เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1612 แจ้งความ

บทที่1612 แจ้งความ

แอร์ในสถานีรถไฟฟ้า เมื่อกี้ตัวยังมีเหงื่อท่วมจนตัวเปียก ดังนั้นตอนนี้จึงรู้สึกได้ถึงลมหนาวจากแอร์

แต่ในฤดูกาลที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ ถางหยวนหยวนรู้สึกสบายมาก พี่ชายยื่นเสื้อคลุมให้เธอ เธอคิดว่ายู่ฉือยี่ซูกลัวว่าเธอจะหนาว ดังนั้นจึงส่ายหน้า

“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่หนาว”

ยู่ฉือยี่ซูมองดูเธอ หยุดเดินและพูดว่า “ใครว่าเธอหนาวกัน?”

“พี่คะ?”

ถางหยวนหยวนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ไม่ได้กลัวว่าเธอจะหนาว แล้วทำไมถึงยื่นเสื้อให้เธอล่ะ?

เธอไม่เข้าใจเลย

“อย่าถาม เธอใส่ไปเถอะ”

ยู่ฉือยี่ซูเห็นว่าเธอไม่ยอมรับไป จึงก้าวเข้าไปใกล้และคลุมให้เธอ เสื้อเขาเป็นสีเข้ม บวกกับที่เขาตัวใหญ่และสูง ดังนั้นพอเสื้อสวมไว้บนตัวถางหยวนหยวน ก็ปิดไปถึงก้นเธอพอดี

ถางหยวนหยวนอึ้ง เสื้อยังคงมีกลิ่นเหงื่อของยู่ฉือยี่ซู ดมแล้วไม่รู้สึกรังเกียจเลย เธอหน้าแดงระเรื่อ ก้มหน้าลงก็เห็นอะไรเข้า

ตลอดทางที่เดินมาเธอเกาะอยู่บนหลังของยู่ฉือยี่ซู เสื้อข้างหน้าก็เปียกหมด จนทำให้เห็นด้านในรางๆ เธอสวมเสื้อกั๊กบางเกือบจะเห็นด้านในแล้ว

“อะ!”

ถางหยวนหยวนอดไม่ไหว ร้องออกมาอย่างตกใจ ต่อมาก็ปิดใบหน้าตัวเองไว้

ขายหน้าจริงๆเลย ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง เมื่อกี้ต้องน่าเกลียดมากแน่เลย ไม่งั้นพี่ชายคงไม่เอาเสื้อมาคลุมให้ตัวเองหรอก และเธอยังซื่อบื้อคิดว่าพี่ชายกลัวว่าตัวเองหนาวเลยเอาเสื้อให้

“พอแล้ว ไปกันเถอะ”

ยู่ฉือยี่ซูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดึงเธอเดินไปข้างหน้าต่อ ในตอนนี้เองคนในสถานีรถไฟเยอะมาก ขึ้นไปแล้วก็ไม่มีที่ให้นั่ง ยู่ฉือยี่ซูจึงดึงสาวน้อยไปตรงหน้าตัวเอง

“ถ้าง่วงละก็กอดฉันนอนได้นะ”

“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร ฉันไม่ง่วง” ถางหยวนหยวนส่ายหน้า ยืนกอดเขานอนดูแปลกไป และเธอเมื่อกี้แอบงีบไปแล้วสักพัก ตอนนี้กลับสดชื่นขึ้นมากกว่าเดิม

พวกเขาต้องนั่งไปจนถึงสุดขบวน ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่ต้องดูว่าถึงไหนแล้ว ตอนแรกถางหยวนหยวนยังตื่นอยู่ ยืนนานเข้าก็เริ่มง่วง ร่างเล็กของเธอเริ่มเอียงไปทางยู่ฉือยี่ซู

ยู่ฉือยี่ซูยื่นมือไปโอบหลังเธอไว้ “นอนเถอะ ฉันไม่ทำให้เธอล้มหรอก”

ถางหยวนหยวนพยักหน้าเบลอๆ พิงเขาและหลับลงไป สุดท้ายตอนที่เอียงหัวก็รู้สึกแปลกใจ

พี่สาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใกล้มาก กำลังถูกลุงคนหนึ่งรังแกอยู่

เพราะมีคนอยู่มาก ลุงคนนั้นตั้งใจขยับตัวเข้าไปใกล้พี่สาวคนสวย ตอนแรกพี่สาวคนสวยยังขมวดคิ้วและขยับออก แต่คนรอบๆมีคนอยู่เยอะ ไม่มีที่ให้เดินด้วยซ้ำ

ลุงคนนั้นเห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาอะไร สักพักก็ขยับเข้าไปใกล้อีก

ในที่สุดพี่สาวคนสวยก็อดไม่ได้หันกลับไปมองเขา ตาลุงนั่นสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ เหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น

รอพี่สาวคนสวยหันกลับไปแล้ว ลุงคนนั้นก็ขยับเข้าไปอีก

ถางหยวนหยวนแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แต่ท่าทีของลุงคนนั้นทำให้พี่สาวคนสวยไม่สบายตัว พี่สาวคนนั้นมองค้อนเขา แต่อีกฝ่ายก็ยังคงทำต่อไปอยู่อย่างนั้น

เธอกะพริบตา ดึงแขนเสื้อของยู่ฉือยี่ซู

“ทำไมเหรอ?”

ยู่ฉือยี่ซูก้มหน้าลงถามสาวน้อยในอ้อมกอดตัวเอง

ถางหยวนหยวนเงยหน้า จ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโต “พี่คะ พี่ดูตรงนั้นสิ”

สาวน้อยชี้ไปที่ด้านหลังของเขา ยู่ฉือยี่ซูมองตามที่เธอชี้ไป เห็นลุงคนนั้นจับเอวของหญิงสาว หญิงสาวคนนั้นโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร

“ลุงคนนั้น เหมือนจะทำให้พี่สาวไม่สบายใจเลยนะคะ”

นั่นก็หมายความว่า เมื่อกี้ถางหยวนหยวนเห็นทุกอย่างแล้ว

ยู่ฉือยี่ซูหน้าดำไปทันที รอบตัวเขาแผ่ซ่านไปด้วยความเย็นชา เขาเม้มปากบาง บิดหน้าสาวน้อยมองไปทางอื่น “อย่าดูแล้ว เธอยืนอยู่ตรงนี้ก่อนนะ”

“ค่ะ”

ถางหยวนหยวนพยักหน้า มองเสาข้างๆ และพิงหัวลงไป สองมือกอดเสาไว้

ยู่ฉือยี่ซูแน่ใจแล้วว่าเธอยืนดีแล้ว ถึงได้หันไปช้าๆ สายตาคมกริบของเขามองไปที่ตาลุงคนนั้น

คนรอบข้างต่างก็ไม่เอะใจอะไรเลย คนที่ไม่เห็นก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ทำท่าไม่รู้เรื่อง

เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในรถไฟฟ้า ตอนนี้ผู้คนต่างก็เย็นชา บวกกับคนที่ถูกรังแกก็ยังไม่มีทีท่าอะไร ดังนั้นคนอื่นก็ยิ่งไม่สนใจเข้าไปใหญ่

ลุงคนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกจับตามองแล้ว มือยังคงไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ

โครม!

ต่อมา เขาก็ถูกเตะกระเด็นไปไกล

“โอ๊ย!”

เขากระเด็นออกไป ผู้คนก็ต่างร้องตกใจกัน และเบียดไปข้างๆอย่างไม่รู้ตัว ตอนแรกตรงกลางนี้ยังมีผู้คนเบียดกันจนไม่มีที่ว่าง เบียดกันจนมีที่ว่างเหลือออกมา

“เรื่องอะไรกัน?”

“ทำไมถึงตีคนล่ะ?”

ตอนแรกผู้หญิงที่ผู้รังแกก็ตกใจจนหลบไปข้างๆ หันกลับไปเห็นยู่ฉือยี่ซูลดขาลง สีหน้าเย็นชา

ถางหยวนหยวนกอดเสาไว้ หัวใจเต้นรัวแรง แต่ไม่ใช่เพราะตกใจ เป็นเพราะพี่ชายหล่อมากจริงๆ

เธอไม่คิดเลยว่าพี่ชายจะลงมือทันที แต่ก็นะ พี่ชายเรียนโรงเรียนตำรวจ เขาก็เป็นคนยุติธรรมอยู่แล้ว แต่เห็นเขาลงมือแบบนี้ เธอก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างล่ะ

ลุงคนนั้นพอถูกเตะกระเด็นออกไป นานมากกว่าจะตั้งสติได้ เขายืนขึ้นชี้หน้าด่ายู่ฉือยี่ซู: “นายทำอะไรน่ะ? กล้าตีคนแก่ในรถงั้นเหรอ? ฉันจะแจ้งความ?”

“คนแก่?” ยู่ฉือยี่ซูหัวเราะ

ผู้คนรอบข้างต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ

“ใช่ ตอนนี้ฉันจะแจ้งความ”

ลุงคนนั้นลุกขึ้น ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะแจ้งความ พริบตาเดียว ยู่ฉือยี่ซูที่ตอนแรกยังยืนอยู่ที่เดิมไม่รู้ว่าวิ่งไปหลังเขาเมื่อไหร่ จับข้อมือเขาไว้ และกดลงพื้นไปอย่างแรง

โครม!

โทรศัพท์ลุงคนนั้นตกลงพื้น ถางหยวนหยวนคิดแล้วก็รีบเก็บโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา ด่าว่า: “นายเป็นคนร้าย เมื่อกี้ฉันเห็นนายจับเอวพี่สาวคนนั้นอยู่ตลอด ถึงจะแจ้งความ นั่นก็ต้องจับนายสิ”

ผู้คนที่ตอนแรกยังสงสัยว่าทำไมยู่ฉือยี่ซูถึงทำร้ายคน พอได้ยินถางหยวนหยวนอธิบายแบบนี้แล้วก็เข้าใจทันที

“หน้าไม่อาย กล้าทำแบบนี้ในรถไฟฟ้าได้ยังไงกัน หน้าไม่อายจริงๆเลย!”

“ลุงมีลูกสาวไหม? ถ้าลูกสาวลุงรู้ว่าทำแบบนี้ในรถไฟฟ้าเธอจังคิดยังไงกัน?”

“ยังดีที่พ่อหนุ่มคนนี้ใจกล้า พี่ชายเก่งมากเลย”

ยู่ฉือยี่ซูสายตาคมกริบ กวาดสายตามองทุกคน และพูดอย่างเย็นชาว่า: “วิดีโอที่ถ่ายเมื่อกี้ลบด้วย”

ทุกคนยังอยากชมเขาอยู่ ไม่คิดว่าเขาจะสั่งให้ทุกคนลบแบบนี้

ยู่ฉือยี่ซูเป็นคนเข้มงวด ฝีมือดี และยังมีสายตานั้นอีก ดุดันมาก ทุกคนต่างก้มหน้าลบวิดีโอกันใหญ่

“แจ้งความ” ยู่ฉือยี่ซูมองถางหยวนหยวนและพูดเสียงเบา

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset