บทที่1525 ผมรักคุณจริงๆนะครับ
หลังจากวางสายไป เซียวซู่ก็นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างเตียง
คุณชายเย่แนะนําแผนให้เขา แต่เขากลับฟังไม่ค่อยเข้าใจ แผนเจ็บตัวเรียกร้องความสงสารใช้อย่างไร
ถ้าใช้แผนนี้ก็จะสามารถรั้งเจียงเสี่ยวไป๋ไว้ได้อย่างนั้นเหรอ
แล้วถ้าหากว่าทำให้เธอยิ่งโมโหมากขึ้นล่ะ
พอนึกถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็รู้สึกปวดหัวแล้ว
หลายวันมานี้ตอนที่ทุกคนกินข้าวพร้อมกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหานก็จะเงียบมาก เหลียงหย่าเหอได้แต่พยายามสร้างบรรยากาศขึ้นมา เธอสั่งให้เซียวซู่ตักอาหารใส่ชามข้าวของเจียงเสี่ยวไป๋
เพราะมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ทำสีหน้าต่อต้าน ตอนที่เซียวซู่ตักอาหารใส่ชามของเธอ เธอก็จะหันหน้าไปทางเหลียงหย่าเหอแล้วพูด “ขอบคุณค่ะคุณแม่ คุณแม่รีบกินข้าวเถอะค่ะ”
“จ๊ะๆ ลูกเองก็กินเยอะๆนะอย่าปล่อยให้หิว การอยู่เดือนต้องระวังตัวให้มาก”เจียงเสี่ยวไป๋นิ่งคิด ก่อนจะพูดขึ้นมากะทันหัน “แม่คะ หนูอยู่เดือนมาครึ่งเดือนแล้ว บ่ายวันนี้หนูขอออกไปข้างนอกหน่อยจะได้ไหมคะ”
พอได้ยินว่าเธออยากออกไปข้างนอก ทุกคนบนโต๊ะอาหารก็พากันวางชามข้าวลง แล้วมองมาที่เธออย่างตื่นตัว การกระทำที่ทำพร้อมเพรียงกันทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“พวกคุณแม่เป็นอะไรไปคะ นี่มันผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว หนูคิดว่าหนูน่าจะออกไปข้างนอกได้บ้างแล้ว หนูเห็นพวกดาราก็กลับไปทำงานได้ปกติ หนูเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นจ้ะลูก เดิมทีนี่มันก็เป็นการอยู่เดือน และยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลย ทางที่ดีอย่าเพิ่งออกไปไหนเลยนะจ๊ะ พวกดาราไม่เหมือนกับพวกเรา สุขภาพร่างกายของเราสำคัญที่สุด”เหลียงหย่าเหอรีบจับมือของเจียงเสี่ยวไป๋ไปจับไว้ “แล้วอีกอย่างนะจ๊ะ ลูกจะออกไปทำอะไร หรือว่ามีอะไรที่อยากได้ ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็ให้เซียวซู่ไปซื้อให้ก็ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มๆ ก่อนจะพูด “แม่คะ หนูอยากจะซื้อของจริงๆค่ะ แต่เซียวซู่เขาซื้อให้ไม่ได้หรอกค่ะ ดังนั้นหนูเลยตัดสินใจว่าจะไปซื้อเอง แล้วหนูก็อยากไปเดินซื้อของกับเพื่อนบ้าง”
“อย่าเพิ่งไปเลยนะลูก นั่งอยู่เดือนให้เสร็จก่อน”ตู้เซียวหยู่ที่นั่งอยู่ด้วยหันหน้าไปมองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างห้ามปราม “อย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นสิลูก
ในตอนที่เซียวซู่ได้ยินเจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าอยากจะออกไปข้างนอก เขาก็เหมือนถูกจี้สกัดจุดนั่งมองหน้าเจียงเสี่ยวไป๋นิ่ง
แต่น่าเสียดายที่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ยอมมองมาที่เขาเลย เหมือนจะคิดว่าเขาเป็นคนไร้ตัวตน
ทำไมเธอถึงได้ขอออกไปข้างนอก หรือว่าเธออยากจะจากไปแล้วจริงๆ
พอคิดถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของเขามืดมิดลงไป
ไม่ ไม่ได้นะ เสี่ยวไป๋จะไปไหนไม่ได้เด็ดขาด
พอนึกถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็รีบคว้าข้อมือของเจียงเสี่ยวไป๋มาจับไว้ แล้วดึงเธอให้ลุกขึ้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ ถูกเซียวซู่ดึงให้ลุกขึ้นมากะทันหัน ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัวได้ เธอก็ถูกอุ้มขึ้น แล้วตรงเข้าไปในห้องทันที
ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายยังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร เจียงเสี่ยวไป๋คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวซู่จะทำแบบนี้ รอจนเธอตั้งตัวได้ ใบหน้าของเธอก็เริ่มร้อนรุ่ม แล้วเริ่มทุบไหล่เซียวซู่ไม่หยุด
“คุณทำบ้าอะไรของคุณ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ พวกคุณแม่กำลังมองพวกเราอยู่คุณไม่รู้หรือไงกัน”
เหลียงหย่าเหอที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ เธอโมโหจนแทบจะพุ่งตัวเข้าไป แต่กลับถูกตู้เซียวหยู่ดึงรั้งไว้ได้ก่อน
“อย่าเข้าไปค่ะ มันเป็นเรื่องของพวกลูกๆ ให้พวกเขาสองคนแก้ปัญหากันเองดีกว่านะคะ”
“แต่ว่าท่าทางของตาเซียวซู่ เขาจะทำร้ายหนูเสี่ยวไป๋หรือเปล่าคะ ไม่ได้ค่ะไม่ได้ ดิฉันต้องไปดูสักหน่อยค่ะ”
เหลียงหย่าเหอกังวลใจมาก ตู้เซียวหยู่ต้องใช้เวลาในการพูดเกลี้ยกล่อมอยู่นานมากถึงจะรั้งเหลียงหย่าเหอไว้ได้ ก่อนจะพูดเสียงเบา “เรื่องระหว่างสามีภรรยา เราอย่าเข้าไปยุ่งดีกว่าค่ะ พวกเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวช่วงสายๆเราค่อยกลับมา ดิฉันมองออกค่ะ ว่าตาเซียวซู่ไม่ใช่คนใจร้อน ทำร้ายคนอื่น แล้วอีกอย่างตอนนี้เสี่ยวไป๋ก็ดื้อรั้นมากด้วย”ตู้เซียวหยู่พูดสรุปความ สุดท้ายเหลียงหย่าเหอก็ถูกเธอพูดจนยอมเชื่อ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็รีบเก็บของแล้วออกไปทันที
ส่วนอีกด้านเซียวซู่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หลังจากอุ้มเธอมาจนถึงห้อง แล้วปิดประตูลง ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็หาโอกาสหลุดออกมาจากอ้อมกอด แววตาที่จ้องมองเซียวซู่เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว ในใจรู้สึกกลัวมาก แต่ก็ต้องพยายามแข็งใจไว้
“คุณ คุณคิดจะทำอะไรคะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนยืดตัวตรง ก่อนจะพูดกับเซียวซู่ “เซียวซู่ คุณมาทำบ้าอะไรตอนนี้ คุณเชื่อไหมว่าฉันขอหย่ากับคุณได้”
“เชื่อครับ”เซียวซู่เดินเข้าหาเธอทีละก้าว สองมือวางไว้บนไหล่ของเธอ แววตาลุ่มลึก “คุณจะทิ้งสามีทิ้งลูกไปแล้ว แค่การหย่าร้างจะเป็นอะไรไป”
ทิ้งสามีทิ้งลูกคำนี้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ต้องขมวดคิ้วแน่น แต่เธอก็โต้เถียงไม่ได้ เพราะการตัดสินใจของเธอมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็ยิ้มเยาะออกมา
“ทิ้งสามีทิ้งลูกแล้วมันยังไงคะ เดิมทีในใจของคุณก็ไม่เคยมีฉันอยู่แล้ว หรือว่าคุณยังต้องให้ฉันอยู่ต่อไปอย่างคนไร้ศักดิ์ศรีอย่างนั้นเหรอ คุณคิดว่าฉันเป็นอะไร เป็นสิ่งของที่คุณเอามาใช้เติมช่องว่างในใจของคุณ เอาฉันไปเป็นเครื่องมืออย่างนั้นเหรอคะ”
“คุณกำลังพูดอะไรกัน”เซียวซู่ขมวดคิ้ว “ผมบอกคุณไปเมื่อไหร่ว่าไม่มีคุณอยู่ในหัวใจ”
“ถ้าคุณมีฉันอยู่ในหัวใจ คุณจะไม่เลือกที่จะช่วยเธอ แล้วทิ้งฉันไว้อย่างไม่สนใจ บอกตามตรงนะคะ ยังดีที่วันนั้นไม่เกิดอะไรขึ้น ถ้าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกับฉันและลูกจริง คุณจะรู้สึกเสียใจบ้างไหม”
เซียวซู่ยืนชะงักงัน สองมือกำหมัดแน่น
“เมื่อก่อนฉันคิดว่าขอแค่ให้เวลากับคุณ คุณก็จะลืมเธอไปได้ และฉันจะได้เข้าไปแทนที่ตำแหน่งของเธอในใจคุณ แต่เรื่องในวันนั้นบอกกับฉัน ว่าคนบางคนตำแหน่งบางตำแหน่งไม่มีใครสามารถขึ้นไปแทนที่ได้ เป็นฉันเองที่ไร้เดียงสา มัวแต่ลุ่มหลงอยู่ในจินตนาการของตัวเอง ตอนนี้ฉันไม่อยากลุ่มหลงอยู่ในจินตนาการนั้นแล้ว ฉันอยากตื่นแล้ว ได้ไหมคะ” เจียงเสี่ยวไป๋เดินหลบเซียวซู่แล้วเตรียมจะออกไปข้างนอก ตอนที่เดินผ่านเซียวซู่ ก็ถูกเขาเข้ามาขวางทางไว้ แล้วดึงเธอเข้าไปกอดไว้แน่น
“ใครบอกว่าคุณต้องเข้าไปแทนที่ใคร”
เจียงเสี่ยวไป๋ชะงัก ก่อนจะมองไปที่เขาด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ในใจของผมไม่มีเธออยู่ตั้งนานแล้ว”
พอพูดจบ เซียวซู่ก็พุ่งเข้าจูบเธอทันที
“อื้อ”เจียงเสี่ยวไป๋ที่นึกว่าเขาจะอธิบายให้เธอฟัง แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะทำแบบนี้ขึ้นมากะทันหัน แล้วเขายังจูบเธอรุนแรงและใจร้อนมาก ทำให้ฟันของเขาขูดริมฝีปากของเธอ เธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาแทบร่วง
คนเลว
เจียงเสี่ยวไป๋ผลักเขาออกสุดแรง เธอไม่ต้องการจูบที่หยาบคายแบบนี้ มันเหมือนกับว่าเธอเป็นที่ระบาย
การต่อต้านของเจียงเสี่ยวไป๋ ทำให้เซียวซู่คิดว่าเธอไม่ยอมฟังในสิ่งที่เขาพูดเลย การกระทําของเขาจึงดุดันมากขึ้น เขาผลักเธอไปชิดชั้นหนังสือ ก่อนจะบีบคางของเธอไว้ แล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างดุดัน
“อื้ออื้อ”
ทั้งสองคนผลักกันไปมา จนชั้นหนังสือสั่นสะเทือน หนังสือที่อยู่ชั้นบนสุดร่วงลงมาจากชั้น เซียวซู่ยื่นแขนออกไปกันให้โดยสัญชาตญาณ
เพี๊ยะ
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ได้รับอิสระ เธอก็ตบหน้าเขาอย่างแรง
“คุณออกไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก”
เซียวซู่โดนตบหน้าอย่างแรง แต่เขาก็ไม่ขยับหนี แต่กลับพูดเสียงอ่อน “ผมต้องทำอย่างไร คุณถึงจะเชื่อผม”
“เชื่อว่าผมรักคุณจริงๆ”