เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1637 ไม่สบายแล้ว

บทที่ 1637 ไม่สบายแล้ว

“ใช่แล้ว วันนี้หลังเลิกเรียนเธอไปห้องสมุดมั้ย”

“ไม่ไปหรอก”เมิ่งเข่อเฟยส่ายหน้า“ฉันหางานได้งานหนึ่งแถวๆนี้ จะไปทำงาน”

ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนก็ตกใจ“ทำงานเหรอ เฟยเฟย ทำไมอยู่ๆเธอจะไปทำงาน เมื่อก่อนไม่ใช่บอกว่าจะตั้งใจเรียน ไปทำงานแบบนี้ นั่นจะมีผลกับผลการเรียนของเธอนะ”

“ไม่เป็นไร ฉันเสียเวลาเรียนนานหน่อยก็ได้”

ถางหยวนหยวนตามมาข้างๆเมิ่งเข่อเฟย พูดอย่างจริงจังและจริงใจว่า“เธอไม่ใช่ว่าเงินไม่พอใช้นะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน เงินค่าขนมฉันใช้ไม่หมด เธอใช้กับฉันก็ได้นะ”

เมิ่งเข่อเฟยยิ้มอ่อนๆ“ไม่ต้องหรอก ฉันทำงานไม่ลำบาก ฉันทำได้”

“แต่ว่า……”

“หยวนหยวน!”

เสียงเมิ่งเข่อเฟยดังขึ้นเล็กน้อย“ไม่ต้องจริงๆ นั่นมันเงินค่าใช้จ่ายของเธอ ไม่ใช่ของฉัน เธอลองคิดดูสิว่าฉันจะใช้เงินเธอได้อย่างไร”

“แต่ว่า ฉันไม่ถือ”

“ฉันถือ!”

สีหน้าของเมิ่งเข่อเฟยไม่มีรอยยิ้ม “บ้านเธอฐานะดี เงินแค่นี้แน่นอนว่าเธอไม่เห็นมันอยู่ในสายตา แต่ฉันกับเธอไม่เหมือนกัน ครอบครัวฉันยากจนตั้งแต่เด็ก เงินค่าใช้จ่ายของเธอหนึ่งเดือนสำหรับฉันแล้ว คือเงินที่ฉันใช้จ่ายหนึ่งปี เธอให้ฉันใช้ร่วมกับเธอ ดูภายนอกก็เหมือนว่าเธอจะดีกับฉัน แต่สำหรับฉันมันคืออะไร ฉันไม่ใช่คนพวกนั้นที่ยื่นมือขอเงิน เธออย่าเห็นฉันเป็นคนพวกนั้นได้มั้ย”

ได้ฟังดังนั้น ถางหยวนหยวนก็อึ้งไปพักใหญ่ จากนั้นจึงพูดว่า“เฟยเฟย ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่รู้สึก……”

“พอแล้ว เธอไม่ต้องพูดอีกแล้ว ฉันไปก่อนนะ”

จากนั้นก็ไม่รอให้ถางหยวนหยวนพูดอะไร เมิ่งเข่อเฟยก็หมุนตัวเดินไปเลย ปล่อยถางหยวนหยวนไว้เพียงคนเดียว

ถางหยวนหยวนยืนอยู่ที่เดิม มือดึงชายเสื้อด้วยจิตใต้สำนึก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

หลังเลิกเรียน เมิ่งเข่อเฟยเป็นคนแรกที่ออกจากห้องเรียน ต่อมาถางหยวนหยวนก็ตามไปด้านหลังเธอ มองเธอออกไปจากโรงเรียน เดิมอยากจะตามไปดูที่ที่เธอทำงาน

ผลลัพธ์ก็คือ พอเดินมาถึงประตู ถางหยวนหยวนก็เห็นร่างที่คุ้นตาร่างหนึ่ง

“พี่ฉู่เฟิงเหรอ”

แววตาของจงฉู่เฟิงดูไม่ค่อยดีนัก สีดำคล้ำใต้ตาเข้มมาก ในดวงตายังมีรอยเลือดแดงๆเป็นเส้นๆ และยังผอมลงไปมาก

เพิ่งจะพบกันเมื่อสองวันก่อน เขาดูแล้วก็ยังสดใสมีชีวิตชีวาอยู่

นี่เกิดอะไรขึ้น

“เลิกเรียนแล้วเหรอ”

จงฉู่เฟิงมองถางหยวนหยวนเดินมาตรงหน้าเขา อยากจะยื่นมือไปหัวของเธอ มือยื่นออกไปเล็กน้อย ก็เหมือนนึกอะไรได้ จากนั้นก็ดึงมือกลับมา มืออีกข้างยื่นออกมา ด้านบนวางนมเปรี้ยวหนึ่งขวด

“ให้เธอ”

ถางหยวนหยวนมองซ้าย มองขวา พบว่าตัวเขามีเพียงแค่นมเปรี้ยวขวดเดียว แค่นมเปรี้ยวขวดเดียวแค่นี้ ไม่มีอะไรอย่างอื่น

“มองหาอะไร ก็เอานมเปรี้ยวมาไง ไม่ใช่ลดความอ้วนเหรอ ยังอยากกินอะไรมากมายขนาดนั้น”

เสียงของจงฉู่เฟิงแหบพร่าเล็กน้อย เหมือนกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน แต่น้ำเสียงยังคงมีความรักใคร่เอ็นดูเหมือนเดิม สายตาที่มองเธอยังอ่อนโยนมาก ก็ไม่รู้ทำไม ถางหยวนหยวนรู้สึกว่าท่าทางเขาดูเหมือนเศร้าเสียใจอย่างมาก

“พี่ฉู่เฟิง พี่เป็นอะไรคะ”

สาวน้อยยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง มองเขาอย่างเป็นห่วงตอนเอ่ยถามออกมา พี่เป็นอะไรคะ จงฉู่เฟิงใจแทบจะแหลกสลาย

เขาอยากจะบอกเธอมากว่า อย่าเป็นห่วงเขาเลย ไม่ว่าจะด้วยสถานะอะไร พี่ชายก็ดี เพื่อนก็ดี ก็ปฏิเสธเขาไปแรงๆเถอะ

เขาควบคุมตนเองไม่ให้มาหาเธอไม่ได้ แต่กลับหวังว่าเธอจะไม่เป็นห่วงเขา ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็จะได้ตัดใจไปตลอดกาล

ชอบคนคนหนึ่งก็คงจะเป็นแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ขอแค่ให้อีกฝ่ายดีกับตนเองบ้างเล็กๆน้อยๆ เขาก็เริ่มกลับมามีชีวิตอีก รู้สึกว่า…ตนเองยังมีความหวัง

ต่อให้ไม่มีความหวัง ก็ยังอยากมองเธอแบบนี้ มองเธอเงียบๆก็ได้

“พี่ฉู่เฟิง”

ถางหยวนหยวนเม้มปาก พูดเบาๆว่า “ท่าทางพี่ดูเหมือนไม่ค่อยดีนัก ไม่สบายหรือเปล่าคะ ให้ฉันไปหาหมอเป็นเพื่อนมั้ย”

ตอนแรกจงฉู่เฟิงคิดจะปฏิเสธ แต่ว่าคำพูดมาอยู่ที่ริมฝีปากแล้ว กลับเปลี่ยนไป

“ได้ อาจจะไม่สบายจริงๆ อย่างนั้นลองไปหาหมอดู”

“อืม”

จากนั้นทั้งสองก็หมุนตัวเตรียมไปโรงพยาบาล พอหมุนตัวก็ยู่ฉือยี่ซูที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกล

“พี่”

มองเห็นยู่ฉือยี่ซู ใบหน้าขาวของถางหยวนหยวนก็แดงทันที จากนั้นก็รีบวิ่งไปข้างหน้า

ยู่ฉือยี่ซูหรี่ตามอง สายตาประสานกันกับจงฉู่เฟิงกลางอากาศครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับไปมองที่ถางหยวนหยวนใหม่“เลิกเรียนแล้วเหรอ จะไปไหน”

“พี่ฉู่เฟิงดูเหมือนจะไม่สบาย ฉันก็เลยจะไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขาค่ะ”

“ไม่สบายแล้วเหรอ” ยู่ฉือยี่ซูมองไปทางจงฉู่เฟิง จากนั้นจึงพูดว่า “อย่างนั้นฉันไปเป็นเพื่อนพวกคุณด้วยแล้วกันนะ”

“อืม ได้ค่ะ”

