บทที่1517 ต้องดีกับเขา
เจียงเสี่ยวไป๋พูดมาอย่างนี้ ถ้าเหลียงหย่าเหอยังถามต่อไป นั่นมันจะไม่รู้จักชั่วดีแล้วล่ะ
ถึงยังไงตัวเธอเองก็ยังไม่ได้จัดการมันเรียบร้อย แต่ถ้าเธอเอาแต่บังคับเสี่ยวไป๋ล่ะก็ ถึงตอนนั้นมันจะกลับตาลปัตรไปจะไม่ดีเอา
เหลียงหย่าเหอก็เลยพยักหน้าออกมา ตบบ่าเธอเบาๆ “ได้ๆๆ งั้นแม่ก็ไม่ถามแล้ว แต่ถ้าหนูสุดทนอยากจะระเบิดอารมณ์ใส่เซียวซู่จริงๆ เจ้าเด็กนั่นมันก็ไม่กล้าว่าอะไรหรอก หนูจะตบเขาตีเขาก็ได้ทั้งนั้น แต่อย่าเก็บกลั้นอยู่ในใจอยู่คนเดียวโดยเด็ดขาด ถึงตอนนั้นเมื่อเก็บกลั้นจนไม่ไหวแล้วมันจะแย่เอา”
“ค่ะ”
เซียวซู่หลังจากที่ถูกไล่ออกมา ก็เอาแต่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูไม่ไปไหน แน่นอนว่าไม่ได้เข้าไปแอบฟังบทสนทนาของทั้งสองคน
เพียงแต่ในภายหลังตอนที่เหลียงหย่าเหอเปิดประตูออกมา เซียวซู่ก็รีบเข้ามาหาทันที
“แม่ เสี่ยวไป๋เธอเป็นยังไงบ้าง?”
เห็นท่าทางร้อนใจของลูกชายตัวเอง เหลียงหย่าเหอร้องเฮอะเสียงเย็นออกมา ไม่ได้สนใจเขา ได้เดินตรงเข้าไปยังห้องรับแขก
เซียวซู่เห็นเธอไม่สนใจตัวเอง ก็เลยคิดอยากจะเปิดประตูเข้าไป แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่มือแตะลงไปบนลูกบิดประตู เหลียงหย่าเหอก็ตะโกนเข้ามา “แก หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“แม่?”
“ไสหัวมาหามารดาที่ห้องรับแขกสิ เสี่ยวไป๋ต้องพักผ่อน แกอยากเข้าไปกวนเธอหรอ?”
จนปัญญา เซียวซู่ทำได้เพียงหดมือกลับไป จากนั้นก็ตามเหลียงหย่าเหอไปที่ห้องรับแขก
“เสี่ยวไป๋ไม่สบายหรือเปล่า? ช่วงนี้ก็เป็นช่วงกำหนดคลอด เราย้ายไปนอนที่โรงพยาบาลกันดีกว่ามั้ย?”
“ไปนอนโรงพยาบาลทำไมกัน? คนเขายังดีๆอยู่ก็ให้เธอไปนอนโรงพยาบาลเสียแล้ว แกอยากตายหรือไง?”
เซียวซู่ถูกด่าแสกหน้ามาโครมๆไปยกนึง ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีขึ้นมาทันที
“คนท้องอารมณ์จะแปรปรวนอยู่บ่อยๆ จู่ๆก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมามันไม่ใช่ว่าก็ปกติหรือไง?”
“สาเหตุล่ะ?”
“ไม่จำเป็นต้องมีสาเหตุ!” เหลียงหย่าเหอด่าว่าออกมาคำโต “คนเขาท้องอยู่มั้ยล่ะ ลำบากขนาดนั้น ไม่เห็นว่าเธอแบกท้องโตๆอยู่หรือไง อยากโกรธก็โกรธ ไหนเลยจะต้องมีสาเหตุกับเหตุผลขึ้นมาอีก? เซียวซู่เอ๋ยเซียวซู่ ฉันมีแกเป็นลูกชายคนเดียวนะ ตั้งแต่เล็กจนโตเป็นยังไงฉันก็เห็นมาหมด ถ้าแกรังแกเสี่ยวไป๋ของเราจนหนีไปนะ ฉันไม่ยกโทษให้แกแน่!”
คำพูดนี้เซียวซู่ฟังแล้วไม่เข้าใจขึ้นมา
หลังจากที่เป็นแฟนกับเสี่ยวไป๋มา เซียวซู่ก็คอยอยู่ในเงื้อมมือเธอมาตลอด ไม่เคยพูดแรงๆกับเธอเลยสักประโยคเดียว จะไปรังแกเธอได้ยังไง?
“แม่ ผมจะไปรังแกเสี่ยวไป๋ได้ยังไงกัน?”
“ตอนนี้แกยังไม่รังแก แต่ถ้าแกไม่ระวังแล้วทำเธอโกรธขึ้นมาล่ะ?”
เซียวซู่ได้ยินอย่างนั้น คิ้วก็ขมวดออกมาทันที “เสี่ยวไป๋บอกแม่หรอ? เธอโกรธผม? ผมทำผิดตรงไหน?”
“แกจะร้อนใจไปทำไม?” เหลียงหย่าเหอส่งเสียงเฮอะออกมาเบาๆ “เสี่ยวไป๋ก็แค่ฝันร้ายเฉยๆ คำพูดพวกนี้ที่ฉันพูดกับแกไปก็แค่อยากเตือนแกในฐานะแม่เท่านั้น ดีกับเสี่ยวไป๋ให้มากๆ ลูกสาวเขายอมแต่งให้แกก็เป็นบุญเก่าของแกแล้ว ถ้าก็ไม่รักษาเอาไว้ให้ดีๆล่ะก็ ต่อจากนี้ไปคนที่จะเสียใจก็คือตัวแกเองนะ”
“ที่แท้ก็เป็นบทเรียนจากแม่นี่เอง ใจหายใจคว่ำหมดเลย ผมนึกว่าผมไปทำให้เสี่ยวไป๋โกรธขึ้นมาแล้วเสียอีก”
เซียวซู่เอามือขึ้นมากุมหน้าอก ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา
เห็นท่าทางอย่างนี้ของเขา เหลียงหย่าเหอก็แทบอยากจะตีเขาให้ตายไปเสียให้ได้!
ตัวเองพูดอยู่ตั้งนาน แต่มันไม่ได้เข้าหูเขาเลย เธอโมโหจนจะบ้าตายแล้วจริงๆ!
“เจ้าเด็กหน้าเหม็น แกบอกฉันมาตามตรง เรื่องวันนั้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลังจากนั้นแกจัดการมันยังไง?”
“เรื่องที่ซูเปอร์?” เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เซียวซู่ก็เกิดอาการงุนงงออกมาเล็กน้อย “เรื่องวันนั้นไม่ใช่ว่ามันก็ได้ผ่านไปแล้วหรอกหรอ? แม่ ทำไมแม่ถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก?”
“ผ่านไปแล้ว?” เหลียงหย่าเหอหัวเราะเสียงเย็นออกมา “แกโง่หรือว่าโง่กันแน่เนี่ย แกทิ้งเสี่ยวไป๋เอาไว้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตคนเดียว หลังจากเรื่องนั้นก็ไม่ได้ชดเชยอะไรเลยสักนิด ก็คิดจะพูดออกมาว่าผ่านไปแล้ว? แกมันโง่หรือไงหา?”
มุมปากเซียวซู่กระตุกออกมาเล็กน้อย “แม่”
“เสี่ยวไป๋ใกล้จะคลอดอยู่แล้ว แกอย่าทำให้ฉันต้องตกม้าตายเด็ดขาด รีบกล่อมให้เธอมีความสุขเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเธอเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาสักนิด ฉันไม่ปล่อยแกเอาไว้แน่!”
ถึงแม้ว่าเซียวซู่จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่จากคำพูดของเหลียงหย่าเหอก็เข้าใจขึ้นมา เรื่องที่ซูเปอร์มาร์เก็ตวันนั้นถึงยังไงก็เป็นเขาที่ทำผิดไป เขาไม่ควรทิ้งเสี่ยวไป๋ไว้ที่ซูเปอร์ตามลำพัง
เธอบอกว่าไม่เป็นไร ผ่านไปแล้ว เขาก็คิดว่ามันได้ผ่านไปแล้วจริงๆ
ไม่เคยคิดที่จะชดเชย ตอนนี้ถูกเหลียงหย่าเหอเตือนสติออกมา เซียวซู่คิดว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่าง
ดังนั้นแล้วในวันต่อมา เซียวซู่ก็ได้ไปซื้อกุญแจอายุยืนให้กับลูกน้อยที่ยังไม่คลอดออกมา แล้วยังมีต่างหูแบรนด์ดังที่เพิ่งออกใหม่ หลังจากที่ซื้อกลับมาก็มอบให้เสี่ยวไป๋เหมือนกับให้ทรัพย์สมบัติมีค่า
เจียงเสี่ยวไป๋ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เห็นตอนที่เขาหยิบของมาให้ตน สีหน้าก็นิ่งเรียบ
“ซื้อมาให้เธอกับลูก ลองดูสิ?”
เจียงเสี่ยวไป๋รับไป เปิดออกดู
ของขวัญที่ซื้อให้เธอ เธอไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรออกมา จนตอนที่เห็นกุญแจอายุยืนที่ซื้อให้ลูก ตาของเจียงเสี่ยวไป๋ก็วูบไหวออกมาเล็กน้อย
ปลายนิ้วขาวลูบลงบนกุญแจอายุยืนเบาๆ ทะนุถนอมทั้งยังระมัดระวังอย่างกับกลัวว่าจะแตะมันพังยังไงอย่างนั้นขึ้นมาไปพร้อมๆกัน หลังจากที่ผ่านไปได้สักพักเธอก็หยิบกุญแจอายุยืนขึ้นมา
“ชอบมั้ย?” เซียวซู่ถามออกมาอย่างขอความคิดเห็น
“ชอบ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถือกุญแจอายุยืน พยักหน้าออกมาเบาๆ “ชอบมาก ขอบคุณ”
ได้ยินเธอพูดว่าขอบคุณคำนั้นออกมา รอยยิ้มมุมปากของเซียวซู่จางลงหลายส่วน ไม่รู้ว่าทำไม เขารู้สึกว่าอารมณ์ของเสี่ยวไป๋มันต่ำลงมาก ตามความหมายของเหลียงหย่าเหอแล้วก็คือคนท้องจู่ๆก็อารมณ์ไม่ดีมันก็เป็นเรื่องปกติ ให้เขาดูแลให้มากสักหน่อย
โดยเฉพาะช่วงหลายวันนี้
เซียวซู่ก็เลยลาคลอดเอาไว้ล่วงหน้า ตั้งใจว่าช่วงหลายวันนี้จะอยู่เป็นเพื่อนเจียงเสี่ยวไป๋ตลอดทุกเวลา
“สองวันนี้ ตกลงเป็นอะไรกันแน่?”
เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นไป มองเขาไปด้วยรอยยิ้ม
“เซียวซู่”
“หืม?”
“คุณว่าลูกของเราจะเป็นเด็กผู้ชายหรือว่าเด็กผู้หญิงกัน?”
จู่ๆเธอก็พูดเรื่องเพศของลูกขึ้นมา ผ่านไปสักพักใหญ่ๆกว่าเซียวซู่จะมีปฏิกิริยาออกมา นานกว่าจะพูดออกมาได้ “จะผู้ชายผู้หญิงก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่เธอคลอดออกมา ฉันก็ชอบทั้งนั้น”
คำพูดนี้ฟังไปแล้วมันก็กระตุกใจคนอย่างมาก
รอยยิ้มที่อยู่ตรงมุมปากของเจียงเสี่ยวไป๋อ่อนโยนขึ้นมาหลายส่วน เสียงก็อ่อนโยนขึ้น
“ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง ก็เรียกเธอว่าเซียวโหรว ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย ก็ให้เรียกเขาว่าเซียววั่งจือดีมั้ย?”
“เธอคิดชื่อเรียบร้อยหมดแล้ว?”
“อืม ฉันคิดมาเมื่อสองวันมานี้เอง” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าออกมาเล็กน้อย “ลองคิดมั่วๆไป คิดว่าสองชื่อนี้ดีมากเลย คุณคิดว่าไง?”
เซียวซู่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย พยักหน้าออกไป
“ถ้าเธอคิดว่าดี มันก็ดี”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก้มหน้ามองกุญแจอายุยืนในมือต่อ พลางเอ่ยออกไป “อีกอย่าง หลังจากนี้ลูกก็อย่าให้เขาไปโรงเรียนอนุบาลเร็วเกินไปล่ะ ครูที่นั่นเลี้ยงเด็กเยอะเกินไป ถ้าให้เขาไป ก็คงจะดูแลไม่ทั่วถึง ดังนั้นแล้วก็ต้องรอให้เขาโตอีกสักนิดแล้วค่อยไป”
คำพูดนี้ฟังไปแล้ว เซียวซู่รู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย พยักหน้าตอบรับออกไป “ได้”
“อืม นี่เป็นลูกเพียงคนเดียวของพวกเรา คุณจะต้องดีต่อลูกให้มากๆ จะตีเขาด่าเขาไม่ได้นะ รู้มั้ย?”
เซียวซู่ “ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมเอ่ยออกมาอีกครั้ง “ถ้าคุณอยากหาแม่เลี้ยงให้ลูก ก็ได้เหมือนกัน แต่คุณจะต้องรับประกันว่าแม่เลี้ยงคนนั้นดีกับลูก ไม่อย่างนั้น…”
คำพูดในครั้งนี้ทำเอาเซียวซู่ขมวดคิ้วแน่น ไม่รอให้เธอได้พูดจบ เซียวซู่ก็รีบขัดเธอออกมา “เสี่ยวไป๋ เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไรอยู่?”