร้างความร้าวฉานให้พวกเขาได้ดีทีเดียว

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset