บทที่ 1638 อยู่ร่วมกัน
ตอนแรกถางหยวนหยวนคิดจะไปกินอะไรง่ายๆที่โรงอาหารนิดหน่อย ตอนนี้พี่พาเธอไป ก็ไม่รู้จะไปกินอะไร
สองคนเดินอยู่บนถนนท่ามกลางผู้คน ตอนนี้ฟ้ายังสว่างจ้า ดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินครึ่งหนึ่งส่องไปที่อาคาร ครึ่งหนึ่งส่องไปที่บนถนน
สาวน้อยถูกคนที่เธอชอบจูงมืออยู่ เดินข้ามทางม้าลาย เดินผ่านแต่ละร้านที่มีอยู่ข้างทาง ในหัวใจอบอุ่นกว่าดวงอาทิตย์ในตอนนี้เสียอีก
“อยากกินอะไร”
ตอนที่เสียงเรียบๆของยู่ฉือยี่ซู เอ่ยถามเธอนั้น สายตามองมาที่ใบหน้าเธอ
ถางหยวนหยวนก็หน้าแดง เขินอาย โดยไม่มีสาเหตุ “อะไรก็ได้”
“อะไรก็ได้เหรอ อย่างนั้นร้านข้างหลังเธอนี้แล้วกัน”
ถางหยวนหยวนไม่ได้สังเกตว่าร้านที่อยู่ข้างหลังเธอคือร้านอะไร ก็พยักหน้าเลย ความจริงสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจก็คือ ขอแค่อยู่กับเขา กินอะไรก็น่าจะอร่อย
“ไปเถอะ”
ยู่ฉือยี่ซูลากเธอเข้าไปในร้าน รอจนเข้าไปข้างในแล้ว ถางหยวนหยวนจึงพบว่านี่คือร้านปลาเผาร้านหนึ่ง
ปลาเผาเหรอ
ถางหยวนหยวนเสียใจภายหลังขึ้นมาทันทีที่ตนเองตอบตกลงไปแล้ว กินอะไรก็ได้ก็ดีหว่ากินปลานะ เพราะตอนเด็กๆที่เธอกินปลาเธอคายก้างปลาไม่เป็น เพราะตอนเด็กๆยังเคยถูกก้างปลาติดคอ ตอนนั้นจำขึ้นใจเลย ก้างปลาติดอยู่ที่คออยู่อย่างนั้น สุดท้ายยังต้องไปโรงพยาบาล
ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝังใจถางหยวนหยวนมาตลอด
ตอนนั้นเกิดขึ้นตอนที่อยู่บ้านตระกูลเย่ พี่ก็รู้ เขาก็รู้ว่าตนเองไม่ชอบปลา แล้วทำไมยังจะมาตนเองมาอีก
คิดมาถึงตรงนี้ ในใจถางหยวนหยวนก็รู้สึกน้อยใจเล็กน้อย คงไม่ใช่เพราะพี่ลืมไปว่าตนเองมีเรื่องฝังใจกับปลานะ
คิดไปคิดมา ถางหยวนหยวนก็คิดว่าตนเองช่างอ่อนแอเหลือเกิน ถูกก้างติดคอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จะว่าไปแล้วนั่นมันก็เป็นเรื่องสมัยเด็ก ตอนนั้นพี่อายุยังไม่มาก จะจำได้อย่างไร ลืมไปก็เป็นเรื่องปกติมาก
ไม่นาน ถางหยวนหยวนก็ปลอบตนเองให้เลิกกังวลได้
หลังจากคลายความกังวลแล้ว พนักงานก็พาพวกเขาขึ้นไปชั้นสอง หาที่นั่งข้างหน้าต่าง
“ทั้งสองท่านเชิญดูว่าอยากทานปลาแบบไหน”
ถางหยวนหยวนเมื่อครู่คิดจะไปหยิบเมนู พอแตะไปที่มุมหนึ่ง ก็พบว่ายู่ฉือยี่ซูรับเมนูไปแล้ว เธอได้แต่ดึงมือกลับ “อย่างนั้นพี่สั่งเถอะค่ะ”
หลังจากที่ยู่ฉือยี่ซูส่งเมนูให้เธอ ก็หันไปพูดกับพนักงานว่า“รบกวนเอาให้ผมอีกชุดหนึ่ง”
“ได้ครับ”
พนักงานรีบไปหยิบเมนูมาอีกชุด
“เธอลองดูว่าอยากทานอะไร”
อยากกินอะไร
มาร้านปลาเผา ส่วนใหญ่ก็เป็นปลาเผาเป็นหลัก ถางหยวนหยวนเปิดเมนู
“ร้านของพวกเรามีปลาหลายชนิด และยังมีหลายรสชาติ ท่านลองเลือกดูว่าชอบรสชาติแบบไหน”
ได้ยินที่พนักงานแนะนำ ถางหยวนหยวนก็ตื่นตระหนกแทนตัวเองจนเหงื่อตก ถามพนักงานเสียงเบาๆว่า “อย่างนั้น ในร้านมีแต่ปลาเหรอ มีอาหารว่างอย่างอื่นมั้ย”
“มีแน่นอน คุณเปิดไปด้านหลัง สามารถสั่งเครื่องเคียงได้ ทั้งหมดล้วนสามารถใส่ลงไปต้ม และยังมีอาหารว่าง อาหารทอด อาหารหวานล้วนมีหมด ใช่แล้วช่วงนี้พวกเรามีอาหารใหม่แนะนำกุ้งแดงอบเบียร์ จะลองสั่งมาทานดูสักจานมั้ยครับ”
พอถางหยวนหยวนเห็น ล้วนมีแต่ของที่มีแคลอรีสูงมากทั้งนั้น แต่ว่ากุ้งแดงคือสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด
เธอกัดริมฝีปากล่างของตนเอง อดทน สั่งอาหารว่างและผักสองสามอย่าง
“คุณผู้หญิง ไม่ลองสั่งกุ้งแดงมาลองทานดูเหรอครับ คุณผู้หญิงที่มาที่นี่ต่างก็ชอบทานกัน หรือว่าคุณผู้หญิงกลัวว่ากุ้งแดงของร้านเราจะทำไม่อร่อย”
“ไม่ใช่ค่ะ ช่วงนี้ฉันแค่…”
“เอามาให้เธอจานหนึ่ง”
ตอนนี้ ยู่ฉือยี่ซูตอบแทนถางหยวนหยวน
“ครับ”
“แล้วก็เอาปลาโมงตัวหนึ่ง ผัดพริกแกง”
จากนั้นยู่ฉือยี่ซูก็ยังสั่งอีกหลายอย่าง ถางหยวนหยวนได้ยินก็พบว่าล้วนเป็นของที่ตนเองชอบกิน เธอกระพริบตาปริบๆ จากนั้นพูดเบาๆว่า“พี่คะ อย่าสั่งเยอะขนาดนั้นเลย ตอนกลางคืน พวกเรากินไม่เยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“อืม แล้วก็เอาข้าวสวยสองชาม ก็พอแล้ว”
“ครับ ทั้งสองท่านกรุณารอสักครู่”
หลังจากที่พนักงานเดินไปแล้ว ถางหยวนหยวนก็พูดอย่างอดไม่ได้ว่า “พี่คะ สั่งเยอะเกินไปแล้วนะคะ ถึงเวลากินไม่หมดจะทำยังไง”
“กินไม่หมดเหรอ”ยู่ฉือยี่ซูขมวดคิ้ว เหล่มองเธออย่างตลกๆ“เมื่อก่อนเธอไม่ชอบกินที่สุดเหรอ หรือว่าเธอกินไม่หมด”
คำพูดนี้พูดจนถางหยวนหยวนหน้าแดงอย่างไม่มีสาเหตุ เพราะฟังแล้วดูเหมือนเธอตะกละมากอย่างนั้น เมื่อก่อนถางหยวนหยวนคิดว่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
“ฉัน ฉันกินไม่หมดแน่นอน ตอนนี้ฉันกินน้อยกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะคะ!”
สุดท้าย ถางหยวนหยวนมีเหตุผลเพียงพอที่จะพูดอย่างมั่นใจว่า“ฉันไม่ได้กินข้าวเกินหนึ่งชามมานานครึ่งปีแล้วนะคะ!”
นี่คือเรื่องจริง นอกจากวันนั้นที่ดื่มชานมจนอาเจียน ถางหยวนหยวนก็ลดความอ้วนอย่างเข้มงวดมากมาตั้งแต่ปีใหม่เรื่อยมา ตอนแรกที่ลดความอ้วนก็หิวโหยมากจริงๆ
ต่อมา เวลาค่อยๆผ่านไป ก็ไม่ได้หิวโหยขนาดนั้นแล้ว
ยู่ฉือยี่ซูรินน้ำชายกไปตรงหน้าของสาวน้อย พูดว่า “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในช่วงที่ร่างกำลังเจริญเติบโต ทางที่ดีที่สุดอย่าลดน้ำหนักเลย”
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนปากจู๋“อีกไม่นานแล้ว ยังอีกครึ่งปี ฉันก็บรรลุนิติภาวะแล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ลดความอ้วน ฉันก็แค่ทำเพื่อฝึกออกกำลังกาย”
“กลัวพี่จะรังเกียจเธอเหรอ”
ถางหยวนหยวน“……”
ถามตรงไปตรงมากะทันหันแบบนี้ ถางหยวนหยวนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“เปล่า ไม่ใช่ พี่คงไม่ได้คิดว่าที่ฉันลดความอ้วนเพราะพี่นะ”
ยู่ฉือยี่ซูที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอขมวดคิ้ว เขาแทบไม่ต้องตอบอะไรเลย ได้แต่มองเธอเงียบๆ ถางหยวนหยวนก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้หลุดออกมาทีละอย่าง
เป็นอย่างที่คิด เห็นเขาไม่ตอบ ถางหยวนหยวนก็อธิบายทีละข้ออย่างน้อยใจ“ฉันไม่ได้ลดน้ำหนักเพื่อพี่นะ แล้วก็ไม่ได้กลัวว่าพี่จะรังเกียจฉันด้วย”
มุมปากของยู่ฉือยี่ซูค่อยๆโค้งงอขึ้นเล็กน้อย ยังคงไม่ตอบอะไร
ถางหยวนหยวนใจร้อนเล็กน้อย พูดด้วยเสียงดุดันจริงจัง“พี่คะ!ที่ฉันพูดกับพี่ พี่ได้ยินมั้ยคะ”
“อ๋อ ได้ยินแล้ว ในเมื่อไม่ได้ลดความอ้วนเพื่อพี่ อย่างนั้นก็ไม่ต้องอธิบายแล้ว เธอร้อนตัวขนาดนี้ไปทำไม”
“ฉันร้อนตัวที่ไหน”
ตอนแรกก็ไม่ร้อนตัว ถูกยู่ฉือยี่ซูพูดมาขนาดนี้ ถางหยวนหยวนก็ร้อนตัวจริงๆ
พอเธอร้อนตัว หูก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างง่ายดาย ยู่ฉือยี่ซูเห็นหูเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็รู้ว่าไม่ควรจะแกล้งเธออีก ได้แต่กลืนคำพูดกลับไป
“เอาละ พี่ล้อเล่น ดื่มชาแก้กระหายก่อน อีกเดี๋ยวปลาจะมาแล้ว”
แต่ถางหยวนหยวนถูกเขาพูดจนร้อนตัวแล้ว ตอนนี้เอาบันไดมาตรงหน้าให้เธอลงมา เธอก็รู้สึกอับอาย โชคดีที่ตอนนี้พนักงานยกปลามาเสิร์ฟพอดี
เพราะปลาเผาถูกห่อด้วยกระดาษฟอยล์ย่างในหม้อสี่เหลี่ยม ด้านล่างยังร้อนระอุ ดังนั้นยู่ฉือยี่ซูลุกขึ้นนั่งด้านข้างถางหยวนหยวน ใช้ร่างสูงใหญ่ปกป้องเธอ
“เอาละ”
ยู่ฉือยี่ซูพูดเรียบๆว่า“กินของว่างสองสามอย่างก่อนนะ”
ไม่นานอาหารว่างก็ยกมา ล้วนแต่เป็นของที่มีรสหวานเล็กน้อย ถางหยวนหยวนมองดู ไม่กล้ากิน
ของที่มีรสหวานแคลอรีสูงที่สุดแล้ว ถ้าเธอกินตามใจมากไป ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ช่วงที่เธอพยายามควบคุมช่วงหนึ่งนั้นเสียเวลาเปล่า
อดทนไว้หน่อยจะดีกว่า
“สั่งมาให้เธอหมดเลย ถ้าไม่กิน อีกเดี๋ยวก็ต้องทิ้งสิ้นเปลืองแย่เลย”