บทที่1521ไม่ร้องไห้นะลูกไม่ร้อง
เพราะเธอกลัวว่าถ้าอุ้มแล้วจะทำใจจากไปไม่ได้
ที่จริงแล้วเธอคิดเรื่องที่จะจากไปมานานแล้วอย่างนั้นเหรอ
ตู้เซียวหยู่ตกใจกับความคิดของตัวเองมากเธอรีบจับแขนของเจียงเสี่ยวไป๋ไว้แล้วเค้นถาม “ที่ลูกไม่ยอมอุ้มเพราะลูกอยากจะจากไปใช่ไหม เสี่ยวไป๋รับปากกับแม่นะว่าอย่าทำอะไรโง่ๆเด็ดขาด ลูกกับเซียวซู่เพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นาน ส่วนเขาก็ดีกับลูกมาก รวมถึงแม่ของเขาด้วยที่ทั้งรักทั้งเอ็นดูลูก แล้วยังมีหลานของแม่ที่เพิ่งออกมาลืมตาดูโลก จะขาดแม่ไม่ได้นะลูก”
เจียงเสี่ยวไป๋ถูกคำพูดของมารดาทำให้เริ่มสั่นคลอน ขอบตาของเธอเริ่มแดง“แต่ว่าแม่คะ การแต่งงานในครั้งนี้เดิมทีมันก็เป็นแค่เรื่องตลกนะคะ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้มีแค่หนูคนเดียวที่คิดไปเอง เป็นหนูที่มั่นใจในตัวเองมากเกินไป หนูคิดว่าไม่มีอะไรที่หนูคิดไม่ได้”แต่ว่าความเป็นจริงกลับทำร้ายจิตใจของเธออย่างรุนแรง
“คิดไปเองคนเดียวอะไรกันลูก”ตู้เซียวหยู่หรี่ตามอง“เด็กโง่เสี่ยวไป๋ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ลูกกับเซียวซู่ทั้งสองคนรักกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ พวกลูกคบหาดูใจกันเองนี่นา”
“ใช่ค่ะ พวกหนูคบหาดูใจกันเอง”ไม่ใช่สิไม่นับว่าเป็นการคบหาดูใจกันเองหรอก ถึงแม้การคบหาดูใจกันจะเป็นเรื่องของคนสองคนแต่ถ้าหากไม่เกิดเรื่องในคืนนั้น ทั้งสองคนคงไม่เดินมาถึงตรงจุดนี้
ดังนั้น การแต่งงานครั้งนี้มันไม่ได้มีอะไรแตกต่างกับการแต่งงานปลอมเลย“ในเมื่อพวกลูกคบหาดูใจกันเอง แล้วลูกกำลังพูดอะไรของลูกกัน ถ้าหากเซียวซู่เขาไม่รักลูก เขาจะแต่งงานกับลูกไหม เขาดีกับลูกถึงขนาดนี้ แม้แต่แหวนแต่งงานของพวกลูกเขายังสั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะเลยนะ ลูกซื่อบื้อคนนี้”
อย่างนั้นเหรอ เซียวซู่เขา…รักเธอจริงๆเหรอ
ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมา เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ไม่ใช่ว่าไม่คิด แต่เธอไม่กล้าที่จะคิด
เธอกลัวว่าถ้าเธอคิดทบทวนอย่างจริงจัง จะเริ่มรู้สึกผิดหวังและสิ้นหวัง
ดังนั้นตอนที่ได้ยินตู้เซียวหยู่พูดเรื่องนี้ออกมา เจียงเสี่ยวไป๋จึงต้องกลับมาคิดทบทวนอย่างจริงจังถึงเรื่องนี้
เซียวซู่รักเธอจริงๆหรือเปล่า
“แม่คะ หนูขอไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้ไหมคะ”
“ทำไมถึงไม่พูดล่ะลูก ถ้าไม่พูดกันให้ชัดเจนลูกก็จะตกอยู่ในอาการแบบนี้ไปตลอด ลูกคิดว่ามันยุติธรรมกับลูกของลูกไหม ลูกไม่แม้แต่จะยอมอุ้มเลย ถ้าแม่ไม่พูดกับลูกให้ชัดเจนแล้วลูกแอบหนีไปจะทำยังไง”เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ตอบ
