บทที่1654 สาวน้อยของพวกเรา
“บอกให้เธอปิดตาก็ปิดเลย ต่อไปโจรบอกให้เธอไปกับเขา เธอจะไปหรือเปล่าเนี้ย?”
น้ำเสียงหยอกล้อดังขึ้น ถางหยวนหยวนอึ้ง อยากจะลืมตาขึ้นมา สุดท้ายก็ได้ยินยู่ฉือยี่ซูพูดว่า: “อย่าขยับ อย่าเปิดตาเชียวนะ”
ถางหยวนหยวนเม้มปากแดงของตัวเอง และถามอย่างระวังว่า: “พี่คะ พี่จะทำอะไรกันแน่?”
เพราะตอนนี้อยู่ข้างบน ตอนที่ถางหยวนหยวนหลับตา รู้สึกได้ว่าตัวเบาลง และตื่นเต้นมาก แต่พอเธอถามแล้วยู่ฉือยี่ซูก็ไม่ได้ตอบเธอ รอบข้างมีเสียงดังรบกวน เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นสวนสนุก มีเสียงดังก็เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นถางหยวนหยวนไม่ได้ยินเสียงสูดหายใจของยู่ฉือยี่ซูเลย
ทันใดนั้น ถางหยวนหยวนก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอบอุ่นที่โปรยเข้ามา
เธอตกใจ นึกถึงคำพูดที่เมื่อกี้พี่ชายบอกกับตัวเอง
“อยากรู้ไหมว่าในตอนที่ชิงช้าสวรรค์ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดหลับตาแล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หรือว่า……
ถางหยวนหยวนจับโทรศัพท์ในมือแน่น ตื่นเต้นอย่างหนัก หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
รู้สึกเย็นวาบตรงคอ ถางหยวนหยวนรีบลืมตาขึ้นมา เห็นมือของยู่ฉือยี่ซูชักกลับไปพอดี
มีสร้อยอยู่บนคอหนึ่งเส้น เพราะเป็นสร้อยที่พอดีกับคอ ดังนั้นเธอก้มหน้าลงไปจึงมองไม่เห็นว่าสร้อยมีหน้าตายังไงบ้าง และลืมไปแล้วว่าในมือตัวเองมีโทรศัพท์อยู่
“พี่คะ?”
“ดูสิ ชอบหรือเปล่า?”
ถางหยวนหยวนถึงนึกได้ว่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูได้ เธอหยิบขึ้นมามองตัวเองในจอ เห็นบนคอตัวเองมีสร้อยที่เป็นสีโทนเย็น และมีความแฟชั่นมาก ที่สำคัญคือพระจันทร์ ด้านข้างยังมีดาวเจ็ดดวง พอดีกับตรงกระดูกไหปลาร้าพอดี
ชิงช้าสวรรค์หมุนลงช้าๆ
เสียงของยู่ฉือยี่ซูอ่อนโยนและลึกซึ้ง
“ขอให้สาวน้อยของฉัน มีความสุขมากๆในวันเกิดนะ”
ในตอนนั้นเอง เหมือนมีพลุหลากสีมากมายแตกอยู่ในหัวของถางหยวนหยวน สีสันสวยงาม เต็มบนท้องฟ้าทำเอาใบหน้าของสาวน้อยแดงระเรื่อ
ถางหยวนหยวนคิดว่า ต่อไปไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน หรืออยู่กับใคร มีอายุเท่าไหร่แล้ว ถึงแก่ ถึงตาย ก็จะไม่มีวันลืมภาพความทรงจำนาทีนี้เลย
คนที่ตัวเองชอบให้ของขวัญตัวเองบนชิงช้าสวรรค์ และยังพูดอวยพรวันเกิดให้อีก
ปมก่อนหน้านี้ที่นั่งชิงช้าสวรรค์ก็ได้หายไปในพริบตา
“พี่คะ ไหนว่ามีของขวัญแค่ชิ้นเดียวไง?” ถางหยวนหยวนอยากจะจับสร้อย และควบคุมความใจร้อนของตัวเองไม่อยู่ จึงกัดปากตัวเองถามเขา
“วันเกิดของเธอ จะขาดคำอวยพรในทุกปีของฉันได้ยังไงล่ะ?”
ถางหยวนหยวนกะพริบตา ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นโผล่เข้าไปจุ๊บหน้าผากยู่ฉือยี่ซูหนึ่งที
ยู่ฉือยี่ซูในตอนแรกยังยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูอยู่นั้น เพราะการกระทำนี้ทำเอาเขาชะงักค้างไปทันที
สักพัก สายตาเขาก็มืดมนลง
และสาวน้อยเพราะจูบนี้ทำเอาเธออายจนหูแดงไปหมด พอนั่งลงแล้วก็หันหลังให้เขา ไม่ได้พูดกับยู่ฉือยี่ซูอีก
พอชิงช้าสวรรค์ลงมาและหยุดลง ถางหยวนหยวนก็ออกไปก่อน
ยู่ฉือยี่ซูเดินตามหลังของเธอ
ท้องฟ้ามืดลงแล้ว แสงไฟสลัวหลากสีของสวนสนุกก็สาดส่องไปทั่ว กระโปรงยาวของถางหยวนหยวนส่องสว่างวิบวับภายใต้แสงไฟทำให้ดูสวยมากยิ่งขึ้น มีผู้คนไม่น้อยต่างจ้องมองมาที่เธอ
ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ถางหยวนหยวนก็รู้สึกเกร็งตัวมาก ดังนั้นเธอจึงเดินย้อนกลับไปเดินข้างยู่ฉือยี่ซู ดึงปลายเสื้อของเขา
“พี่คะ”
ยู่ฉือยี่ซูหรี่ตามองเธอ และพูดหยอกว่า: “ไม่หลบหน้าฉันแล้วเหรอ?”
ถางหยวนหยวนหน้าแดงระเรื่อ “ทุกคนมองมาที่ฉันกันหมด พวกเราออกไปดีกว่าไหม?”
“สวยไงเลยมอง ดีแล้วนี่?”
ถางหยวนหยวนเขินหนักกว่าเดิม
ยู่ฉือยี่ซูยกมือขึ้นมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าจะถึงเวลาแล้ว จึงพูดว่า: “หิวหรือยัง ไปกินข้าวกัน”
ถ้าไปกินข้าวละก็ งั้นก็จะออกจากสวนสนุกนี่ได้ ถางหยวนหยวนรีบพยักหน้า: “ได้เลย”
ตอนที่กินข้าว ยู่ฉือยี่ซูรับโทรศัพท์ของแม่ พึ่งรับขึ้นมาก็ได้ยินเสียงบ่นของหานมู่จื่อ
“เจ้าเด็กคนนี้ ในงานวันเป็นผู้ใหญ่นายพาหยวนหยวนไปแล้ว ก็ไม่บอกกับพวกเราหน่อย นี่ก็ช่างเถอะ ทำไมตอนนี้เย็นแล้วยังไม่กลับมาอีก? ฉันจะบอกให้นะ หยวนหยวนแม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เธอก็ยังเป็นสาวน้อยอยู่ นายอย่าทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายน้องเขาล่ะ”
ยู่ฉือยี่ซู: “?”
“ได้ยินไหม?”
ยู่ฉือยี่ซูมองสาวน้อยที่กำลังกินข้าวอยู่ โชคดีที่ตัวเองรับโทรศัพท์ไม่ได้เปิดเสียงลำโพง ไม่งั้นคำพูดนี้สาวน้อยได้ยินแล้วจะเป็นยังไงก็ไม่รู้?
น่าจะรู้สึกได้ว่าเขากำลังมองเธออยู่ สาวน้อยรีบเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากเต็มไปด้วยน้ำมัน “พี่คะ ใครโทรมาเหรอ?”
ยู่ฉือยี่ซูทำท่าให้เธอเงียบ ถางหยวนหยวนก็รีบพยักหน้าทันที
จากนั้นยู่ฉือยี่ซูก็ยื่นมือไปกดโทรศัพท์ไว้ พูดเสียงเบาว่า: “ฉันออกไปรับโทรศัพท์ก่อน เธอกินก่อนเลยนะ”
“อืม”
จากนั้นยู่ฉือยี่ซูก็เปิดประตูห้องออก หลังพิงกำแพงทางเดินข้างประตู และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูใหม่
“เจ้าเด็กคนนี้ หยวนหยวนล่ะ? นายเอาโทรศัพท์ให้เธอสิ แม่จะบอกอะไรเธอหน่อย”
ยู่ฉือยี่ซูพูดอย่างเหนื่อยใจ “แม่คิดว่าผมเป็นคนยังไงเนี้ย?”
พูดเหมือนเขาเป็นพวกคนร้ายเลย อย่าว่าแต่ยู่ฉือยี่ซูที่ตอนนี้ยังไม่มีความคิดนี้ ถึงจะมีก็เถอะ ก็คงไม่ทำตอนที่ทั้งสองยังไม่แน่ใจในความสัมพันธ์หรอกนะ
“ยังไงแม่ก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี รีบเอาโทรศัพท์ให้หยวนหยวนเร็ว”
“เธอกินข้าวอยู่ ไม่มีเวลา”
“เธอไม่มีเวลารับโทรศัพท์หรือนายไม่อยากให้เธอรับกันแน่? เจ้าเด็กคนนี้ กลางคืนเตรียมไปนอนข้างนอกกับเธอเหรอ?”
“พอแล้ว ถ้ายังไม่กลับไปอีกเดี๋ยวกับข้าวเย็นพอดี ผมไปกินข้าวก่อน ตอนเย็นส่งเธอกลับบ้าน”
พอวางสายแล้ว ยู่ฉือยี่ซูก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงคุณนายถางเล็กน้อย: “งั้นเดี๋ยวฉันโทรหาลูกสาวหน่อยแล้วกัน”
ได้ยินดังนั้น ยู่ฉือยี่ซูตอนแรกยังอยากเข้าไปในห้อง ได้ยินแบบนี้แล้วก็หยุดชะงักทันที สักพักก็ได้ยินด้านในมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ถางหยวนหยวนเห็นว่าเป็นคุณนายถางโทรมา ก็ไม่เช็ดปาก กินไปด้วยรับโทรศัพท์ไปด้วย เพราะยู่ฉือยี่ซูรับสายอยู่ด้านนอก เธอจึงเปิดเสียงลำโพง
“แม่คะ”
“หยวนหยวน ยี่ซูอยู่ด้านนอกเหรอ?”
“ใช่ค่ะ หนูกับพี่ชายมากินข้าวข้างนอกกัน ทำไมเหรอคะแม่?”
“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่อยากถามน่ะ วันนี้เล่นสนุกไหม?”
ได้ยินแล้ว ถางหยวนหยวนก็ชะงัก และต่อมาก็นึกถึงสร้อยบนคอตัวเอง นานมากถึงพูดว่า: “สนุกค่ะ สนุกมากเลย”
ถางหยวนหยวนเป็นลูกสาวของคุณนายถาง ตอนที่เธอพูดว่าสนุกกลับไม่มีน้ำเสียงกระตือรือร้นเลย แต่คุณนายถางก็เข้าใจ เด็กคนนี้มีความสุขจริงๆ ดังนั้นตอนที่พูดถึงได้จริงจังมาก
“สนุกก็ดีแล้ว งั้นแม่ถามหน่อยได้ไหมว่า ตอนเย็นลูกกลับบ้านไหม?”
ได้ยินแล้ว ถางหยวนหยวนก็รีบตอบว่า: “ต้องกลับสิคะ ทำไมไม่กลับล่ะ?”