บทที่150 ชอบจูบของฉันรึเปล่า
อุ้มเธอออกมาจากบริษัท…
คิ้วสวยของเสิ่นเฉียวขมวดเข้า เย่โม่เซินพาเธอมาโรงพยาบาล?
กี่วันมานี้บรรยากาศระหว่างเธอกับเขามันน่ากลัวมาก เขามองเธอด้วยแววตาที่แสนจะเกลียดชัง แล้วจะพาเธอมาส่งโรงพยาบาลงั้นเหรอ?
เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนอะไรกัดอยู่ในใจ
ใจมันชา ๆ
เสิ่นเฉียวหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมหัวใจของเธอได้แล้ว
“เป็นอะไร?” เสี่ยวเหยียนเห็นสีหน้าเธอไม่ดีอีกทั้งไม่พูดจา จึงเข้าใจว่าเธอไม่สบายขึ้นมาอีก
เสิ่นเฉียวส่ายหน้าและพูดขึ้นเบา ๆ: “ฉันไม่เป็นไร แล้วเขาล่ะ?”
“ไปแล้ว” เสี่ยวเหยียนจับแก้มของเธอและพูดเบา ๆ: “เขาพาเธอมาส่งโรงพยาบาล หมอบอกฉันว่าไม่เป็นไร ให้ฉันอยู่ที่นี่ดูแลเธอ หลังจากนั้นก็กลับไปแล้ว”
“อือ วันนี้ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณอะไรกัน เธอคิดว่าฉันทำเพื่อช่วยเธอเหรอ? ไม่ใช่เสียหน่อยไหม? ฉันทำเพื่อให้ได้เข้าใกล้ท่วงท่าสง่างามและกล้าหาญของคุณชายเย่ต่างหาก!” เสี่ยวเหยียนพูดแล้วเริ่มระลึกความหลัง: “เธอรู้ไหมตอนที่คุณชายเย่รับตัวเธอไปจากฉันตรง ๆ เนี่ย เขาดูหล่อขนาดไหน? วินาทีนั้นจะฉันคิดว่าฉันกำลังดูพระเอกซีรีย์ เสิ่นเฉียว เธอนี่โคตรโชคดีเลย ได้เป็นคนที่คุณชายเย่เลือก ไม่งั้นรูปร่างหน้าตาอย่างเธอ ต๊าย~ตาย เทียบฉันไม่ติดเลยสักนิด!”
เสิ่นเฉียว: “…”
เธอบอกว่าเย่โม่เซินรับเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอดตรง ๆ เหรอ?
“แต่ว่าเธอพูดความจริงมาดีกว่า เธอกับคุณชายเย่มีความสัมพันธ์ยังไงแน่ ทำไมเขาถึงได้เป็นกังวลกับเธอนัก? ถ้าเป็นคนรักธรรมดา ไม่มีทางทำแบบนี้แน่ ใช่ไหม?”
เป็นกังวลกับเธอเหรอ?
“เธอคงจะดูผิดแล้วล่ะ ฉันกับคุณชายเย่ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก แค่ลูกน้องเจ้านายธรรมดาเท่านั้น”
“เชอะ ฉันไม่เชื่อเธอหรอกนะ แววตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความปรารถนา หรือไม่แน่เขาอาจจะชอบเธอ!”
แค่คำเดียว ในใจของเสิ่นเฉียวก็เกิดคลื่นโหมซัดสาด
ชะ ชอบเธอ?
เป็นไปไม่ได้หรอก!
เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าใจของเธอเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ เสี่ยวเหยียนยังคงพูดเองเออเองไม่หยุด: “อีกหน่อยเธอได้เป็นภรรยาประธานบริษัท เธออย่าลืมเสียล่ะว่าวันนี้ฉันช่วยเธอไว้ อย่าลืมเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดือนให้ฉันด้วย…”
… …
เสี่ยวเหยียนอยู่คอยดูแลเธอที่โรงพยาบาลอยู่ตลอดจนถึงค่ำ เมื่อเสิ่นเฉียวว่าตนเองไม่เป็นไรแล้วจึงอยากกลับ
เสี่ยวเหยียนห้ามเธอ: “ออกจากโรงพยาบาลไม่ได้นะ ร่างกายเธออ่อนแอ”
เสิ่นเฉียวขมวดคิ้วสวย: “ตอนนี้น่าจะไม่เป็นไรแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากเสียหน่อย ทำไมต้องอยู่โรงพยาบาลต่อด้วย?”
“ยังไงก็ไม่ได้ คุณชายเย่บอกแล้ว ให้ฉันดูแลเธอให้ดี ๆ ก่อนเขาจะกลับมาฉันไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
ในตอนที่เสิ่นเฉียวลุกขึ้นและอยากจะลงไปที่พื้น ทันใดนั้นประต้องห้องคนไข้ก็เปิดออก
เย่โม่เซินปรากฏตัวขึ้นที่หน้าห้องคนไข้พร้อมกับใบหน้าเย็นชา
“คุณชายเย่” ทันทีที่ เสี่ยวเหยียนเห็นเขาก็เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เธอชี้ไปที่เสิ่นเฉียว: “เสิ่นเฉียวอยากออกจากโรงพยาบาลค่ะ แต่ฉันไม่เห็นด้วย ฉันหัวชนฝาเลยค่ะ!”
เสิ่นเฉียว: “…”
สายตาเย็นชามองไปที่เธอ แหลมคมและลึกล้ำ
“อยากออกจากโรงพยาบาลเหรอ?”
เสิ่นเฉียวนิ่งไป
ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินขยับอีกครั้ง: “ฝันไปเถอะ”
เสิ่นเฉียว: “แต่ฉันรู้สึกว่าไม่มีอะไรมากแล้ว ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปพักที่บ้านไม่ได้เหรอ?”
เย่โม่เซินไม่พูดอะไร เซียวซู่ที่อยู่ด้านหลังของเขายิ้มทักทายกับ เสี่ยวเหยียน: “วันนี้รบกวนคุณแล้ว คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
เสี่ยวเหยียน รับคำ แต่กลับจ้องมองเย่โม่เซินอย่างอดไม่ได้ อืม…หล่อจริง ๆ เลย เธอยังอยากจะอยู่ดื่มด่ำความหล่อของเขาอีกสักนิด
น่าจะเป็นตาของเธอที่คลั่งไคล้หลงใหลมากเกินไป เย่โม่เซินส่งสายตาล้ำลึกมองไปที่เธอ พร้อมกับการแจ้งเตือนในแววตา ทำให้เสี่ยวเหยียน รู้สึกได้ถึงแรงกดดันและพูดขึ้นทันที: “ฉันทราบแล้วค่ะ จะกลับแล้วค่ะ”
“เสิ่นเฉียว เอาไว้พรุ่งนี้ฉันมาเยี่ยมเธอใหม่นะ!”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็หายไปราวกับกลุ่มควัน
เสิ่นเฉียวอยากที่จะหัวเราะ เมื่อครู่เห็นชัด ๆ ว่าเธอยังอยากที่จะอยู่ต่อ แต่สุดท้ายกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จะพูดไปคนอย่าง เสี่ยวเหยียน …ก็เข้ากับเธอได้ดีทีเดียว เป็นคนซื่อ ๆ แม้จะพูดอะไรตรงไปตรงมาและบางทีอาจจะทิ่มแทงใจ แต่ก็พูดได้ว่าเธอไม่เสแสร้ง คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น
เพื่อนคนนี้ถือว่าไม่เลวเลย
เซียวซู่กระแอมเบา ๆ: “เดี๋ยวผมไปส่งเธอเอง”
จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วออกจากห้องคนไข้ไป
ทำให้ในห้องคนไข้เหลือเพียงเย่โม่เซินกับเสิ่นเฉียวเพียงสองคน
บรรยากาศที่เงียบทำให้กระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย เสิ่นเฉียวมองเขาไม่วางตา แต่เย่โม่เซินกลับไม่อยากจะมองเธออย่างชัดเจน กลับหมุนล้อวีลแชร์ไปที่โต๊ะด้านข้างแทน เป็นที่ที่เซียวซู่วางกระเป๋าเอาไว้ตรงนั้น
มือเรียวยาวเปิดกระเป๋าหยิบแล็ปท็อปและเอกสารออกมา จากนั้นเย่โม่เซินก็เริ่มทำงานเงียบ ๆ อยู่ในห้องพักคนไข้
เสิ่นเฉียวที่นอนอยู่บนเตียง: “…”
เขามาทำงานที่นี่เนี่ยนะ?
จะทำงานอีกนานไหม? เสิ่นเฉียวคิดไปพลางและมองหลังของเขาเงียบ ๆ
ดูไป ๆ เสิ่นเฉียวก็คิดถึงเย่หลิ่นหาน
มือของเธอกุมที่ท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว——
เส่โยวเป็นเพื่อนที่ดีขนาดนั้น เธอไม่มีทางหลอกเธอได้หรอก
ถ้าหากว่าเด็กเป็นลูกของเย่หลิ่นหานจริง ต่อไปเธอจะทำอย่างไร?
“ไม่สบายก็หลับตาแล้วพักผ่อนเสีย”
ไม่ทันได้ตั้งตัว เสียงของเย่โม่เซินก็ดังขึ้น เสิ่นเฉียวได้สติก็พบว่าเย่โม่เซินกำลังจ้องเธออยู่อย่างรุนแรง
เสิ่นเฉียวสบตาเขา นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “คุณกลับเถอะค่ะ”
เมื่อได้ยินดวงตาของเย่โม่เซินก็หรี่ลงอย่างอันตราย
“ที่นี่ไม่เหมาะจะเป็นที่ทำงานของคุณค่ะ” เสิ่นเฉียวรีบอธิบาย
จู่ ๆ เธอก็ไม่อยากจะเห็นเย่โม่เซิน ตอนนี้ในหัวเธอช่างสับสน
อย่างไรก็ตามเย่โม่เซินหัวเราะเยาะขึ้น: “เห็นแต่หน้าผู้ชายคนอื่นจนชิน ตอนนี้แม้แต่หน้าฉันก็ไม่อยากมองงั้นเหรอ?”
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไป
เขาเริ่มอีกแล้ว!
“เสิ่นเฉียว เธอเชื่อไหมว่าฉันสามารถเอาผู้ชายคนนั้นมาลงโทษได้?”
“คุณเข้าใจผิดแล้ว!” เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากแล้วอธิบาย “ฉันก็แค่คิดว่าที่นี่ไม่เหมาะจะเป็นที่ทำงานของคุณเท่านั้น”
“ใช่เหรอ?” เย่โม่เซินวางสิ่งของในมือลง จากนั้นเขาหมุนล้อวีลแชร์เข้ามาใกล้ ๆ เธอ เมื่อเห็นอย่างนั้น เสิ่นเฉียวก็ห่อตัวโดยไม่รู้ตัว
เขากำลังจะประกาศอำนาจเหนือเธออีกแล้วใช่ไหม?
เย่โม่เซินมาถึงด้านหน้าของเสิ่นเฉียวอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวบีบคางของเธอ ก้มศีรษะลงและประกบริมฝีปากของเธออย่างดุเดือด
เสิ่นเฉียวเบิกตาโพลง
จูบนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ช่องปากของเสิ่นเฉียวถูกเย่โม่เซินใช้แรงรุกล้ำ ลิ้นอ่อนนุ่มแทรกตัวเข้าไปยึดครองเธอ
ริมฝีปากของเสิ่นเฉียวแห้งเล็กน้อย แต่ริมฝีปากของเย่โม่เซินกลับอ่อนนุ่มและชุ่มชื่นเหมือนน้ำแข็ง เขากดที่ด้านหลังศีรษะของเธอและจูบอย่างแรง ออร่าของผู้ชายที่เอาแต่ใจห่อหุ้มร่างเล็กกะทัดรัดของเสิ่นเฉียว
เสิ่นเฉียวถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น คอที่เรียวและขาวของเธอเรียวยิ่งขึ้น ในขณะที่ดวงตาของเธอปิดแน่น ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย การแสดงออกซึ่งความเสน่หานี้ชัดเจนว่าหัวใจกำลังเต้นแรง
เย่โม่เซินกระแทกริมฝีปากและลิ้นกลับ แต่ไม่รีบร้อนจะผละตัวออก ริมฝีปากบางของเขากดเข้ากับริมฝีปากของเธอและถามเสียงแหบพร่า
“ชอบให้ฉันจูบเธอแบบนี้ไหม?”
เสิ่นเฉียวพยักหน้าอย่างสับสน
ดวงตาสีเข้มของเย่โม่เซินเผยให้เห็นถึงความพึงพอใจ มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย มือใหญ่ของเขาสัมผัสไปทั่วทุกส่วนบนร่างกายเธอ
“แล้วฉันล่ะ? ชอบฉันไหม?”