“เสี่ยวไป๋ผู้ชายคนหนึ่งรักลูกหรือเปล่ามีแค่ตัวพวกลูกเองที่รู้ดีลูกลองถามใจตัวเองดูว่าเขาไม่ชอบลูกจริงๆอย่างนั้นเหรอวันที่ลูกคลอดหลังจากที่คลอดเสร็จลูกก็สลบไปตอนที่แม่เดินเข้าไปเขาก็นั่งจับมือลูกไว้แน่นไม่แม้แต่จะมองเด็กเลย แม่เห็นภาพนั้นแล้วยังรู้สึกได้เลยว่าลูกไม่ได้แต่งงานผิดคน อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็เป็นห่วงลูกมากเขารู้ว่าลูกต้องลำบาก แต่ที่เขาเป็นห่วงลูกเขาต้องรักลูกด้วยเขาจะเป็นห่วงผู้หญิงคนอื่นได้หรือไงกัน”พอพูดถึงตรงนี้ตู้เซียวหยู่ก็ลูบศีรษะของเจียงเสี่ยวไป๋อย่างเอ็นดู
“ดังนั้นลูกน่ะอย่าคิดมากเกินไปเลย”หลังจากได้ยินคำพูดของเธอเจียงเสี่ยวไป๋ประหลาดใจขึ้นมาทันทีวันนั้นตอนที่เธอไม่ได้สติแล้วตื่นมาเห็นเซียวซู่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างในใจไม่มีความรู้สึกซาบซึ้งใจคงจะเป็นเพราะว่าเธอทำใจที่จะจากไปไว้แล้ว
แต่หลังจากที่ได้ยินตู้เซียวหยู่พูดถึงเจียงเสี่ยวไป๋ถึงได้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นมาได้หรือว่าจะเป็นเธอที่คิดมากไปเองจริงๆ
ทั้งๆที่เรื่องในวันนั้นมันผ่านไปแล้ว แต่ทำไมพอรู้ว่าคนที่เขาเข้าไปช่วยคือเสี่ยวเหยียน เธอถึงได้กลายเป็นคนใจแคบถึงขนาดนี้ ไม่ยอมเข้าใจอะไรถึงขนาดนี้ เจียงเสี่ยวไป๋หลับตาลงแล้วพยายามปัดความคิดที่สับสนวุ่นวายทั้งหมดออกไปจากสมอง“แม่คะ หนูรู้แล้วค่ะ แม่ออกไปก่อนเถอะนะคะ หนูอยากอยู่เงียบๆคนเดียวสักพัก”
“งั้นก็ได้จ๊ะ ลูกลองคิดทบทวนเรื่องราวให้ชัดเจน เอาคำพูดที่แม่พูดกลับไปคิดให้ดี”
ในคืนนั้น เจียงเสี่ยวไป๋นอนหลับตาอยู่บนเตียง แต่ก็ยังนอนไม่หลับ
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องของเด็กทารกดังออกมาจากห้องข้างๆ
เธอชะงักไปเล็กน้อย ในค่ำคืนที่เงียบสงบ ทำให้เสียงร้องไห้ของเด็กดังกว่าปกติ เหมือนมีเข็มทิ่มแทงเข้าที่หัวใจของเธอ เธอนั่งนิ่ง เพราะลูกคงจะมีคนคอยดูแลอยู่
แต่ผ่านไปได้สักพัก เสียงร้องไห้ก็ยังคงดังไม่หยุด อีกทั้งห้องข้างๆยังไม่มีเสียงก้าวเดินดังออกมาด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋ค่อยๆลืมตาขึ้นมา แล้วนั่งคิดอย่างสงสัย หรือว่าแม่สามีกับแม่ของเธอจะไม่อยู่กันนะ ไม่น่าจะเป็นไปได้นี่นา ปกติพวกท่านจะคอยดูแลเด็กไม่ห่าง น่าจะอยู่ในห้องนี่นา
แต่ทำไมถึงทำอย่างนี้กัน
ไม่นาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจเรื่องราวทันที เรื่องที่เธอพูดกับตู้เซียวหยู่ในวันนี้ เหลียงหย่าเหอเองก็คงจะรู้แล้วเช่นกัน
ดังนั้นทั้งสองคนคงจะจงใจไม่สนใจ อยากจะให้เธอไปอุ้มลูกเอง
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ เสียงร้องไห้ยังคงดังติดต่อกันหลายนาที และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เธอยิ่งฟังยิ่งจิตใจไม่อยู่ไม่สุข สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว เธอลงจากเตียงด้วยเท้าเปล่า แล้วเดินไปเปิดประตูห้องข้างๆ
