บทที่1467ไม่ใช่แยกจากกันก็ตายจากกัน
อะไรนะ?
ตอนที่เห็นข้อความนี้ เจียงเสี่ยวไป๋อึ้งค้างในทันที แค่เมื่อคืนเจอกันครั้งเดียว วันนี้ก็จะไปดูดวงว่าสมพงษ์กันหรือเปล่าแล้วเหรอ?
อีกอย่าง สมัยนี้ยังเชื่อเรื่องนี้ที่ไหนกัน? คิดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋พิมพ์ข้อความกลับด้วยความหดหู่
“แม่คะ นี่มันสมัยไหนแล้วคะ ไม่ต้องไปดูว่าสมพงษ์กันหรือเปล่าแล้วมั้งคะ?”
หลังจากข้อความส่งออกไป ตู้เซียวหยู่ก็ได้โทรศัพท์มาโดยตรง
“ตอนนี้สมัยไหน? ทุกคนแต่งงานต่างก็ต้องไปดูว่าดวงสมพงษ์กันหรือเปล่าทำไมมาถึงที่แกก็ไม่ต้องการแล้ว?”
ได้ยินเสียงของตู้เซียวหยู่ เจียงเสี่ยวไป๋อดแบะปากไม่ได้“สมัยโบราณถึงมีวันเดือนปีเกิดไม่ใช่เหรอคะ? เมื่อก่อนล้วนเป็นพ่อแม่แนะนำ แม้กระทั่งบางคนหน้ายังไม่ได้เจอ ถึงเชื่อวิธีทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ขอแค่พวกหนูอยู่ด้วยกันก็พอแล้วนี่คะ เอาวันเดือนปีเกิดทำไมคะ? ถ้าเกิดแม่ไปดูแล้วดวงไม่สมพงษ์กัน งั้นพวกเรายังต้องแยกจากกันเพราะเหตุนี้หรือเปล่า?”
ตู้เซียวหยู่พูดอย่างเด็ดขาด“ถูกต้อง”
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังแล้วหน้าบึ้งตึง
“งั้นไม่ให้”
ตู้เซียวหยู่:“ยัยตัวแสบ แกนึกว่าแกไม่ให้ฉันก็ขอไม่ได้แล้วใช่มั้ย? แกรู้มั้ยว่าแม่ของเขาอยากได้แกเป็นลูกสะใภ้มากแค่ไหน? ถ้าฉันไปถามแม่ของเขาขอวันเดือนปีเกิดของลูกชายเธอ คนอื่นจะต้องส่งมาที่มือฉันทันทีแน่”
“ได้สิคะ งั้นแม่ไปขอเลย แต่ไม่ต้องมาขอหนู หนูก็ไม่สนว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง หนูเชื่อแค่ตัวเองค่ะ”
ตู้เซียวหยู่ถูกคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ทำเอาโมโห ว่าเธอไปครึ่งค่อนวัน สุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ไม่อยากฟังแล้วจริงๆ ดังนั้นก็เลยวางสายเธอทิ้ง
หลังจากวางสาย เจียงเสี่ยวไป๋กุมมือถือไว้ด้วยและยันขอบเตียงค่อยๆลุกขึ้นมา จากนั้นลากสังขารที่เหนื่อยล้านอนลงไปที่เตียงอีกครั้ง
ตู้เซียวหยู่ยังอยากคุยอะไรกับเสี่ยวไป๋อีกหน่อย มือถือก็ส่งเสียงสัญญาณไม่ว่างมา ทันใดนั้นเธอโมโหจนสีหน้าเปลี่ยน ว่าเธอเสียๆหายๆต่อหน้าสามีตัวเอง
“คุณดูยัยเด็กคนนี้สิ ต้องถูกคุณโอ๋จนเสียคนแน่ๆ ตอนนี้ดื้อขนาดนี้ ให้เธอไปถามวันเดือนปีเกิดหน่อยก็ไม่ยอม มีใครแต่งงานไม่ดูว่าดวงสมพงษ์กันหรือเปล่าบ้าง?”
เจียงเหย็นเคอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอได้ยินแล้วกระแอมสองที:“ตอนที่เราแต่งงานกันก็ไม่ได้ไปดูนะ”
ตู้เซียวหยู่ฟังแล้วกระพริบตาอย่างไม่เห็นด้วย“ใครบอกว่าไม่ได้ดู?”
“ได้ดูเหรอ?”เจียงเหย็นเคอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนไม่รู้เรื่องนี้เลย:“ดูเมื่อไหร่? ตอนนั้นไม่ใช่บอกว่าไม่ได้ดูเหรอ?”
สีหน้าของตู้เซียวหยู่กลัดกลุ้ม เอามือวางไว้ที่โต๊ะข้างๆ
“แม่ฉันไปดูลับหลังพวกเราค่ะ ตอนนั้นฉันเหมือนเสี่ยวไป๋เลยไม่อยากดู แต่ท่านไปดูลับหลังพวกเรา จากนั้นบอกพวกเราว่าเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กัน”
ตอนที่ได้ยินสวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กันคำนี้ เห็นชัดว่าเจียงเหย็นเคอดีใจมาก สีหน้ามีแต่ความสุขโผล่ขึ้นมา “สวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กัน? ถ้าตอนนั้นไปดูแล้วดวงไม่สมพงษ์กัน คุณก็จะไม่แต่งงานกับผมใช่มั้ย?”
“เรื่องในอดีตคุณจะเอ่ยถึงมันทำไม?”ตู้เซียวหยู่จ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์ทีนึง จู่ๆน้ำเสียงเปลี่ยนมาเข้มงวด“อยากหาเรื่องฉันเหรอ? ตอนนั้นฉันเคยบอกว่าไม่ดูว่าดวงสมพงษ์กันหรือเปล่า ยังไงก็จะอยู่กับคุณเชียวนะ”
ภรรยาดุปุ๊บ เจียงเหย็นเคอก็ไม่ได้พูดต่อจากคำถามเธอแล้ว แถมยังต้องปลอบเธออีก“เสี่ยวหยู่ อย่าโกรธเลยนะ ผมก็แค่ประหลาดใจถามดูเฉยๆ อีกอย่างผมรู้สึกตอนนั้นพวกเราก็ไม่อยากไปดู ถ้าเสี่ยวไป๋ไม่อยากไปดูล่ะก็ งั้นพวกเราก็เคารพความคิดของเธอเถอะ”
“แต่สุดท้ายก็ดูแล้วไม่ใช่เหรอคะ? เธอไม่อยากไปดู งั้นฉันที่เป็นแม่ก็ไปดูให้เธอก็ได้”
ก็เวลานี้แหละ ตู้เซียวหยู่ถึงเข้าใจตอนนั้นทำไมแม่ตัวเองถึงทำแบบนี้ เกิดเป็นคนเนี่ยนะ ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตจริงๆ สิ่งที่ทุกช่วงอายุให้ความสำคัญล้วนไม่เหมือนกัน
สิ่งที่สมัยเด็กๆให้ความสำคัญ พอโตแล้วจู่ๆก็ไม่ต้องการแล้ว สิ่งที่ตอนโตปรารถนา พอถึงช่วงวัยกลางคนก็ไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว
ก็เหมือนเมื่อก่อนที่เธอไม่เข้าใจทำไมแม่ต้องคอยมาก้าวก่ายเรื่องความรักของตัวเอง ก็ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเหรอ?
แน่นอน ตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้ว ก็สามารถเข้าใจได้แล้ว
เธอกังวลต่อไปเสี่ยวไป๋จะมีชีวิตลำบาก แต่ก็ต้องให้เธอมีพื้นที่ว่างหน่อย ดังนั้นแอบไปดูหน่อยดีกว่า ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง
ต่อมาตู้เซียวหยู่ก็ได้ค้นหาเบอร์ของเหลียงหย่าเหอที่เมมเอาไว้ในเมื่อคืน จากนั้นก็ได้โทรออกไป
ดูดวงเร็วมาก ขอแค่มีวันเดือนปีเกิดจากนั้นหาหมอดูดวงก็สามารถดูได้แล้ว ถึงแม้พฤติกรรมแบบนี้อยู่ในสมัยนี้ที่จริงเป็นเรื่องงมงาย ทุกคนต่างบอกว่าต้องเชื่อวิทยาศาสตร์ อย่างมงาย
แต่ว่าเกี่ยวพันถึงเรื่องบางอย่าง ก็จะต้องงมงายบ้างอยู่
ตู้เซียวหยู่กับเหลียงหย่าเหอได้ไปด้วยกัน
“หมอดูดวงท่านนี้ คนข้างบ้านของพวกเราต่างก็บอกว่าท่านแม่นมาก ดูดวงก็แม่น พวกเราให้ท่านดูดวงให้เสี่ยวไป๋กับเซียวซู่ ต้องดูฤกษ์งามยามดีออกมาแน่ๆค่ะ”
เหลียงหย่าเหอพาตู้เซียวหยู่เดินเข้าไปในซอยลึกๆอย่างยิ้มแย้ม แล้วชี้ไปที่ข้างหน้า:“ใกล้ถึงแล้วค่ะ”
บ้านหลังเล็กในสุดซอยลึกๆ ประตูไม้เปิดออก ขาเป๋คนนึงนั่งดูดวงให้ลูกค้า ข้างๆมีคู่รักคู่นึงที่เพิ่งดูเสร็จจากไป ก็เลยถึงคิวของเหลียงหย่าเหอและตู้เซียวหยู่
หลังจากทั้งสองนั่งลง ผู้ช่วยของคนขาเป๋ก็พูดว่า “คุณผู้หญิงทั้งสองอยากดูดวงอะไรครับ?”
