บทที่1462พ่อแม่เจอกัน
เซียวซู่อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เบาสบายให้ตัวเอง จากนั้นได้ขับรถไปซื้ออาหารบำรุงสำหรับวัยกลางคนทานที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในระแวกนี้ แล้วซื้อเนื้อสด ผลไม้ อาหารทะเล เพราะยังไงซะตอนเที่ยงจะไปทานข้าวล่วงหน้า
คิดๆแล้ว เธอรู้สึกไปเจอหน้าครั้งนี้เตรียมของขวัญให้ผู้ใหญ่หน่อยจะดีกว่า ดังนั้นเซียวซู่จึงได้ซื้อเข็มขัดให้ว่าที่พ่อตาเส้นนึง ซื้อผ้าพันคอให้แม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ผืนนึง
หลังจากเตรียมของขวัญทั้งสองชุดเสร็จ เซียวซู่ได้รับสายของเหลียงหย่าเหอ
“ลูกรัก วันนี้ลูกต้องทำงานหรือเปล่า? แม่โทรหาเสี่ยวไป๋เธอไม่รับสาย ยังนอนหลับอยู่ใช่หรือเปล่า?”
เมื่อกี๊เซียวซู่ได้ปรับมือถือของเจียงเสี่ยวไป๋เป็นโหมดเงียบ คิดไม่ถึงว่าจะพลาดสายเรียกเข้าของแม่เขา เขาจึงอธิบาย:“อืม เมื่อคืนเธอไม่ได้หลับดีๆ ผมก็เลยให้เธอนอนต่ออีกสักพัก มือถือได้ถูกผมปรับเป็นโหมดเงียบครับ”
“ถึงว่าล่ะ แม่ก็ว่าเป็นไปได้ยังไงที่เสี่ยวไป๋ยัยเด็กคนนี้จะไม่รับสายแม่ ที่แท้ก็ฝีมือแกนี่เอง!”
เซียวซู่:“แม่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ทำไม? แม่แท้ๆก็โทรหาลูกชายไม่ได้แล้วเหรอ?”
ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เซียวซู่รู้นิสัยของแม่เขาดีมาก ทุกครั้งที่ท่านโทรมาต้องมีกิจกรรมแน่นอน ถ้าไม่มีธุระปกติแม่เขาไม่โทรมาหรอก โดยทั่วไปแล้วเลี้ยงลูกแบบปล่อยเป็นอิสระมากกว่า
ดังนั้นเขาก็เลยไม่ได้พูดต่อ รอให้เหลียงหย่าเหออดกลั้นไม่ไหวพูดออกมาเอง
ไม่ต้องให้เซียวซู่ถามเลย เหลียงหย่าเหอก็ได้พูดออกมาหมดเลย“คืออย่างนี้ วันนี้แม่กับน้าๆของแกนัดกันไปแช่ออนเซ็นที่ภูเขา พวกน้าๆของแกต่างก็บอกว่าแช่ออนเซ็นดีกับผิว ดังนั้นสุดท้ายพวกเธอต่างก็ลากคนในครอบครัวไปด้วย แม่จะไปคนเดียวได้ยังไงล่ะ ดังนั้นแม่ก็เลยคิดว่าเสี่ยวไป๋อยู่บ้านทุกวันไม่ใช่เหรอ? แม่ก็เลยอยากให้เธอไปกับแม่”
เซียวซู่ฟังแล้วนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องไปทานข้าวที่บ้านของเสี่ยวไป๋ จึงได้เม้มริมฝีปากบาง จากนั้นพูดว่า:“วันนี้เหรอครับ? เกรงว่าคงจะไม่ได้ครับ”
“ไม่ได้ยังไง?”เหลียงหย่าเหอค่อนข้างไม่พอใจในทันที:“แกไม่ให้แม่พาเสี่ยวไป๋ออกไปใช่มั้ย? เซียวซู่แกไม่คิดจะอยู่กับเสี่ยวไป๋ในระยะยาวใช่หรือเปล่า? แม่จะบอกแกให้นะลูกชาย แกเอาครั้งแรกของคนอื่นไปเชียวนะ ถ้าแกกล้าไม่รับผิดชอบ ฉันกับพ่อของแกตีขาแกหักแน่”
เซียวซู่หนังตากระตุก ริมฝีปากก็อดกระตุกไม่ได้
ทำไมถึงเอ่ยเรื่องนี้อีกแล้ว?
“แม่ครับ ต่อไปแม่อย่าเอ่ยเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยนะครับ และอย่าเอ่ยเรื่อยเปื่อยต่อหน้าเสี่ยวไป๋นะครับ”
คิดไปคิดมา เซียวซู่รู้สึกตัวเองบอกทิศทางการไปของวันนี้หน่อยดีกว่า
“สำหรับสาเหตุที่วันนี้ไม่ให้เสี่ยวไป๋ไป เพราะพวกเรามีกิจกรรมอย่างอื่น ไปไม่ได้ครับ”
“กิจกรรมอย่างอื่น? กิจกรรมอะไร?”
เหลียงหย่าเหอฟังแล้วก็แปลกใจขึ้นมาทันที ถ้ากิจกรรมของลูกชายกับลูกสะใภ้สนุก งั้นเธอยังไปแช่ออนเซ็นกับยัยผู้หญิงที่มีภาระครอบครัวอยู่แล้วทำไม ไปกับลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ดีกว่าเหรอ?
“วันนี้จะไปทานข้าวกับพ่อแม่ของเสี่ยวไป๋ที่บ้านเธอครับ”
เหลียงหย่าเหอฟังแล้วก็ระเบิดอารมณ์เลย
“อะไรนะ? จะไปพบพ่อแม่ของเสี่ยวไป๋แล้ว? ไอ้เด็กเวร ทำไมไม่บอกแม่ตั้งแต่แรก? แม่จะได้เตรียมตัว”
“เตรียมตัวอะไรครับ?”เซียวซู่อธิบายอย่างค่อนข้างจนปัญญา:“วันนี้คือผมกับเสี่ยวไป๋ไป ไม่ได้จัดเตรียมแม่กับพ่อครับ”
แต่ไม่ว่ายังไงเหลียงหย่าเหอก็ไม่เห็นด้วย หลังจากเตรียมตัวเสร็จก็ได้ตามไป
“เด็กคนนี้นี่รู้อะไรเนี่ย? ต่อไปแกกับเสี่ยวไป๋จะอยู่ด้วยกัน ไม่ช้าก็เร็วพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ต้องเจอหน้ากัน ยิ่งไปกว่านั้นนิสัยแย่ๆอย่างแก ขืนให้แกไปคนเดียว ถึงเวลาแม่ของเสี่ยวไป๋ไม่ชอบแกจะทำยังไง? ไม่ได้ ฉันต้องรีบไปเตรียมตัว จากนั้นก็รีบไปพร้อมกับพ่อของแก”
“แต่ว่า………”
เซียวซู่ยังอยากพูดอะไรต่อ เหลียงหย่าเหอก็ได้วางสายทิ้งแล้ว ในสายได้มีเสียงสัญญาณไม่ว่างก้องมา
เขาเก็บมือถือ ค่อนข้างเสียใจที่เมื่อกี๊บอกกับเหลียงหย่าเหอ เขาน่าจะปิดบังไว้อีกหน่อย ตามนิสัยของเหลียงหย่าเหอแล้ว ไม่แน่วันนี้ก็อาจจะคุยเรื่องแต่งงานกับแม่ของเสี่ยวไป๋ในโต๊ะอาหารเลย
ถึงแม้ตอนนี้เขากับเสี่ยวไป๋อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็เหมือนที่เสี่ยวไป๋พูด ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือเปล่า ตอนนี้ทั้งสองยังไม่มั่นคงจริงๆ
เพราะตั้งแต่แรกทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความรัก
จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ใจตัวเอง แม้แต่เสี่ยวไป๋ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าตกลงเธอชอบตัวเองหรือเปล่า ตอนนี้ถ้าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเจอกันล่ะก็……….
ไม่นานเซียวซู่ก็ได้ซื้อของกลับมาที่บ้านแล้ว ผลักประตูห้องนอนออก พบว่าเจียงเสี่ยวไป๋ยังนอนอยู่ มิหนำซ้ำยังกอดหมอนข้างกลิ้งไปถึงหัวมุม มือกับขาไม่ได้ห่มผ้าเลยด้วยซ้ำ
เซียวซู่ได้แต่เดินไปช่วยเธอดึงผ้าห่มให้ดีๆ จากนั้นก็นั่งลงที่ข้างเตียง
เขารู้นิสัยของเหลียงหย่าเหอ บอกว่าจะมาก็ต้องมาแน่นอน ไม่แน่ตอนนี้อาจจะอยู่ระหว่างทางแล้วก็ได้
เพราะฉะนั้นเซียวซู่จึงได้แต่ปิดเสียงมือถือ จากนั้นก็ส่งข้อความให้เหลียงหย่าเหอว่าเสี่ยวไป๋ยังหลับอยู่ หลังจากมาถึงงอย่าส่งเสียงดัง ให้เธอหลับอีกสักพัก
เหลียงหย่าเหอตอบข้อความไวมาก เธอได้ตอบท่าทางมือOK
จากนั้นก็ได้เพิ่มเติมอีกข้อ: ยังต้องให้แกพูดเหรอ ลูกสะใภ้ของฉันๆรู้ว่าควรจะทะนุถนอมยังไง
ครั้งนี้เสี่ยวไป๋หลับลึกมาก เมื่อคืนงอนหนักแค่ไหน ตอนเช้าก็หลับสบายมากแค่นั้น ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว ในห้องเงียบสงบ เธอหามือถือตัวเองเจอและดูเวลาไปแว๊บนึง
ใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้วเหรอเนี่ย? เอ่อ ไหนเซียวซู่บอกจะปลุกเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเลย?
หรือไอ้หมอนี่แอบหนีไปนอนคนเดียว?
คิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ลุกขึ้นคลุมเสื้อคลุมให้ตัวเอง จากนั้นได้เดินออกไปด้านนอก
เธอเพิ่งผลักประตู ก็พบเซียวซู่ที่จะเข้ามาพอดี
ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างก็ได้หยุดฝีเท้าไว้
“คุณตื่นแล้วเหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า:“ตั้งสิบเอ็ดโมงแล้ว ทำไมคุณไม่ปลุกฉันตื่นเช้าหน่อย? ตอนนี้เวลาจะไม่ทันหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก”เซียวซู่ส่ายหัว“เวลาพอดีเลย ฝั่งโน้นจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ผมมารับคุณ”
“งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋หันหลัง เซียวซู่กลับดึงแขนของเธอไว้ และกระแอมเสียงเบา:“เอ่อคือ เรื่องอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยนะ”
“หืม?”
“พ่อแม่ผมได้ข่าวเรื่องของวันนี้ ก็เลย……..”
“เอิ่ม คุณคงไม่ใช่อยากบอกว่า พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจะเจอหน้ากันแล้วมั้ง?”
นี่เป็นเรื่องที่เจียงเสี่ยวไป๋คาดคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง เธอเคยคิดว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจะเจอกัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวันนี้
“คุณก็รู้นิสัยของแม่ผม ท่านได้ข่าวว่าผมจะไปทานข้าวที่บ้านคุณ ก็รู้สึกจองโต๊ะที่ของโรงแรมดีกว่า จากนั้นก็เชิญพ่อแม่คุณมา”
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้:“เพราะฉะนั้น คุณคงไม่ใช่ว่ารับพ่อแม่ฉันไปที่โรงแรมแล้วในตอนที่ฉันยังหลับอยู่มั้งคะ?”
เซียวซู่ไม่ได้พูดต่อ แต่สีหน้าได้บ่งบอกทุกอย่างแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือขยี้หัวตัวเอง รู้สึกเวียนหัว แค่นอนไปงีบนึงท้องฟ้าก็เกิดการเปลี่ยนแล้ว Oh my god!
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า?”เซียวซู่ชี้ด้านหลังเธอ
เจียงเสี่ยวไป๋ได้แต่พยักหน้าอย่างจนปัญญา:“ฉันไปเปลี่ยน รอฉันแป๊บนึงนะ”