หลังจากเปิดประตูเข้าไป เสียงร้องก็ยิ่งดังก้อง ภายในห้องมีเตียงเด็กทารกสองเตียง เตียงหนึ่งสีชมพู ส่วนอีกเตียงเป็นสีฟ้า เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่เตียงสีฟ้า ที่กำลังมีร่างเด็กน้อยนอนอยู่ในนั้น เด็กน้อยใส่ชุดสีฟ้าอ่อนทั้งชุด
ชุดพวกนี้เจียงเสี่ยวไป๋เป็นคนเลือกซื้อเองกับมือ ในตอนที่เธอคิดจะจากไป แต่ไม่รู้ว่าลูกในท้องจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ดังนั้นตอนเลือกซื้อของเธอจึงเลือกอย่างละสองชุด
แม้แต่เตียงนอนเด็ก ด้วยความที่คลอดได้เด็กผู้ชาย ดังนั้นชุดเสื้อผ้าที่เป็นสีฟ้ากับเตียงสีฟ้าจึงถูกนำออกมาใช้
หลายวันมานี้ เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ทันได้สังเกตตรงจุดนี้เลย
แต่พอตอนนี้ได้มาเห็น ภายในใจของเจียงเสี่ยวไป๋จึงเริ่มรู้สึกสั่นคลอน
ภายในหัวใจเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังขยับ เจียงเสี่ยวไป๋ค่อยๆเดินเข้าไปทางเตียงสีฟ้าอย่างช้าๆ
เสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังพุ่งตรงเข้าไปในใจของเจียงเสี่ยวไป๋ เด็กทารกที่ใส่ชุดสีฟ้านอนอยู่ในนั้น มือไม้โบกสะบัดไปมา
พอเดินมาถึงตรงหน้าเตียงเด็กทารก ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้เห็นใบหน้าของลูกชัดๆสักที
ช่วงที่ผ่านมานี้ อย่าว่าแต่อุ้มเลย แม้แต่มองอย่างละเอียดเธอยังไม่มองเลย
เด็กทารกที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้น ตัวเล็กมาก อีกทั้งตัวนุ่มนิ่มมากด้วย ชุดสีฟ้าที่เขากำลังใส่อยู่ทำให้ผิวของเขาดูขาวยิ่งขึ้นไปอีก
แก้มแดงที่ดูนุ่มนิ่มทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอจึงยื่นมือออกไปหยิกเบาๆ
สัมผัสที่นุ่มนิ่ม อีกทั้งยังเด้งดึ๋ง ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือไปหยิกเบาๆอย่างอดใจไม่ได้
เด็กทารกที่เดิมทีกำลังร้องไห้อยู่ แต่หลังจากที่โดนเจียงเสี่ยวไป๋หยิกแก้มเล่นไปสองครั้ง กลับหยุดร้องอย่างน่าประหลาด พร้อมกับนอนมองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยดวงตากลมโตงุนงงสงสัย
พอสบตากับดวงตาคู่นั้น เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกใจสั่นอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น ขอบตาของเธอก็เริ่มแดง เธอยื่นมือไปอุ้มลูกขึ้นมา ด้วยความที่กลัวว่าจะทำลูกเจ็บ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ก่อนจะค่อยๆกล่อมเบาๆ
“แม่มาแล้ว ไม่ร้องนะลูกไม่ร้อง”
ส่วนอีกห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน เซียวซู่กับเหลียงหย่าเหอและตู้เซียวหยู่กำลังนั่งอยู่รวมกัน เซียวซู่ร้อนใจจนแทบจะนั่งไม่อยู่กับที่ เดินไปเดินมาอยู่ในห้อง
ตู้เซียวหยู่เป็นแม่ภรรยาของเขา จึงพูดอะไรเขาไม่ได้ แต่เหลียงหย่าเหอที่มองเขาเดินไปเดินมาจนปวดหัว จึงพูดต่อว่า “ลูกนั่งลงก่อน เดินไปเดินมาทำอะไรของลูก”
“แม่ครับ เสี่ยวไป๋เธอ…”
“แกยังมีหน้าจะว่าเสี่ยวไป๋อีกหรือไง เจ้าลูกไม่รักดี”