จากนั้นถางหยวนหยวนคิดจะมาลากจงฉู่เฟิง จงฉู่เฟิงก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ทันใดนั้นกลับพูดว่า“ไม่ไปแล้ว ตอนนี้ไปโรงพยาบาล คาดว่าคุณหมอคงเลิกงานแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนกลับขมวดคิ้วพูดว่า“พี่ฉู่เฟิง มีหมอเวรค่ะ พี่ไม่สบายก็ต้องไปโรงพยาบาล อย่ารอให้ถึงพรุ่งนี้ หากเป็นอะไรร้ายแรงล่ะคะ”

เพราะเขาดูแล้วแย่มากจริงๆ ทุกคนปกติก็เที่ยวด้วยกัน ดังนั้นที่ถางหยวนหยวนเป็นห่วงก็เป็นห่วงจริงๆ

“ไม่เป็นไร” จงฉู่เฟิงยิ้มอย่างไร้ความหมาย“ร่างกายของพี่ฉู่เฟิงแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินอีก ไปซื้อยาที่ร้านขายยา กลับไปนอนสักตื่นก็หายแล้ว”

ความจริงแล้วก็คือเขาดื่มเหล้าจนเมาออกมา รอยเส้นเลือดแดงๆในดวงตาก็เป็นเพราะอดนอนมาทั้งคืน ตอนแรกคิดอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอให้นานอีกหน่อย แต่ตอนนี้ยู่ฉือยี่ซูอยู่ด้วย จงฉู่เฟิงก็ไม่มีอารมณ์แล้ว

ในเมื่อเขาไม่อยากจะเห็นภาพทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน

ทำใจยอมรับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทำใจให้ยอมรับได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“แต่ว่า…”ถางหยวนหยวนยังอยากจะพูดอะไรต่ออีก ยู่ฉือยี่ซูดึงแขนเรียวเล็กเธอไว้ ดึงเธอมาข้างๆตนเอง“ให้เขาไปเถอะ เขาไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น กลับไปนอนสักตื่นก็หายแล้ว”

พอยู่ฉือยี่ซูเอ่ยปาก ถางหยวนหยวนก็ได้แต่ส่งเสียงอ้อแค่หนึ่งคำ ไม่ได้พูดอะไรอีก

เห็นเช่นนี้ สีของนัยน์ตาจงฉู่เฟิงก็ยิ่งเข้มลึกขึ้น

สมแล้วที่พอเขาเอ่ยปาก เธอก็เชื่อเขาแล้ว

จงฉู่เฟิงหัวเราะเยาะตนเองในใจ จากนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าเอานมเปรี้ยวยัดใส่ในมือของถางหยวนหยวน จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

หลังจากรอให้เขาเดินไปไกลแล้ว ถางหยวนหยวนจึงเงยหน้าหันไปถามยู่ฉือยี่ซูว่า

“พี่คะ พี่ฉู่เฟิงไม่พอใจแล้วหรือเปล่าคะ”

เห็นชัดว่าก่อนหน้านี้รับปากว่าจะไปโรงพยาบาล แต่พอพี่มา เขาก็ไม่อยากไปแล้ว และไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าระหว่างสองคนนี้มีกลิ่นความขัดแย้งรุนแรงชัดเจนมาก

“พี่กับพี่ฉู่เฟิงทะเลาะกันเหรอคะ”

ยู่ฉือยี่ซูตอบอย่างหมดหนทางว่า“ไม่ได้ทะเลาะ ตัวเขาแค่อารมณ์ไม่ดีเท่านั้น ไม่ต้องสนใจเขาหรอก”

บางเรื่องก็ควรจะต้องผ่านไปให้ได้ ควรจะตัดใจก็ไม่ตัด กลับจะยิ่งทำให้วุ่นวายมากขึ้น

ตอนนี้อาจจะเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย แต่ว่าผ่านไปสักระยะ ความเจ็บปวดเหล่านี้ก็จะทำให้ตนเองเติบโตขึ้น ถึงเวลาก็จะไม่เป็นเหมือนตอนนี้อีก

“พาเธอไปทานอาหารเย็น ไปเถอะ”

ยู่ฉือยี่ซูจูงมือเธอ พาเธอเดินไปคนละทางกับจงฉู่เฟิง

ถางหยวนหยวนมองดูทั้งสองคนจูงมือเดินด้วยกัน นัยน์ตาก็มีความยินดีลอยขึ้นมา

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset