บทที่1523 จะทำงานไปเพื่ออะไรกัน
เขาโอบไหล่ของเธอไว้ แล้วขยับเข้าไปใกล้เธอ ลมหายใจของเขาลดลงบนใบหน้าของเธอ
ลูกที่ถูกเจียงเสี่ยวไป๋อุ้มอยู่ในอ้อมกอด บริเวณขอบตายังมีหยดน้ำตาชื้น ก่อนหน้านี้ร้องไห้เสียงดัง ตอนนี้กลับเงียบสงบมาก พอลืมตาขึ้นมาก็มองหน้าทั้งสองคนอย่างสงสัย
และมองอยู่อย่างนั้น ไม่ร้องไห้ออกมาอีกเลย
เจียงเสี่ยวไป๋หลับตาลง ก่อนจะพูดอย่างอ่อนใจ “คุยได้ค่ะ แต่คุณไม่ต้องมากอดฉันแบบนี้”
“กอดคุณแล้วคุยไปด้วย ผมสบายใจมากกว่า”
คำพูดของเขาทำให้เจียงเสี่ยวไป๋หมดคำพูด ในขณะเดียวกันก็ใจเต้นแรงไปด้วย
“ช่วงนี้คุณไม่ยอมอุ้มลูกเลย อีกทั้งยังไม่สนใจผมเลยด้วย ไม่ใช่เพราะคุณเหนื่อย แต่เป็นเพราะคุณคิดจะจากผมไป ใช่ไหมครับ”
เธอไม่ตอบกลับ
แสดงว่าเธอยอมรับแล้วใช่ไหม
เซียวซู่สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดอธิบาย “ถ้าหากเป็นเพราะเรื่องในวันนั้น คุณเข้าใจผมผิดไปแล้วจริงๆนะครับ”
เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ
เจียงเสี่ยวไป๋แสยะยิ้ม เธอไม่คิดว่าตัวเองกำลังเข้าใจเขาผิดนะ
“วันนั้นมันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆนะครับ ผมถึงต้องส่งเธอไปโรงพยาบาล เสี่ยวไป๋ คุณเชื่อผมหน่อยได้ไหม”ตอนที่เซียวซู่พูด น้ำเสียงของเขาดูเว้าวอนมาก
ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาสักที
“เชื่อคุณอย่างนั้นเหรอคะ คุณเอาอะไรมาให้ฉันเชื่อคะ ฉันที่อุ้มท้องใหญ่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า มีคนเดินไปเดินมาในห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก คุณที่เป็นผู้ชายยังชนกับคนอื่นได้ ถ้าหากฉันโดนคนเดินชนล่ะคะ ใครจะเป็นคนพาฉันไปโรงพยาบาล”
“แต่วันนั้นหลังจากที่ผมอธิบายให้คุณฟัง คุณบอกว่าไม่เป็นไร แล้วทำไม พออีกฝ่ายเป็นเสี่ยวเหยียนคุณถึง…”
“ใช่ค่ะ ถูกต้อง เรื่องในวันนั้นผ่านไปแล้ว คุณจะช่วยใครฉันก็ไม่ว่า นอกจากเสี่ยวเหยียนที่ไม่ได้ค่ะ ฉันก็เป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้แหละ เธอเป็นคนที่คุณให้ความสำคัญมาก คุณถึงได้ทิ้งฉันไปเพื่อเธอ เรื่องนี้ฉันควรจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ที่จริงแล้วฉันไม่มีอะไรจะต้องโกรธด้วยซ้ำ”
พอพูดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็หัวเราะเยาะตัวเอง “เป็นฉันเองที่โง่เอง เพราะคุณชอบเธอมาตั้งแต่แรก แต่ฉันกลับดื้อดึงที่จะคบกับคุณ ตำแหน่งบางตำแหน่งไม่ใช่ว่าจะมีใครแทนที่ได้ ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วค่ะ ไม่อยากจะยื้อไว้อีกต่อไปแล้ว ได้ไหมคะ”
พอพูดถึงช่วงสุดท้าย แม้แต่เจียงเสี่ยวไป๋เองยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเหตุผล ใจร้าย การช่วยเหลือคนอื่นเป็นเรื่องที่ดี แต่เธอกลับทำตัวเหมือนผู้หญิงนิสัยเสีย ที่คอยเอาแต่อิจฉาริษยาความรู้สึกที่เซียวซู่มีต่อเสี่ยวเหยียน
มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษไม่เหมือนใคร เธอเอาชนะไม่ได้จริงๆ
“พอแล้วค่ะ ฉันเหนื่อยแล้ว ถ้าคุยเสร็จก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
พอพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เตรียมจะอุ้มลูกเดินจากไป แต่เซียวซู่กลับคว้าเอวของเธอไปกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอเดินจากไป
“อย่าไปครับ เรายังคุยกันไม่จบเลย”เซียวซู่มองหน้าเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “เรายังคุยกันไม่จบ คุณห้ามไปไหนเด็ดขาดเลย”
“เซียวซู่”
เจียงเสี่ยวไป๋ตะโกนชื่อเขาอย่างโมโห เซียวซู่รู้สึกเจ็บที่หัวใจ ก่อนจะพูด “คุณจะโกรธผมก็ได้ จะด่าจะว่าผมก็ได้ ถึงอย่างไรคุณก็จะจากผมไปแล้ว งั้นผมก็จะหน้าด้านหน้าทน ไม่สนใจความยินยอมของคุณแล้วเหมือนกัน”
พอพูดจบ เซียวซู่ก็เดินไปข้างหน้า แล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่นขึ้น
ในอ้อมกอดของเจียงเสี่ยวไป๋ยังอุ้มลูกอยู่ แต่เขาก็ยังเดินเข้าไป ทำให้เธอตกใจมาก จึงรีบตะโกนออกไป “คุณเบามือหน่อยได้ไหม คุณจะกอดแน่นจนลูกหายใจไม่ออกเลยหรือไง”
พอถูกเธอตะโกนใส่ เซียวซู่ถึงได้รู้สึกตัว แล้วเดินถอยหลังออกมา “ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถลึงตาใส่เขาอย่างโมโห ก่อนจะก้มลงมองลูก พบว่าลูกกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเธอ สายตามองมาที่เธออย่างน่ารักน่าชัง
“ลูกชอบคุณมาก เขายังตัวเล็กขนาดนี้ คุณทำใจทิ้งเขาไปได้จริงๆเหรอครับ”เซียวซู่เห็นว่าเธอพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ลูก จึงตัดสินใจใช้ลูกเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองคน
“คุณดูสิ พอคุณอุ้มลูกก็หยุดร้องไห้เลย ถ้าหากคุณจากไป เขาจะต้องนอนไม่หลับทุกวันแน่ๆเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ”เจียงเสี่ยวไป๋รีบพูดขัด น้ำเสียงเริ่มสั่นคลอน “คุณอย่าใช้ลูกเป็นข้ออ้างค่ะ ถ้าฉันโมโหจริงๆฉันจะพาลูกไปกับฉันด้วยเลย”
พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็สีหน้าเศร้าหมองขึ้นมาอีกหลายส่วน “คุณทำใจได้จริงๆเหรอครับ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ตอบคำถามเขา แต่คิดในใจ ทำใจไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรได้ ใครใช้ให้คุณเอาแต่คิดถึงเสี่ยวเหยียน เธอเองก็รักในศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน
“ปล่อยค่ะ”
“ไม่ปล่อยครับ”
เซียวซู่กอดเธอไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย เจียงเสี่ยวไป๋เริ่มโมโห “คุณจะปล่อยหรือไม่ปล่อย”
สีหน้าของเธอดุมาก เห็นได้ชัดว่าเธอโมโหแล้วจริงๆ เซียวซู่เองก็กลัวเวลาเธอโมโห เขาจึงต้องยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ภายใต้สายตาของเธอ
เจียงเสี่ยวไป๋อุ้มลูกไปที่ห้องข้างๆ ทิ้งให้เซียวซู่อยู่ในห้องเพียงคนเดียว แววตาของเขาหมองมัว และเศร้าโศก
ที่เขาพูดไปทั้งหมด ดูเหมือนเสี่ยวไป๋จะไม่ยอมฟังเลยแม้แต่คำเดียว
