เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1677 ชั่วชีวิต

บทที่ 1677 ชั่วชีวิต

ยู่ฉือยี่ซูจับข้อมือเธอเอาไว้แน่น สายตาก็จับจ้องมองเธอเอาไว้ “อีกอย่างคุณกินอิ่มแล้วเหรอ?”

“กินอิ่มแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนแล้ว”

ถางหยวนหยวนใช้เรี่ยวแรงที่มีดึงมือของตนเองกลับคืนมา เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ได้แต่หันไปทางยี่หัวเซิงที่อยู่ด้านข้างพร้อมอ้าปากพูด “ขอโทษค่ะ รบกวนหลีกทางหน่อยค่ะ”

แม้ว่ายี่หัวเซิงจะเป็นเพื่อนห้องพักเดียวกับยู่ฉือยี่ซู แต่ว่าก็ไม่กล้าบ้าบิ่นเหมือนยู่ฉือยี่ซู พลันลุกขึ้นทันที

ถางหยวนหยวนรีบผละตัวออกไปทันที ยี่หัวเซิงหันหน้ากลับมาพร้อมทั้งพูดด้วยอาการขอโทษ “ขอโทษนะพี่ซู หยวนหยวนเธอ …”

ยังไม่ทันพูดจบ ยู่ฉือยี่ซูก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามไปทันที

บรรยากาศในตอนนี้เปลี่ยนไปจนแปลกประหลาด

เจียงหยู่กระแอมเสียงเบา จากนั้นยิ้มแห้งๆ พูด “มาๆ พี่ซูน่าจะไปส่งน้องหยวนหยวนกลับไปโรงเรียนแล้วแหละ เรากินกันก่อนเลย ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาแล้ว”

จงหย่งหรันยังคงมีท่าทีนิ่งสงบเช่นเดิม แถมยังนั่งกินชาบูหม้อไฟกับทั้งสองคนต่อ แถมไม่เอ่ยชื่อยู่ฉือยี่ซูกับถางหยวนหยวนเลย

ถางหยวนหยวนที่ใบหน้าซีดเผือดนั้นเดินอย่างกับเหาะ ตอนแรกก็เริ่มเดินเร็ว แต่ตอนหลังก็ต้องวิ่งเหยาะๆ แทน เบ้าตามีบางอย่างเอ่อล้นเต็มเปี่ยม แถมยังทุกข์ทรมานใจมาก เธอไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าด้านหน้ายังมีรถ เพราะรีบร้อนเลยวิ่งตัดหน้า

แขนถูกพละกำลังอันหนักหน่วงคว้าเอาไว้ จากนั้นก็ดึงกลับมา

ถางหยวนหยวนเซถลากระแทกกับอกผายถลาเข้าสู่อ้อมแขนอันแสนอบอุ่น มันบีบแน่นมากจากนั้นก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำออกมา “ไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ? ถึงได้ไปวิ่งกลางถนน?”

หลายวันมานี้ถางหยวนหยวนน้อยใจอัดแน่นอยู่เต็มอก วินาทีนี้พลันพูดทุกอย่างออกมาทั้งหมด พร้อมทั้งใช้พละกำลังผลักมือของยู่ฉือยี่ซูออก “คุณไม่ต้องมาสนใจ คุณปล่อยฉันนะ”

“ปล่อยฉัน คุณไม่ต้องมาสนใจ!”

ไม่ว่าถางหยวนหยวนจะผลักอย่างไร จะทุบอีกฝ่ายอย่างไร ยู่ฉือยี่ซูก็ยังไม่ยอมผ่อนอ้อมแขนที่กอดต้นแขนเธอตั้งแต่ตอนแรกถึงเวลานี้ แถมยังใช้แรงมหาศาล ซึ่งมันทำให้ถางหยวนหยวนเจ็บจนน้ำตาซึมออกมา

“ไม่ต้องมาสนใจฉัน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

ยู่ฉือยี่ซูเริ่มเบื่อหน่ายเล็กน้อย พร้อมทั้งใช้กำลังดึงตัวเธอเข้าสู่อ้อมอก จากนั้นก็โอบตัวเธอเอาไว้ “ฉันไม่สนใจคุณ แล้วใครจะมาสนใจคุณเหรอ? กลางถนนมันอันตรายมาก คุณวิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนี้ เดี๋ยวก็รถชนจะทำยังไง?”

“เช่นนั้นก็ไม่ต้องให้คุณมาสนใจ” ถางหยวนหยวนยังคงผลักเขาอยู่เช่นเดิม อารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ คำพูดแกมสอดเสียด “ถ้าฉันโดนรถชน เกิดเรื่องคุณ คุณก็สบายใจได้แล้ว ต่อไปคงไม่มีคนมาคอยวุ่นวายกับคุณอีกแล้ว”

คำพูดนี้เมื่อยู่ฉือยี่ซูได้ยินแล้วได้แต่ขมวดหัวคิ้วเอาไว้

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ?”

“ที่ฉันพูดมาหรือว่ามันไม่เป็นความจริงหรือยังไง?” ถางหยวนหยวนเงยหน้าจ้องยู่ฉือยี่ซู “วันนี้คุณมาทำอะไร? ฉันแค่กินชาบูหม้อไฟกับรุ่นพี่ คุณมาเกี่ยวข้องหาเรื่องสนุกอะไรด้วย?”

เมื่อฟังแล้ว ยู่ฉือยี่ซูหรี่ตาลง “เด็กน้อย นี่คุณกำลังโทษฉันอยู่ใช่ไหม?”

ภายในดวงตาของเขามีแววตาอันตรายทอประกายออกมาเยอะพอควร “กินชาบูหม้อไฟกับรุ่นพี่ดีใจมากไหมล่ะ? โทษฉันที่ฉันเข้ามาขัดจังหวะทำลายอารมณ์ของคุณเหรอ?”

“ไม่ผิดหรอก!” ถางหยวนหยวนพยักหน้า พร้อมทั้งกัดฟันพูด “ฉันกับรุ่นพี่กำลังนั่งกินกันอยู่สองคน อยู่ดีๆ เพื่อนร่วมห้องของคุณมาก็พอไหวอยู่ แล้วทำไมพวกเขายังต้องไปเรียกคุณมาด้วยล่ะ? ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณสักนิด!”

พฤติกรรมเหล่านั้นที่เขาทำให้เห็น หรือว่าเธอยังไม่เข้าใจความหมายว่าหมายถึงอะไรอีกเหรอ?

ถางหยวนหยวนรู้ว่าเขาแปลกประหลาดมาก เพราะว่าไม่แสดงการตอบสนองใดๆ ต่อตนเองเลย ถึงขั้นไม่เชื่อในความรู้สึกของเธอ งั้นก็ไม่ต้องมาแล้ว แต่เขาดันมาหา พอมาหาแล้วก็แสดงท่าทีปฏิบัติตัวกับตนเองต่อหน้าจงหย่งหรันเป็นอย่างดี แถมกินข้าวที่เหลือของเธออีก มีเช็ดมุมปากให้ พฤติกรรมเช่นนี้…

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอรู้สึกโมโหขึ้นมาแทน!

เพราะว่าเธอรู้สึกว่าถูกดูหมิ่นแล้วความรู้สึกของตนเอง!

ยู่ฉือยี่ซูถูกคำพูดที่โกรธจัดจนทำให้เขายิ้มออกมา แต่ว่าเป็นรอยยิ้มอันเย็นชามาก ช่วงคิ้วก็ยังคงเย็นชาเช่นเดิม “ไม่อยากเจอหน้าฉัน? ก่อนหน้านี้ใครกันนะที่บอกว่าชอบฉันอยู่? แถมยังบอกไม่อนุญาตให้ฉันไปมีแฟนอีก แต่ตอนนี้ไม่อยากจะเห็นหน้ากันซะแล้ว?”

“งั้นแล้วจะยังไงล่ะ!” ไม่ง่ายเลยที่ถางหยวนหยวนยังทำท่าขึงขังตอกกลับ เพราะว่าไม่อาจจะทำตัวอ่อนแอให้เห็น “เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้เหมารวมถึงตอนนี้นี่ ตอนนี้ฉันก็ไม่อยากจะเห็นหน้าคุณแล้ว”

“นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้คุณรู้สึกดีกับรุ่นพี่คนนั้นแล้วใช่ไหม?”

“ใช่!”

“อยากจะอยู่กับเขาใช่ไหม?”

“ไม่ผิดไปหรอก!”

ยู่ฉือยี่ซูพยักหน้าให้ มือที่คีบมือของเธอเอาไว้นั้นผ่อนคลายลงไปเยอะ “นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้คุณเริ่มเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น ชอบรุ่นพี่คนนั้นแล้วสิ?”

เมื่อรับรู้ว่ามือของเขาเริ่มผ่อนแรงทั้งหมด ในใจถางหยวนหยวนเริ่มกระวนกระวายใจ แต่ว่าคำพูดมันออกจากปากไปแล้ว ถ้าเกิดมาแก้คำพูดก็คงต้องขายหน้ามากเลยมั้ง?

ทันใดนั้นเธอก็หยุดอยู่สักพัก จากนั้นก็ตอบกลับ “ใช่ ใช่สิ!”

เดิมที่ก็คิดว่าเมื่อตอบคำถามนี้ไปแล้ว ยู่ฉือยี่ซูจะยอมปล่อยเธอ ใครจะไปรู้ว่าเขาหัวเราะเสียงต่ำออกมาสองครั้ง จากนั้นก็กอดเธอเอาไว้แน่น

“เหรอ? แต่ทำไมฉันรู้สึกว่า คำตอบของคุณมันรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวอยู่หน่อยหนึ่งล่ะ?”

ถางหยวนหยวนหน้าซีดเผือด “ใครรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวเหรอ?”

ยู่ฉือยี่ซูถอนหายใจ พร้อมตอบอย่างเบื่อหน่าย “ก็คุณไง ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งหลายเดือน ถึงได้ปฏิบัติตัวแบบนี้กับฉัน ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าชอบฉันอยู่เลย แถมยังเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้เลย อยากทำให้ฉันเสียใจใช่ไหม?”

“เสียใจ?”

ถางหยวนหยวนคิดว่าตนเองนั้นฟังผิดไป ไม่งั้นเขาจะเสียใจได้ยังไงล่ะ?

ความหมายของเขาเธอฟังจนเข้าใจแจ่มแจ้ง ความคิดของเขาก็เหมือนกับคนอื่นๆ แทบไม่เชื่อเลยว่าเธอนั้นชอบเขา

“แล้วคุณมีอะไรที่ต้องเสียใจด้วย?” ถางหยวนหยวนหลุบตาลง “คุณก็เหมือนกับทุกคน รู้สึกว่าฉันยังไม่โตพอ ไม่รู้จักความรู้สึกของตนเอง แทบไม่เข้าใจอะไรคือความชอบเลย ดังนั้นคุณเลยไม่เชื่อว่าฉันชอบคุณจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ แล้วจะเสียใจตรงไหนอะไรยังไง?”

“ใครพูดล่ะแบบนี้ไม่เสียใจ?”

ถางหยวนหยวนเริ่มโมโหบ้างแล้ว “งั้นพูดมาสิ คุณเสียใจเรื่องอะไร? คุณก็ไม่เชื่อฉัน ตอนนี้มาพูดว่าเสียใจอีก ไม่ใช่กำลังสร้างเรื่องตลกอยู่ใช่ไหม?”

ยู่ฉือยี่ซูมั่นใจว่าสาวน้อยคนนี้โกรธจริงๆ อารมณ์ของเธอนั้นไร้ซึ่งเหตุผลมาก ดูทีท่าแล้ววันนี้ไม่พูดให้ชัดเจนก็คงไม่ได้แล้ว ที่วันนี้เธอสามารถพูดคำพูดหักหาญจิตใจได้ขนาดนี้ แค่กลัวว่าถ้าไม่ยอมพูดกันให้ชัดเจนเธอก็จะไปอยู่กับเด็กชายคนนั้นจริงๆ

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ยู่ฉือยี่ซูเม้มปากทันที พลางพูดเสียงต่ำ “ฉันกลัวว่าคุณจะเสียใจภายหลังนะสิ”

“อะไรนะ?”

“เด็กน้อย น้องรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของฉันไหมว่าเป็นอย่างไร?”

“ความรู้สึกนึกคิดเหรอ?” ถางหยวนหยวนกะพริบตาถี่ๆ “เป็นยังไงล่ะ?”

พูดจบ เธอพลันจับจุดได้ว่าคำพูดของตนเองนั้นตกอยู่ในหลุมพรางของคำพูดของเขาไปแล้ว พอได้สติเลยรีบพูดปัดไปหนึ่งประโยค “ฉันก็ไม่อยากจะรู้!”

ยู่ฉือยี่ซูก็ไม่ได้สนใจว่าเธออยากรู้หรือไม่ เพราะเขาพูดเสริมต่อทันที

“ในความรู้สึกของฉันนั้น การที่มั่นใจแล้วคนคนหนึ่งก็คือการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต นอกจากป่วยจนเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ต้องแยกจากกัน”

ถางหยวนหยวนตกตะลึงทันที

มั่นใจคนคนหนึ่งก็คือการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต

“ดังนั้นถ้าอยู่กับฉัน วันไหนถ้าคุณเกิดเสียใจภายหลัง ฉันก็จะไม่ปล่อยคุณไป ดังนั้นก่อนหน้านี้ที่คุณยังไม่สามารถเข้าใจกับความรู้สึกของตนเองให้ชัดเจน….”

“ใครบอกล่ะว่าฉันยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองให้ชัดเจน?” ถางหยวนหยวนตอกกลับมาอย่างโมโห “ฉันก็แค่ชอบคุณ ฉันอยากอยู่กับคุณตลอดไป!”

ตอนนี้กลายเป็นว่ายู่ฉือยี่ซูตกตะลึงทันที เขาจ้องมองใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาของเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้า ก็ยังเป็นเช่นเดิมที่ร้องไห้ฟูมฟายชอบออดอ้อน ทว่าใบหน้าเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เพราะว่าใบหน้ารูปพรรณอันงดงามของถางหยวนหยวน สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือนัยน์ตาที่ยังสดใสแวววาว

พร้อมทั้งจ้องมองเขาตอนพูดด้วย อยากจะอยู่กับเขาตลอดไป

กระเดือกของยู่ฉือยี่ซูขยับเล็กน้อย “คุณคิดดีแล้วใช่ไหม?”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset