บทที่1489 จะทำให้ภรรยาผมผิดหวังไม่ได้
ตอนที่ทุกคนต่างก็มองมา เจียงเสี่ยวไป๋ร้อนรุ่มจนอยากขุดหลุมมุดเข้าไป
ส่วนช่างแต่งหน้าได้พุ่งมา“มาๆๆ ฉันมาเติมให้คุณค่ะ”
อืม ไม่อยากพูดจา
ต่อมาได้เข้าไปเตรียมตัวที่หลังเวที เสี่ยวเหยียนพาหานชิงมาอวยพรเธอ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ดึงเธอพูดคุยไปสักพัก
หลังจากพวกเขาจากไป สวี่ยี่เฟยพิงอยู่ที่ข้างกายของเจียงเสี่ยวไป๋ และพูดอย่างคับแค้นใจ: “ผู้ชายคนเมื่อกี๊หล่อจังเลยอ่ะ แต่เสียดายมีภรรยาแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังแล้วอึ้งไปครู่นึง:“เธอหมายถึงสามีของเสี่ยวเหยียนเหรอ?”
“ไม่งั้นล่ะ? หรือจะเป็นสามีเธอรึไง?”
“ แม่ง! ”เจียงเสี่ยวไป๋ฟังคำพูดนี้ก็ไม่พอใจเลย รีบช่วยเซียวซู่พูด “สามีฉันแย่กว่าเขาตรงไหน? สามีฉันหล่อกว่าเขาเป็นร้อยเท่า! ไม่! หล่อกว่าเป็นหมื่นเท่า”
สวี่ยี่เฟยหัวเราะเหอะๆไปสองที “ต่อไปเธอเขียนนิยายสามารถเอาผู้ชายคนนั้นมาเป็นสเปคได้ ไม่แน่สามารถขายดีจนระเบิดระเบ้อเลย”
“เหอะๆ”เจียงเสี่ยวไป๋ก็หัวเราะอย่างเย็นชา:“เธออย่าคิดว่าเธอเป็นบรรณาธิการของฉัน ฉันก็จะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ ขืนเธอรังเกียจสามีฉันอีก ครั้งหน้าฉันจะเขียนนักเลงหัวไม้เป็นพระเอก”
“ดีๆๆ ตอนนี้ฮิตพระเอกเป็นนักเลง มาสักคนมั้ย?”
เจียงเสี่ยวไป๋ปฏิเสธที่จะคุยกับเธอ!
งานแต่งดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมาก แต่พองานแต่งจบสิ้น เจียงเสี่ยวไป๋เหนื่อยจนไม่อยากขยับแล้ว แต่ว่าวันนี้ก็มีเรื่องนึงที่คุ้มค่ากับการดีใจมาก นั่นก็คือเซียวซู่ช่วยเธอดื่มเหล้าแทน
เพราะเซียวซู่รู้เสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าปุ๊บก็จะคลุ้มคลั่งเหมือนคนบ้า วันนี้เป็นวันสำคัญขนาดนี้ ดังนั้นเซียวซู่จะให้เจียงเสี่ยวไป๋คลุ้มคลั่งไม่ได้เด็ดขาด ก็เลยช่วยเจียงเสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าแทน
แต่ผลที่ช่วยเจียงเสี่ยวไป๋ดื่มเหล้าก็คือ คนที่มาชนแก้วก็ยิ่งเยอะแล้ว คงจะเพราะจงใจแกล้งเซียวซู่ ดื่มถึงสุดท้ายการเดินของฝีเท้าของเซียวซู่ก็โซซัดโซเซแล้ว
แต่ว่าขอแค่งานแต่งยังไม่จบ เขาก็ต้องดื่มเป็นเพื่อนทุกคนต่อ
เพื่อนเจ้าสาวสองคนอยู่เป็นเพื่อนกับเจียงเสี่ยวไป๋
“พูดตามตรงนะ สามีเธอดื่มจนขนาดนี้แล้ว คืนนี้เข้าหอเขายังไหวอยู่เหรอ?”
คำพูดที่สกปรกขนาดนี้ออกมาจากปากของบรรณาธิการของเธอ สวี่ยี่เฟย
ฟางถังถังอยู่ข้างๆหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์“ไม่ไหวงั้นก็ให้เสี่ยวไป๋มาเองสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังแล้วอดกลอกตาขาวใส่ทั้งสองไม่ได้“อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันก็เหนื่อยมาก อยากพักผ่อนสักพัก”
วันนี้เธอตื่นเช้ามาก ทรมานจนถึงตอนนี้รู้สึกเหนื่อยแล้วจริงๆ
เห็นใบหน้าเธอเผยความเหนื่อยล้าออกมา เพื่อนสนิททั้งสองก็ไม่ได้ล้อเล่นเธออีก แต่ได้จากไปก่อน หลังเจียงเสี่ยวไป๋รอพวกเธอจากไป เธอก็ไม่สนประเพณีอะไรแล้ว ได้ทิ้งตัวลงไปที่เตียงโดยตรง
เพราะเธอได้เปลี่ยนชุดแต่งงาน ดังนั้นตอนนี้บนตัวยังใส่ชุดแต่งงานไว้
ตอนที่นอนหลับ ไม่สะดวกเลย
แต่เจียงเสี่ยวไป๋เหนื่อยมาก ดังนั้นแค่หลับตาก็นอนหลับทันทีเลย
ก็ไม่รู้นอนไปนานเท่าไหร่ เธอเหมือนได้ยินคนเปิดประตู จากนั้นเสียงฝีเท้าได้มาที่ทิศทางเตียงของเธอ
จากนั้นตำแหน่งข้างๆก็ยุบตัวลงมา กลิ่นเหล้าเข้มข้นเตะจมูกมา กลิ่นแรงจนไม่อาจละเลยได้ เจียงเสี่ยวไป๋ลืมตาก็เห็นเซียวซู่ที่นอนอยู่ข้างๆ
เขาหลับตาไว้ หน้ากับหูล้วนแดงก่ำ นาทีนี้สีหน้าเหมือนค่อนข้างทรมาน
แป๊บเดียวเจียงเสี่ยวไป๋ก็ตื่นเลย
เธอพลิกตัวนั่งลงมาตรวจดูครู่หนึ่ง พบว่าเซียวซู่หลับตาไว้ตลอด หน้าตาทรมานมาก
เพราะดื่มเหล้าหนักไปหรือเปล่า?
เจียงเสี่ยวไป๋ตบหน้าเขา“ตื่นสิคะ”
ก็ไม่รู้ตบไปกี่ที ในที่สุดเซียวซู่ก็ลืมตา แต่เพิ่งลืมตาก็ทำเอาเจียงเสี่ยวไป๋ตกใจหมดเลย เพราะดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้คะ?”
เห็นเธอมีสีหน้ากังวล เซียวซู่ฝืนยกมุมปากขึ้น“ผมไม่เป็นไร แค่ดื่มหนักไปหน่อย พักผ่อนเดี๋ยวก็โอเคแล้วครับ”
เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋ง่วงมาก เห็นเขาเป็นแบบนี้ ยังคำนึงเรื่องนอนได้ที่ไหน เธอลุกขึ้นมาต้มน้ำแกงสร่างเมาโดยตรง จากนั้นยังเอาผ้าขนหนูเช็ดหน้าผาก และจมูกปากให้เขา
คราวนี้เซียวซู่ทรมานจริงๆ ดื่มจนเมากับดื่มมากเกินเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนทั้งคนนอกจากรู้สึกปวดหัว แม้แต่ร่างกายก็หนักสุดขีด ทรมานจนเขาไม่อยากขยับ
แค่ขยับ ท้องไส้ก็ปั่นป่วนสารพัด
หลังจากเจียงเสี่ยวไป๋ช่วยเขาเช็ดเสร็จ ได้พูดเสียงเบา: “ฉันไปดูว่าน้ำแกงสร่างเมาเสร็จหรือยัง คุณรอเดี๋ยวนะคะ”
เซียวซู่เงยหน้า มองดูร่างเงาเล็กๆใส่ชุดแต่งงาน เสื้อยังไม่ทันได้เปลี่ยนเลย ดังนั้นจึงวิ่งไม่สะดวก ได้แต่เอามือสองข้างถือชายกระโปรงไว้
ผ่านไปสักพัก เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาใหม่ เซียวซู่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เห็นเธอเอามือข้างนึงถือถ้วยไว้ มืออีกข้างจับชายกระโปรงไว้ เดินมาหาตัวเองอย่างเซ่อซ่า
ยัยเด็กคนนี้
“มาค่ะ น้ำแกงสร่างเมาที่ฉันต้มให้คุณ ดื่มสักถ้วยอุ่นกระเพาะหน่อย”
เซียวซู่ลุกขึ้นมา ถือน้ำแกงสร่างเมาและดื่มจนหมด กระเพาะยังคงรู้สึกทรมานอีกเช่นเคย แต่ดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะมากแล้ว ตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะจากไป เซียวซู่จับข้อมือเธอไว้ ไม่ให้เธอจากไป
“อย่าไปเลย นอนเป็นเพื่อนผมอยู่ที่นี่เถอะ”
“ค่ะ”เจียงเสี่ยวไป๋นอนลงที่ข้างกายเขา และกระพริบตามองเขา: “นี่คุณดื่มไปเท่าไหร่คะเนี่ย?”
เซียวซู่ฟังแล้วได้แต่หัวเราะขมขื่นอยู่ในใจ คนพวกนั้นมอมเหล้าไม่มีขอบเขตจริงๆ คนละสองแก้ว ดูเหมือนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่พอจำนวนคนเพิ่มขึ้นปุ๊บ เขาก็รับมือไม่ไหวจริงๆ
“ถ้ารู้ตั้งแต่แรกฉันก็ไม่ให้คุณช่วยฉันดื่มเหล้าแล้ว”
“พูดโง่ๆอะไร? ผมไม่ช่วยคุณดื่ม หรือจะให้คุณเมาแล้วคลุ้มคลั่งที่งานแต่งรึไง?”
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือหยิกเขาทีนึง และพูดอย่างไม่พอใจ:“เมาแล้วคลุ้มคลั่งสิถึงจะดี ถ้าฉันคลุ้มคลั่ง คนพวกนั้นก็ไม่กล้ามาชนเหล้าแล้ว ฉันคลุ้มคลั่งไม่ทรมาน แต่คุณในตอนนี้ทรมานมากนี่นา”
เซียวซู่ยื่นมือ เอาเธอมาโอบไว้ในอ้อมกอด และพูดเสียงแหบแห้ง:“ยังโอเคอยู่ ไม่ถือว่าทรมานมาก”
ถึงแม้เขาบอกว่าไม่ทรมาน แต่ตั้งแต่เมื่อกี๊จนถึงตอนนี้เขานอนอยู่ที่นั่นตลอด ไม่มีท่าทางอย่างอื่นเลย อ๋อ นอกจากโอบเธอไว้ในอ้อมกอด
เซียวซู่ที่เป็นแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ค่อนข้างหดหู่ รู้สึกคืนแรกที่ส่งตัวเข้าหอคงจะไม่มีแล้ว
เธอเดาะลิ้นด้วยความหดหู่ ถึงแม้เธอไม่ถือว่าเฝ้ารอคืนส่งตัวเข้าเรือนหอของคืนนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่มี ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอยู่
แต่ผิดหวังส่วนผิดหวัง เซียวซู่ทรมานจนเป็นสภาพแบบนี้ เธอก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรหรอก
ทั้งสองนอนอย่างเงียบสงบ เมื่อเทียบกับเสียงดังเอะอะเมื่อตอนกลางวัน ค่ำคืนแรกของการแต่งงานนี้เงียบสงบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเซียวซู่ที่นอนอยู่ข้างๆ แม้แต่เสียงหัวใจเต้นของเขาเจียงเสี่ยวไป๋ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจนสุดๆ
ในเรือนหอติดคำว่ามงคลตัวใหญ่ๆ แสงไฟมืดสลัว
นอนไปนอนมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มง่วงอีกแล้ว ในขณะที่เธอใกล้จะหลับ จู่ๆมือของเซียวซู่กลับไม่มีขอบเขตขึ้นมา
พริบตาเดียวความง่วงของเจียงเสี่ยวไป๋ถูกขับไล่ไปจนหมด เธอเงยหน้ามองเขา “คุณทำอะไรน่ะ?”
นัยน์ตาของเซียวซู่ทั้งดำทั้งลึก เห็นได้ชัดว่าต่างกับก่อนหน้านี้ ถึงแม้เสียงของเขาแหบแห้ง แต่ได้กลายมาเป็นชัดเจน:“คืนนี้ เป็นคืนส่งตัวเข้าหอ จะทำให้ภรรยาผมผิดหวังไม่ได้”