บทที่ 1535 รอคุณกลับคืนมาอีกครั้ง
อย่าทิ้งเขาไปอีก!
ถ้าจากไปอีกครั้ง เขากลัวว่าตัวเองจะทนไม่ได้จริงๆ ครึ่งปีนี้เซียวซู่ใช้ชีวิตเหมือนเครื่องจักร ทุกๆ วันนอกจากทำงานก็แค่ดูแลลูก ถ้าไม่มีความหวังเหลืออยู่ ถ้าไม่ใช่สิ่งที่มู่จื่อพูดกับเขาก่อนหน้านี้
เขาอยากตามหาเสี่ยวไป๋จริงๆ แล้วพาเธอกลับมา แต่เขากังวลว่าทันทีที่ตนไปหาเขา เสี่ยวไป๋จะต่อต้านเขามากเหมือนเมื่อก่อน แล้วจากนั้นปัญหาระหว่างคนสองคนก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกเลย
ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่พยายามอดทนอย่างมาก
ก่อนหน้านี้คุณนายน้อยบอกว่าเธอจะกลับมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา เขาคิดว่าตัวเองรอไม่ได้ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะยังคงรออยู่ได้จนถึงตอนนี้
เธอกลับมาแล้ว!
ก็เหมือนอย่างที่คุณนายน้อยพูด การที่เธอการจากเขาไปสามารถคิดได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ดังนั้นตอนนี้เธอจึงกลับมา
ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว เซียวซู่ก็จะไม่ปล่อยให้เธอจากไปอีก
“ปล่อยฉัน” เจียงเสี่ยวไป๋ใช้กำลังดิ้นรนอย่างหนักผลักเซียวซู่ “คุณปล่อยฉัน เซียวซู่ไอ้คนเลว ฉันจะไม่สนใจคุณอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะมีผู้หญิงอื่น เธอเป็นใคร คนรักใหม่ของคุณใช่ไหม”
ตอนแรกเซียวซู่งุนงงนิดหน่อยก่อนที่สติจะคืนกลับมา เมื่อครู่ที่ตนช่วยประคองเพื่อนร่วมงานหญิงคาดว่าจะถูกเจียงเสี่ยวไป๋เห็นเข้า
เซียวซู่ตำหนิตัวเองในใจหนึ่งประโยค รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เรื่องความเป็นตายของคนอื่นเกี่ยวอะไรกับตนด้วย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เซียวซู่ก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่นะ เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานหญิงในบริษัท แล้วเท้าเจ็บ ดังนั้นผมจึงไปส่งเธอขึ้นรถเท่านั้นเอง”
“เท้าเจ็บงั้นเหรอ เท้าเจ็บอีกแล้ว ทำไมคุณถึงได้มีคนที่ต้องช่วยเยอะแยะนัก งั้นคุณก็ไปช่วยเธอสิ คุณอย่ามากอดฉัน ปล่อยฉัน”
เผชิญกับการดิ้นรนของเธอ เซียวซู่ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยเธอ กลับรัดเธอแน่นขึ้นแทน เหมือนเธอจะหลอมละลายเข้าไปในร่างกายของตัวเอง
ถนนเต็มไปด้วยผู้คน การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของคู่รักทำให้คนตกใจ บางคนอยู่เพื่อดูละคร บางคนส่ายหัวและจากไป
“ไม่ปล่อย ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ผมจะไม่ให้คุณจากผมไปอีก ผมเกินจะรับไหวแล้วนะเสี่ยวไป๋!”