ทำอย่างไรดี
เธอตัดสินใจจะไปจากเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร
เขาไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ในห้องนานแค่ไหนแล้ว ตอนที่เหลียงหย่าเหอเดินเข้ามา แล้วเห็นเจ้าลูกชายแสนโง่ของตนเองยืนเหม่ออยู่ข้างในคนเดียว เธอก็แทบจะโมโหตาย
“เจ้าลูกบ้า แม่บอกให้คิดหาวิธี นี่แกแก้ไขเรื่องนี้เองไม่ได้ใช่ไหม”เซียวซู่คอตก สีหน้าเศร้าซึม
“ถ้าเสี่ยวไป๋จากไปจริงๆ แกจะทำอย่างไร”
พอได้ยินแบบนี้ เซียวซู่ก็รีบเงยหน้าขึ้นมา จริงด้วย ถ้าเสี่ยวไป๋จากเขาไปจริงๆ เขาจะทำอย่างไรดี เขาคุ้นชินกับการมีเธออยู่เคียงข้างไปแล้ว คุ้นเคยกับการมีผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มในฤดูหนาว ก่อนจะหันกลับมาแล้วยกขาทั้งสองข้างเข้าไปในเสื้อของเขา ก่อนจะบอกกับเขาว่า เซียวซู่ คุณช่วยฉันอุ่นขาหน่อยค่ะ ฉันหนาวจนจะแข็งตายแล้ว
คุ้นเคยกับการที่เธอเห็นอะไรน่าสนุกตอนดูโทรทัศน์ แล้วกระดิกนิ้วเรียกเขากะทันหัน พอเขาเดินเข้าไปหา เธอก็กอดคอเขาไว้ แล้วขยี้ใบหูของเขาไปมา ก่อนจะมองดูใบหูของเขาแดงขึ้นมาด้วยสีหน้าสนุกสนาน
คุ้นเคยกับการที่มีเสียงหัวเราะของเธอในอ้อมกอดของเขา คุ้นเคยกับการที่มีเธอคอยออดอ้อน สั่งการ ทำท่าทางน่ารักให้เขาดู และทุกอย่างที่เป็นเธอ
ในตอนนี้พอกลับมาคิดดู ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดล้วนแต่เป็นความทรงจําที่แสนหวาน
“แม่พูดถูกครับ ผมขาดเธอไปไม่ได้จริงๆ”เซียวซู่ยิ้มเศร้า “แต่ถ้าหากเธอคิดจะจากไปจริงๆ ผมจะยื้อเธอไหวได้ยังไงกัน”
“ถ้าแกอยากจะยื้อ มีวิธีอยู่เยอะมาก ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ลูกก็พยายามตามติดเธอไว้ก่อน อย่าให้เธอหนีไปก็พอแล้ว”
เหลียงหย่าเหอพูดขึ้นมา “แกจะลางานมาอยู่บ้านก่อนไม่เป็นหรือไง คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอทุกวัน เธอไปไหนลูกก็ตามไปด้วยทุกที่ แบบนี้เธอจะหนีไปไหนได้อย่างไรกัน”
พอได้ยินคำพูดเตือนสตินี้ เซียวซู่รู้สึกว่ามีเหตุมีผล จึงรีบพยักหน้ารับทันที
หลังจากนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็สังเกตได้ว่าเซียวซู่ไม่ไปทำงาน ตอนแรกเขาเอาแต่อยู่ที่บ้าน และพยายามเดินเข้ามาในห้องของเธอบ่อยๆ
แต่ส่วนใหญ่ เจียงเสี่ยวไป๋จะนอนหลับพักผ่อน ตอนที่เขาเดินเข้ามาเธอก็จะหันหลังใส่เขา นอกจากไม่สนใจเขาแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงทำทุกอย่างเหมือนปกติ
หลังจากที่เซียวซู่คุยกับเหลียงหย่าเหอเสร็จ เขาก็พยายามเดินเข้าไปชวนเจียงเสี่ยวไป๋คุยอย่างหน้าด้าน ถึงแม้เจียงเสี่ยวไป๋จะไม่สนใจเขา เขาก็ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเธอตลอดเวลา
จนสุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มหมดความอดทน
“คุณคงไม่คิดจะทิ้งงาน เพื่อจะมาเฝ้าฉันไว้อย่างนี้หรอกใช่ไหมคะ”
พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็ยิ้มเศร้า “ถ้าไม่มีคุณ แล้วผมจะทำงานไปเพื่ออะไรกัน”