บทที่1471ธรรมชาติของมนุษย์
หานชิงไม่รู้สึกว่าสวี่เย็นหวั่นเป็นผู้บริสุทธิ์สักนิดเลย
แต่เสี่ยวเหยียนไม่อยากถือสา เขาก็เลยตามใจเธอ
“งั้นพรุ่งนี้หาคนไปคืนให้เธอ พวกเราก็ไม่ขัดสนเงินแค่นี้หรอก”
เสี่ยวเหยียนฟังแล้วใบหน้าแดงก่ำ ได้รีบอธิบาย:“ไม่ใช่เพราะคุณมีเงินฉันถึงบอกว่าคืนตังค์ให้เธอนะ แต่ฉันรู้สึกเรื่องนี้บางทีอาจจะไม่เกี่ยวกับเธอจริงๆ อีกอย่างว่าไปแล้ว ถ้าเอากำไรให้คุณหมด งั้นเธอไม่เท่ากับว่าต้องทำงานให้คุณตลอดชีวิตเหรอคะ? ถ้าอย่างนี้ ถึงเวลาคุณก็จะรู้สึกผิดต่ออาวุโสทั้งสองของตระกูลสวี่ ฉันคิดแทนคุณทั้งนั้นนะคะ”
หานชิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วยื่นมือขยี้ศีรษะเสี่ยวเหยียนเบาๆ“เอาล่ะ ยังไงซะของผมก็คือของคุณ คุณอยากจัดการยังไงก็จัดการเลย ผมฟังคุณหมด”
เสี่ยวเหยียนกระพริบตา คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากงานแต่งหานชิงจะเปลี่ยนไปเลย อาจจะเพราะรอดชีวิตจากภัยพิบัติ ตอนนี้เวลาที่หานชิงอยู่กับเธอเยอะมาก ถึงขั้นยังได้ซื้อหนังสือมากมายประเภทช่วงระหว่างตั้งครรภ์กับคลอดลูกต้องระมัดระวังอะไร จากนั้นคอยศึกษาและดูทุกวันซ้ำๆ ทั้งๆที่เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะตั้งครรภ์ได้ไม่กี่เดือนเอง ก็ทำเหมือนใกล้คลอดยังไงอย่างงั้น
ตอนนี้เธอถือว่าเข้าใจสักทีทำไมก่อนหน้านั้นเย่โม่เซินต้องคอยตามติดหานมู่จื่ออย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวก็คิด ผู้ชายทั้งโลกล้วนเป็นแบบนี้หมดหรือเปล่า? พอแต่งงาน ภรรยาท้องปุ๊บก็เปลี่ยนไปเลย?
สรุปสำหรับเสี่ยวเหยียนแล้ว เธอไม่มีความรู้สึกที่วิ่งตามหานชิงและติดตามเขาทุกฝีก้าวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่คือหานชิงรักและโอ๋เธอ
ความรู้สึกที่ถูกแคร์และถูกประคบหงมแบบนี้ ทำให้เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้ใจจนลืมตัวนิดหน่อยแล้ว
จากนั้นเธอสั่งหานชิงก็ยิ่งอยู่ยิ่งทำได้อย่างราบรื่นแล้ว
อย่างเช่นเมื่อก่อนไม่เคยกล้าเรียกเขาทำอะไรเลย แต่ตอนนี้ทุกคืนก่อนนอน บางทีเธอพิงอยู่ที่โซฟาเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเดิน ก็จะออดอ้อนหานชิง ขอให้เขาอุ้มตัวเองกลับห้องนอน
จากนั้นหานชิงก็ได้เดินมาอุ้มเธอกลับห้องจริงๆ
และอย่างเช่น ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนขี้เซา ทุกวันไม่อยากตื่นนอนเลย ทุกครั้งหานชิงล้วนช่วยเธอบีบยาสีฟันและเตรียมน้ำล้างหน้าให้พร้อม จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่ห้องอาบน้ำ
เรื่องประเภทนี้จากเล็กถึงใหญ่ จนต่อมาเสี่ยวเหยียนยิ่งอยู่ยิ่งทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่นแล้ว
ที่จริงตอนแรกเธอยังกังวลอยู่ หลังจากตัวเองเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลดังไฮโซแล้ว จะไม่ชินกับการใช้ชีวิตของที่นี่
ที่ความจริงไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด ตระกูลหานไม่มีอาวุโส มีแค่เธอกับหานชิง แล้วก็แมวเหมียวตัวนึง ทุกอย่างช่างเงียบสงบอะไรปานนั้น
แต่ในขณะเดียวกันก็มีความอ้างว้างเพิ่มขึ้นเสี้ยวนึง ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ เสี่ยวเหยียนหวังอยากให้พ่อแม่ของหานชิงต่างก็ยังอยู่ ต่อไปตัวเองคลอดลูกจะได้มีคุณปู่คุณย่าอุ้ม
แต่เสียดายเรื่องมากมายได้ถูกกำหนดแล้ว
ระหว่างนั้นหานมู่จื่อเคยมาหลายครั้ง ทุกครั้งก็อุ้มเสี่ยวโต้วหยามาเยี่ยมเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนเคยอุ้มเสี่ยวโต้วหยามาหลายครั้ง พบว่าเด็กคนนี้ยิ่งโตยิ่งสวย ดวงตาทั้งคู่สวยจนตื่นตะลึง ผิวพรรณขาวผ่องมาก ริมฝีปากแดงก่ำ สืบทอดข้อดีของเย่โม่เซินและหานมู่จื่อมาหมด
นอกจากเวลายิ้มดูซื่อบื้อนิดหน่อย
แต่เสี่ยวโต้วหยายิ่งเป็นแบบนี้ เสี่ยวเหยียนยิ่งชอบหยอกเธอ จากนั้นเห็นเธอหัวเราะอย่างซื่อๆก็เอามือถือมาถ่ายไว้ แล้วโพสต์ลงในโมเม้นท์
หานมู่จื่อ:“ฉันจะฟ้องเธอแล้วนะ ทั้งๆที่ตอนเสี่ยวโต้วหยาไม่ยิ้มดูดีกว่าเยอะ แต่เธอกลับถ่ายให้เธอเหมือนเด็กโง่”
“ยัยเด็กโง่ดีจะตายไป เด็กก็ควรจะแบบนี้สิ จะฉลาดขนาดนั้นทำไม? อีกอย่าง เสี่ยวหมี่โต้วก็ฉลาดมากพอแล้ว ต่อไปเขาจะต้องปกป้องน้องสาวให้ดีๆแน่นอน”
หานมู่จื่อกลับพูดอย่างกลุ้มใจ:“ฉันกลัวจริงๆ เธอมีหน้าตาสะสวย แต่ถึงเวลากลับมีไอคิวต่ำ แต่คิดๆแล้ว ถึงไอเดียไม่ได้สูงเหมือนพ่อของเธอ แต่ที่แย่ที่สุดก็เป็นอย่างฉันมั้ง ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่ายังโอเคอยู่ ถ้าถึงเวลายีนแย่จริงๆ งั้นก็ต้องโทษฉันเอง”
“ไม่หรอก เธออย่าคิดมากเลย”เสี่ยวเหยียนกดมือเธอไว้ และพูดอย่างค่อนข้างอิจฉา:“ฉันก็อยากมีลูกสาวที่น่ารักเหมือนเสี่ยวโต้วหยาจังเลย”
แต่ไม่รู้ตอนนี้เธอท้องลูกสาวหรือลูกชายกันแน่ ถึงแม้จะชายหรือหญิงเธอก็ล้วนชอบหมด แต่ถ้าได้ล่ะก็ เธอหวังว่าท้องคนแรกของตัวเองจะเป็นลูกสาว ส่วนท้องคนที่สอง ต่อไปก็ดูวาสนาแล้วกัน
“ต้องมีทั้งลูกชายและลูกสาวแน่นอน เธอกับพี่ชายฉันพยายามหน่อย”
เหมือนประเด็นจะเปลี่ยนมาอันนั้นไปหน่อยนะ เสี่ยวเหยียนรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ได้แต่เงียบไม่พูดจา
“อ้อใช่ เธอได้โทรไปถามไถ่เซียวซู่บ้างมั้ย?”
เสี่ยวเหยียนฟังแล้วอึ้ง:“เซียวซู่?”
“ไม่ได้โทรเหรอ?”
เสี่ยวเหยียนส่ายหัว และพูดด้วยความงงงวย:“ทำไมต้องโทรหาเขาด้วย?”
มองสีหน้าเธอ คาดว่าคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย หานมู่จื่อคิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่รู้เรื่องนี้เลย เธอยังนึกว่าพี่ชายตัวเองจะบอกกับเสี่ยวเหยียน คิดไม่ถึงว่าพี่ชายเธอไม่ได้บอก
“ครั้งก่อนบุกเข้าไปช่วยในกองไฟ ที่จริงต่อมาเซียวซู่ก็ได้เข้าไปเหมือนกัน”
เสี่ยวเหยียนฟังแล้วตกตะลึง สีหน้าสะดุ้งตกใจมาก
“เธอว่าอะไรนะ? เซียวซู่เขา……ก็พุ่งเข้าไปในเพลิงไหม้ด้วย?”
“อืม” หานมู่จื่อพยักหน้า “ฉันก็นึกว่าเธอรู้เสียอีก”
“ไม่มีใครบอกฉันเลย พี่ชายเธอก็ไม่ได้บอก”
“อย่าโทษพี่ชายฉันเลย เพราะยังไงซะช่วงก่อนหน้านี้จิตใจเธอมีปัญหามาโดยตลอด เขาก็เป็นห่วงเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้บอกเธอมั้ง ถ้าฉันเป็นเขาฉันก็ไม่บอกหรอก”
“ฉันรู้ เธอวางใจเถอะ ฉันไม่โทษพี่ชายเธอหรอก ฉันแค่ไม่รู้ว่าเขาก็เข้าไปช่วยฉันด้วย แต่ฉันกลับไม่รู้อะไรเลย แม้แต่คำว่าขอบคุณก็ยังไม่ได้พูดกับเขาเลย”
ตอนนั้นเหตุเพลิงไหม้นั้นเผาไหม้อย่างดุเดือดมาก เสี่ยวเหยียนได้แค่ซ่อนอยู่ในห้องน้ำ ตอนที่หานชิงพุ่งเข้ามาก็ยังได้รับบาดเจ็บ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซียวซู่ที่เข้าไปทีหลังเลย
แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลย
คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้ว่าเซียวซู่ชอบตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะถึงขั้นนี้
หานมู่จื่อเหมือนดูความลังเลสับสนของเธอออก
“เธอไม่รู้จะพูดกับเขายังไงใช่มั้ย?”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า
“ตอนนี้เซียวซู่มีแฟนแล้ว เธอรู้หรือเปล่า?”
เสี่ยวเหยียนได้ยินแล้วอึ้งไปครู่นึง จากนั้นก็ดึงสติกลับมาและพยักหน้า
“ฉันรู้แล้ว คราวก่อนตอนที่ฉันเอาการ์ดเชิญไปให้เคยเจอกันครั้งนึง หน้าตาสะสวยมาก”
“อืม”หานมู่จื่อพยักหน้า นึกย้อนถึงวันนั้นเจอเจียงเสี่ยวไป๋อยู่ที่โรงพยาบาล“หน้าตาสะสวยจริงๆ วันนั้นตอนที่อยู่โรงพยาบาลฉันก็เจอเธอ เธอไปหาเซียวซู่”
“เพราะฉะนั้นความหมายของเธอคือ หล่อนรู้ว่าเซียวซู่พุ่งเข้าไปช่วยฉันในเพลิงไฟ?”พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนเปลี่ยนมาลนลานขึ้น“แย่แล้ว งั้นเธอจะเข้าใจเซียวซู่ผิดหรือเปล่า? พวกเขาจะทะเลาะกันหรือเปล่าเนี่ย?”
“อันนี้ฉันก็ไม่รู้แล้ว”หานมู่จื่อส่ายหัว มีท่าทีกำลังครุ่นคิดอยู่:“แต่ฉันดูหน้าตาหล่อนไม่น่าใช่คนที่ใจแคบขนาดนั้น ตอนนั้นเซียวซู่บาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ต่อมาเธอได้ไปคุยกับเซียวซู่ที่หัวมุม สุดท้ายตอนที่กลับมามีแค่เซียวซู่คนเดียว พูดตามตรง ถึงเธอโกรธจริงๆ มันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าหานชิงไปช่วยผู้หญิงคนอื่นโดยที่ไม่คำนึงถึงอันตราย เธอจะยอมมั้ย?”