บทที่1623 เธอชอบแก
อะไรก็ทันอย่างงั้นเหรอ?
จงฉู่เฟิงรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด รู้สึกว่ามีกำลังใจอีกครั้งแล้ว
น่าจะเพราะว่าดื่มมา สมองก็เลยสับสนวุ่นวายไปหมด จู่ๆ จงฉู่เฟิงก็ถามออกมา
“พี่ซู แกก็อยู่กับหยวนหยวนมาตั้งนาน ไม่ชอบเธอเลยแม้แต่นิดเดียวเหรอ? ”
ยู่ฉือยี่ซู:“……”
เขาหันหน้ามาจ้องจงฉู่เฟิง “อย่าคิดว่าพอเมาแล้วพูดเรื่องไร้สาระ แล้วฉันจะไม่ตีแกนะ”
“ถ้าฉันเมาแล้วพูดเรื่องไร้สาระแล้วมันจะทำไมกัน? หยวนหยวนน่ารักขนาดนั้น ฉันไม่เชื่อว่าอยู่ด้วยกันในแต่ละวัน แล้วจะไม่รู้สึกอะไรเลยหรอก”
รู้สึกงั้นเหรอ? ยู่ฉือยี่ซูคิด เหมือนว่าก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะ เขาเห็นหยวนหยวนเป็นน้องสาวมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะโอ๋เธอมากกว่าเสี่ยวโต้วหยาหน่อยก็ตาม
แต่ว่ามันก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของหยวนหยวนมากกว่า ยังไงเธอก็ไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่ว่าเสี่ยวโต้วหยาเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา ดังนั้น……ก็เลยละเลยเธอนิดหน่อย
พอคิดได้แบบนี้ ยู่ฉือยี่ซูก็รู้สึกว่าอาทิตย์นี้ควรจะกลับไปหาเสี่ยวโต้วหยาซะหน่อย
สิ่งที่สำคัญก็คือตอนนี้เสี่ยวโต้วหยานั้น ช่วงนี้เหมือนกับว่าจะใกล้ชิดกับผู้ชายคนหนึ่งที่โรงเรียน บอกว่าบ้านของผู้ชายคนนั้นจนมาก แถมยังแอบทำอาหารที่บ้าน แล้วก็เอาไปให้เขาอีกด้วย
ช่วงนี้เขาเรียกเธอ ก็จะโดนปฏิเสธตลอด บอกว่าตัวเองมีเรื่องสำคัญ
ที่จริงก็คือไปหาผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ?
ยู่ฉือยี่ซูส่ายหน้าอย่างไม่มีทางเลี่ยง ยัยเด็กนั่นพึ่งจะโตนิดหน่อย ก็รู้จักวิ่งไปหาผู้ชายแล้ว รอให้ตัวเองโตกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?
“ทำไมถึงไม่พูดอะไรล่ะ? คิดอะไรอยู่? ” จงฉู่เฟิงจ้องไปที่ยู่ฉือยี่ซูอย่างแผ่วเบา “หรือว่าพอฉันเตือนแล้ว แกก็เริ่มรู้สึกว่าแกก็ชอบหยวนหยวนเหมือนกัน? ”
พลั่ก!
พอพูดจบ หมัดของยู่ฉือยี่ซูก็ซัดเข้าที่ใบหน้าของเขา
จงฉู่เฟิงไม่ได้หลบ ไม่รู้ว่าเพราะหลบไม่ได้ หรือว่าไม่ได้คิดอยากจะหลบเลย รับหมัดนี้ไปเต็มๆ หลังจากนั้นเขาก็ล้มไปที่โต๊ะ แล้วหัวไปฟาดเข้ากับขาโต๊ะ
ความเจ็บปวดทำให้เขาสร่างขึ้นเยอะเลย
เขายังไม่ทันจะได้นั่งอย่างคงที่ ยู่ฉือยี่ซูก็เข้ามาคว้าคอเสื้อของเขา แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า “ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดแล้วว่า ห้ามเอาเรื่องของฉันกับเธอมาล้อเล่น จงฉู่เฟิง แกจะความจำสั้นก็ไม่เป็นไร หรือจะพูดเกี่ยวกับฉันก็ไม่เป็นไร แต่ว่าแกจะดึงเธอเข้ามาทำไม? เพราะว่าเธอปฏิเสธแก แกก็เริ่มใส่ความเธอแล้วงั้นเหรอ? ”
จงฉู่เฟิงโดนหมัดเข้าไป ก็สร่างขึ้นเยอะแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะเช่นกัน เขาคลี่ยิ้มออกมา หลังจากนั้นก็พูดว่า “การที่ฉันถามว่าแกชอบเธอรึเปล่าเป็นการใส่ความเธอยังงั้นเหรอ? มันไม่ใช่เพราะว่าฉันคิดว่ามันดีเกินไป ถึงได้รู้สึกว่าแกมีความรู้สึกให้กับเธอไม่ใช่เหรอ?! ”
“ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร! ”ยู่ฉือยี่ซูคำราม “ฉันโตมากับเธอ จะไปมีความคิดอะไรเกี่ยวกับเธอได้ หรือว่าถ้าเกิดว่ามีจริงๆ ถ้ายังงั้นฉัน……จะถือว่าเป็นคนอยู่ไหม? ”
จงฉู่เฟิงหัวเราะเยาะ “ดังนั้น แกก็เลยผูกมัดความรู้สึกนี้ไว้ยังงั้นเหรอ? ถ้าเกิดว่าไม่ได้โตมาด้วยกัน แกก็จะชอบเธอใช่ไหม? ”
ยู่ฉือยี่ซูไม่ได้ตอบอะไร แต่ว่าสายตาของเขาค่อยๆ มืดมนลงเรื่อยๆ
“วันนี้พอดื่มเหล้าเข้าไป ก็เริ่มพูดจาไร้สาระแล้วใช่ไหม? ก่อนหน้านี้แกเคยขอฉัน ให้ฉันตกลงให้แกเฝ้าอยู่ดูแลข้างๆ เธอ แต่ว่าตอนนี้พอโดนปฏิเสธประโยคเดียวก็ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพนี้ไปได้”
จงฉู่เฟิงคลี่ยิ้มพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
“ประโยคเดียวงั้นเหรอ? ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ พี่ซู วันนี้ฉันถึงกับมีความคิดที่น่ากลัวด้วยนะ”
พอได้ยินดังนั้น ยู่ฉือยี่ซูก็ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ความคิดที่น่ากลัวที่ว่านั้นคืออะไร? เขาคงไม่ได้คิดอยากจะฆ่าตัวตายหรอกนะ?
“ฉันรู้สึกว่าหยวนหยวนชอบแก”
หลังจากพูดจบ จงฉู่เฟิงก็หัวเราะออกมาเสียงดังสุดชีวิต ถึงแม้ว่ากำลังหัวเราะอยู่ แต่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว หัวใจของเขามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ยู่ฉือยี่ซูรู้สึกว่ามีปัญหากับการได้ยินของตัวเอง เขามองจงฉู่เฟิงอย่างอึ้งๆ คว้าคอเสื้อเขาอยู่นานและต้องการจะระบายโทสะ
“พี่ซู อย่าพึ่งรีบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปเลย ฟังฉันพูดให้จบก่อน ลองวิเคราะห์ดูเองสิว่าหยวนหยวนชอบแกรึเปล่า? ตั้งแต่เด็กเธอก็ติดแกมาโดยตลอด ถึงแม้ว่ากลุ่มของพวกเขาจะเล่นกันอย่างสนุกสนานมาโดยตลอด แต่ว่าแกรู้สึกไหมว่าเธอปฏิบัติกับแกกับพวกเราไม่เหมือนกัน? ”
“แกลองถามหัวใจตัวเองดูว่า เธอปฏิบัติกับแกเป็นพิเศษรึเปล่า หลังจากที่เธอปฏิเสธฉันแล้ว ก็ถามเกี่ยวกับแก มันก็เป็นแค่คำถาม แน่นอนว่าไม่ได้มีอะไรหรอก แต่ว่าแกรู้ไหมว่าสายตาของเธอพยายามหลบเลี่ยงขนาดนี้? ถ้าดูตามจากที่ฉันรู้จักเธอแล้ว เธอกำลังรู้สึกผิด แล้วทำไมเธอถึงได้รู้สึกผิดล่ะ? ”
นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ทำให้จงฉู่เฟิงรู้สึกอารมณ์ไม่ดี
เขาไม่ได้กลัวว่าเธอจะไม่ชอบเขา ยิ่งไม่ได้กลัวว่าในใจของเธอไม่ได้มีเขา เพราะว่าถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ก็ยังถือว่าเขายังมีโอกาส แต่ว่าถ้าเกิดว่าในใจของเธอมีคนอื่นแล้ว ตอนนั้นต่อให้เขาอยากจะหาโอกาสมันก็ยากแล้ว
แล้วยิ่งถ้าคนคนนั้นคือยู่ฉือยี่ซู
“พี่ซู แกลองคิดสิว่า ฉันจะเอาอะไรไปเทียบกับแก ไปสู้กับแก? ” จงฉู่เฟิงล้มลงบนพื้นเหมือนกับโคลน “เป็นไปไม่ได้หรอก สู้ไม่ได้ เดาว่าคงจะไม่มีโอกาสไปตลอดชีวิต”
ยู่ฉือยี่ซู:“……”
เดิมทีตอนแรกเขายังคิดอยากจะบันดาลโทสะอยู่ แต่ว่าในเวลานี้มือของเขากลับสั่นอย่างอดไม่ได้
“ผู้สังเกตการณ์จะมองเห็นเกมได้ชัดกว่า ถ้าเกิดว่าแกไม่เชื่อล่ะก็ แกก็ลองไปถามเพื่อนร่วมห้องของเธอสิ ผู้หญิงที่ชื่อว่าเมิ่งเข่อเฟยอะไรนั่นน่ะ”
ยู่ฉือยี่ซูไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด “วันนี้แกเมาแล้ว พูดจาไร้สาระ คำพูดในวันนี้ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินอะไรแล้วกัน แกไม่ได้พูดอะไร พอตื่นขึ้นมาแล้วฉันจะลืมไปทั้งหมด”
“ลืมงั้นเหรอ?”
จงฉู่เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น “แกคิดว่าฉันจะลืมได้งั้นเหรอ? พี่ซู แกหลอกตัวเองได้เหรอ? ถ้าเกิดว่าเด็กนั่นชอบแกจริงๆ การที่แกจะแกล้งทำเป็นไม่รู้หรือว่าเป็นการทำร้ายเธอนะ! ”
นี่ก็เป็นสิ่งที่ยู่ฉือยี่ซูกำลังกังวลอยู่ เขาเม้มปากแน่น “เพราะว่าโตมาด้วยกัน มันก็เป็นแค่การพี่งพาอาศัยเท่านั้น เธอเองก็ยังไม่ทันจะโตเป็นผู้ใหญ่ ความคิดก็ยังไม่โต อย่าเอาความคิดของแกเองไปยัดเยียดใส่ตัวเธอ เรื่องทั้งหมด รอให้เธอโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
หลังจากพูดจบ ยู่ฉือยี่ซูก็ไม่สนใจจงฉู่เฟิงอีก เขาลุกขึ้นยืน
คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็หยิบแก้วน้ำเย็นที่อยู่บนโต๊ะเทใส่หน้าของจงฉู่เฟิง
น้ำเย็นแก้วนั้นราดเต็มหน้าของจงฉู่เฟิง ทำให้เขาสร่างขึ้นมาก แต่ว่าเขายังคงนอนปวกเปียกอยู่ที่พื้นเหมือนกับโคลน ไม่อยากจะลุกขึ้นมา
เขาหลับตาลง ในหัวก็มีแต่ภาพของถางหยวนหยวน
คำพูดและการกระทำของเธอ ความฉลาดและมีเสน่ห์ของเธอ ในอนาคตมันจะไม่ได้เป็นของเขา
ไม่มีใครรู้ว่า หมัดของยู่ฉือยี่ซูนั้นกำแน่นมาก คิ้วก็ขมวดแน่นมากเหมือนกัน เขาไม่เคยมีความคิดอื่นกับถางหยวนหยวนเลยจริงๆ
และก็ไม่ได้รู้สึกว่าหยวนหยวนคิดกับเขาแบบอื่นเหมือนกัน
แต่ ถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบที่จงฉู่เฟิงพูดจริงๆ แล้วเขาควรจะตอบสนองยังไง?
เมิ่งเข่อเฟย ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้จำผิดล่ะก็ เธอคือเพื่อนรักของเธอ ถ้าเกิดว่าไปถามเธอนั้นต้องเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน แต่ว่าทำไมจงฉู่เฟิงต้องดึงเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ?
ยู่ฉือยี่ซูจิตใจสับสน นั่งอยู่สักพักแล้วก็ลุกขึ้นและออกไปจากหอพัก
ปัง!
หลังจากประตูห้องปิดลง ในหอพักก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
เพื่อนร่วมห้องอีกสองคนที่นอนอยู่บนเตียงชั้นบนนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้น หลังจากนั้นก็มองหน้ากัน
“พระเจ้า ทำไมถึงได้ยินสิ่งนี้ได้? ”
“ พวกเราจะถูกฆ่าปิดปากไหม น้องสาวที่น่ารักคนนั้น ชอบพี่ซูของเรายังงั้นเหรอ?