บทที่1494 ตั้งท้อง
ผู้หญิงคนนี้จริงๆเลย…
เซียวซู่เดินเข้าไปหา ก่อนจะช่วยเธอจัดผมด้านหลังให้เธอ ก่อนจะพูดไปด้วย “ผมจะรังแกคุณได้ยังไงกัน ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ ก็มีแต่คุณที่รังแกผมไม่ใช่หรือไง”
พอได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะหันกลับไปมอง แล้วส่งเสียงเฮอะ
“รู้ก็ดีแล้ว ค่ะ มีแค่ฉันที่รังแกคุณได้ คุณห้ามรังแกฉันเด็ดขาด แล้วอีกอย่าง ห้ามให้ใครรังแกคุณได้ด้วย มีแค่ฉันคนเดียวที่รังแกคุณได้”
“ได้ครับ ตามที่คุณพูดเลย”เซียวซู่กอดเธอไว้ เดิมทีทั้งสองคนตั้งใจจะออกไปข้างนอก แต่เพราะคำพูดหวานๆทำให้บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปทันที
ยังไม่ทันที่เซียวซู่จะจูบลงมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็เขย่งเท้าขึ้นไปจูบเอง สองมือคล้องลำคอของเซียวซู่ไว้
สักพัก ทั้งสองคนก็เริ่มจูบดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเสื้อผ้าเริ่มถูกถอดลงบนพื้น
อืม มาถึงประเทศไทยเป็นวันที่สอง แต่กลับอยู่แต่ในห้องพักของโรงแรม
ตอนกลางคืน เจียงเสี่ยวไป๋นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เห็นข้อความที่ฟางถังถังส่งมาให้ ถามเธอว่าฮันนีมูนเป็นยังไงบ้าง ได้ถ่ายรูปบ้างหรือเปล่า
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นข้อความแล้วอยากจะหัวเราะ ถ่ายรูปบ้าอะไรกันล่ะ สองวันนี้เอาแต่ทำสงครามกันอยู่แต่ในโรงแรม เหนื่อยแล้วก็นอน ตื่นมาก็หาอะไรกิน แม้แต่รอบๆโรงแรมยังไม่ได้ลงไปเดินเลย
“ไม่ได้ถ่าย”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบกลับสั้นๆ และได้ใจความ
แต่เห็นได้ชัดว่าฟางถังถังไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ เพราะอีกฝ่ายยังคงส่งข้อความมาไม่หยุด
“จะถ่ายรูปได้ยังไงกัน เธอไปถึงประเทศไทยตั้งสองวันแล้ว ต้องได้ถ่ายรูปสวยๆได้บ้าง ไม่ต้องปิดไว้เลย รีบส่งมาให้พวกเราดูด้วย บรรณาธิการของเธอก็อยากจะดูเหมือนกัน”
พอได้ยินพูดถึงบรรณาธิการ เจียงเสี่ยวไปก็รีบพิมพ์ข้อความตอบกลับทันที “พวกเธอไปอยู่ด้วยกันได้ยังไงเนี่ย”
“หลังจากที่พวกเราสองคนไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอเสร็จก็เพิ่มวีแชทกันไว้ ตอนนี้คุยกันทุกวัน อีกทั้งยังพนันกันว่าสองวันนี้เธอกับสามีเรียบร้อยกันไปกี่รอบแล้วด้วย”
พอเห็นข้อความนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ริมฝีปากกระตุก ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
“ดังนั้นที่ส่งข้อความมาขอดูรูปก็แค่ข้ออ้างใช่ไหม”
“อย่าพูดอย่างนี้สิ ทุกคนเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งนั้น แน่นอนว่าต้องอยากดูรูปสวยๆของเธออยู่แล้วสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเหอะๆออกมา
“เชื่อเธอก็บ้าแล้ว พนันกันดีนักใช่ไหม งั้นพวกเธอก็พนันต่อไปเถอะ ฉันไม่บอกหรอก”
“เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋ อย่าทำอย่างนี้สิ ฉันกับบรรณาธิการของเธอพนันกันไว้ตั้งหนึ่งพันหยวนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะลากเธอเข้ากลุ่ม บอกคำตอบหน่อยนะ”
“หนึ่งพันหยวน คุณหนูตระกูลฟางของพวกเรายังต้องสนใจเงินพนันหนึ่งพันหยวนอีกเหรอ”
เธอเสียเงินไปกับการติดตามดาราทีละหลายๆหมื่น เจียงเสี่ยวไป๋เห็นแล้วปวดใจแทน โชคดีที่เธอมีพ่อที่ร่ำรวย ไม่อย่างนั้นธุรกิจของครอบครัวคงจะต้องล่มจมเพราะเธอแน่ๆ
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ดึงเธอเข้าไปในกลุ่ม แล้วถามตามภาษาเพื่อนสาว
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นทั้งสองคนยิ่งคุยยิ่งได้อรรถรส จึงรีบพูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“พวกเธอสองคนมีความคิดที่บริสุทธิ์หน่อยได้ไหม อย่ามีความคิดที่อกุศลมากกว่าฉันที่แต่งงานแล้วได้ไหม แล้วอีกอย่าง พวกเธอจะมาให้ความสนใจชีวิตครอบครัวของฉันถึงขนาดนี้ ไม่ซื้อตั๋วเครื่องบินตามมาด้วยเลยล่ะ”
“พวกเราเองก็อยากไปนะ แต่เธอจะยอมให้ไปไหมล่ะ”
“ไปไกลๆเลย”
สุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่ยอมบอกพวกเธอ เกี่ยวกับเรื่องลับๆ เธอจะเก็บไว้รู้แค่คนเดียว อีกอย่างเธอรู้นิสัยของสองคนนั้นดี
ถ้าหากเธอบอกว่าเยอะ พวกเธอจะต้องพูดล้อเลียนเธอไปตลอดแน่ๆ แต่ถ้าเธอบอกว่าน้อย พวกเธอก็อาจจะมีล้อว่าเซียวซู่อ่อนหรืออะไรทำนองนั้น
ดังนั้นพอมาคิดดูดีๆ เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าไม่ควรบอกจะดีกว่า เธอจึงรีบหาข้ออ้างบอกว่าตัวเองจะนอนแล้ว และรีบออกจากกลุ่มสนทนา ให้อีกสองคนคุยกันต่อไป
หลังจากวางโทรศัพท์ ก็พอดีกับที่เซียวซู่อาบน้ำเสร็จพอดี ผมกับเรือนร่างของเขายังมีหยดน้ำเกาะอยู่เจียงเสี่ยวไป๋จึงรีบเรียกเขา
“เดี๋ยวเราลงไปเดินเล่นกันดีไหมคะ”
พอได้ยินแบบนี้ เซียวซู่ก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับ “ตอนนี้คุณยังไปเดินเล่นไหวอยู่อีกเหรอ”
ที่จริงแล้วเขาแค่ถามไปอย่างนั้นเอง แต่หลังจากถามออกไปถึงได้รู้ว่ามันแฝงความหมายคลุมเครือมากแค่ไหน ยังไม่ทันที่เขาจะอธิบาย เจียงเสี่ยวไป๋ก็โยนหมอนใส่เขาก่อนแล้ว
“เดินไหวสิคะ จะไม่ไหวได้ยังไง”
ทั้งสองคนเดินลงไปด้านล่าง โรงแรมที่พวกเธอพักอยู่ติดทะเล หาดทรายกับร้านต่างๆถูกแบ่งดินแดนด้วยถนน ตอนนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่บริเวณหาดยังมีคนเดินเล่นจำนวนไม่น้อย เจียงเสี่ยวไป๋เดินดูจนมาถึงร้านทำรองเท้าแบบคู่รัก และสั่งทำของเธอกับเซียวซู่ทันที
ร้านอาหารช่วงกลางคืนมีเยอะ เจียงเสี่ยวไป๋ลองไปแล้วหลายอย่าง พอกินไม่หมดก็ยื่นไปให้เซียวซู่จัดการ หลังจากเดินมาตลอดทาง เจียงเสี่ยวไป๋อิ่มไปแล้วหกเจ็ดส่วน แต่เซียวซู่กลับเริ่มจุกแล้ว
พอเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋คิดจะซื้อของกินอีก เซียวซู่ก็รีบกระแอม แล้วพูดห้ามไว้ “ผมกินไม่ลงแล้วนะ”
เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอแค่อยากจะลองชิมดู เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าของที่เธอกินไม่หมดที่ยื่นไปให้เซียวซู่ เขาจะกินมันจนหมด
“เรายังมีเวลาอีกหลายวัน พรุ่งนี้เราค่อยมาเดินกันใหม่ ดีไหมครับ”
ตอนที่พูดประโยคนี้ เซียวซู่ใช้น้ำเสียงเหมือนกำลังขอความคิดเห็น ถึงแม้เขาจะอิ่มจนจุกแล้ว แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังอ่อนโยนเหมือนเดิม
ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋รับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่และความเอ็นดูที่ผู้ชายตรงหน้ามีต่อเธอ เธอจึงเดินไปคล้องแขนของเขาไว้
“ ได้ค่ะ งั้นวันนี้พวกเราเดินกันถึงที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เราค่อยมาเดินกันต่อ คุณนี่ซื่อบื้อจริงๆ กินไม่ไหวก็ไม่จำเป็นต้องกินทั้งหมดก็ได้นี่คะ กินไม่หมดฉันก็ไม่ได้จะโกรธคุณสักหน่อย”
เซียวซู่โล่งอก ก็เขากลัวจะทำให้เธอโมโหจริงๆ เขายื่นนิ้วชี้ไปถูจมูกของเจียงเสี่ยวไป๋ “กลับกันดีกว่าครับ”
ช่วงเวลาหลังจากนั้น เซียวซู่ก็พาเจียงเสี่ยวไป๋เที่ยว โดยมีคณะช่างถ่ายภาพพร้อมคณะเดินทางไปเก็บภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละจุด คิงพาวเวอร์ สวนสนุก ภูเขาแม่น้ำหรือทะเล เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปเที่ยวทุกที่
หลังจากผ่านไปแปดเดือน
เสี่ยวเหยียนก็ถึงกำหนดคลอด ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋เองก็ท้องโตมากแล้ว และใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้วเหมือนกัน
เธอเริ่มเดินเหินไม่สะดวกแล้ว ช่วงที่ตั้งท้องเธอได้รับความเหน็ดเหนื่อยอย่างหนัก ขาทั้งสองข้างของเธอบวมมาก แต่ละคืนนอนแทบจะไม่หลับ จะออกไปข้างนอกก็ลำบาก เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็เหนื่อยแล้ว
พอพูดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋แทบน้ำตาเล็ด
ฮันนีมูนของเธอต้องหยุดลงกะทันหันเพราะเธอท้อง เธอกับเซียวซู่เที่ยวกันประมาณครึ่งเดือนเห็นจะได้ ในขณะที่เตรียมตัวจะไปมัลดีฟส์ แม่ของเจียงเสี่ยวไป๋กลับโทรมาหากะทันหัน สองแม่ลูกคุยกันจนถึงเรื่องประจำเดือน
ไม่พูดถึงยังดี พอพูดถึงเจียงเสี่ยวไป๋ถึงได้นึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนของเธอไม่มานานแล้ว เธอจึงเริ่มเหม่อลอย
สุดท้ายแม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ก็บอกให้ทั้งสองคนรีบกลับประเทศอย่าเพิ่งออกไปเที่ยว เดี๋ยวจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้อง
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋บอกผลสรุปการพูดคุยให้เซียวซู่ฟัง เขานิ่งเงียบไปสักพักก็รีบจองตั๋วกลับประเทศทันที หลังจากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากอดแล้วพูด “ในอนาคตยังมีโอกาสอีกมาก เราฟังคำพูดของคุณแม่ กลับไปตรวจกันก่อนนะครับ”