เหลียงหย่าเหอเอาวันเดือนปีเกิดของลูกชายตัวเองออกมาแล้วยื่นขึ้นไปให้:“พวกเรามาดูดวงแต่งงานให้ลูกค่ะ”
ตู้เซียวหยู่ฟังแล้วก็ได้ยื่นวันเดือนปีเกิดของลูกสาวตัวเองออกมาแล้วยื่นขึ้นไป
ผู้ช่วยของคนขาเป๋รับมาดูแว๊บนึง จากนั้นได้ยื่นให้กับอาจารย์ของเขา
ไม่รู้เพราะอะไร อยู่ๆตู้เซียวหยู่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จับมือตัวเองไว้แน่น เหลียงหย่าเหอเห็นเธอที่เป็นแบบนี้แล้ว หัวเราะขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้:“คุณอย่าตื่นเต้นสิคะ เสี่ยวไป๋กับเซียวซู่ต้องเหมาะสมกันแน่นอนค่ะ!”
“อืม”
หลังจากหมอดูดวงดูวันเดือนปีเกิดของทั้งสอง ได้เริ่มหลับตานับนิ้ว รอบๆเงียบสงบ ตู้เซียวหยู่ยังสามารถได้ยินเสียงใจเต้นของตัวเองเลย
ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆเธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างนึง
มองหมอดูท่านนั้นยังนับนิ้วอยู่ ตู้เซียวหยู่กลับใจร้อนรนดั่งไฟ จู่ๆในขณะที่เธออยากลุกขึ้นมาบอกว่าไม่ดูแล้ว พวกเราจะกลับแล้ว หมอดูดวงก็ได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว
จากนั้นสายตาของเขามองทั้งสองไว้ แล้วค่อยๆเปิดปากพูด
“นี่คือดูดวงแต่งงานให้ทั้งคู่เหรอครับ?”
เหลียงหย่าเหอพยักหน้าทันที:“ใช่ๆ อาจารย์ ของเด็กสองคนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? สวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กันหรือเปล่าคะ?”
หมอดูดวงไม่ได้พูด แค่มองตู้เซียวหยู่ทีนึง ตู้เซียวหยู่ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ไม่กล้าหายใจเสียงดังเลย
ดูสีหน้านี้ หรือว่าผลที่ได้ไม่ดีเหรอ? แต่เธอกลับไม่กล้าถาม
กลับเป็นเหลียงหย่าเหอที่ดูออก ลังเลไปครู่นึงถึงถาม:“หมอดูคะ ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”
“งานแต่งนี้ ไม่แนะนำให้แต่งครับ”
“ดวงของทั้งสองชงกัน ธาตุทั้งห้าล้วนไม่สมพงษ์กันเลย ถ้าแต่งงานกันล่ะก็ ไม่ใช่แยกจากกันก็คือตายจากกันครับ”
หมอดูดวงพูดได้หนักแน่นมาก ไม่มีพื้นพื้นที่อ้อมค้อมเลยสักนิด
ไม่นานเหลียงหย่าเหอกับตู้เซียวหยู่ก็อึ้งค้างอยู่กับที่ ครึ่งค่อนวันก็ดึงสติกลับมาไม่ได้
“หมอ หมอดูคะ นี่ไม่ใช่ความจริงมั้งคะ? ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ดีมากเลย เป็นไปได้ยังไงที่อะไรก็ไม่สมพงษ์กันเลย? ดูเวลาตกฟากผิดไปหรือเปล่าคะ?”