เซียวซู่พูดจบแล้วก็บีบคางเธอ แล้วจูบโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
บนท้องถนนที่ผู้คนผ่านไปผ่านมา จูบอย่างนั้นไปอย่างมุทะลุ
ครึ่งปีแห่งความเจ็บปวดจากความรัก ทั้งหมดอยู่ในจูบนี้ เขาจูบดูดดื่ม จูบจนลืมตัวตน เปิดริมฝีปากและฟันของเธอ เจาะเข้าไปในหัวใจเธอ
ถึงครึ่งปีจะไม่นาน แต่จูบกลับยังคุ้นเคย เขายังคงสามารถค้นหาจุดอ่อนไหวของเธอได้อย่างง่ายดาย จากเริ่มแรกที่เจียงเสี่ยวไป๋ต่อต้านก็ค่อยๆ สิ้นฤทธิ์ในที่สุดจนกลายเป็นยึดติด
เดิมทีคนอื่นยังคิดว่าคู่รักกำลังทะเลาะกัน บางคนที่ฟังยังคิดว่ามันเป็นรักสามเส้า ใครจะรู้ว่าจู่ๆ ก็จูบกัน ดังนั้นสาวๆ หลายคนจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและถ่ายภาพพวกเขาไว้
ปรากฏว่าหลังจากที่ถ่ายไป พวกสาวๆ ที่มองเฟรมก็หน้าดำ
โลกนี้เป็นอะไรนะ เดินเล่นบนถนนอยู่ดีๆ ก็มีคนมาทารุณหมาโสด ร้ายกาจจริงๆ เลย!
จนเมื่อจูบจบลง เซียวซู่ก็ถูกเจียงเสี่ยวไป๋ตบ
เพี๊ยะ…
บางคนที่ถ่ายวิดีโอที่คิดว่านี่เป็นการทารุณหมาโสด คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะไม่เต็มใจ ต่างซุบซิบนินทากัน
“คุณแค่จะทำแบบนี้เหรอ” เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาอย่างเย็นชา ความเมาจากการดื่มก่อนหน้านี้ ถึงเวลานี้แอลกอฮอล์หายไปจนหมดสิ้นแล้ว
นี่เป็นช่วงเวลาที่มีสติที่สุดหลังจากเธอดื่มมา
ตอนแรกเธอมาหาเซียวซู่ เพราะอยากเห็นว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ในวันที่สูญเสียตัวเองไป ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างที่เคยหรือเปล่า มันก็ยังคงเรียกได้ว่าเจ็บปวดมาก
จากนั้นก็เห็นเขาประคองหญิงสาวคนหนึ่งออกจากบริษัท
เธอจากไปครึ่งปี เขาไม่ได้ตามหาเธอ กลับประคองผู้หญิงคนอื่นในบริษัท และไม่น่าเชื่อว่าเธอยังคงคิดถึงเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
มันช่างเป็นเรื่องตลกจริงๆ
ถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะดื่มเยอะมาก แต่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เคยมีช่วงเวลาที่มีสติมากเท่าตอนนี้
เธอลุกขึ้นยืน เหล่มองต่ำไปยังเซียวซู่
“จูบเมื่อครู่ ให้คุณเป็นครั้งสุดท้าย เซียวซู่ เราจบกัน”
เมื่อพูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็หันหลังเดินไป
เดินไปไม่กี่ก้าว เซียวซู่ก็รีบตามไป
“เพราะเมื่อครู่คุณเห็นภาพนั้นเหรอ ผมอธิบายได้นะ ผมกับเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งในบริษัท เป็นเพื่อนร่วมงาน ผมแค่ทำไปอย่างนั้นเองไม่ได้คิดอะไรเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋เช็ดน้ำตาตัวเอง เดินไปด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่ว่าเซียวซู่จะพูดอะไรก็ไม่ตอบเขา
เห็นเธอไม่ตอบคำถาม เซียวซู่ก็ได้แต่อธิบายต่อไป “ทุกอย่างที่ผมพูดเป็นความจริงนะ ตอนที่เข้าลิฟต์เธอเท้าพลิก ผมแค่ช่วยเธอ พอขึ้นรถแล้วผมก็ไม่ได้สนใจเธออีก เมื่อครู่คุณก็เห็นแล้วนี่”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงไม่สนใจเซียวซู่ เซียวซู่จึงเปลี่ยนเรื่องอย่างไม่มีทางเลือก “คุณกลับมาเมื่อไรเหรอ ทำไมคุณไม่บอกผมสักคำ ผมจะได้ไปรับคุณ”
ไปรับเธองั้นเหรอ
ได้ยินอย่างนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็หัวเราะเยาะในใจ ไม่ตอบคำเขา เพียงแต่ถามว่า “ลูกล่ะ”
เมื่อเธอเริ่มถามถึงลูกจุดนี้ทำให้เซียวซู่ดีใจมาก “ลูกอยู่ที่บ้าน คุณอยากไปดูเขาไหม”
“อืม” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าอย่างเย็นชา เหมือนว่าคนที่เมื่อครู่วิ่งหนีร้องไห้ไม่ใช่เธอเลย
จากนั้นเซียวซู่ก็พาเจียงเสี่ยวไป๋กลับบ้าน เหลียงหย่าเหอกำลังเลี้ยงเด็กอยู่ เมื่อได้ยินเสียงประตู ก็คิดว่าเซียวซู่เลิกงานกลับมาแล้ว ครึ่งปีที่ผ่านมาเธอมีความขุ่นเคืองสะสมฝังลึกกับลูกชายของตัวเอง เมื่อเขากลับบ้านมาเธอก็ไป ไม่อยากเห็นเขาแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าเซียวซู่กลับมาแล้ว เหลียงหย่าเหอจึงเริ่มเก็บของ เตรียมตัวกลับบ้าน
ปรากฏว่าเมื่อเดินไปที่ประตู กลับพบว่าคนที่เข้ามานึกไม่ถึงว่าจะเป็น…
“เสี่ยวไป๋เหรอ” เมื่อเหลียงหย่าเหอเห็นเสี่ยวไป๋ ยังคิดว่าสายตาตัวเองมีปัญหา ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงได้เห็นว่าเสี่ยวไป๋กลับมา
เสี่ยวไป๋คาดไม่ถึงว่าจะพบเข้ากับเหลียงหย่าเหอ ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะร้องเรียกว่า “คุณแม่”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกแม่ ดวงตาของเหลียงหย่าเหอก็เริ่มแดงขึ้นทันที นานมากที่ไม่รู้ว่าควรมีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับไป เพียงยืนอยู่กับที่ด้วยดวงตาแดงก่ำ
ก่อนหน้านี้เจียงเสี่ยวไป๋เพิ่งผ่านการร้องไห้มา ตอนนี้กำลังจะร้องไห้อีกแล้ว เธอรีบกลั้นน้ำตาเอาไว้ “คุณแม่ ฉันกลับมาดูลูกค่ะ ลูกล่ะคะ ตื่นอยู่ไหม”
เช่นนั้นเหลียงหย่าเหอถึงได้คืนสติกลับมา รีบเช็ดน้ำตาที่หางตาแล้วพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“เพิ่งหลับไป ตอนนี้อยู่ในห้องเล็กของตัวเองน่ะ ทำไมหนูถึง…”
“งั้นคุณแม่พาฉันไปดูหน่อย ได้ไหมคะ”
“ได้จ้ะ”
หลังจากนั้นเหลียงหย่าเหอกับเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปดูเด็กในห้องเล็กด้วยกัน
ครึ่งปีที่ไม่ได้เจอ ลูกไม่ใช่ทารกอย่างที่เจียงเสี่ยวไป๋เคยเห็นแล้ว ถึงแม้ว่าอวัยวะบนใบหน้าจะคงเดิม แต่ก็ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไป และกลายเป็นมีเนื้อที่แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปยังใบหน้าที่หลับใหลของลูก สายตาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น “เขามีชื่อหรือยังคะ”
เหลียงหย่าเหอส่ายหน้า “ยังหรอกจ้ะ เซียวซู่บอกว่าจะรอจนกว่าหนูกลับมาแล้วค่อยตั้ง”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็นิ่งไป รอเธอกลับมาค่อยตั้งงั้นเหรอ ก็คือว่าเขากำลังรอให้ตนกลับมางั้นเหรอ
แต่ในเมื่อถ้าเขารอเธอ แล้วทำไมไม่รอดีๆ ทำไมยังจะให้เธอได้เห็นภาพแบบนั้นอีก