บทที่178 ถอดเสื้อผ้าออก
“จ้าวหยู่พอแล้วนะแกน่ะ” จางหยูหันทนไม่ได้เลยส่งป๊อปคอร์นให้เขา สามารถยืนอยู่ข้างๆคุณหนูของตระกูลหานได้แกคิดว่าเธอเป็นคนธรรมดาทั่วไปหรือไง? ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นลูกสาวของบริษัทไหนก็ได้ ไม่ใช่คนแบบที่พวกเราจะไปยุ่งด้วยได้ง่ายๆนะ”
กลุ่มของพวกเขา เอาเรื่องควงผู้หญิงเล่นๆไว้เป็นหลัก
เล่นกับพวกผู้หญิงที่ไม่มีอำนาจ อย่างมากก็แค่ให้เงินแล้วก็ไล่ไป
แต่ว่าพวกเขาก็มีกฎอยู่ ไม่ยุ่งกับคนในกลุ่มเดียวกัน ไม่เหมือนกับลู่สุนฉางตอนเมื่อก่อนที่เล่นแต่กับผู้คนในวงสังคมเดียวกัน ผลลัพธ์……
“พวกแกก็เคยเห็นลู่สุนฉางเมื่อก่อน เดาว่าคงเพราะมัวแต่มั่วกับคนในสังคมเดียวกันก็เลยโดนแบน ลู่สุนฉางเมื่อก่อนก็อยู่ได้เมืองเป่ยได้อย่างสบาย ตอนนี้……โดนถอนรากถอนโคน แม้แต่ที่ให้หายใจยังไม่มี”
“ถ้าเกิดว่าเป็นลูกสาวของบริษัทไหนบริษัทหนึ่ง ทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ? ถ้าเป็นลูกสาวคนใหญ่คนโตจริง ก็ไม่มีชื่อเสียงเลย”
“ง่ายๆ แค่จ้างคนไปตรวจสอบก็รู้แล้ว”
ทางด้านนี้ ในที่สุดเสิ่นเฉียวก็หามุมที่นั่งลงได้แล้ว พอนั่งลงแล้วเธอก็ยังคงพยายามเอาผ้าคลุมไหล่พันแล้วพันเอาไว้อีก หานเส่โยวที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะล้อเธอขึ้น
“ทำไมแกถึงได้ขี้อายอย่างนี้เนี่ย? ชุดถูกออกแบบมาแบบนี้ก็เพราะว่าอยากให้แกสวมแล้วให้คนอื่นดูนะ จะปิดไว้ทำไม…..”
พูดจบหานเส่โยวก็ดึงผ้าคลุมไหล่ของเธอออก เสิ่นเฉียวตกใจจนหน้าซีดเผือดในทันใด “อย่า….”
เสี่ยวเหยียนทนไม่ไหวเลยหันไปกวาดตามองหานเส่โยวครั้งหนึ่ง
“คุณอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหมคะ? เธอไม่อยากจะโชว์ก็ไม่ต้องให้โชว์ ฉันคิดว่าเพิ่มผ้าคลุมไหล่เข้าไปแบบนี้ก็ดูดีออก”
หานเส่โยวมองไปทางเสี่ยวเหยียน มักรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ชอบทำตัวเป็นศัตรูเธออยู่เนืองๆ
“ฉันทำไมคะ? ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเฉียวเฉียว ฉันทำแบบนี้ก็เพราะหวังว่าเธอจะได้โชว์ความสวยของตัวเองที่มีออกมาให้ทั้งงานได้เห็น ทำไมกัน? มีปัญหาเหรอคะ?”
เสี่ยวเหยียนหัวเราะหยัน “โชว์ความสวยไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ว่าก็อย่าบังคับให้คนอื่นไม่สบายใจสิคะ”
“พวกเธอเลิกทะเลาะกันเถอะ” เสิ่นเฉียวขัดจังหวะทั้งสองคน “พวกเธอไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันขอไปจัดการให้เรียบร้อยในห้องน้ำก่อน”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็ถือชายกระโปรงตัวเองไว้แล้วลุกขึ้นยืน เสี่ยวเหยียนเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นเหมือนกัน “ที่นี่คนเยอะ เธอหาห้องน้ำเจอหรือเปล่า? ฉันไปเป็นเพื่อนเถอะ”
“ไม่เป็นไร พวกเธอรอฉันตรงนี้ก็แล้วกัน” เสิ่นเฉียวหมุนตัวแล้วเดินไปทางที่จะต้องออกไปด้านนอก เธอจำได้ว่าตอนมา เดินผ่านห้องน้ำห้องหนึ่ง ก็แค่เดินกลับไปทางเดิมก็โอเคแล้ว
เสิ่นเฉียวเดินถือชายกระโปรงไปจัดการในห้องน้ำ ตอนแรกเธอตั้งใจจะหากระดุมสักเม็ดมากลัดคอวีนี่เอาไว้ แต่พอทำไปทำมาก็ทำไม่ได้ ชุดมันรัดรูปเกินไป ยิ่งพยายามจะดึงให้สาบเสื้อเข้ามาใกล้กัน ยิ่งทำให้เห็นว่าหน้าอกนั้นดูใหญ่
เธออยู่ในห้องน้ำตั้งนานแต่ก็ทำไม่ได้สักที เลยทำได้แค่ถอดใจ พันผ้าคลุมไหล่ให้มิดชิดแล้วก็ผลักประตูห้องน้ำออกมา
เพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำ เสิ่นเฉียวก็โดนผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งดักทางเอาไว้
“คนสวย รู้ทางหรือเปล่าครับ? ผมไปส่งไหม”
เสิ่นเฉียวมองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง เสร็จแล้วก็ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะ เพื่อนของฉันรออยู่ด้านหน้า ฉันไปเองก็ได้แล้วค่ะ”
พูดจบ เธอก็ก้าวเดินไปทางด้านข้าง แต่ผู้ชายคนนั้นยังคงตามมารั้งเธอไว้อย่างไม่ยอมแพ้ “ก็แค่ขอเป็นเพื่อนเองครับ คุณกลัวอะไรกัน? ผมชื่อจ้าวหยู่ เป็นลูกชายคนเดียวของบริษัทตระกูลจ้าว ผมไม่มีความคิดไม่ดีอะไรแน่นอนครับ ก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับคุณ ถ้าเกิดว่าคุณไม่ต้องการให้ผมไปส่ง ทิ้งเบอร์ไว้ให้ผมก็ได้~”
“ขอโทษค่ะ ช่วยถอยไปด้วย” เสิ่นเฉียวรู้ว่าแขกที่มาร่วมงานด้วยในวันนี้ไม่ใช่คนที่พวกเธอจะสามารถมีเรื่องด้วยได้ ทำได้เพียงขอให้พวกเขาปล่อยตัวเธอไป
ยิ่งเธอหลบหลีก จ้าวหยู่ก็ยิ่งชอบ อีกอย่างพอได้มาอยู่ใกล้ๆถึงได้รู้ว่าเธอแต่งหน้าแค่เพียงอ่อนๆเท่านั้น แถมผิวขอเธอมองดูแล้วมันดีมากๆอีกด้วย ผิวละเอียดนุ่มเด้ง จ้าวหยู่ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ
“ผมไม่รังแกคุณหรอก ผมอยากรู้จักคุณจริงๆ ขอแค่ช่องทางติดต่อไม่ได้เหรอ?” จ้าวหยู่ทำสีหน้าน่าสงสาร เขามองเสิ่นเฉียวท่าทางเหมือนลูกหมาตัวน้อยอย่างไรอย่างนั้น ไม่ต้องบอกว่าแววตานั้นดูจริงใจแค่ไหน
แววตาที่เขามองมาทำให้เสิ่นเฉียวชะงักไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นเธอก็เม้มปากอย่างอายๆ “ฉันมีธุระจริงๆค่ะ เพื่อนของฉันยังรอฉันอยู่ด้านหน้า ฉันขอตัวก่อน”
จ้าวหยู่ร้อนรน รีบยื่นมือไปรั้งข้อศอกของเธอไว้ “คือว่า……”
“ปล่อยฉันนะคะ!” เสิ่นเฉียวออกแรงสะบัดมือเขาออก จ้าวหยู่เห็นว่าสีหน้าเธอเปลี่ยนไปก็รีบชักมือกลับมาทันที “ขอโทษครับ! ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณไม่พอใจ เมื่อกี้ผมแค่รีบร้อนไปหน่อย…..”
“วันนี้คุณชายจ้าวมาเข้าร่วมงานเลี้ยงหรือว่ามาก่อกวนผู้หญิงกันแน่ครับ?”เสียงเย็นทุ้มต่ำลอยมา เสิ่นเฉียวมองไปทางต้นเสียง เซียวซู่กำลังเข็นเย่โม่เซินมาทางพวกเธอ
เห็นเย่โม่เซิน ท่าทางเหมือนกับสุนัขพันธุ์ชาเป่ยของจ้าวหยู่เมื่อกี้ก็หายไป สีหน้าเกรงกลัวมองมาที่เย่โม่เซิน
“คะ..คุณชายเย่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันครับ?”
เซียวซู่จ้องอีกฝ่ายแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเย็นชา “คุณชายเย่จะไปที่ไหนจะต้องบอกกับคุณด้วยหรือครับ? คุณเสียอีก คุณเป็นแขกที่ได้รับเชิญใช่ไหมครับ? แล้วมาเพ่นพ่านอะไรที่ห้องน้ำหญิงกัน?”
จ้าวหยู่พอได้ยิน ก็หน้าซีดในทันใด เขาหันไปมองเสิ่นเฉียวแล้วก็หันมองเย่โม่เซิน มองสีหน้าของเขา
“คะ คุณชายเย่ คือผม….หลงทาง ก็เลยเดินมาเรื่อยๆ”
“เดินเรื่อยๆ?”เซียวซู่ยังคงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่างนั้นคุณมาวุ่นวายกับพนักงานบริษัทเราทำไมกันครับ?”
เย่โม่เซินกลอกตาเบาๆ สายตาคมปลาบราวกับคมมีดจ้องมาที่หน้าของจ้าวหยู่
ทันใดนั้นจ้าวหยู่ก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของความกดดันที่กำลังกดอยู่บนไหล่ ทำให้ตัวและเอวของเขามันโค้งลงไปโดยไม่รู้ตัว “คือว่า…ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นพนักงานในบริษัทคุณ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ จ้าวหยู่ก็รีบเผ่นไปในทันที
รอจนเขาไปแล้ว เสิ่นเฉียวก็ได้ยินเย่โม่เซินเอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นเรียบ “ชอบให้ผู้ชายตอแยคุณขนาดนั้นเลยเหรอ?หนึ่งคนสองคนไม่พอ จะต้องมีอีกเท่าไหร่กัน?”
เสิ่นเฉียวได้ฟัง สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“เกี่ยวอะไรกับฉันคะ?”
ก็เห็นๆอยู่ว่าจ้าวหยู่เป็นคนเข้ามาเอง เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?
สายตาของเย่โม่เซินมองอยู่บนตัวเธอ เหมือนกำลังประเมินราคาอะไรสักอย่าง เสิ่นเฉียวก้มลงไปมอง ถึงได้พบว่าเขากำลังมองช่วงบนของชุดที่เธอสวม นัยน์ตาของเขามีแววเย้ยหยันอยู่ในที เขาระบายลมออกจากจมูก
“คุณคิดว่าไม่เกี่ยวกับคุณเหรอ?”
เสิ่นเฉียวมองสายตาของเขา แล้วกัดปากตัวเองไว้อย่างโมโห “คุณคงไม่คิดว่าที่เขาตอแยฉันเป็นเพราะฉันแต่งตัวยั่วเขาเองหรอกใช่ไหม? เย่โม่เซิน ความคิดแบบนี้ของคุณมันหน้าไม่อาย!”
“เป็นความคิดของผมที่มันหน้าไม่อาย หรือว่าตัวคุณเองกันแน่ไม่รู้จักอาย เป็นคุณนายน้อยสองของตระกูลเย่แท้ๆยังแต่งตัวแบบนี้อีก คุณคิดว่าออกมาขายตัวอย่างนั้นเหรอ?”
ตอนที่เห็นเธอแต่งตัวโชว์เสียขนาดนั้นแล้วออกมายืนต่อหน้าผู้คน อยู่ๆตรงอกของเย่โม่เซินก็เหมือนมีไฟมากองสุมอยู่รวมกัน สายตาของผู้ชายพวกนั้นล้วนมาอยู่ที่ตัวเธอทั้งนั้น ตกลงนี่เธอไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือยังไง?
ออกมาขาย….ประโยคนี้ทำให้จุดไฟความโกรธของเสิ่นเฉียว เธอโมโหจนขอบตาแดงก่ำ
“เย่โม่เซิน คุณมันสารเลว!”
เย่โม่เซินจ้องเธออย่างเย็นชา “ถอดชุดออกมาเดี๋ยวนี้ ไปเปลี่ยนเสีย”
“ฉันไม่เปลี่ยน!” เสิ่นเฉียวปฏิเสธเขาไปไม่แม้แต่จะคิด!
“คุณพูดว่ายังไงนะ?”