บทที่1664 สั่งสอนเขา
ยู่ฉือยี่ซูพึ่งกลับมาถึงวิลล่าไห่เจียง จงฉู่เฟิงก็โทรมา
“พี่ซู หยวนหยวนเป็นยังไงบ้าง? งานเลี้ยงบรรลุนิติภาวะจบแล้วรึยัง? ”
น้ำเสียงของเขาเป็นกังวลอย่างมาก และลมหายใจก็ไม่คงที่
ยู่ฉือยี่ซูมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ เม้มปาก “งานจัดขึ้นเมื่อวาน แล้ววันนี้กี่โมงแล้ว แกว่ามันจบรึยังล่ะ? ”
จงฉู่เฟิงพูดอย่างผิดหวัง “ชีวิตของเธอจะมีโอกาสจัดงานครบรอบบรรลุนิติภาวะได้แค่ครั้งเดียว ไม่คิดเลยว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพที่เธอใส่ชุดเดรส”
ยู่ฉือยี่ซูฟังออกถึงความผิดหวังในน้ำเสียงของเขา แต่ว่าเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจเขายังไง ครุ่นคิดอยู่นานถึงจะพูดว่า “ก็ไม่มีทางเลือกอื่น”
คืนวันก่อนแม่ของจงฉู่เฟิงเกิดอาการไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน คนในบ้านก็เร่งรีบพาเธอไปผ่าตัด จงฉู่เฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว แน่นอนว่าจะออกมาก็ไม่ได้
บวกกับพ่อของเขาก็ทำงานด้านนอกตลอดทั้งปี วันนั้นก็กลับมาไม่ได้ ดังนั้นจงฉู่เฟิงคนเดียวก็ต้องจัดการเรื่องอะไรมากมาย
ตรงกับช่วงเวลางานของถางหยวนหยวนพอดี จงฉู่เฟิงเป็นทุกข์อย่างมาก แต่ในเวลานี้เขาไม่สามารถทิ้งแม่ของเขาไปร่วมงานของถางหยวนหยวนได้ ทำได้เพียงแค่ขอให้ยู่ฉือยี่ซูนำของขวัญมาให้แทนเขาเท่านั้น
พอคิดถึงเรื่องนี้ ยู่ฉือยี่ซูก็พูดว่า “คุณป้าอาการเป็นยังไงบ้าง? เดี๋ยวฉันจะกลับบ้านไปเก็บของก่อน แล้วเดี๋ยวจะไปหา”
“อย่า” จงฉู่เฟิงถอนหายใจออกมา “ไม่ต้องมาหรอก แม่ฉันไม่ได้เป็นอะไร การผ่าตัดไม่ได้มีปัญหา แค่ต้องอยู่ที่นี่ไม่กี่วันเท่านั้น”
รถของยู่ฉือยี่ซูดับเครื่อง เดินเข้าไปข้างในแล้วพูดว่า “ส่งที่อยู่มาให้ฉัน น่าจะประมาณสิบนาทีจะไปถึง”
“ไม่ต้องจริงๆ นะ”
คิดไปคิดมา จงฉู่เฟิงก็พูดอีกครั้งว่า “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ให้แกแล้วกัน แกมาถึงโรงพยาบาลแล้วก็บอกฉัน เดี๋ยวฉันเดินไปรับ”
“อืม”
หลังจากยู่ฉือยี่ซูวางสาย ก็เดินขึ้นไปชั้นบน
เขากลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอลงมาด้านล่างก็เจอหม่ามี๊ของตัวเองพอดี
“กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม มีธุระให้ต้องออกข้างนอกนิดหน่อย”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“เมื่อวานแม่ของฉู่เฟิงเข้าโรงพยาบาล”
จงฉู่เฟิงคือเพื่อนสนิทของยู่ฉือยี่ซู เรื่องนี้หานมู่จื่อรับรู้มาโดยตลอด พอได้ยินเขาพูดว่าแม่ของจงฉู่เฟิงเข้าโรงพยาบาล ก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น? มิน่าล่ะงานเลี้ยงเมื่อวานฉู่เฟิงไม่ได้มาด้วย ที่แท้แม่ของเขาก็เข้าโรงพยาบาลนี่เอง ตอนนี้ลูกจะไปเยี่ยมใช่ไหม? ”
“อืม ไปเยี่ยมหน่อยน่ะครับ”
“ถ้ายังงั้นหม่ามี๊ไปด้วย”
ยู่ฉือยี่ซูกลับดึงเธอไว้ “หม่ามี๊ ผมว่าจะถามหยวนหยวนว่าจะไปด้วยไหม”
พอได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็หยุดเดิน แล้วก็เข้าใจความหมายของเขาทันที
“ก็ได้ งั้นหม่ามี๊ค่อยไปวันอื่น เดินทางระวังๆ นะ”
เดิมทียู่ฉือยี่ซูก็ไม่ได้อยากจะเรียกถางหยวนหยวนหรอก ยังไงเดาว่าเด็กนั่นเมื่อวานน่าจะไม่ได้หลับสนิท ตอนนี้ควรจะปล่อยให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อน
แต่พอคิดถึงจงฉู่เฟิงตอนนี้นั้น ยู่ฉือยี่ซูก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ก็คือถามว่าถางหยวนหยวนจะไปด้วยรึเปล่า
แน่นอน ก็เป็นแค่การถามเท่านั้น ถ้าเกิดว่าเธอยอมก็ไป ถ้าไม่ยอมก็ช่างมัน
หลังจากขึ้นรถแล้ว ยู่ฉือยี่ซูก็รออยู่นานกว่าจะส่งข้อความไปหาถางหยวนหยวน
“กลับไปพักผ่อนแล้วรึเปล่า? ”
น่าจะผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ถางหยวนหยวนถึงจะตอบกลับมา
“เปล่าค่ะ เมื่อคืนพักผ่อนเยอะแล้ว ทำไมต้องพักผ่อนอีก? ”
หลังจากส่งไปเสร็จแล้ว ก็ส่งมาอีกข้อความหนึ่ง
“พี่ มีอะไรรึเปล่า? ”
ยู่ฉือยี่ซูถึงได้โทรไปหาเธอ
“พี่? ” เสียงที่เต็มไปด้วยคำถามของสาวน้อยดังขึ้นที่ปลายสาย
ยู่ฉือยี่ซูขับรถออกมาจากวิลล่าไห่เจียง สายตาจ้องไปยังทางด้านหน้า “ทำไมกลับไปแล้วไม่พักผ่อนต่ออีกหน่อยล่ะ? ”
“พี่ หนูไม่ง่วง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เมื่อคืนหนูพักผ่อนเยอะแล้ว”
“ถ้ายังงั้นไปที่ที่หนึ่งกับพี่หน่อยได้ไหม? ”
“ไปไหนคะ? ”
หลังจากไปรับถางหยวนหยวนแล้ว เธอไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ ก็ขึ้นไปที่นั่งข้างคนขับของยู่ฉือยี่ซู หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเชื่อฟังแล้ว ถึงได้หันหน้าไปหาเขา
“พี่ ยังไม่ได้บอกหยวนหยวนเลยนะว่าจะไปไหน”
“ไปโรงพยาบาล”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของถางหยวนหยวนก็เปลี่ยนไปทันที “ไปโรงพยาบาล? พี่ไม่สบายเหรอ? หรือว่ารู้สึกไม่สบายที่เท้าแช่น้ำฝนเมื่อวาน หนูก็บอกแล้วว่า……”
“ไม่ใช่ซะหน่อย”ยู่ฉือยี่ซูตัดบทเธอ “ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ใช่ปัญหาของพี่หรอก ไปหาพี่ฉู่เฟิงของเธอน่ะ”
จงฉู่เฟิง?
พอได้ยินชื่อของเขา ถางหยวนหยวนถึงได้มีท่าทีตอบสนอง
“พวกเราจะไปหาพี่ฉู่เฟิงเหรอคะ? เขาอยู่ที่โรงพยาบาล? ”
“อืม”
“พี่ฉู่เฟิงเป็นอะไรไป? เมื่อวานเขาก็ไม่ได้มางานเลี้ยงของหยวนหยวน หรือว่าเป็นเพราะ……”
ใบหน้าของถางหยวนหยวนซีดลงในทันที
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่ฉู่เฟิงของเธอไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่ว่าแม่ของฉู่เฟิงเขา เมื่อวานต้องมาผ่าตัดที่โรงพยาบาล เพราะว่าเขาต้องอยู่เฝ้า ดังนั้นก็เลยไปร่วมงานด้วยไม่ได้ เลยวานให้พี่เอาของขวัญไปให้เธอแทนน่ะ”
“แล้วทำไมเมื่อวานพี่ไม่บอกหนูล่ะคะ? ”
“ถ้าเกิดว่าบอกไปแล้ว หนูยังจะจัดการดีๆ ได้อยู่ไหมล่ะ? ”
ตอนนั้นจงฉู่เฟิงกำชับกับยู่ฉือยี่ซูไว้ ว่าไม่ให้เขาบอกเรื่องนี้กับถางหยวนหยวน เขาบอกว่าเด็กน้อยอย่างหยวนหยวนนี้ให้ความสำคัญกับความรู้สึกที่มีให้กันมาก ถ้าเกิดว่ารู้เรื่องของเขา ต้องไม่อยู่เฉย และจัดงานเลี้ยงอย่างมีความสุขได้หรอก
ดังนั้นยู่ฉือยี่ซูก็เลยรับปากจงฉู่เฟิง ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ออกมา
“ตอนแรกวางแผนว่า กินข้าวเย็นเสร็จแล้วจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล”
ใครจะไปรู้ว่าหลังจากนั้นฝนจะตกหนักมาก จนทำให้น้ำท่วมถนน แถมยังต้องรอฝนตกหนักเป็นเวลานาน
“อ๋า แม่ของพี่ฉู่เฟิงไม่สบายเหรอคะ? เมื่อวานพี่ฉู่เฟิงอยู่คนเดียวต้องรู้สึกทุกข์มาเลยใช่ไหม? ถ้ายังงั้นพวกเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
หลังจากไปถึงโรงพยาบาลแล้ว ยู่ฉือยี่ซูก็ส่งข้อความหาจงฉู่เฟิงทันที
“ถึงแล้ว”
หลังจากจอดรถแล้ว ยู่ฉือยี่ซูก็พาสาวน้อยไปยืนรออยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล
น่าจะผ่านไปไม่กี่นาที ก็เห็นร่างของจงฉู่เฟิง
ตอนที่สายตาของเขาสัมผัสกับถางหยวนหยวนก็หยุดชั่วคราว หลังจากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนอย่างไม่สบอารมณ์ มองหน้ายู่ฉือยี่ซูอย่างอารมณ์เสียและพูดว่า “ทำไมแกพาเธอมาด้วยล่ะ? บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า……”
“พี่ฉู่เฟิง! ”ถางหยวนหยวนตัดบทเขา พูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมมาก “ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้? ”
จงฉู่เฟิง “เอ่อ ทำไมเหรอ? ”
“แม่ของพี่ฉู่เฟิงเข้าโรงพยาบาลแล้ว ทำไมพี่ถึงไม่บอกหยวนหยวน? ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะเป็นงานเลี้ยงของหยวนหยวน แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทั้งวันสักหน่อย ถ้าเกิดว่าพี่ฉู่เฟิงบอกให้เร็วกว่านั้น เมื่อวานตอนบ่ายพวกเราก็มาเยี่ยมคุณป้าได้แล้ว พี่ฉู่เฟิงก็ไม่ต้องเฝ้าท่านอยู่คนเดียวด้วย”
สาวน้อยพูดประโยคนี้อย่างเคร่งขรึมและจริงจัง ใบหน้าของเธอยับยู่ยี่ไปหมด
“พี่ฉู่เฟิง ทำแบบนี้ได้ยังไง?! ” จงฉู่เฟิงหวาดกลัวในทันที “ขอโทษ พี่ไม่ดีเอง หยวนหยวนอย่าโกรธพี่เลยนะ พี่ฉู่เฟิงก็แค่ทำไปเพราะว่าอยากให้หนูจัดงานให้ดี ไม่อยากให้คิดมาก”
“งานเลี้ยงครบบรรลุนิติภาวะมันสำคัญมาก แต่ว่าเรื่องของพี่ฉู่เฟิงก็สำคัญมากเหมือนกัน ครั้งหน้าอย่างเป็นแบบนี้อีกนะ”
สาวน้อยยังคงสั่งสอนเขาอย่างจริงจัง