บทที่1607 ไปหาพี่ชาย
ตอนที่ถางหยวนหยวนอาบน้ำแปรงฟันนั้นเองก็ได้ยินจางเสี่ยวลู่ที่อยู่ข้างนอกถามออกมาอย่างนั้น การกระทำในมือก็ชะงักไปเล็กน้อย เพราะว่าเธอพบว่าตัวเองเหมือนจะไม่รู้เลยว่าพี่ชายชอบอะไร
เพราะว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็เป็นพี่ชายที่คอยตามเธอทั้งนั้น ส่วนเธอก็ได้รับการพะเน้าพะนออยู่ตลอด เรื่องอื่นก็ไม่ได้ไปสนใจเลย
หลังจากที่มีความคิดนี้ผุดขึ้นมา ถางหยวนหยวนก็คิดขึ้นมาอีกว่าตัวเองนี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆเลย ต่อจากนี้ไปเธอจะให้ความสนใจกับความชอบของพี่ชายให้มากขึ้น
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกนะ”
เธอพูดเอื่อยๆออกไปคำนึง พูดออกไปตามตรง
“ไม่แน่ใจ? จะเป็นไปได้ยังไงกัน? พวกเธอโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรือไง? คงจะรู้มาบ้างสักหน่อยมั้ยล่ะ?”
“ไม่แน่ใจจริงๆ” ถางหยวนหยวนส่ายหน้าปฏิเสธออกไป “พี่ชายเหมือนกับว่าจะไม่มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ ไม่งั้นพวกเธอก็ลองเสิร์ชหากันดูสิ?”
“เอาเถอะ”
ตอนที่ถางหยวนหยวนอาบน้ำแปรงฟันเสร็จแล้วออกมา ไฟในห้องก็ได้ปิดลงไปหมดแล้ว เธอยิ่งไม่กล้าพูดออกไป ทำได้เพียงเบาฝีเท้าลง จากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงไปอย่างระมัดระวัง
วันต่อมารอจนถึงตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เมิ่งเข่อเฟยก็ได้ออกไปห้องสมุดอีกแล้ว ตอนเย็นตอนที่เธอกลับมาเมิ่งเข่อเฟยก็มักจะเข้านอนไปแล้วเสียทุกครั้ง
ถางหยวนหยวนอยากจะไปคุยกับเธอเอามากๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย
ส่วนจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันก็ได้เตรียมของขวัญกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เอาให้ถางหยวนหยวนไป
“หยวนหยวน นี่เป็นของขวัญที่ฉันกับเย่าหันตั้งใจเตรียมเอาไว้ให้พี่ชายของเธอ รบกวนให้เธอช่วยเอาให้พี่ชายของเธอแทนพวกเราด้วยนะ”
ของขวัญที่ทั้งสองคนเตรียมกันด้านนอกชิ้นนึงเป็นสีชมพูชิ้นนึงเป็นสีฟ้าอ่อน แล้วยังวาดหัวใจดวงใหญ่เอาไว้ดวงนึง แค่มองก็รู้ว่าเป็นของแทนใจ
“หยวนหยวน เธอคิดอะไรอยู่ล่ะ? รีบรับไปสิ”
จางเสี่ยวลู่เอากล่องของขวัญทั้งสองกล่องยัดเข้าไปในอ้อมแขนของถางหยวนหยวน “วันนี้จะต้องถึงมือของพี่ชายเธอนะ ขอร้องล่ะ”
“วันนี้?”
“ใช่สิ”
“งั้น งั้นก็ได้ ฉันจะลองดูแล้วกัน”
ถางหยวนหยวนหลังจากเลิกเรียนแล้ว ก็ได้หิ้วของขวัญขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนของยู่ฉือยี่ซู
โรงเรียนของพี่ชายความจริงแล้วไม่นับว่าห่างจากโรงเรียนของเธอเท่าไหร่นัก นั่งรถเมล์ไปก็สามารถไปถึงได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้อากาศมันร้อนมาก ถางหยวนหยวนก็ตากแดดจนหน้าแดงไปหมด ตอนที่มาถึงหน้าโรงเรียนตำรวจแล้วนั้น หน้าประตูไม่มีใครเลยสักคนเดียว
คงเป็นเพราะห่างจากประตูใหญ่ค่อนข้างไกล เธอจึงคิดจะเดินตากลมไป แต่ก็อยากจะรอจนพี่ชายออกมาด้วย ก็เลยทำได้แค่เพียงต้องยืนอยู่ที่หน้าประตู มองทอดออกไปด้านใน
คงเป็นเพราะมองออกไปอยู่ประมาณ5-6นาทีได้ คุณลุงคนหนึ่งออกมาจากด้านในป้อมยาม กวักมือมาทางถางหยวนหยวน
“นังหนู ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวัน เธอมาทำอะไรที่นี่กันล่ะ?”
พักกลางวัน?
ถางหยวนหยวนมีอาการเขินอายออกมาเล็กน้อย “ขอโทษค่ะคุณลุง ฉันไม่รู้ ฉันมาหาพี่ชายของฉันน่ะค่ะ”
“พี่ชายของเธอ?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นฝ่ายถามเธอออกมาเอง “พี่ชายของเธอคือใคร ชื่ออะไร บางทีลุงอาจจะช่วยเธอลองถามดูได้”
“คุณลุง พี่ชายฉันชื่อยู่ฉือยี่ซู แต่ตอนนี้ถ้าเป็นช่วงพักกลางวันแล้วล่ะก็ งั้นฉันรอค่อยมาครั้งหน้าดีกว่า”
พูดจบ ถางหยวนหยวนผันร่างคิดจะเดินออกไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นสาวน้อยตากแดดจนหน้าแดงไปหมด ตอนที่ผันร่างออกไปเสื้อผ้าก็เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เห็นแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมา จึงรีบเรียกเธอเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนนังหนู ไหนๆก็มาแล้ว ก็รออีกหน่อยสิ ตอนนี้ลุงโทรถามให้เธอดูสักหน่อย หรือไม่ก็ให้ลุงพาเธอเข้าไปเถอะ”
ความจริงแล้วที่ผ่านมาก็มีคนมาหายู่ฉือยี่ซูอยู่ไม่น้อยเลย ทั้งยังหิ้วของขวัญมาอย่างนี้ด้วย ลุงยามก็ชินไปแล้ว ผู้หญิงจากโรงเรียนข้างๆหลายคนอยากจะตามจีบยู่ฉือยี่ซูกัน ทุกคนต่างก็อ้างตัวว่าเป็นน้องสาวไม่ก็เพื่อนร่วมชั้นกัน ถึงขนาดที่แฟนก็ยังมี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่ให้พวกเธอได้เข้าไปเลย
แต่วันนี้สายตาของถางหยวนหยวนนั้นดูจริงใจอย่างมาก ได้ยินว่าคนเขากำลังอยู่ในช่วงพักกลางวันก็ยังหันหลังเตรียมที่จะกลับไป ทั้งๆที่อากาศร้อนแทบไม่ไหวขนาดนี้ เด็กคนนี้ก็รู้ความเสียจนเห็นแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมา
“คะ ได้เหรอคะ? ขอบคุณคุณลุงนะคะ แต่ถ้ามันจะรบกวนกันเกินไปล่ะก็ ไม่ต้องก็ได้นะคะ” หลังจากที่ถางหยวนหยวนเดินตามเขาเข้ามาในป้อมยามแล้ว ก็เอ่ยออกไปอย่างอายๆ
“นังหนู ที่นี่มีแอร์ เธอนั่งพักที่นี่สักครู่ ลุงจะไปลองถามให้เธอดู”
“ค่ะๆ ขอบคุณค่ะคุณลุง”
ถางหยวนหยวนอยากจะเอากล่องวางลงไป ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเตรียมของขวัญอะไรให้พี่ชาย ถือเอาไว้ก็ยังคิดว่ามันหนักมาก โชคดีที่ช่วงนี้เธอออกกำลังอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้นแล้วตลอดทางมานี้คงจะทนไม่ไหวไปนานแล้ว
เธออยากเอาของวางลงไป แต่พอมาคิดๆดูแล้ว บนโต๊ะไม่มีที่ที่สามารถวางลงไปได้เลย เอาของขวัญของคนอื่นเขามาวางบนพื้นมันก็เหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย ดังนั้นแล้วถางหยวนหยวนทำได้เพียงแค่ต้องถือมันต่อไป
หอพักชายตอนนี้
จงฉู่เฟิงกำลังนอนขลุกเล่นเกมส์อยู่บนโซฟา เบื่อไม่ไหวอยู่แล้ว เล่นไปสักพักก็ได้หยุดไป หยุดไปได้สักพักก็กลับมาเล่นอีก สุดท้ายก็ดึงหูฟังออกแล้วเอ่ยออกไปด้วยความกลัดกลุ้ม “นายว่าหยวนหยวนลดอย่างนี้ต่อไป ร่างกายของเธอจะมีปัญหาขึ้นมาหรือเปล่า?”
ยู่ฉือยี่ซูนอนอยู่บนเตียง หลับตานอนพักกลางวัน ไม่ได้สนใจคำพูดของจงฉู่เฟิงเลย
“พี่ซู ฉันพูดกับนายอยู่นะ นายอย่ามาทำเป็นแกล้งตายอย่างนี้สิ ฉันรู้ว่านายไม่ได้หลับ”
หมอนี่ตอนนอนกลางวันไม่เคยจะนอนหลับเลย หลับตาไปก็แค่ให้ดวงตากับร่างกายจิตใจได้พักเท่านั้นเอง ส่วนอีกสองคนก็นอนจนเหมือนกับหมูก็ไม่ปาน เสียงกรนดังลั่น
จงฉู่เฟิงจากเดิมก็กลัดกลุ้มใจอยู่ก็ถูกเสียงกรนดังรบกวนจนยิ่งเกิดความขุ่นมัวขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม
“พี่ซู นายพูดสิ ไม่เจอหยวนหยวนมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว นายไม่คิดถึงเธอเลยสักนิดเหรอ?”
คำพูดเพิ่งจะหลุดออกไป ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา
“ใคร?”
ประตูผลักออกมา ลุงยามยืนอยู่ข้างนอก “กำลังนอนกลางวันกันอยู่เหรอ? ฉู่เฟิง ข้างล่างมีสาวน้อยคนนึงมา บอกว่าเป็นน้องสาวของยู่ฉือยี่ซู ถือของขวัญกล่องใหญ่มาสองกล่องกำลังนั่งอยู่ในป้อมยามน่ะ”
“ไม่ใช่หรอกมั้ง?” จงฉู่เฟิงแสดงสีหน้ากลัดกลุ้มออกมา “เดือนนี้มันก็เดือนไหนไปแล้ว ยังจะมีมาอีก? ผู้หญิงพวกนี้ทำไมถึงไม่ยอมแพ้กันเลยนะ? เพื่อเจอกับยี่ซูไม่ว่าจะวิธีไหนก็คิดออกมาได้หมดเลยจริงๆ”
น้ำเสียงที่ฟังดูรำคาญของจงฉู่เฟิงได้ทำเอาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคิดว่าเห็นท่าไม่ดีขึ้นมาแล้ว เอ่ยออกมาพลางหัวเราะเหอะๆ “เด็กสาวมั้ยล่ะ ชอบผู้ชายหล่อมันก็เป็นเรื่องปกติ อากาศร้อนอย่างนี้ เธอเองก็ไม่ง่ายเลยเหมือนกัน ลงไปเจอกันสักหน่อยมั้ย?”
“คุณลุงครับ คุณลุงให้เธอมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเถอะ ยู่ฉือยี่ซูไม่มีทางลงไปหรอก”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีก ทำได้แค่เพียงทอดถอนหายใจเอ่ยออกไป “ลุงเห็นว่าเธอเป็นเด็กสาวคนนึงเสื้อผ้าก็เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ผมก็เปียกแนบกับหน้าผาก เมื่อกี้ตอนที่ฉันบอกว่าพวกเธอกำลังพักกลางวันกันอยู่ เธอก็หันหลังจะเดินกลับ เห็นแล้วก็น่าสงสารมากเลย”
“สงสารแล้วยังไง ถ้ามาคนนึงแล้วสงสารคนนึง อย่างนั้นแล้วพี่ซูไม่ต้องเหนื่อยตายหรือไง?”
“งั้นก็เอาเถอะ ฉันให้เธอพักแล้วค่อยกลับไป”
ตอนที่หันหลังกลับไป ยามคนนั้นก็ได้พึมพำกับตัวเองออกมาว่า “แต่เด็กคนนี้ก็มีความกล้ามากเลย นึกไม่ถึงว่าเด็กสาวจ้ำม่ำอย่างนั้นจะไปรู้จักเรียนรู้การจีบผู้ชายเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นเขาเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเด็กอ้วนอย่างนี้แล้วยังน่ารักอยู่น่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น จงฉู่เฟิงก็จับอะไรขึ้นมาได้ รีบลุกขึ้นมาทันที
“คุณลุง เมื่อกี้คุณลุงว่าไงนะครับ?”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ยู่ฉือยี่ซูที่กำลังนอนหลับตานิ่งไม่ขยับอยู่บนเตียงมาโดยตลอดก็ลืมตาออกมา ลุกขึ้นนั่ง
ทั้งสองคนสบตากัน จงฉู่เฟิงลุกขึ้นวิ่งออกไปข้างนอกทันที ยู่ฉือยี่ซูถึงแม้ว่าจะค่อนข้างจะใจเย็น แต่ความเร็วเองก็ไม่ได้ช้าเลย
“เฮ้ พวกเธอจะไปไหนกัน?”